คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
30 มันก็ไม่ได้มีใครมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันทั้งนั้นแหละครับ มันอายุยังน้อยไปที่จะใกล้เคียงคำว่าประสบความสำเร็จ หรือ จะเกษียณตอนนี้เลยแล้วกกกัน 30 โหพี่แม้มบ้านรวยแล้วหละ มันไม่ได้มาจากเงินตัวมันเองหรอกนะ
ไอ้ที่มันมีเป็นชิ้นเป็นอันมันจะเป็นแค่กลุ่ม setting มาดีมากกว่า เลยหาอะไรได้ไวหละนะ วัยรุ่นสร้างตัวแบบทำนั่นนี่แค่ 28-30 ก็เสร็จแล้ว สาเหตุมาจากรวยอยู่แล้วหรือเปล่า แล้วหลงไปดูคอนเท้นแบบนี้เยอะจนเข้าใจว่า คนปกติเขาทำได้
ที่เหลือมันเป็นจุดชี้วัดเลยว่า ไอ้คนที่ 30 มาแล้วเนี่ย มันเริ่มต้นอะไรไปแล้วบ้าง มากกว่าครับ
- บางคนไม่เริ่มอะไรเลย พึ่งมาเริ่ม 30 ก็ต้องไปเก็บผลอีกที 35-40 ให้เวลามันเพราะบ่มพัฒนา ไค่วคว้านิดนึง มันต้องใช้เวลาเยอะ
- บางคนที่เริ่มต้นอะไรมาตั้งแต่ 22-25 ตอนอายุ 30 มันจะเป็นเวลาเก็บผลของคนที่ เขามองกการไกลกว่าครับ หรือ ยอมจ่ายชีวิตวัยรุ่นบางส่วนไปก่อน ใช้บ้างแต่ไม่ได้หละหลวมเลยตลอดช่วงชีวิต
ด้วยคอนเซ็บ "ชีวิต 30 เราควรจะมีอะไรบ้างที่สำคัญกับชีวิต" เขาจะเตรียมตัว เตรียมความพร้อม มาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเงิน แผนชีวิต อนาคตครอบครัว การแต่งงาน การจับจองอสังหาบ้าน/คอนโด การเก็บเงินเกษียณ การเรียนจบป.โท การลงทุนบางอย่าง การศึกษาอะไรอย่างใจจดใจจ่อเป็นระยะเวลานาน
นี่แหละครับ จุดวัดความแตกต่างที่มันต่าง เวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์พัฒนาการของบุคคลอยู่แล้ว ต่างกัน 5 ปีมันต้องมีอะไรบ้าง
มันไม่ได้วัดยาก ผมเห็นคนไม่ทำอะไรใช้ชีวิตถอดสมอง อยากเที่ยวอยากใช้ชีวิตศิวิไล มาเริ่มต้นหาอนาคตใหม่ โดนเททิ้งมาเริ่มต้นใหม่เยอะแยะครับ
- บางคน อายุ 30 ติดหนี้คอนโดแม้มเลย 4 ล้านบาท กับดอกเบี้ยเฟ้อๆ แถมอยากผ่อนรถไฟฟ้าอีกคันนึงด้วย หนี้เยอะดีเนอะ จะไหวหรอ
- บางคนที่เขายอมจ่ายบางอย่าง แล้วฝืนบ้าง ติดหนี้คอนโด เอาแค่ถูกๆ พออยู่อาศัยไปก่อน 2 ล้านเมื่อ 6 ปีก่อน ราคามันยังถูกอยู่ครับบางโซน
เวลาที่ล่วงเลยมา ถ้าเขาผ่อนมาเรื่อยโปะด้วยไม่หยุด จนถึงช่วงดอกเบี้ยเฟ้อตอนนี้ เขาอาจจะเหลือหนี้แค่ 1 ล้านแล้วครับ ^^ แถมได้อยู่โซนดี ทำเลดี ไม่ก็ปล่อยเช่าย้ายไปอยู่บ้านกันแล้วด้วยซ้ำ ตอนโควิด WFH ก็ยังติดหนี้ 1 ล้านในวัย 30 ปี
