เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คือสิ่งที่เจอในวัยเด็ก ขอให้อ่านและคิดว่าเป็นเรื่องเล่าก็ได้นะครับ ในนี้ผมจะใช้ชื่อสมมติทั้งหมด รวมถึงตัวของผมเองด้วย
ซึ่งเรื่องมันเกิดตอนที่ผมยังเด็กในจังหวัดจันทบุรี แต่ขอไม่บอกจุดตั้งที่บ้านผมอยู่นะครับ ซึ่งคนในบ้านผมมีคนอยูประมาณ 8 คนในตอนนั้น มี ปู่ ย่า อา ลุง ป้า ผม และน้องสาว2คน ลักษณะบ้านผม จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่อยู่นอกตัวบ้าน ซึ่งในบ้านผมจะมีรูปคนที่เสียไปแล้ว ประมาณ 5 คน อันนั้นไม่แน่ใจ ว่า มีมากกว่านี้มั้ย แต่แขวนหน้าห้องที่ลุงกับป้านอน ห้องจะติดกัน ห้องแรก จะมี ปู่ ย่า อา ผม และน้องสาวอีก2 คน อีกห้องจะมีลุง ป้า ไม่แน่ใจว่ามีพี่อีกคนด้วยมั้ย บ้านผมจะอยู่แบบคล้ายๆหมู่บ้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นหมู่บ้านหรือเปล่า ขออธิบายเกี่ยวกับผังบ้านนิดนึงนะครับ ทางขวาบ้านของผมจะเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ยาวไปถึงหลังบ้านของผม ทางซ้ายจะมีบ้านยายอยู่ หน้าบ้านจะจะเป็นทางดินลงไป เยื้องซ้ายบ้านจะมีบ้านญาติๆ แถวนั้นจะเป็น คนรู้จักกันทั้งหมด ซึ่งผมชอบไปเล่นกับลูกสาวบ้านนั้นบ่อยๆ ซึ่งผมจะมีเพื่อนที่สนิทกันมาก ขอใช้ชื่อว่า ป็อบ ล่ะกัน ไอ้ป็อบจะมีพี่สาวแท้ๆ ชื่อปิ่น แต่ผมไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ ซึ่ง ปิ่นมีพี่สาวอีก แต่เป็นลูกพี่ลูกน้อง คนที่ผมชอบไปเล่นด้วยบ่อยๆ ชื่อจิน เหมือนจะเป็นคนมีฐานะนิดนึง หน้าบ้านของจิน จะเป็นบ้านของ ป็อบ กับ ปิ่น ส่วนทางขวาบ้าน จะมี บ้านเก่าๆหลังเล็กๆ ซึ่งเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ ลงไปอีกหน่อยจะเป็นเหมือนบ่อน เล่นไพตอง ย่าของผมชอบไปเล่น ซึ่งทางลงไปจะเป็นทางดินลงไปเล็กๆ ผมก็ชอบลงไปทางนั้นเพราะมันลงไปแล้วเจอบ่อนที่ย่าเล่นเลย ผมลงไปขอตังย่าบ่อยๆ(ถึงจะใช้ให้น้องไปขอแทนมากกว่าอะนะ) ซึ่งตัวผมเองชอบแกล้งน้องมากตอนเด็กๆ แล้วปู่ก็ชอบมาตี ผมก็วิ่งหนีไปทางลงนั้นแทบทุกครั้ง ผมลงไปทุกวันก็ไม่เจออะไร จนมาตอนเย็นๆ เริ่มจะมืดแล้ว เพราะเมื่อก่อนผมชอบเดินมืดๆ เพราะย่าจะกลับมืดๆเย็นๆ ตอนนั้นผมลงไปตามย่าให้กลับบ้าน แต่ผมขึ้นมาก่อน ผมเดินออกจากบ่อนผมก็เจอต้นมะขามหลังบ่อน จะมีชิ่งช้าที่ใช้ยางทำอยู่ซึ่งตอนนั้นไม่มีลม แต่ชิ่งช้าก็แกว่งไปแกว่งมา จนทำให้ผมก้มหน้าเดินไป พอไปถึงบ้านร้างที่บอกว่าไม่มีคนอยู่ ผมมองไปทางหน้าต่างเห็นลุงคนนึง กำลังเปิดตู้เย็น ผมก็เลยบอกว่าลุงขอน้ำบ้างดิ แล้วลุงคนนั้นก็สาดน้ำใส่ผม แล้วหัวเราะ ผมเลยรีบวิ่งหนีกลับบ้าน พอถึงบ้านตัวผมไม่เปียกทั้งๆที่โดนน้ำสาดใส่ ตอนนั้นคิดว่าโดนน้ำและกลัวพ่อด่าว่าไปเล่นน้ำมา วันที่เจอน่าจะเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ เพราะพ่อกับแม่จะมาหาเฉพาะ2วันนี้ ผมก็เล่าให้แม่ฟังว่า แม่ลุงบ้านหลังนั้นสาดน้ำใส่หนู แม่บอกไหนไม่เห็นเปียกเลย แล้วบ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่เลยนะเพราะ เจ้าของตายไปหลังหนูเกิดไม่นาน แม่เลยบอกว่าน่าจะเจอลุง ทัย จนทำให้ผมไม่กล้าลงไปทางนั้นหลายปี จนลืมไปแล้วว่าเป็นไง พอผมลืมผมก็ลงไปทางนั้นอีก แล้วก็เหมือนเดิม อันนั้นเห็นแค่ว่ามีแสงไฟในบ้านนั้น แต่ผมไม่ได้เดินไปเพราะกลัวเลยเดินไปบอกย่าเดี๋ยวหนูรอกลับด้วย แล้วก็เดินขึ้นไป กลับบ้านนอน แล้วก็ไม่เจออีกเลย จนผม ขึ้นป.5 ก็มีงานศพล่างๆบ้านหน่อย ก็จะมีเด็กแถวนั้นมารุ่นๆกับผม และพวกนั้นชอบเล่นซ่อนหา เล่นประมาณ 6คน มีผม ไอ้ป็อบ ไอ้ริว(เป็นเพื่อนแถวบ้าน) พี่เป้(ลูกลุงกับป้าที่บ้าน) พี่เซน(เพื่อนพี่เป้) และพี่ไมท์(เพื่อนพี่เป้) ซึ่งเล่นกันตอนเย็นๆก็ไม่มีอะไร พอเล่นจนมืดๆจนพระสวด ตานั้นพี่ไมท์เป็นคนหา ซึ่งหาจนเหลือคนสุดท้ายคือไอ้ริว แล้วหาไม่เจอก็เลยยอมแล้วให้ไอ้ริวออกมา แล้วพี่ไมท์ก็ถามซ่อนตรงไหนวะเนียน
ไอ้ริวก็บอกว่าเนี่ยผมหลบหลังต้นไม้เนี่ยมองไม่เห็นได้ไง ซึ่งต้นไม้ต้นนั้นคือต้นตะเคียน ที่น่าจะอยู่มานานมากแล้ว แล้วจังหวะนั้นผมจามพอดี จังหวะเงยหน้าขึ้นไปเห็นมีผู้หญิงคนนึ่งนั่งชี้นิ้วไปหาไอ้ริว ผมตกใจมากเลยบอกกูกลับก่อนนะ พอเช้ามาไปโรงเรียน ไม่เจอไอ้ริว ผมก็ถามครูไอ้ริวไม่มาเป็นอะไรหรอครับ ครูก็บอกว่าวันนี้ริวป่วย พอเลิกเรียนกลับบ้านผมก็ชวนไอ้ป็อบไปหาไอ้ริว บ้านไอ้ริวจะเป็นร้านค้าขายของ ห่างจากบ้านผมประมาณ 400 เมตร ซึ่งตอนนั้น 5 โมง ผมก็เดินไปแล้วเห็นเงาหน้าต่างว่ามีผู้หญิงยืนอยู่เลยคิดว่าเป็นป้า (ไอ้ริวไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่มันจะอยู่พัทยานะครับ) แต่พอไปบ้านกลับเจอแค่ไอ้ริวนั่งดูหนังอยู่คนเดียว ผมก็ถามป้าไปไหน มันบอกไปรับน้อง (น้องมันเป็นลูกป้าที่อยู่กับมันด้วยเรียนห้องเดียวกับน้องสาวผม) ผมก็มองหน้าไอ้ป็อบ มันก็มองหน้าผม ต่างคนต่าง งง มันถามเมื่อกี้เห็นป่ะ ผมไม่ได้พูดแค่พยักหน้า มันบอกกลับเหอะ ผมก็บอกกูก็ว่างั้น ตอนกลับผมจะผ่านบ้านเก่าๆหลังนึง ข้างๆจะมีนาเลี้ยงปลา หน้าบ้านจะมีต้นมะขามต้นใหญ่แต่ต้นเตี้ย ซึ่งก็รีบกับบ้านไม่มีอะไรจนเดินผ่านบ้านงานศพหลังเดิมที่ไปเล่นซ่อนหา ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ไปเล่นด้วย ผมก็กลับบ้าน ก่อนแยกกับไอ้ป็อบมันก็บอกว่ามีงเห็นยายตรงต้นมะขามป่ะ ตอนนั้นผมนึกว่ามันถามตรงบ้านงาน แต่บ้านงานเป็นต้นมะขามป้อมมียายแถวนั้นนั่งอยู่หลายคน มันก็โล่ง บอกกูนึงว่าเห็นคนเดียว ผมก็บอกอย่าพูดเดี๋ยวเจอ ซึ่งอันนี้ตอนไปเรียนผมค่อยไปถามมันว่าต้นมะขามป้อมหรอที่ถามเมื่อวาน มันบอกไม่ บ้านที่อยู่เลยบ้านไอ้ริวมานิดนึงอ่ะ ผมบอกบ้านหลังนั้นกูไม่เห็นนะตาฟาดหรือเปล่า มันบอกไม่นะกูเห็นยายยืนกวักมือเรียกพวกเราอยู่ ผมก็ขนลุกเลย แต่ตอนนั้นผมไม่เห็น พอเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ ไอ้ริวมันหายแล้ว ไม่รู้หายได้ไง แต่มันบอกป้ากูให้กรวดน้ำพออีกวันก็หายเลย ผมก็ถามแล้วไมไม่มาเรียนวะ มันบอกกูเห็นใครยืนหน้าบ้านไม่รู้ไม่กล้าออก แล้วพอกูตักบาตร (แถวนั้นจะมีพระเดินบินฑบาตร) มันบอกก็ไม่เจอเลยมา ซึ่งวันนั้นเป็นช่วงที่หนังเรื่องนึงดังมากๆ ผมจะใบ้ให้ว่า ใช้ไม้ตีกัน มีท่าหลายท่า น่าจะรู้กันแล้วนะ ผมก็ไปหาไม้ แต่พี่เป้ชวนไปหาไม้ที่โรงเรียนเพราะโรงเรียนมีโรงเก็บไม้อยู่ ผมก็เดินๆหากันไป คนที่ไป จะมีประมาณ7 คน ซึ่งผมจำไม่ค่อยได้ล่ะว่าใคร น่าจะเป็นคนแถวนั้นแต่คนละโรงเรียน ซึ่งหากันไป ในนั้นมีแต่ไม้ใหญ่ๆ เป็นไม้หน้า3 ตั้งไว้สูงๆ ผมก็เดินไป ผมเห็นคนแก่ๆยืนชี้หน้า ผมเลยตกใจยืนนิ่ง แถวไม้ท่อนนึงล้มมาโดนหัวผมจนแตก (ตอนนี้ยังมีรอยแผลนั้นอยู่กลางหัว) แต่ไม่สลบ คนอื่นก็ตกใจทำไมไม่หลบ ตอนนั้นผมพูดไม่ออก เพราะกลัวปู่จะด่าถ้ากลับบ้านไป แล้วก็มีคนไปซื้อน้ำแข็งมาประคบให้ จนเลือดหยุดไหลก็กลับบ้านแต่ไม่ได้ไปหาหมอในวันนั้น จนตอนเช้าพ่อมา และเห็นเลยถามไปโดนใครตีหัวมา ผมเลยบอกไปหาไม้จนไม้ล้มใส่ ซึ่งพ่อก็ด่า และพาไปหาหมอ แต่ไม่ได้เย็บ(มันเลยเป็นแผลเป็นยาวๆเนี่ย) เรื่องนี้ผมไม่ได้เล่าใครใครฟังว่าเจออะไรในโรงไม้ แต่เหมือนพ่อจะรู้เลยให้พระผมมาอง์นึง(ตอนนี้ยังอยู่) หลังจากนั้นผมก็ไม่เจออะไรอีกเลย
เรื่องของผมก็มีประมาณนี้ อาจจะเล่าได้ไม่หมดเพราะขี้เกียจก็ตาม แต่นี้ผมเล่าครั้งแรกอาจจะงงๆกันหน่อยนะครับ แต่ถ้าคนรู้จักอ่านน่าจะเข้าใจ ขอบคุณที่มาอ่านนะครับ บางคนผมอาจไม่ได้ใส่ชื่อไปเพราะ ไม่ได้เล่าถึงคนนั้นห็ขออภัยด้วยครับ แล้วพบกันถ้าผมนึกออกhahaha คิดว่าเป็นนิทานก็ได้ครับ
