การได้ดูหนังถือเป็นหนึ่งในสิ่งดี ที่ได้เกิดมาบนโลก ขณะที่บ่อยครั้งผมอดที่จะคิดไม่ได้ว่า มนุษย์เราไม่เกิดมาซะดีกว่า ต้องยอมรับว่าคนเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัญหามากกว่าความบันเทิง การได้ดูหนังถือเป็นความสุข ยิ่งได้ดูหนังที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าในชีวิตและจิตวิญญาณความเป็นคน ถือเป็นที่สุดแห่งความสุขทางจิตวิญญาณ มีหนังอยู่หลายเรื่องที่ผมรู้สึกโชคดีที่ยังไม่ตาย ก่อนที่จะได้ดู Departures คือหนึ่งในนั้น เป็นเรื่องราวการผูกสัมพันธ์ ระหว่างพระเอกที่ตกงานจากอาชีพนักดนตรี กับหลายบุคคลที่มีส่วนสำคัญในชีวิต ทั้งภรรยา พ่อที่ทิ้งเขาไปตั้งแต่เยาว์ บุคคลรอบตัวกับอาชีพที่คนรังเกียจ ญี่ปุ่นจะมีอาชีพที่รับงานต่อจากสัปเหร่ออีกที ซึ่งคนเขามองเหมือนเป็นงานชั้นต่ำ ขนาดสัปเหร่อยังไม่อยากทำเอง เป็นงานที่ต้องส่งร่างผู้จากไปอีกภพหนึ่ง ต้องทำความสะอาดแต่งตัวทำพิธีกรรมไปจนถึงนำไปฝากเผา เรียกได้ว่าควรค่ากับความน่ารังเกียจ ขนาดภรรยาที่ตั้งท้องยังต้องหนีไปเพราะรับไม่ได้กับงานที่พระเอกทำ แรกเริ่มแค่ต้องการหารายได้ มาถึงจุดที่มองเห็นถึงคุณค่าของการทำหน้าที่นี้ คุณค่ามันควรเป็นสิ่งที่เรามองเห็น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คนอื่นมอง คนเราหากได้ทำในสิ่งที่เขาเองมองเห็นได้ถึงคุณค่า มันก็น่าจะพอ หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเราสามารถสรรค์สร้างสิ่งสวยงาม ท่ามกลางความมืดมัวได้ ความมีเกียรติของคนบางทีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการได้ทำอาชีพที่มีหน้ามีตา แต่ขึ้นอยู่กับการมีจรรยา มีความศรัทธาในอาชีพขนาดไหน คนที่ไม่รู้จักมองเห็นคุณค่าของใคร เขาก็จะไม่มองเห็นคุณค่าของเรา อย่างไรก็ไม่เท่าการเคารพตนเอง ไม่รู้สึกอายที่มองเห็นหน้าตัวเองในกระจก ดูหนังเรื่องนี้จบ รู้สึกได้ว่าอาชีพทุกอาชีพมันจะมีคุณค่าในตัวของมันเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีความรักกับสิ่งที่เราทำแค่ไหน แม้กระทั่งสิ่งที่น่ารังเกียจยังสามารถแปรเปลี่ยนให้ออกมาได้งดงาม สิ่งที่งดงามที่สุดในโลกนี้ อาศัยอยู่ที่หัวใจคน
[CR] รีวิว DEPARTURES ต้นแบบหนัง สัปเหร่อ
การได้ดูหนังถือเป็นหนึ่งในสิ่งดี ที่ได้เกิดมาบนโลก ขณะที่บ่อยครั้งผมอดที่จะคิดไม่ได้ว่า มนุษย์เราไม่เกิดมาซะดีกว่า ต้องยอมรับว่าคนเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับปัญหามากกว่าความบันเทิง การได้ดูหนังถือเป็นความสุข ยิ่งได้ดูหนังที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าในชีวิตและจิตวิญญาณความเป็นคน ถือเป็นที่สุดแห่งความสุขทางจิตวิญญาณ มีหนังอยู่หลายเรื่องที่ผมรู้สึกโชคดีที่ยังไม่ตาย ก่อนที่จะได้ดู Departures คือหนึ่งในนั้น เป็นเรื่องราวการผูกสัมพันธ์ ระหว่างพระเอกที่ตกงานจากอาชีพนักดนตรี กับหลายบุคคลที่มีส่วนสำคัญในชีวิต ทั้งภรรยา พ่อที่ทิ้งเขาไปตั้งแต่เยาว์ บุคคลรอบตัวกับอาชีพที่คนรังเกียจ ญี่ปุ่นจะมีอาชีพที่รับงานต่อจากสัปเหร่ออีกที ซึ่งคนเขามองเหมือนเป็นงานชั้นต่ำ ขนาดสัปเหร่อยังไม่อยากทำเอง เป็นงานที่ต้องส่งร่างผู้จากไปอีกภพหนึ่ง ต้องทำความสะอาดแต่งตัวทำพิธีกรรมไปจนถึงนำไปฝากเผา เรียกได้ว่าควรค่ากับความน่ารังเกียจ ขนาดภรรยาที่ตั้งท้องยังต้องหนีไปเพราะรับไม่ได้กับงานที่พระเอกทำ แรกเริ่มแค่ต้องการหารายได้ มาถึงจุดที่มองเห็นถึงคุณค่าของการทำหน้าที่นี้ คุณค่ามันควรเป็นสิ่งที่เรามองเห็น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คนอื่นมอง คนเราหากได้ทำในสิ่งที่เขาเองมองเห็นได้ถึงคุณค่า มันก็น่าจะพอ หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเราสามารถสรรค์สร้างสิ่งสวยงาม ท่ามกลางความมืดมัวได้ ความมีเกียรติของคนบางทีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการได้ทำอาชีพที่มีหน้ามีตา แต่ขึ้นอยู่กับการมีจรรยา มีความศรัทธาในอาชีพขนาดไหน คนที่ไม่รู้จักมองเห็นคุณค่าของใคร เขาก็จะไม่มองเห็นคุณค่าของเรา อย่างไรก็ไม่เท่าการเคารพตนเอง ไม่รู้สึกอายที่มองเห็นหน้าตัวเองในกระจก ดูหนังเรื่องนี้จบ รู้สึกได้ว่าอาชีพทุกอาชีพมันจะมีคุณค่าในตัวของมันเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีความรักกับสิ่งที่เราทำแค่ไหน แม้กระทั่งสิ่งที่น่ารังเกียจยังสามารถแปรเปลี่ยนให้ออกมาได้งดงาม สิ่งที่งดงามที่สุดในโลกนี้ อาศัยอยู่ที่หัวใจคน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้