Braveheart - Official® Trailer 1
Braveheart Song
วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ (Braveheart) เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติ-ดราม่าและโรแมนติก กำกับภาพยนตร์ อำนวยการสร้าง และนำแสดงโดยเมล กิ๊บสัน ร่วมด้วย โซฟี มาร์โซ, แองกัส แมคฟาเดียน, แพทริค แมคกูฮาน, แคทเธอรีน แมคคอร์แมค, เบรนดัน กลีสัน และปีเตอร์ ฮันลี เรื่องราวได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีมหากาพย์ในศตวรรษที่ 15 ของ บลาย แฮรี่ เรื่อง The Actes และ Deidis of the Illustre และ Vallyeant Campioun Schir William Wallace ดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์โดยแรนดัลล์ วอลเลซ ดนตรีประกอบโดยเจมส์ ฮอร์เนอร์
ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของวิลเลียม วอลเลซอัศวินชาวสกอตแลนด์ที่ปลุกระดมชาวสกอตแลนด์ให้ปลดตนเองออกจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษเป็นผู้ปกครอง ณ ขณะนั้น วอลเลซปลุกระดมชาวสกอตแลนด์จำนวนมากและตั้งกองทัพขึ้นเพื่อต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่มีจำนวนมากกว่ามาก
รางวัลประจำปี ค.ศ. 1995
รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม
รางวัลลูกโลกทองคำ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
เรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ในปี1280 กษัตริย์เอ็ดเวิร์ด "ลองแชงค์" ได้ยกทัพเข้ารุกรานและยึดครองสกอตแลนด์หลังจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 ชาวสก็อตผู้ซึ่งไม่มีรัชทายาทเหลืออยู่ วิลเลียม วอลเลซในวัยเด็กได้เห็นการสั่งประหารชีวิตขุนนางชาวสก็อตหลายคนของลองแชงค์ เขาต้องทนทุกข์ทรมานจิตใจจากการเสียชีวิตของพ่อและน้องชายของเขาในการต่อสู้กับอังกฤษ แล้วเขาก็ถูกนำตัวร่วมเดินทางแสวงบุญไปทั่วยุโรปกับอาร์ไกล์ ลุงของเขาผู้ซึ่งคอยให้การศึกษาแก่วอลเลซ
หลายปีต่อ มาลองแชงค์ได้มอบที่ดินและสิทธิพิเศษแก่ขุนนางในสกอตแลนด์ รวมถึงius primae noctis (เป็นภาษาละติน แปลว่า"สิทธิ์ในคืนแรก" หมายถึงสิทธิ์ทางกฎหมายของเจ้าผู้ปกครอง ที่จะมีความสัมพันธ์กับไพร่หญิงภายใต้การปกครอง ในคืนก่อนวันที่เธอจะแต่งงาน) ในขณะเดียวกัน วอลเลซที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้กลับมาที่สกอตแลนด์อีกครั้ง เขาจุดประกายความรักกับเมอร์รอน แม็คแคลนนอฟ คนรักในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง และทั้งสองได้แต่งงานกันอย่างลับๆ วอลเลซช่วยเมอร์รอนจากการถูกทหารอังกฤษข่มขืน แต่เมื่อวอลเลซต่อสู้กับทหาร เมอร์รอนก็ถูกจับและประหารชีวิตต่อสาธารณะ ในการแก้แค้น วอลเลซนำกลุ่มของเขาไปต่อสู้กับกองทหารอังกฤษในหมู่บ้านเกิดของเขา และส่งกองทหารที่รอดชีวิตกลับไปอังกฤษพร้อมข้อความกบฏต่อลองแชงค์