เรื่องเล่าที่เจอวัยเด็ก
ซึ่งเรื่องมันเกิดตอนที่ผมยังเด็กในจังหวัดจันทบุรี แต่ขอไม่บอกจุดตั้งที่บ้านผมอยู่นะครับ ซึ่งคนในบ้านผมมีคนอยูประมาณ 8 คนในตอนนั้น มี ปู่ ย่า อา ลุง ป้า ผม และน้องสาว2คน ลักษณะบ้านผม จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่อยู่นอกตัวบ้าน ซึ่งในบ้านผมจะมีรูปคนที่เสียไปแล้ว ประมาณ 5 คน อันนั้นไม่แน่ใจ ว่า มีมากกว่านี้มั้ย แต่แขวนหน้าห้องที่ลุงกับป้านอน ห้องจะติดกัน ห้องแรก จะมี ปู่ ย่า อา ผม และน้องสาวอีก2 คน อีกห้องจะมีลุง ป้า ไม่แน่ใจว่ามีพี่อีกคนด้วยมั้ย บ้านผมจะอยู่แบบคล้ายๆหมู่บ้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นหมู่บ้านหรือเปล่า ขออธิบายเกี่ยวกับผังบ้านนิดนึงนะครับ ทางขวาบ้านของผมจะเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ยาวไปถึงหลังบ้านของผม ทางซ้ายจะมีบ้านยายอยู่ หน้าบ้านจะจะเป็นทางดินลงไป เยื้องซ้ายบ้านจะมีบ้านญาติๆ แถวนั้นจะเป็น คนรู้จักกันทั้งหมด ซึ่งผมชอบไปเล่นกับลูกสาวบ้านนั้นบ่อยๆ ซึ่งผมจะมีเพื่อนที่สนิทกันมาก ขอใช้ชื่อว่า ป็อบ ล่ะกัน ไอ้ป็อบจะมีพี่สาวแท้ๆ ชื่อปิ่น แต่ผมไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ ซึ่ง ปิ่นมีพี่สาวอีก แต่เป็นลูกพี่ลูกน้อง คนที่ผมชอบไปเล่นด้วยบ่อยๆ ชื่อจิน เหมือนจะเป็นคนมีฐานะนิดนึง หน้าบ้านของจิน จะเป็นบ้านของ ป็อบ กับ ปิ่น ส่วนทางขวาบ้าน จะมี บ้านเก่าๆหลังเล็กๆ ซึ่งเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ ลงไปอีกหน่อยจะเป็นเหมือนบ่อน เล่นไพตอง ย่าของผมชอบไปเล่น ซึ่งทางลงไปจะเป็นทางดินลงไปเล็กๆ ผมก็ชอบลงไปทางนั้นเพราะมันลงไปแล้วเจอบ่อนที่ย่าเล่นเลย ผมลงไปขอตังย่าบ่อยๆ(ถึงจะใช้ให้น้องไปขอแทนมากกว่าอะนะ) ซึ่งตัวผมเองชอบแกล้งน้องมากตอนเด็กๆ แล้วปู่ก็ชอบมาตี ผมก็วิ่งหนีไปทางลงนั้นแทบทุกครั้ง ผมลงไปทุกวันก็ไม่เจออะไร จนมาตอนเย็นๆ เริ่มจะมืดแล้ว เพราะเมื่อก่อนผมชอบเดินมืดๆ เพราะย่าจะกลับมืดๆเย็นๆ ตอนนั้นผมลงไปตามย่าให้กลับบ้าน แต่ผมขึ้นมาก่อน ผมเดินออกจากบ่อนผมก็เจอต้นมะขามหลังบ่อน จะมีชิ่งช้าที่ใช้ยางทำอยู่ซึ่งตอนนั้นไม่มีลม แต่ชิ่งช้าก็แกว่งไปแกว่งมา จนทำให้ผมก้มหน้าเดินไป พอไปถึงบ้านร้างที่บอกว่าไม่มีคนอยู่ ผมมองไปทางหน้าต่างเห็นลุงคนนึง กำลังเปิดตู้เย็น