อิสราเอลชี้ กลุ่มฮามาสสูญเสียการควบคุมกาซาตอนเหนือแล้ว
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209894
กองกำลังป้องกันอิสราเอลเปิดเผยว่า ขณะนี้ กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้สูญเสียอำนาจการควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้ว
กองทัพอิสราเอลระบุว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสได้สูญเสียอำนาจการควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้ว พร้อมยืนยันว่าได้อนุญาตให้หยุดพักการโจมตีในบางช่วงเวลาเพื่อเปิดทางให้พลเรือนอพยพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา
พลเรือตรี
ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่า พลเรือนประมาณ 50,000 คนได้อพยพออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องจากทราบดีว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสได้สูญเสียอำนาจการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
โดยตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลได้ยกระดับปฏิบัติการภาคพื้นดิน ซึ่งเป้าหมายหลักขณะนี้คือ กาซาซิตี เมืองหลักของฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม พลเรือตรี
ฮาการีย้ำว่า จะไม่มีการหยุดยิง แต่อิสราเอลได้อนุญาตให้ระงับปฏิบัติการโจมตีได้ในบางช่วงเวลาเพื่อเปิดทางให้พลเรือนที่ยังอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเดินทางลงสู่พื้นที่ทางใต้ ซึ่งอิสราเอลกำหนดให้เป็นพื้นที่มนุษยธรรม
ด้าน
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า เมื่อสงครามกวาดล้างฮามาสสิ้นสุดลงแล้ว อิสราเอลอาจทำหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ไม่ควรปกครองกาซาอีก โดยหน้าที่นี้ต้องเป็นของรัฐบาลชาวปาเลสไตน์เองที่ควรได้รับสิทธิ์บริหารทั้งฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งจะเป็นอีกขั้นตอนต่อไปสำหรับการสถาปนาความเป็นรัฐเอกราชของปาเลสไตน์
ขณะที่
วอลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่แห่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ให้ความเห็นว่า ทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาสล้วนก่ออาชญากรรมสงครามด้วยกันทั้งคู่
เติร์กย้ำว่า การโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและการจับตัวประกันของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. คืออาชญากรรมสงคราม เช่นเดียวกับการกระทำของอิสราเอลที่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนปาเลสไตน์พร้อมทั้งเตือนว่าการบีบบังคับให้พลเรือนอพยพเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ด้าน
สเตฟาน ดูฌาร์ริก โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ เปิดเผยในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า เจ้าหน้าที่ที่ทำให้งานในกาซาให้กับสำนักงานบรรเทาทุกข์เพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกไกลแห่งสหประชาชาติ (UNRWA) ในฉนวนกาซา เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 99 คนแล้ว
ส่วนที่ประเทศซีเรีย สหรัฐฯ ได้เปิดฉากปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยเป้าหมายคือสถานที่เก็บอาวุธของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) และกลุ่มตัวแนวร่วมในซีเรีย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค. สหรัฐฯ ได้โจมตีเป้าหมายเหล่านี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งการยิงจรวดและโดรนโจมตีทหารอเมริกันที่ประจำการในซีเรียและอิรัก ซึ่งเป็นฝีมือของอิหร่านและแนวร่วมได้
โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านมีความอันตรายมากขึ้น โดยพบว่าโดรนที่ใช้โจมตีฐานมี่มั่นทหารอเมริกันในซีเรียบรรจุวัตถุระเบิดในปริมาณที่เพิ่มขึ้น
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เตือนว่า หากแนวร่วมของอิหร่านยังไม่หยุดโจมตีทหารอเมริกัน รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการขั้นต่อไปที่จำเป็นต่อการปกป้องชีวิตของพลเมืองตัวเอง
ยูเอ็นชี้ “เอลนีโญ” จะยาวนานไปถึงเดือนเมษายน
https://tna.mcot.net/world-1269388
เจนีวา 8 พ.ย. – สหประชาชาติกล่าววันนี้ว่า ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึงเดือนเมษายนปีหน้า
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ ดับเบิลยูเอ็มโอ ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ในปัจจุบัน พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ปีที่แล้ว และมีแนวโน้มจะรุนแรงมากที่สุดในระหว่างนี้จนถึงเดือนมกราคม และมีความเป็นไปได้ถึงร้อยละ 90 ที่ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” จะยังคงอยู่ในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือและช่วงฤดูร้อนในซีกโลกใต้ที่กำลังจะมาถึง และ “เอลนีโญ” คาดว่าจะอยู่ต่อไปจนถึงเดือนเมษายนเป็นอย่างน้อย
นาย
เพตเทอริ ทาลาส (Petteri Taalas) เลขาธิการดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ขณะนี้อุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ทั้งบนบกและผิวทะเล นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งจะส่งผลให้ปี 2023 อยู่ในแนวทางที่จะมีอากาศร้อนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับเตือนว่า ในปีหน้าสภาพอากาศอาจจะร้อนมากกว่านี้ได้ สภาพอากาศที่แปรปรวนรุนแรง เช่น คลื่นความร้อน ภัยแล้ง ไฟป่า ฝนตกหนักและน้ำท่วม จะเพิ่มขึ้นในบางภูมิภาค และมีผลกระทบอย่างหนัก พร้อมทั้งเน้นในเรื่องความสำคัญของประสิทธิภาพของระบบเตือนภัยล่วงหน้า
ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” เป็นรูปแบบสภาพอากาศที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้นทั่วโลก รวมถึงเกิดภัยแล้งในหลายพื้นที่ของโลก และมีฝนตกหนักในพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่เจอกับภัยแล้ง.-สำนักข่าวไทย
วิโรจน์ รุดที่เกิดเหตุ สิบล้อตกถนน พร้อมส.ส.-ส.ก. บี้ตร.สอบยิบ ปล่อยขนดินกลับไซต์งาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4273665
วิโรจน์ รุดที่เกิดเหตุ สิบล้อตกถนน พร้อมส.ส.-ส.ก. ถึงไซต์งาน บี้ตร.สอบ 2 ปมใหญ่ ปล่อยขนดินกลับ ยันผู้รับเหมา รักษาดินที่เอากลับไปอย่างดี รอชั่งน้ำหนักรวม
จากรณีที่รถสิบล้อบรรทุกดินทรุดลงไปในบ่อพักท่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวันที่ผ่านมา ล่าสุด เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถนำรถตักดินขึ้นมาได้แล้ว เป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่มีรายงานการเปิดจราจรแต่อย่างใด ท่ามกลางฝน ที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด (8 พ.ย.) นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เผยผ่าน X ว่าได้ลงพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับส.ส. กับส.ก.ในพื้นที่ ประกอบด้วย นาย
ปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ส.ส. และ นาย
สราวุธ อนันต์ชล ส.ก.พระโขนง พร้อมระบุข้อความว่า
“ผมกับโตโต้ และ สก.สราวุธ ได้มาที่จุด ถนนทรุดตัว และได้ตั้งข้อสังเกตว่า
1. ผกก.สน.พระโขนง ปล่อยให้ตักดินออกจากตัวรถที่เกิดเหตุได้ยังไง เป็นการทำลายหลักฐานการบรรทุก น้ำหนักเกินหรือไม่
2. พวกเราได้เสนอแนะให้ไปตักดินที่นำไปเทที่ไซต์งาน กลับมาชั่ง โดยมีพยานบันทึกหลักฐาน”
“กรณีถนนทรุดตัว ประเด็นที่ ผกก.สน.พระโขนง และ ผบก.น.5 ต้องสืบสวนก็คือ มีการปล่อยให้ขนดินออกจากตัวรถที่เกิดเหตุ แล้วเอาไปเททิ้งที่ไซต์งานได้อย่างไร คันหนึ่งเทไปแล้ว อีกคันหนึ่ง สกัดไว้ได้ทัน เข้าข่ายการทำลายหลักฐาน หรือแทรกแซงวัตถุพยานสำคัญ กรณีบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือไม่
“ผม โตโต้ และ สก.สราวุธ ได้เข้าไปตรวจในไซต์ก่อสร้าง พบว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างยังคงแยกเก็บกองดินที่ขนออกมาจากรถบรรทุกที่ประสบเหตุ เป็นอย่างดี พวกเราได้เสนอให้นำเอาดินมารวมกันที่รถที่ประสบเหตุ แล้วชั่งน้ำหนัก ต่อหน้าพยาน ในคืนนี้เลย”
“สำหรับรถคันที่ประสบเหตุ ก็มีความจำเป็นต้องตรวจสอบช่วงล่าง เพื่อพิสูจน์ว่ามีการดัดแปลงช่วงล่าง เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ หากเอาดินมาชั่ง นน. ต่อหน้าพยานในคืนนี้ได้ เมื่อนำมาพิจารณากับสภาพช่วงล่างของรถบรรทุกที่เกิดเหตุ ก็จะทราบได้ทันทีว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่”
https://twitter.com/wirojlak/status/1722243908535775299
https://twitter.com/wirojlak/status/1722247400260252114
https://twitter.com/wirojlak/status/1722247113101447483
https://twitter.com/wirojlak/status/1722242076568609244
https://twitter.com/wirojlak/status/1722238648899580007