ลองแชงค์สั่งให้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรสของเขาหยุดวอลเลซให้ได้ด้วยวิธีใดก็ตามเท่าที่จำเป็น ในขณะที่เขาไปเยี่ยมกษัตริย์ฝรั่งเศสเพื่อรักษาสัมพันธไมตรีระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส วอลเลซก่อกบฏต่ออังกฤษโดยร่วมมือกับฮามิชเพื่อนของเขา และในขณะที่ตำนานของเขาแพร่สะพัดออกไป ชาวสก็อตหลายร้อยคนจากกลุ่มต่างๆโดยรอบก็ทยอยมาเพื่อเข้าร่วมมือกับเขา วอลเลซนำกองทัพของเขาต่อสู้จนได้รับชัยชนะที่สมรภูมิสะพานสเตอร์ลิงซึ่งเขาได้ประหารชีวิตผู้บัญชาการชาวอังกฤษเชลแธม และไล่ยอร์กหลังจากที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดล้มเหลวในการส่งกองกำลังเสริมไปที่นั่น วอลเลซสังหารหลานชายของลองแชงค์และตัดศีรษะของเขาส่งไปให้กษัตริย์ด้วย วอลเลซได้ไปขอความช่วยเหลือกองกำลังหนุนจากโรเบิร์ตเดอะบรูซ บุตรชายของขุนนางอาวุโสผู้หมายสิทธิ์ชิงมงกุฎแห่งสกอตแลนด์ แต่โรเบิร์ตกลับถูกครอบงำโดยพ่อที่เป็นโรคเรื้อนของเขา ผู้ซึ่งปรารถนาจะรักษาบัลลังก์แห่งสกอตแลนด์ให้กับลูกชายของตนด้วยการยอมจำนนต่ออังกฤษ ด้วยความกังวลถึงภัยคุกคามจากการก่อกบฏ ลองแชงค์จึงส่งอิซาเบลล่า ภรรยาของลูกชายไปเพื่อแสร้งขอเจรจากับวอลเลซ เบี่ยงเบนความสนใจในการยกพลขึ้นบกของกองกำลังรุกรานอื่นในสกอตแลนด์
หลังจากที่พบหน้าและพูดคุยทำความรู้จักกัน อิซาเบลล่าก็เกิดหลงรักวอลเลซ เธอเตือนเขาถึงการรุกรานที่กำลังจะเกิดขึ้น และวอลเลซก็ได้วิงวอนขุนนางชาวสก็อตให้ดำเนินการเตรียมพร้อมทันทีเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามและนำประเทศของพวกเขากลับคืนสู่อิสรภาพ โดยขอให้โรเบิร์ตเดอะบรูซเป็นผู้นำ ลองแชงส์นำกองทัพอังกฤษจำนวนมากมาและเผชิญหน้ากับกองทัพชาวสก็อตที่ฟัลเคิร์ก ในระหว่างการสู้รบ ขุนนางชาวสก็อต มอร์เนย์และลอชแลน ซึ่งถูกลองแชงค์ติดสินบน ได้ถอนกำลังคนออกไป ส่งผลให้กองทัพของวอลเลซพ่ายแพ้และแคมป์เบลล์ พ่อของฮามิชก็เสียชีวิต วอลเลซถูกหักหลังอีกเมื่อเขาค้นพบว่าโรเบิร์ตเดอะบรูซกำลังต่อสู้เคียงข้างลองแชงค์ หลังการสู้รบ เมื่อเห็นความเสียหายที่เขาได้ช่วยคนอื่นทำร้ายเพื่อนร่วมชาติของตน โรเบิร์ตจึงตำหนิพ่อของเขาและสาบานว่าจะไม่อยู่ฝ่ายผิดอีกต่อไป
วอลเลซสังหารลอชแลนและมอร์เนย์ เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ทรยศ และทำสงครามแบบกองโจรกับอังกฤษ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก อิซาเบลล่า ซึ่งในที่สุดเขาก็มีความสัมพันธ์สวาทกับเธอด้วย โรเบิร์ตนัดพบกับวอลเลซในเอดินเบอะระ แต่พ่อของโรเบิร์ตสมคบคิดกับขุนนางคนอื่นๆ เพื่อจับกุมตัวและมอบวอลเลซให้กับชาวอังกฤษ เมื่อทราบถึงแผนการทรยศของพ่อตัวเอง โรเบิร์ตจึงปฏิเสธที่จะเชื่อฟังพ่ออีกต่อไปและเนรเทศเขาไปเสีย อิซาเบลล่าต้องการแก้แค้นลองแชงค์ที่กำลังป่วยหนักระยะสุดท้ายซึ่งไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป จึงกระซิบบอกเขาว่าสายเลือดของเขาจะถูกทำลายเมื่อเขาเสียชีวิตและในขณะนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของวอลเลซ เธอจะดูแลให้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดครองบัลลังก์เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่ลูกของวอลเลซจะเข้ามาสืบทอดบัลลังก์แทนที่เขา
