JJNY : 5in1 เปิดใจสื่อนอก│ฮามาสปะทะเดือด│ชัยธวัชถามกลับภท.│ก้าวไกลให้รบ.ติดร.แก้ไฟใต้│มังคุดอินโดนีเซีย ไล่กวดในตลาดจีน

พิธา เปิดใจสื่อนอก ประกาศจะลงชิงตำแหน่ง นายกฯ อีกแน่นอน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4274670

พิธา เปิดใจสื่อนอก ประกาศจะลงชิงตำแหน่ง นายกฯ อีกแน่นอน
 
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี ถึงอนาคตทางการเมือง ประกาศจะเดินหน้าลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยแน่นอน หลังจากก้าวไกลประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยการได้เป็นพรรคอันดับ 1 ที่ชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และนายพิธา ถูกกีดกันไม่ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
 
เอเอฟพีระบุว่า นายพิธา ผู้นำพรรคก้าวไกลอายุ 43 ปี สร้างปรากฏการณ์ด้วยการนำพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ด้วยเสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่และคนเมือง หลังจากคนไทยเหนื่อยหน่ายกับการปกครองประเทศโดยกองทัพมานานเกือบ 10 ปี ก่อนที่นายพิธาจะถูกกีดกันไม่ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจากกลุ่มที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม และไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องการปฏิรูป

แม้ว่าตอนนี้นายพิธาจะยังต้องเผชิญกับข้อกฎหมายที่ทำให้เขาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปมถือหุ้นสื่อ และอาจทำให้นายพิธาถูกห้ามลงเล่นการเมืองนานหลายปี
 
แต่ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี นายพิธาประกาศว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งแน่นอน
โดยนายพิธาตอบคำถามที่ว่ามีแผนจะลงเลือกตั้งอีกหรือไม่ ว่า แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ และว่า มันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลา
 
อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีรายงานว่า ยังมีอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางทางนายพิธาอยู่ ไม่ใช่แค่เพียงการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เท่านั้น

เอเอฟพีรายงานว่า พรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม และได้จับมือกับพรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทย เดินหน้าไปสู่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มีการเสนอชื่อนายพิธาเพียงคนเดียวในรอบแรก แต่คะแนนไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา ที่มาจากการแต่งตั้งของกองทัพ
 
และในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ชื่อของนายพิธาก็ถูกสกัดเอาไว้ ก่อนที่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เนื่องจากปัญหาเรื่องการถือหุ้นสื่อ

อย่างไรก็ตาม นายพิธายืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด และเขาเชื่อมั่นอย่างมากในกรณีดังกล่าว ซึ่งนายพิธากล่าวถึงเรื่องปมถือหุ้นสื่อว่า เขาพบว่า อาจจะเป็นเรื่องของความตั้งใจ ของกลุ่มคนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
 


สู้ตาย นักรบฮามาส ปะทะเดือดทหารอิสราเอล รุกคืบใจกลางเมืองกาซาซิตี้
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2739438

นักรบกลุ่มฮามาสปะทะกับทหารอิสราเอล พยายามรุกคืบเข้าสู่ใจกลางเมืองกาซาซิตี้ เมืองใหญ่สุดในฉนวนกาซา ขณะที่กองทัพอิสราเอลเผยเกิดการสู้รบระหว่างกับกลุ่มฮามาสที่เมืองจาบาเลีย นับ 10 ชม. และสามารถยึดฐานที่มั่นฮามาสได้
 
เมื่อ 9 พ.ย.2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ดำเนินมากว่าหนึ่งเดือนหลังจากกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า ‘กองพลน้อยอัลกัสซัม ฝ่ายติดอาวุธของกลุ่มฮามาสเปิดเผย ขณะนี้ นักรบของกองพลน้อยอัลกัสซัม มีการปะทะกับทหารอิสราเอลที่กำลังพยายามรุกคืบเข้าสู่ใจกลางเมืองกาซาซิตี้ เมืองใหญ่สุดของฉนวนกาซา
 
ขณะที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (Israel Defence Force) หรือกองทัพอิสราเอลแจ้งความคืบหน้าผ่าน X หรือทวิตเตอร์เดิมเมื่อ 9 พ.ย. ว่า กำลังทหารอิสราเอลสามารถยึดฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในเมืองจาบาเลีย ทางภาคเหนือของฉนวนกาซาได้แล้ว หลังปะทะกันนานนับ 10 ชั่วโมง 
 
ในระหว่างการสู้รบกันนับ 10 ชม. ทหารอิสราเอลได้กำจัดพวกก่อการร้าย พร้อมกับยึดอาวุธได้เป็นจำนวนมาก พบปากอุโมงค์ใต้ดินของผู้ก่อการร้าย รวมทั้งพบปากอุโมงค์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนอนุบาล ซึ่งนำไปสู่เส้นทางลับในอุโมงค์ใต้ดิน’ กองทัพอิสราเอลเปิดเผย ในขณะที่มีรายงาน มีชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากเมืองกาซาซิตี้ อีก 50,000 คน เมื่อวันพุธที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา 