JJNY : ฮามาสสูญเสียการควบคุมกาซาตอนเหนือ│ชี้“เอลนีโญ”จะยาวถึงเมษ.│วิโรจน์รุด สิบล้อตกถนน บี้ตร.สอบยิบ│โรงสี ตั้งข้อสงสัย
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209894
กองกำลังป้องกันอิสราเอลเปิดเผยว่า ขณะนี้ กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้สูญเสียอำนาจการควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้ว
กองทัพอิสราเอลระบุว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสได้สูญเสียอำนาจการควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้ว พร้อมยืนยันว่าได้อนุญาตให้หยุดพักการโจมตีในบางช่วงเวลาเพื่อเปิดทางให้พลเรือนอพยพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา
พลเรือตรี ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่า พลเรือนประมาณ 50,000 คนได้อพยพออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องจากทราบดีว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสได้สูญเสียอำนาจการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
โดยตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลได้ยกระดับปฏิบัติการภาคพื้นดิน ซึ่งเป้าหมายหลักขณะนี้คือ กาซาซิตี เมืองหลักของฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม พลเรือตรีฮาการีย้ำว่า จะไม่มีการหยุดยิง แต่อิสราเอลได้อนุญาตให้ระงับปฏิบัติการโจมตีได้ในบางช่วงเวลาเพื่อเปิดทางให้พลเรือนที่ยังอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาเดินทางลงสู่พื้นที่ทางใต้ ซึ่งอิสราเอลกำหนดให้เป็นพื้นที่มนุษยธรรม
ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า เมื่อสงครามกวาดล้างฮามาสสิ้นสุดลงแล้ว อิสราเอลอาจทำหน้าที่ดูแลสถานการณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ไม่ควรปกครองกาซาอีก โดยหน้าที่นี้ต้องเป็นของรัฐบาลชาวปาเลสไตน์เองที่ควรได้รับสิทธิ์บริหารทั้งฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งจะเป็นอีกขั้นตอนต่อไปสำหรับการสถาปนาความเป็นรัฐเอกราชของปาเลสไตน์
ขณะที่ วอลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่แห่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ให้ความเห็นว่า ทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาสล้วนก่ออาชญากรรมสงครามด้วยกันทั้งคู่
เติร์กย้ำว่า การโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและการจับตัวประกันของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. คืออาชญากรรมสงคราม เช่นเดียวกับการกระทำของอิสราเอลที่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนปาเลสไตน์พร้อมทั้งเตือนว่าการบีบบังคับให้พลเรือนอพยพเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ด้าน สเตฟาน ดูฌาร์ริก โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ เปิดเผยในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า เจ้าหน้าที่ที่ทำให้งานในกาซาให้กับสำนักงานบรรเทาทุกข์เพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกไกลแห่งสหประชาชาติ (UNRWA) ในฉนวนกาซา เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 99 คนแล้ว
ส่วนที่ประเทศซีเรีย สหรัฐฯ ได้เปิดฉากปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยเป้าหมายคือสถานที่เก็บอาวุธของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) และกลุ่มตัวแนวร่วมในซีเรีย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค. สหรัฐฯ ได้โจมตีเป้าหมายเหล่านี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถหยุดยั้งการยิงจรวดและโดรนโจมตีทหารอเมริกันที่ประจำการในซีเรียและอิรัก ซึ่งเป็นฝีมือของอิหร่านและแนวร่วมได้
โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านมีความอันตรายมากขึ้น โดยพบว่าโดรนที่ใช้โจมตีฐานมี่มั่นทหารอเมริกันในซีเรียบรรจุวัตถุระเบิดในปริมาณที่เพิ่มขึ้น
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เตือนว่า หากแนวร่วมของอิหร่านยังไม่หยุดโจมตีทหารอเมริกัน รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการขั้นต่อไปที่จำเป็นต่อการปกป้องชีวิตของพลเมืองตัวเอง
ยูเอ็นชี้ “เอลนีโญ” จะยาวนานไปถึงเดือนเมษายน
https://tna.mcot.net/world-1269388
เจนีวา 8 พ.ย. – สหประชาชาติกล่าววันนี้ว่า ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึงเดือนเมษายนปีหน้า
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ ดับเบิลยูเอ็มโอ ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ในปัจจุบัน พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ปีที่แล้ว และมีแนวโน้มจะรุนแรงมากที่สุดในระหว่างนี้จนถึงเดือนมกราคม และมีความเป็นไปได้ถึงร้อยละ 90 ที่ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” จะยังคงอยู่ในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือและช่วงฤดูร้อนในซีกโลกใต้ที่กำลังจะมาถึง และ “เอลนีโญ” คาดว่าจะอยู่ต่อไปจนถึงเดือนเมษายนเป็นอย่างน้อย
นายเพตเทอริ ทาลาส (Petteri Taalas) เลขาธิการดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ขณะนี้อุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ทั้งบนบกและผิวทะเล นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งจะส่งผลให้ปี 2023 อยู่ในแนวทางที่จะมีอากาศร้อนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับเตือนว่า ในปีหน้าสภาพอากาศอาจจะร้อนมากกว่านี้ได้ สภาพอากาศที่แปรปรวนรุนแรง เช่น คลื่นความร้อน ภัยแล้ง ไฟป่า ฝนตกหนักและน้ำท่วม จะเพิ่มขึ้นในบางภูมิภาค และมีผลกระทบอย่างหนัก พร้อมทั้งเน้นในเรื่องความสำคัญของประสิทธิภาพของระบบเตือนภัยล่วงหน้า
ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” เป็นรูปแบบสภาพอากาศที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้นทั่วโลก รวมถึงเกิดภัยแล้งในหลายพื้นที่ของโลก และมีฝนตกหนักในพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่เจอกับภัยแล้ง.-สำนักข่าวไทย
วิโรจน์ รุดที่เกิดเหตุ สิบล้อตกถนน พร้อมส.ส.-ส.ก. บี้ตร.สอบยิบ ปล่อยขนดินกลับไซต์งาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4273665
วิโรจน์ รุดที่เกิดเหตุ สิบล้อตกถนน พร้อมส.ส.-ส.ก. ถึงไซต์งาน บี้ตร.สอบ 2 ปมใหญ่ ปล่อยขนดินกลับ ยันผู้รับเหมา รักษาดินที่เอากลับไปอย่างดี รอชั่งน้ำหนักรวม
จากรณีที่รถสิบล้อบรรทุกดินทรุดลงไปในบ่อพักท่อร้อยสายไฟของการไฟฟ้านครหลวง บริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวันที่ผ่านมา ล่าสุด เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถนำรถตักดินขึ้นมาได้แล้ว เป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่มีรายงานการเปิดจราจรแต่อย่างใด ท่ามกลางฝน ที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด (8 พ.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เผยผ่าน X ว่าได้ลงพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับส.ส. กับส.ก.ในพื้นที่ ประกอบด้วย นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ส.ส. และ นายสราวุธ อนันต์ชล ส.ก.พระโขนง พร้อมระบุข้อความว่า
“ผมกับโตโต้ และ สก.สราวุธ ได้มาที่จุด ถนนทรุดตัว และได้ตั้งข้อสังเกตว่า
1. ผกก.สน.พระโขนง ปล่อยให้ตักดินออกจากตัวรถที่เกิดเหตุได้ยังไง เป็นการทำลายหลักฐานการบรรทุก น้ำหนักเกินหรือไม่
2. พวกเราได้เสนอแนะให้ไปตักดินที่นำไปเทที่ไซต์งาน กลับมาชั่ง โดยมีพยานบันทึกหลักฐาน”
“กรณีถนนทรุดตัว ประเด็นที่ ผกก.สน.พระโขนง และ ผบก.น.5 ต้องสืบสวนก็คือ มีการปล่อยให้ขนดินออกจากตัวรถที่เกิดเหตุ แล้วเอาไปเททิ้งที่ไซต์งานได้อย่างไร คันหนึ่งเทไปแล้ว อีกคันหนึ่ง สกัดไว้ได้ทัน เข้าข่ายการทำลายหลักฐาน หรือแทรกแซงวัตถุพยานสำคัญ กรณีบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือไม่
“ผม โตโต้ และ สก.สราวุธ ได้เข้าไปตรวจในไซต์ก่อสร้าง พบว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างยังคงแยกเก็บกองดินที่ขนออกมาจากรถบรรทุกที่ประสบเหตุ เป็นอย่างดี พวกเราได้เสนอให้นำเอาดินมารวมกันที่รถที่ประสบเหตุ แล้วชั่งน้ำหนัก ต่อหน้าพยาน ในคืนนี้เลย”
“สำหรับรถคันที่ประสบเหตุ ก็มีความจำเป็นต้องตรวจสอบช่วงล่าง เพื่อพิสูจน์ว่ามีการดัดแปลงช่วงล่าง เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ หากเอาดินมาชั่ง นน. ต่อหน้าพยานในคืนนี้ได้ เมื่อนำมาพิจารณากับสภาพช่วงล่างของรถบรรทุกที่เกิดเหตุ ก็จะทราบได้ทันทีว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่”
https://twitter.com/wirojlak/status/1722243908535775299
https://twitter.com/wirojlak/status/1722247400260252114
https://twitter.com/wirojlak/status/1722247113101447483
https://twitter.com/wirojlak/status/1722242076568609244
https://twitter.com/wirojlak/status/1722238648899580007