~ 🌺 "ดอกพุดตาน" 🌺 ~

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้หลายท่านอาจจะได้ยินคำว่า "แม่พุดตาน"  จากละครเรื่องพรหมลิขิต
แต่วันนี้เราจะพามาชมดอกพุดตาน ที่เราเพิ่งจะได้กิ่งมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว
ด้วยเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปแวะซื้อส้มตำร้านประจำแต่ร้านย้ายไปขายอีกซอย
ทำให้ได้ไปเจอต้นพุดตานที่กำลังออกดอก เลยชวนแม่ค้าคุย ว่านั้นดอกอะไร 
จำได้ว่าเคยตอนเด็กและไม่เคยเห็นอีกเลย ในความทรงจำได้คือเจ้าดอกเนี่ยแหละ
จะเปลี่ยนสีจากสีขาวตอนเช้าและจะเป็นสีชมพูตอนเย็น แม่ค้าก็เลยบอกว่าชื่อ "พุดตาน" 
ทำให้ถึงบางอ้อเลยทีเดียวค่ะ 

จากการได้คุยกันและเลยทำการจีบว่าปลูกด้วยอะไร แม่ค้าส้มตำบอกปักชำกิ่งก็ได้ 
เค้าเลยถามว่าเอามั้ย เดี๋ยวจะบอกญาติที่เป็นเจ้าของให้ และให้มาเอาอีก 2 วัน 
เพราะพรุ่งนี้เค้าจะหยุดร้าน 

พอถึงวันนัดก็ไปรับกิ่งช่วงบ่ายโมงและได้ขอเก็บดอกพุดตานมา 1 ดอก ซึ่งตอนนั้นเป็นสีชมพูอ่อนไม่เข้มมากค่ะ
เลยถ่ายเก็บมาฝากเพื่อนๆพันทิปให้ชมกันค่ะ 




+++++++

ข้อมูล "ดอกพุดตาน"   
***ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน โดยชาวจีมีความเชื่อว่าเป็นพรรณไม้มงคล เนื่องจากดอกสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สี ซึ่งเปรียบได้เสมือนกับชีวิตของคนที่เกิดมา "เป็นเด็ก" แล้วโตขึ้น "เป็นหนุ่ม" และชราวัย "เป็นแก่เฒ่า" หมุนเวียนตามวัฏจักรเกิดแก่เจ็บตายตามวัฏจักรของสรรพชีวิตเหมือนสีของดอก "พุดตาน" ที่เมื่อแรกบานจะเป็น "สีขาวบริสุทธิ์" เปรียบได้กับ "เด็กไร้เดียงสา" แล้วเปลี่ยนเป็น "สีชมพู" สดใสดุจ "คนหนุ่มสาววัยร่าเริง" และสุดท้ายจะเป็น "สีแดงเข้ม" ก่อนเหี่ยวและร่วงโรยจากต้นในที่สุด เสมือน "คนแก่วัยชรา" ที่รอวันสิ้นอายุขัย ซึ่งปัจจุบันน้อยคนมากที่จะรู้จักต้นพุดตานและเข้าใจในวัฏจักรของธรรมชาติ ที่แฝงไปด้วยองค์ความรู้ในการค้นหาความสุขที่แท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ถึงจุดสุดท้ายแห่งชีวิต
เชื่อว่าต้นพุดตานอาจนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยช่วงที่ไทยมีค้าขายกับชาวจีนในสมัยรัตนโกสินทร์

การเปลี่ยนสีของดอกพุดตานใน 1 วัน 


ดอกพุดตานมีทั้งแบบกลีบดอกซ้อน และไม่ซ้อน ส่วนผลนั้นมีลักษณะกลมและมีขน เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็น 5 แฉก ต้นพุดตานสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี สามารถขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปักชำและการตอนกิ่ง

สำหรับสารสำคัญที่พบในใบนั้น เป็นชนิดเดียวกับที่พบในสมุนไพรหลายๆ ชนิดคือฟลาโวนอยด์ กลัยโคไซด์ ซึ่งทราบกันดีว่าสารตัวนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีในร่างกายของคนเรา
ดอกพุดตานมีสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งจะมีปริมาณที่เปลี่ยนแปลงไปตามสีของดอกพุดตาน โดยจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อดอกมีสีแดงเข้มสารนี้จะมีปริมาณเป็น 3 เท่าของดอกสีชมพู
สรรพคุณทางสมุนไพรของพุดตานคือ ใช้ใบสด หรือดอกสด ตำผสมน้ำผึ้งทาบริเวณที่เป็นฝี หรือบริเวณที่ถูกผึ้งต่อยไม่ให้เกิดการอักเสบได้ ส่วนใบแห้ง ให้บดเป็นผงใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือจะใช้ส่วนรากตำ และนำไปพอกรักษาโรคงูสวัด