เมื่อ 8 พ.ย. 2566 โยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอลแถลงว่าทหารอิสราเอลสามารถบุกเข้าถึงใจกลางเมืองกาซาซิตี้ ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาได้แล้ว หลังกองทัพอิสราเอลได้ส่งทหารราบพร้อมรถถังบุกภาคพื้นดินทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเมื่อกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา 
 
ด้านกลุ่มฮามาสที่ปกครองฉนวนกาซา แถลงว่า กองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซาอย่างหนัก รวมทั้ง เมืองข่านยูนิส ทางภาคใต้ ทำให้มีพลเรือนถูกสังหารอีก 6 ศพ ในขณะที่ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาจากการถูกอิสราเอลโจมตีตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2566 เพิ่มเป็นกว่า 10,500 ศพแล้ว
 


 
ชัยธวัช ถามกลับ ภท.ร้องสอบ กก.เพราะ หมออ๋องตรวจสอบก่อสร้างสภาใหม่ อยู่ใช่หรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4274619

’ชัยธวัช‘ ไม่หวั่น ‘ภูมิใจไทย’ ยื่น กกต.สอบ ‘ก้าวไกล’ ปมขับสมาชิกพรรค 2 มาตรฐาน ถาม ‘ศุภชัย’ ออกมายื่นให้สอบเพราะ ‘ปดิพัทธ์’ กำลังตรวจสภาฯ อยู่หรือไม่
 
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยื่นเรื่องถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบการพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ก.ก. ของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 เพราะตั้งข้อสังเกตว่ามีความแตกต่างกับการขับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์  ส.ส.กทม. พรรค ก.ก. และนายนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี พรรค ก.ก. ออกจากพรรค ที่ดำเนินการเปิดเผยทุกกระบวนการว่า ไม่ได้มีข้อกังวลในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเราดำเนินการทั้งสองกรณีอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและตรวจสอบได้ ซึ่งขั้นตอนต่อไป กกต. ก็คงแจ้งให้ไปชี้แจง เราก็พร้อมชี้แจงด้วยข้อมูลและเอกสารต่างๆ
 
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าทำไมนายศุภชัย จึงดำเนินการเรื่องนี้ หรือเป็นเพราะว่านายปดิพัทธ์กำลังดำเนินการเกี่ยวกับอาคารรัฐสภาอยู่หรือไม่ ยืนยันว่าเราไม่กังวลอะไร ทุกเรื่องชี้แจงและตรวจสอบได้
 


ก้าวไกล ให้รัฐบาลเศรษฐา ติด ร. แก้ปัญหาไฟใต้ ชี้ไม่ส่งข้อสอบ ไม่ทำการบ้าน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7955616

โรม ไม่ขอให้คะแนน รัฐบาลเศรษฐา แก้ปัญหาความมั่นคง ชี้สส.รัฐบาล มีมากกว่า 300 แต่ไม่พัฒนากฎหมายเป็นเรื่องเป็นราว ‘รอมฎอน’ ให้ติด ร. ไว้ก่อน เหตุไม่ส่งข้อสอบไม่ทำการบ้าน
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการให้คะแนนรัฐบาลต่อการทำงานด้านความมั่นคง ว่า ขอไม่ตอบเป็นตัวเลข เพราะตนมีความคาดหวังกับการแก้ปัญหาของรัฐบาล มากกว่านี้ ในฐานะประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ เราไม่เห็นความคืบหน้า นึกไม่ออกว่าก่อนเข้ามาเป็นรัฐบาล กับหลังเข้ามาทำงานแตกต่างอย่างไร
 
 “การทำงานในสภาฯ มีสส.รัฐบาลกว่า 300 คน แต่ยังไม่มีการพัฒนากฎหมายให้เป็นเรื่องเป็นราว เราไม่เห็นความสำเร็จอะไร แม้แต่นายกฯ ก็ไม่เคยมาตอบกระทู้ของฝ่ายค้านแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายให้คะแนนลำบาก เลยไม่อยากกำหนดเป็นตัวเลข เนื่องจากไม่เห็นผลงาน ความสำเร็จในเรื่องเหล่านี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
ขณะที่ นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเหมือนกับนายรังสิมันต์ ไม่อยากให้คะแนน เช่น การแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ คงต้องให้ติด ร ไว้ก่อน เพราะเขาไม่ทำการบ้าน ไม่ส่งข้อสอบ จึงขอให้โอกาสแค่ 2 ดือน รอให้แสดงผลงาน แค่การเจรจาสันติภาพขณะนี้ก็ยังไม่มีหัวหน้าคณะ ค้างมาหลายเดือนแล้ว
 
เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่กล้าแตะความมั่นคงใช่หรือไม่ นายรอมฎอน กล่าวว่า ตนเคยตั้งข้อสังเกตไว้ 2 เรื่อง คือ 
1. เขาไม่แยแส ไม่สนใจ 
2. ไม่กล้าแตะ เพราะเป็นเขตทหาร เป็นเรื่องกิจการกองทัพ 

ดังนั้น การตัดสินใจอะไรที่ก้าวก่าย อาณาเขตของทหาร คงต้องระมัดระวัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่