ในลอนดอน วอลเลซถูกนำตัวมายังลานประหารชีวิตในที่สาธารณะต่อหน้าผู้พิพากษาชาวอังกฤษ ในข้อหาพยายามก่อกบฏ เขาถูกประณามด่าว่าจากฝูงชน เขาถูกทรมานร่างกายและจะต้องถูกตัดศีรษะในที่สุด แต่ในขณะที่เขากำลังถูกควักเอาเครื่องในออกซึ่งเสมือนตายทั้งเป็น วอลเลซก็ปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อกษัตริย์ ฝูงชนที่เฝ้าดูต่างรู้สึกสะเทือนใจอย่างลึกซึ้งกับความกล้าหาญของชาวสกอต เริ่มร้องขอความเมตตาในนามของวอลเลซ ผู้พิพากษาเสนอโอกาสครั้งสุดท้ายให้แก่เขา โดยขอให้เขาพูดเพียงคำว่า "เมตตา" เท่านั้น แล้วจะได้รับการประหารชีวิตอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานมาก แต่วอลเลซกลับตะโกนว่า "อิสรภาพพพพ!" และเสียงร้องของเขาก็ดังก้องไปทั่วจัตุรัส ลองแชงค์ที่กำลังจะตายได้ยินมันในลมหายใจสุดท้ายของเขา ก่อนที่จะถูกตัดศีรษะ วอลเลซเห็นภาพของเมอร์รอนอยู่ในฝูงชนกำลังเดินมาและยิ้มให้กับเขา
ในปี 1314 โรเบิร์ต ซึ่งปัจจุบันเป็นกษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ เป็นผู้นำกองทัพสก็อตเผชิญหน้ากับกองทหารอังกฤษในพิธีการบนทุ่งแบนน็อคเบิร์นซึ่งเขาควรจะยอมรับการปกครองของอังกฤษอย่างเป็นทางการ แต่เขากลับเรียกความทรงจำของวอลเลซ โดยขอร้องให้คนของเขาร่วมต่อสู้กับเขาเหมือนที่พวกเขาเคยร่วมกับวอลเลซ ฮามิชขว้างดาบของวอลเลซออกไปไกลจนไปปักลงที่พื้นต่อหน้ากองทัพอังกฤษ แล้วเขากับชาวสก็อตต่างก็ตะโกนร้องเรียกชื่อของวอลเลซขณะที่โรเบิร์ตนำพวกเขาเข้าต่อสู้กับกองทัพอังกฤษ และชาวสก็อตก็ได้รับอิสรภาพในที่สุด
๐ เมล กิ๊บสัน รับบทเป็น วิลเลียม วอลเลซ
๐ โซฟี มาร์โซ รับบทเป็น เจ้าหญิงอิซาเบลล่าแห่งฝรั่งเศส
๐ แองกัส แมคฟาเดียน รับบทเป็น โรเบิร์ต เดอะ บรูซ
๐ แพทริค แมคกูฮาน รับบทเป็น กษัตริย์เอ็ดเวิร์ด "ลองแชงค์"
๐ แคทเธอรีน แมคคอร์แมค รับบทเป็น เมอร์รอน แมคแคลนนอฟ
๐ เบรนดัน กลีสัน รับบทเป็น ฮามิช
๐ ปีเตอร์ ฮันลี รับบทเป็น เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
๐ เจมส์ คอสโม รับบทเป็น แคมป์เบลล์
๐ เดวิด โอฮารา รับบทเป็น สตีเฟนแห่งไอร์แลนด์
๐ เอียน แบนเนน รับบทเป็น พ่อของบรูซ
William & Murron Love Theme | Braveheart
James Horner - For the Love of a Princess
Braveheart - Wallace's execution
✨️🎬📢 (หนังดีน่าดู) วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ Braveheart (1995) 📢🎬✨️
รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม
รางวัลออสการ์ สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม
รางวัลลูกโลกทองคำ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
เรื่องย่อ :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
๐ โซฟี มาร์โซ รับบทเป็น เจ้าหญิงอิซาเบลล่าแห่งฝรั่งเศส
๐ แองกัส แมคฟาเดียน รับบทเป็น โรเบิร์ต เดอะ บรูซ
๐ แพทริค แมคกูฮาน รับบทเป็น กษัตริย์เอ็ดเวิร์ด "ลองแชงค์"
๐ แคทเธอรีน แมคคอร์แมค รับบทเป็น เมอร์รอน แมคแคลนนอฟ
๐ เบรนดัน กลีสัน รับบทเป็น ฮามิช
๐ ปีเตอร์ ฮันลี รับบทเป็น เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
๐ เจมส์ คอสโม รับบทเป็น แคมป์เบลล์
๐ เดวิด โอฮารา รับบทเป็น สตีเฟนแห่งไอร์แลนด์
๐ เอียน แบนเนน รับบทเป็น พ่อของบรูซ