สหรัฐฯ เผย อิสราเอลตกลงหยุดยิงวันละ 4 ชั่วโมง
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209987
 
 
สหรัฐฯ เปิดเผยว่า อิสราเอลตกลงที่จะหยุดพักการโจมตีฉนวนกาซาวันละ 4 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม
 
กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า สามารถบุกยึดฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสใกล้เมืองกาซาซิตีได้สำเร็จ หลังยิงต่อสู้กันนานถึง 10 ชั่วโมง ขณะที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อิสราเอลตกลงที่จะหยุดพักการโจมตีฉนวนกาซาวันละ 4 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมตามการเรียกร้องของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
 
จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ในแต่ละวัน อิสราเอลจะประกาศล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ก่อนการพักยิงโจมตีเป็นเวลา 4 ชั่วโมง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเปิดทางให้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปภายในพื้นที่ และเปิดทางให้พลเรือนหลบหนีการสู้รบ
 
โดยเคอร์บีระบุว่า อิสราเอลจะเปิดเส้นทางให้พลเรือนในกาซาที่ต้องการอพยพออกมาเป็นเส้นทางที่ 2 ซึ่งจะเป็นถนนเลียบชายฝั่งทะเล ที่เชื่อมต่อเส้นทางหลักระหว่างฉนวนกาซาตอนเหนือและฉนวนกาซาตอนใต้
 
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู โดยขอให้หยุดพักการโจมตีเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันออกมา
 
ส่วนความคืบหน้าการสู้รบ กองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF เปิดเผยว่า กำลังทหารในสังกัดสามารถยึดฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในเมืองจาบาเลีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองกาซาซิตี เมืองหลักของฉนวนกาซาเพียง 4 กิโลเมตร
 
โดยกองกำลังป้องกันอิสราเอลระบุว่าในระหว่างการสู้รบกัน 10 ชั่วโมง ทหารอิสราเอลได้กำจัดผู้ก่อการร้าย พร้อมกับยึดอาวุธได้เป็นจำนวนมาก พบปากอุโมงค์ใต้ดินหลายแห่งของผู้ก่อการร้าย รวมทั้งพบปากอุโมงค์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนอนุบาล ซึ่งนำไปสู่เส้นทางลับในอุโมงค์ใต้ดิน’กองทัพอิสราเอลเปิดเผย
 
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขที่ควบคุมโดยกลุ่มฮามาสในพื้นที่ฉนวนกาซ่ากล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลส่งผลให้มีผู้คนเสียชีวิตกว่า 15,000 คนแล้ว โดย 2 ใน 3 นั้นเป็นเด็กและผู้หญิง
 
ส่วนองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในพื้นที่กาซ่ากำลังยกระดับสูงขึ้น หลังศพผู้เสียชีวิตที่ถูกฝังอยู่ใต้อาคารต่าง ๆ เริ่มเน่าสลายแล้ว และระบบด้านสาธารณสุข น้ำและสุขอนามัยได้รับความเสียหายหนักจากสถานการณ์การต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ ขณะที่ จำนวนผู้ป่วยด้วยอาการท้องเสียโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และมีการตรวจพบอาการโรคหิด เหา และโรคผิวหนังอื่น ๆ รวมทั้งการติดเชื้อทางเดินหายใจก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย
 
ขณะที่เมื่อวานนี้ ( 9 พ.ย) รัฐบาลฝรั่งเศสได้จัดการประชุมด้านมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฉนวนกาซาในกรุงปารีส โดย ซาเมห์ ชูครี รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของอียิปต์ ได้วิจารณ์อิสราเอลว่าพยายามจำกัดวามช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ส่งผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์ เข้าไปยังฉนวนกาซา
นอกจากนี้ ชูครียังตำหนิหลายประเทศที่เลือกปฏิบัติต่อประเด็นสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และ แสดงจุดยืนคัดค้านการบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาละทิ้งถิ่นฐานของตนเอง
 
ภาพจาก SAID KHATIB / AFP

---

 
รัสเซียส่งเชลยศึกชาวยูเครนไปสู้กับบ้านเกิดตัวเอง ไม่ชัดสมัครใจหรือถูกบังคับ
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209929