ผมก็เลยบอกว่าลุงขอน้ำบ้างดิ แล้วลุงคนนั้นก็สาดน้ำใส่ผม แล้วหัวเราะ ผมเลยรีบวิ่งหนีกลับบ้าน พอถึงบ้านตัวผมไม่เปียกทั้งๆที่โดนน้ำสาดใส่ ตอนนั้นคิดว่าโดนน้ำและกลัวพ่อด่าว่าไปเล่นน้ำมา วันที่เจอน่าจะเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ เพราะพ่อกับแม่จะมาหาเฉพาะ2วันนี้ ผมก็เล่าให้แม่ฟังว่า แม่ลุงบ้านหลังนั้นสาดน้ำใส่หนู แม่บอกไหนไม่เห็นเปียกเลย แล้วบ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่เลยนะเพราะ เจ้าของตายไปหลังหนูเกิดไม่นาน แม่เลยบอกว่าน่าจะเจอลุง ทัย จนทำให้ผมไม่กล้าลงไปทางนั้นหลายปี จนลืมไปแล้วว่าเป็นไง พอผมลืมผมก็ลงไปทางนั้นอีก แล้วก็เหมือนเดิม อันนั้นเห็นแค่ว่ามีแสงไฟในบ้านนั้น แต่ผมไม่ได้เดินไปเพราะกลัวเลยเดินไปบอกย่าเดี๋ยวหนูรอกลับด้วย แล้วก็เดินขึ้นไป กลับบ้านนอน แล้วก็ไม่เจออีกเลย จนผม ขึ้นป.5 ก็มีงานศพล่างๆบ้านหน่อย ก็จะมีเด็กแถวนั้นมารุ่นๆกับผม และพวกนั้นชอบเล่นซ่อนหา เล่นประมาณ 6คน มีผม ไอ้ป็อบ ไอ้ริว(เป็นเพื่อนแถวบ้าน) พี่เป้(ลูกลุงกับป้าที่บ้าน) พี่เซน(เพื่อนพี่เป้) และพี่ไมท์(เพื่อนพี่เป้) ซึ่งเล่นกันตอนเย็นๆก็ไม่มีอะไร พอเล่นจนมืดๆจนพระสวด ตานั้นพี่ไมท์เป็นคนหา ซึ่งหาจนเหลือคนสุดท้ายคือไอ้ริว แล้วหาไม่เจอก็เลยยอมแล้วให้ไอ้ริวออกมา แล้วพี่ไมท์ก็ถามซ่อนตรงไหนวะเนียน ไอ้ริวก็บอกว่าเนี่ยผมหลบหลังต้นไม้เนี่ยมองไม่เห็นได้ไง ซึ่งต้นไม้ต้นนั้นคือต้นตะเคียน ที่น่าจะอยู่มานานมากแล้ว แล้วจังหวะนั้นผมจามพอดี จังหวะเงยหน้าขึ้นไปเห็นมีผู้หญิงคนนึ่งนั่งชี้นิ้วไปหาไอ้ริว ผมตกใจมากเลยบอกกูกลับก่อนนะ พอเช้ามาไปโรงเรียน ไม่เจอไอ้ริว ผมก็ถามครูไอ้ริวไม่มาเป็นอะไรหรอครับ ครูก็บอกว่าวันนี้ริวป่วย พอเลิกเรียนกลับบ้านผมก็ชวนไอ้ป็อบไปหาไอ้ริว บ้านไอ้ริวจะเป็นร้านค้าขายของ ห่างจากบ้านผมประมาณ 400 เมตร ซึ่งตอนนั้น 5 โมง ผมก็เดินไปแล้วเห็นเงาหน้าต่างว่ามีผู้หญิงยืนอยู่เลยคิดว่าเป็นป้า (ไอ้ริวไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่มันจะอยู่พัทยานะครับ) แต่พอไปบ้านกลับเจอแค่ไอ้ริวนั่งดูหนังอยู่คนเดียว ผมก็ถามป้าไปไหน มันบอกไปรับน้อง (น้องมันเป็นลูกป้าที่อยู่กับมันด้วยเรียนห้องเดียวกับน้องสาวผม) ผมก็มองหน้าไอ้ป็อบ มันก็มองหน้าผม ต่างคนต่าง งง มันถามเมื่อกี้เห็นป่ะ ผมไม่ได้พูดแค่พยักหน้า มันบอกกลับเหอะ ผมก็บอกกูก็ว่างั้น ตอนกลับผมจะผ่านบ้านเก่าๆหลังนึง