- บางคนพึ่งเรียนจบเอกกด้วยซ้ำ ตอนอายุ 28-30 อะครับ คือไม่ได้ทำงาน เรียนอย่างเดียวก็เครียด หาเงินยังไม่ได้ด้วยซ้ำนะครับ กว่าจะจบ
นี่แหละครับ ความแตกต่างของ คนคิด กับ คนไม่คิด และ คนที่มีความจำเป็นบางประการทำให้เริ่มต้นช้า
ก็ดูเอาว่า ถ้ารู้ตัวแล้ว คิดสะใหม่ ยังมีเวลา ว่าควรจะทำอะไร
คำโบราณที่เขาบอกกันมานักต่อนัก ลืมกันหมดแล้วมั้ง "วางแผนชีวิตอนาคตและเกษียณไว้บ้าง" ผู้ใหญ่รอบตัวเราสอนมาแบบนี้ตลอด ตั้งแต่เนิ่นๆ จนเราโตแล้ว ไม่ใช่ถอดสมอง 200% แล้วผราญเงินทิ้งไปวันๆ เมื่อไหร่หละครับที่จะพูดได้ว่า ชั้นเริ่มไปแล้วนะอย่างจริงจัง
แล้วพึ่งจะมาถามกันวันนี้ ทำไรดี สุดท้ายทำไหม หรือ แค่มาถามแล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมดีหละ
เราเจออะไรแบบนี้บ่อยมากในช่วงอายุ 29 แชร์กันจังเลย ตอนนี้แบบยังไม่นั่นนู่นนี่เลย แล้วเราก็รู้เลยว่าก็เอาเวลาไปทำอะไรมาหละ
ส่วนตัวผมได้อะไรมาบ้างตอนนี้พึ่ง 29 นะ ผมจ่ายไป 5-7 ปี กับการทำงานสะเป็นส่วนหลัก เรียกว่า 70-80 % คนมองว่าพวกบ้างาน ไม่ชอบเที่ยว introvert ใช้ชีวิตจืดหวะ น่าอึดอัด ใช้ชีวิตดูไม่น่าสนใจ ไม่ว้าว ไม่เท่ ไม่คูล ไม่วัยรุ่นเลย คิดแบบคนแก่
- แต่มันทำให้วันนี้เราเงินเดือน 80K เริ่มจาก 24K นะงานแรกที่ทำ
- เริ่มพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว
- ทำงานกับบริษัทใหญ่โตแล้ว
- ผ่อนคอนโดไปได้แล้วถึง 30% ของยอดหนี้ทั้งหมดจาก 2 ล้าน เหลือ 1.5 ล้านแล้วครับ ผ่อนถูกกว่าเช่าแน่นอน ดอกเบี้ยแค่ 3500 เองครับ เช่า- - อยู่นู้น 6000 up แล้วสมัยนี้ นี่คือ part ของการลงทุน ที่พยายามทำความเข้าใจว่า ทำไมเราต้องติดหนี้บางอย่าง
อยู่ไม่ใกล้และก็ไม่ไกลกลางเมือง ชนิดที่ว่า นั่งรถไฟฟ้า 1 ป้ายก็ถึงห้างใหญ่ที่มีแต่ศูนย์รวมความบันเทิง
- รถ BB หนึ่งคัน ของสะสม และ คอมพิวเตอร์หลัก 100K แล้วก็สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบเครื่อง ชนิดที่ว่า ไม่จำเป็นต้องจ้างใครทำ
- เงินสดอีก 5 แสนกว่าบาท หนี้สินที่เหลือคือ 1.5 ล้านบาท
- wfh 100% ทำงานบริษัทต่างชาติแล้ว ไม่ต้องรีบตื่นแต่งตัว เสียเวลาเดินทาง แต่เอาเวลาไปวิ่งออกกำลังกายฟิตเนสครับ
เราใช้คอนเซ็บเดิมของคนหัวโบราณครับ ก็แค่ทำงานทำในสิ่งที่เราถนัด พัฒนาให้มันมั่นคง ไม่ปล่อยปะละเลยขนาดนั้น แต่ก็เที่ยวด้วย แค่ไม่ได้บอกใคร ไม่ได้อัพเดรทลงโซเชียลเยอะแยะ ไม่ชอบพูดเยอะครับ รออวดทีเดียว