++++++++++++++++++++++

****** กิ่งต้นพุดตานที่เราได้มาค่ะ ส่วนด้านขวามือเป็นต้นชบาเมเปิ้ล อันนี้ก็ไปจีบร้านข้าวมันไก่มาเลยได้กิ่งมาปักชำค่ะ 


ขอแถมเรื่องต้นชบาเมเปิ้ล เรารู้จักต้นชบาเมเปิ้ลจากการดูข้อมูลดอกไม้กินได้ในยูทูบและสวนที่ปลูกดอกไม้กิน 
ก็มีการปลูกต้นชบาเมเปิ้ลด้วยค่ะ ชบาเมเปิ้ลก็เป็นต้นไม้ที่กินใบได้ มีรสชาติเปรี้ยวแอบชิมแล้ว 

ข้อมูลจากอินเตอร์เนต "ชบาเมเปิ้ล

ชบาเมเปิ้ล พรรณไม้ในวงศ์ Malvaceae เช่นเดียวกับชบา กระเจี๊ยบ และฝ้าย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus acetosella Welw. ex Hiern ไม้ประดับชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาจึงเรียกชื่อสามัญว่า African Rosemallow ต่อมากระจายพันธุ์ไปยังบราซิลและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเป็นอาหารของทาสที่ถูกจับมา นิยมกินเป็นผักสดหรือนำมาประกอบอาหาร มีรสเปรี้ยวจึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า Cranberry Hibiscus นอกจากนี้ยังรู้จักกันในชื่อ False Roselle, Maroon Mallow และ Red Leaved Hibiscus

ชบาเมเปิ้ลขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการปักชำกิ่ง สามารถปักชำในดินได้โดยตรงหรือตัดกิ่งนำไปแช่น้ำ ประมาณ 1-2 สัปดาห์เมื่อเกิดรากก็นำไปปลูกต่อได้ ไม่เพียงเท่านี้ สีแดงสดของใบและดอกยังอุดมด้วยสารสำคัญคือแอนโทไซยานิน ทั้งยังมีเพกตินจากเมือกเหนียวซึ่งช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ในต่างประเทศนิยมนำใบมากินเป็นผักสลัดหรือตกแต่งอาหารให้ดูน่ากินยิ่งขึ้น ดอกสดชงเป็นชา ให้สีแดงอมชมพู รวมถึงนำมาทำเป็นแยมกินกับขนมปังด้วย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
+++++++++++++++

กิ่งที่ได้มานำมาแช่น้ำไว้ มีเวลาก็เอาลงกระถางปลูก ตอนนี้ได้สัปดาห์กว่าแล้วน่าจะติดรากเรียบร้อย
เพราะน้องออกใบใหม่เป็นสีเขียว   ทั้งต้นพุดตานและชบาเมเปิ้ลเป็นต้นไม้ที่ชอบแดดค่ะ
โดยเฉพาะ "ชบาเมเปิ้ล"  อยากได้สีแดงสวยต้องแดดแทบจะ 100 % เลย ถ้าไว้ในร่มใบจะเป็นสีเขียวหรือแดงออกไปทางเขียวค่ะ 




***อันนี้ดอกชบาเมเปิ้ลของเพื่อนที่ทำงานแต่ปลูกไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใบสีเขียว แต่ดอกชบาเมเปิ้ลจะเป็นแบบนี้ถ้าออกดอกค่ะ 


ตอนนี้น้องชบาเมเปิ้ลรอดแล้ว แต่น้องพุดตานยังไม่มีวี่แววว่าจะงอกใบอ่อนๆมาให้เห็น ไม่รู้ว่าจะรอดมั้ย
แต่ถ้าไม่รอด  เจ้าของต้นพุดตานที่ให้มาเขาบอกกำลังปักชำกิ่งไว้ถ้าติดรากจะเอามาให้ 
ถือเป็นความโชคดีที่เจ้าของใจดีทั้ง 2 ท่าน พูดคุยแลกเปลี่ยนตามประสาคนชอบปลูก
ส่วนตัวเราเองเป็นคนชอบดอกไม้ไทยเหมือนกัน บ้านตัวเองไม่มีพื้นที่เท่าไร ก็ยังอุตส่าห์ซื้อต้นมะลิ,จำปี และดอกแก้วไปปลูกไว้ที่ทำงาน
เดือนหน้าย้ายสำนักงานแล้วก็แอบเสียดายที่จะไม่เห็นดอกไม้ที่ตัวเองปลูกแล้ว T^T 



ใครมีต้นไทยที่น่าสนใจเชิญแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ค่ะ 
ขอบคุณสำหรับการรับชมกระทู้ อาจเขียนงงๆเพราะดึกแล้ว จขกท. เริ่มเบลอๆ ค่ะ อิอิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่