สื่อรัสเซียเผย กองทัพรัสเซียใช้งานเชลยศึกชาวยูเครนที่จับได้ ให้ไปเป็นทหารสู้กับยูเครนเอง เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นความสมัครใจหรือถูกบังคับ
สำนักข่าวของรัฐรัสเซีย RIA Novosti รายงานว่า ขณะนี้ รัสเซียกำลังส่งเชลยศึกชาวยูเครนไปยังแนวหน้า เพื่อให้ต่อสู้กับบ้านเกิดของตัวเอง โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นชาวยูเครนที่กำลังสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อรัสเซีย ถือปืนไรเฟิล และแต่งกายด้วยชุดทหาร
 
RIA ระบุว่า ทหารกลุ่มดังกล่าวได้เข้าประจำการตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ ไม่มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทหารและสิทธิมนุษยชนของยูเครน รวมถึงกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ว่ารายงานนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่

ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของรายงานหรือวิดีโอที่เผยแพร่ได้ในทันที และไม่สามารถยืนยันได้ว่า เชลยศึกยูเครนถูกบังคับหรือไม่
 
ด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การกระทำดังกล่าว หากเป็นเรื่องจริง จะเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก ซึ่งห้ามไม่ให้มีการนำพวกเขามาสู้รบหรือทำงานในสภาพที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือเป็นอันตราย ไม่ว่าจะถูกบังคับหรือไม่ก็ตาม
 
ยูเลีย กอร์บูโนวา นักวิจัยอาวุโสด้านยูเครนจากฮิวแมนไรต์วอตช์ กล่าวว่า “ทางการรัสเซียอาจอ้างว่าพวกเขากำลังรับสมัครตามความสมัครใจ แต่ก็ยากที่จะจินตนาการถึงสถานการณ์ที่เชลยศึกจะตัดสินใจเลือกทำสิ่งนี้ด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของการบังคับควบคุมตัว”
 
นิค เรย์โนลด์ส นักวิจัยด้านสงครามภาคพื้นดินที่สถาบัน Royal United Services Institute ในลอนดอน กล่าวว่า สถานการณ์ทั้งหมดอาจเกิดจากการบังคับขู่เข็ญ “เชลยศึกไม่มีสิทธิเสรีภาพ และอยู่ใน สถานการณ์ที่ยากลำบากมาก”
 
ก่อนหน้านี้ สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) เคยรายงานว่า มีเชลยศึกของยูเครนถูกขอให้เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียโดยสมัครใจ
 
แคโรไลนา เฮิร์ด จาก ISW กล่าวว่า ด้วยการระดมทั้งเชลยศึกยูเครน นักโทษรัสเซียตามเรือนจำต่าง ๆ และเกณฑ์ชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคที่ถูกยึดครอง รัสเซียกำลังเพิ่มกำลังรบของตน “โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อผลกระทบทางสังคมจากการเกณฑ์ทหาร”
 
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สื่อรัสเซียรายงานว่า มีเชลยยูเครนประมาณ 70 นายเข้าร่วมกองพันรัสเซีย
 
RIA ยังรายงานว่า เชลยชาวยูเครนจะปฏิบัติการเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยในยูเครนตะวันออก ซึ่งเฮิร์ดบอกว่า เมื่อพิจารณาถึงที่ตั้งของหน่วยดังกล่าว เธอคาดว่าเชลยยูเครนจะถูกส่งไปยังแนวหน้าในภูมิภาคโดเนตสค์และซาโปริซเซีย
 
เรย์โนลด์สเสริมว่า ทหารเหล่านี้ไม่ได้ถูกส่งไปเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยทหารรัสเซียทั่วไป แต่เป็นหนึ่งในรูปแบบของกองกำลังที่ไม่เป็นไปตามโครงสร้างกำลังปกติ
 
เรียบเรียงจาก The Guardian

---

  
วิโรจน์ ซัด ส่วยรถบรรทุกโยงเสี่ยบิ๊ก ไม่จัดการสิ้นซาก คนซวยคือประชาชน ตำรวจเสื่อมหนัก
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4275621

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถาม 3 ข้อถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนึ่ง ตำรวจปล่อยให้มีการขนถ่ายดินจากรถที่ประสบเหตุออกไปได้อย่างไร?สอง สภาพรถบรรทุกและดินที่บรรทุกอยู่บนรถ เป็นพยานวัตถุที่สำคัญมาก ที่จะพิสูจน์ได้ว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่?สาม สติกเกอร์ “ดาว B สีเขียว” เบื้องต้นมีเบาะแสว่าอาจย่อมาจาก “เสี่ยบิ๊ก”?