เราพึ่งมาใช้ชีวิตวัยรุ่นจริงๆ ตอนนี้แหละ ตอนมีตังแล้วอยากจะทำอะไรก็ทำ สบายจัดเลย
เคยนั่งคิดแล้วว่าตลอดชีวิตตั้งแต่เริ่มจนถึงจุดนี้ รายได้ต่อปีเราเท่าไหร่ ก็เอาเอกสารยื่นภาษีมาบวกเลขรายได้ต่อปี ตอนนี้คือ 2 ล้านบาท
กินคลึ่งหนึ่ง
ออมทรัพย์กึ่งหนึ่ง
อนาคตส่วนหนึ่ง
อำนวยความสะดวกส่วนหนึ่ง
แปลว่าเราหาเงินเก็บแยกต่างหาก 1 ล้าน ตั้งแต่อายุน้อยแล้วครับ
แต่เราพูดแบบมั่นใจเลยว่า เราดวงดีคลึ่งหนึ่ง และ ทักษะลับส่วนตัวคลึ่งหนึ่ง ต้องใช้ช่วยกันถึงจะเกิดประโยชน์ ไม่ใช่อะไรที่คนปกติจะทำได้นะ โอกาศแล้วความสามารถ มันต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ใช้ไม่เป็นทำแบบเราไม่ได้หรอกครับ เราเก่งมากพอในบางเวลาที่จะบีบชะตาชีวิตให้เหลือโอกาศเกิดแค่ทางเดียวครับ ผลมาจากความทุ่มเทในการทำงานและทำอย่างมั่นใจที่สุด
แต่ก่อนอะมีคนพูดเหน็บเราเยอะเรื่อง อนาคต เรื่องหน้าที่การงาน บูลี่ว่าไอ้มนุษย์เงินเดือนจะไปทำอะไรได้ ข้าราชการดีกว่า อยู่ตจวดีกว่า ค้าขายดีกว่า อนาคตจะไปได้สักแค่ไหนกันเชียว สารพัดคำพูดจากสังคมคนตจว ที่ดูถูกคนเข้ามาทำงานกทม
เลยทำตอกหน้าให้มันดูครับ ว่าตอนนี้ชีวิตมันกับชีวิตเรา ใครดีกว่ากัน เราก็หมั่นไส้คนบางกลุ่มเหมือนกัน 555 บอกตรงว่าคนไทย ขี้เหน็บเก่งมาก
ไอ้ที่มันมีเป็นชิ้นเป็นอันมันจะเป็นแค่กลุ่ม setting มาดีมากกว่า เลยหาอะไรได้ไวหละนะ วัยรุ่นสร้างตัวแบบทำนั่นนี่แค่ 28-30 ก็เสร็จแล้ว สาเหตุมาจากรวยอยู่แล้วหรือเปล่า แล้วหลงไปดูคอนเท้นแบบนี้เยอะจนเข้าใจว่า คนปกติเขาทำได้
ที่เหลือมันเป็นจุดชี้วัดเลยว่า ไอ้คนที่ 30 มาแล้วเนี่ย มันเริ่มต้นอะไรไปแล้วบ้าง มากกว่าครับ
- บางคนไม่เริ่มอะไรเลย พึ่งมาเริ่ม 30 ก็ต้องไปเก็บผลอีกที 35-40 ให้เวลามันเพราะบ่มพัฒนา ไค่วคว้านิดนึง มันต้องใช้เวลาเยอะ
- บางคนที่เริ่มต้นอะไรมาตั้งแต่ 22-25 ตอนอายุ 30 มันจะเป็นเวลาเก็บผลของคนที่ เขามองกการไกลกว่าครับ หรือ ยอมจ่ายชีวิตวัยรุ่นบางส่วนไปก่อน ใช้บ้างแต่ไม่ได้หละหลวมเลยตลอดช่วงชีวิต
ด้วยคอนเซ็บ "ชีวิต 30 เราควรจะมีอะไรบ้างที่สำคัญกับชีวิต" เขาจะเตรียมตัว เตรียมความพร้อม มาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเงิน แผนชีวิต อนาคตครอบครัว การแต่งงาน การจับจองอสังหาบ้าน/คอนโด การเก็บเงินเกษียณ การเรียนจบป.โท การลงทุนบางอย่าง การศึกษาอะไรอย่างใจจดใจจ่อเป็นระยะเวลานาน