ข้างๆจะมีนาเลี้ยงปลา หน้าบ้านจะมีต้นมะขามต้นใหญ่แต่ต้นเตี้ย ซึ่งก็รีบกับบ้านไม่มีอะไรจนเดินผ่านบ้านงานศพหลังเดิมที่ไปเล่นซ่อนหา ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ไปเล่นด้วย ผมก็กลับบ้าน ก่อนแยกกับไอ้ป็อบมันก็บอกว่ามีงเห็นยายตรงต้นมะขามป่ะ ตอนนั้นผมนึกว่ามันถามตรงบ้านงาน แต่บ้านงานเป็นต้นมะขามป้อมมียายแถวนั้นนั่งอยู่หลายคน มันก็โล่ง บอกกูนึงว่าเห็นคนเดียว ผมก็บอกอย่าพูดเดี๋ยวเจอ ซึ่งอันนี้ตอนไปเรียนผมค่อยไปถามมันว่าต้นมะขามป้อมหรอที่ถามเมื่อวาน มันบอกไม่ บ้านที่อยู่เลยบ้านไอ้ริวมานิดนึงอ่ะ ผมบอกบ้านหลังนั้นกูไม่เห็นนะตาฟาดหรือเปล่า มันบอกไม่นะกูเห็นยายยืนกวักมือเรียกพวกเราอยู่ ผมก็ขนลุกเลย แต่ตอนนั้นผมไม่เห็น พอเสาร์หรืออาทิตย์นี่แหละ ไอ้ริวมันหายแล้ว ไม่รู้หายได้ไง แต่มันบอกป้ากูให้กรวดน้ำพออีกวันก็หายเลย ผมก็ถามแล้วไมไม่มาเรียนวะ มันบอกกูเห็นใครยืนหน้าบ้านไม่รู้ไม่กล้าออก แล้วพอกูตักบาตร (แถวนั้นจะมีพระเดินบินฑบาตร) มันบอกก็ไม่เจอเลยมา ซึ่งวันนั้นเป็นช่วงที่หนังเรื่องนึงดังมากๆ ผมจะใบ้ให้ว่า ใช้ไม้ตีกัน มีท่าหลายท่า น่าจะรู้กันแล้วนะ ผมก็ไปหาไม้ แต่พี่เป้ชวนไปหาไม้ที่โรงเรียนเพราะโรงเรียนมีโรงเก็บไม้อยู่ ผมก็เดินๆหากันไป คนที่ไป จะมีประมาณ7 คน ซึ่งผมจำไม่ค่อยได้ล่ะว่าใคร น่าจะเป็นคนแถวนั้นแต่คนละโรงเรียน ซึ่งหากันไป ในนั้นมีแต่ไม้ใหญ่ๆ เป็นไม้หน้า3 ตั้งไว้สูงๆ ผมก็เดินไป ผมเห็นคนแก่ๆยืนชี้หน้า ผมเลยตกใจยืนนิ่ง แถวไม้ท่อนนึงล้มมาโดนหัวผมจนแตก (ตอนนี้ยังมีรอยแผลนั้นอยู่กลางหัว) แต่ไม่สลบ คนอื่นก็ตกใจทำไมไม่หลบ ตอนนั้นผมพูดไม่ออก เพราะกลัวปู่จะด่าถ้ากลับบ้านไป แล้วก็มีคนไปซื้อน้ำแข็งมาประคบให้ จนเลือดหยุดไหลก็กลับบ้านแต่ไม่ได้ไปหาหมอในวันนั้น จนตอนเช้าพ่อมา และเห็นเลยถามไปโดนใครตีหัวมา ผมเลยบอกไปหาไม้จนไม้ล้มใส่ ซึ่งพ่อก็ด่า และพาไปหาหมอ แต่ไม่ได้เย็บ(มันเลยเป็นแผลเป็นยาวๆเนี่ย) เรื่องนี้ผมไม่ได้เล่าใครใครฟังว่าเจออะไรในโรงไม้ แต่เหมือนพ่อจะรู้เลยให้พระผมมาอง์นึง(ตอนนี้ยังอยู่) หลังจากนั้นผมก็ไม่เจออะไรอีกเลย
เรื่องของผมก็มีประมาณนี้ อาจจะเล่าได้ไม่หมดเพราะขี้เกียจก็ตาม แต่นี้ผมเล่าครั้งแรกอาจจะงงๆกันหน่อยนะครับ แต่ถ้าคนรู้จักอ่านน่าจะเข้าใจ ขอบคุณที่มาอ่านนะครับ บางคนผมอาจไม่ได้ใส่ชื่อไปเพราะ ไม่ได้เล่าถึงคนนั้นห็ขออภัยด้วยครับ แล้วพบกันถ้าผมนึกออกhahaha คิดว่าเป็นนิทานก็ได้ครับ