นี่แหละครับ จุดวัดความแตกต่างที่มันต่าง เวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์พัฒนาการของบุคคลอยู่แล้ว ต่างกัน 5 ปีมันต้องมีอะไรบ้าง
มันไม่ได้วัดยาก ผมเห็นคนไม่ทำอะไรใช้ชีวิตถอดสมอง อยากเที่ยวอยากใช้ชีวิตศิวิไล มาเริ่มต้นหาอนาคตใหม่ โดนเททิ้งมาเริ่มต้นใหม่เยอะแยะครับ
- บางคน อายุ 30 ติดหนี้คอนโดแม้มเลย 4 ล้านบาท กับดอกเบี้ยเฟ้อๆ แถมอยากผ่อนรถไฟฟ้าอีกคันนึงด้วย หนี้เยอะดีเนอะ จะไหวหรอ
- บางคนที่เขายอมจ่ายบางอย่าง แล้วฝืนบ้าง ติดหนี้คอนโด เอาแค่ถูกๆ พออยู่อาศัยไปก่อน 2 ล้านเมื่อ 6 ปีก่อน ราคามันยังถูกอยู่ครับบางโซน
เวลาที่ล่วงเลยมา ถ้าเขาผ่อนมาเรื่อยโปะด้วยไม่หยุด จนถึงช่วงดอกเบี้ยเฟ้อตอนนี้ เขาอาจจะเหลือหนี้แค่ 1 ล้านแล้วครับ ^^ แถมได้อยู่โซนดี ทำเลดี ไม่ก็ปล่อยเช่าย้ายไปอยู่บ้านกันแล้วด้วยซ้ำ ตอนโควิด WFH ก็ยังติดหนี้ 1 ล้านในวัย 30 ปี
- บางคนพึ่งเรียนจบเอกกด้วยซ้ำ ตอนอายุ 28-30 อะครับ คือไม่ได้ทำงาน เรียนอย่างเดียวก็เครียด หาเงินยังไม่ได้ด้วยซ้ำนะครับ กว่าจะจบ
นี่แหละครับ ความแตกต่างของ คนคิด กับ คนไม่คิด และ คนที่มีความจำเป็นบางประการทำให้เริ่มต้นช้า
ก็ดูเอาว่า ถ้ารู้ตัวแล้ว คิดสะใหม่ ยังมีเวลา ว่าควรจะทำอะไร
คำโบราณที่เขาบอกกันมานักต่อนัก ลืมกันหมดแล้วมั้ง "วางแผนชีวิตอนาคตและเกษียณไว้บ้าง" ผู้ใหญ่รอบตัวเราสอนมาแบบนี้ตลอด ตั้งแต่เนิ่นๆ จนเราโตแล้ว ไม่ใช่ถอดสมอง 200% แล้วผราญเงินทิ้งไปวันๆ เมื่อไหร่หละครับที่จะพูดได้ว่า ชั้นเริ่มไปแล้วนะอย่างจริงจัง
แล้วพึ่งจะมาถามกันวันนี้ ทำไรดี สุดท้ายทำไหม หรือ แค่มาถามแล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมดีหละ
เราเจออะไรแบบนี้บ่อยมากในช่วงอายุ 29 แชร์กันจังเลย ตอนนี้แบบยังไม่นั่นนู่นนี่เลย แล้วเราก็รู้เลยว่าก็เอาเวลาไปทำอะไรมาหละ
ส่วนตัวผมได้อะไรมาบ้างตอนนี้พึ่ง 29 นะ ผมจ่ายไป 5-7 ปี กับการทำงานสะเป็นส่วนหลัก เรียกว่า 70-80 % คนมองว่าพวกบ้างาน ไม่ชอบเที่ยว introvert ใช้ชีวิตจืดหวะ น่าอึดอัด ใช้ชีวิตดูไม่น่าสนใจ ไม่ว้าว ไม่เท่ ไม่คูล ไม่วัยรุ่นเลย คิดแบบคนแก่
- แต่มันทำให้วันนี้เราเงินเดือน 80K เริ่มจาก 24K นะงานแรกที่ทำ
- เริ่มพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว
- ทำงานกับบริษัทใหญ่โตแล้ว
- ผ่อนคอนโดไปได้แล้วถึง 30% ของยอดหนี้ทั้งหมดจาก 2 ล้าน เหลือ 1.5 ล้านแล้วครับ ผ่อนถูกกว่าเช่าแน่นอน ดอกเบี้ยแค่ 3500 เองครับ เช่า- - อยู่นู้น 6000 up แล้วสมัยนี้ นี่คือ part ของการลงทุน ที่พยายามทำความเข้าใจว่า ทำไมเราต้องติดหนี้บางอย่าง
อยู่ไม่ใกล้และก็ไม่ไกลกลางเมือง ชนิดที่ว่า นั่งรถไฟฟ้า 1 ป้ายก็ถึงห้างใหญ่ที่มีแต่ศูนย์รวมความบันเทิง
- รถ BB หนึ่งคัน ของสะสม และ คอมพิวเตอร์หลัก 100K แล้วก็สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบเครื่อง ชนิดที่ว่า ไม่จำเป็นต้องจ้างใครทำ
- เงินสดอีก 5 แสนกว่าบาท หนี้สินที่เหลือคือ 1.5 ล้านบาท
- wfh 100% ทำงานบริษัทต่างชาติแล้ว ไม่ต้องรีบตื่นแต่งตัว เสียเวลาเดินทาง แต่เอาเวลาไปวิ่งออกกำลังกายฟิตเนสครับ
เราใช้คอนเซ็บเดิมของคนหัวโบราณครับ ก็แค่ทำงานทำในสิ่งที่เราถนัด พัฒนาให้มันมั่นคง ไม่ปล่อยปะละเลยขนาดนั้น แต่ก็เที่ยวด้วย แค่ไม่ได้บอกใคร ไม่ได้อัพเดรทลงโซเชียลเยอะแยะ ไม่ชอบพูดเยอะครับ รออวดทีเดียว
เราพึ่งมาใช้ชีวิตวัยรุ่นจริงๆ ตอนนี้แหละ ตอนมีตังแล้วอยากจะทำอะไรก็ทำ สบายจัดเลย
เคยนั่งคิดแล้วว่าตลอดชีวิตตั้งแต่เริ่มจนถึงจุดนี้ รายได้ต่อปีเราเท่าไหร่ ก็เอาเอกสารยื่นภาษีมาบวกเลขรายได้ต่อปี ตอนนี้คือ 2 ล้านบาท
กินคลึ่งหนึ่ง
ออมทรัพย์กึ่งหนึ่ง
อนาคตส่วนหนึ่ง
อำนวยความสะดวกส่วนหนึ่ง
แปลว่าเราหาเงินเก็บแยกต่างหาก 1 ล้าน ตั้งแต่อายุน้อยแล้วครับ
แต่เราพูดแบบมั่นใจเลยว่า เราดวงดีคลึ่งหนึ่ง และ ทักษะลับส่วนตัวคลึ่งหนึ่ง ต้องใช้ช่วยกันถึงจะเกิดประโยชน์ ไม่ใช่อะไรที่คนปกติจะทำได้นะ โอกาศแล้วความสามารถ มันต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ใช้ไม่เป็นทำแบบเราไม่ได้หรอกครับ เราเก่งมากพอในบางเวลาที่จะบีบชะตาชีวิตให้เหลือโอกาศเกิดแค่ทางเดียวครับ ผลมาจากความทุ่มเทในการทำงานและทำอย่างมั่นใจที่สุด
แต่ก่อนอะมีคนพูดเหน็บเราเยอะเรื่อง อนาคต เรื่องหน้าที่การงาน บูลี่ว่าไอ้มนุษย์เงินเดือนจะไปทำอะไรได้ ข้าราชการดีกว่า อยู่ตจวดีกว่า ค้าขายดีกว่า อนาคตจะไปได้สักแค่ไหนกันเชียว สารพัดคำพูดจากสังคมคนตจว ที่ดูถูกคนเข้ามาทำงานกทม
เลยทำตอกหน้าให้มันดูครับ ว่าตอนนี้ชีวิตมันกับชีวิตเรา ใครดีกว่ากัน เราก็หมั่นไส้คนบางกลุ่มเหมือนกัน 555 บอกตรงว่าคนไทย ขี้เหน็บเก่งมาก
แสดงความคิดเห็น
วัย 30 มีอะไรเป็นของตัวเองบ้างครับ?
แต่รู้สึกยังไม่ค่อยมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยครับ หรือว่าผมหวังสูงเกิน
เลยอยากรู้วัยนี้ คนอื่นๆมีอะไรเป็นของตัวเองบ้างครับ