หลายๆ ท่าน ที่เริ่มมีสายตายาวตามอายุเข้ามา มีความจำเป็นจะต้องใส่แว่นสายตายาวเพื่อช่วยให้มองใกล้ชัดขึ้น แต่ด้วยการใช้ชีวิตประจำวัน หรืองานทำงาน จะต้องเลือกแว่นที่มองได้ทั้งระยะไกล และใกล้ได้ในแว่นเดียว เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานที่สุด โดยแว่นที่ตอบโจทย์ที่สุดในยุคปัจจุบันนี้ และได้รับความนิยมที่สุดสำหรับคนที่มีสายตายาว จะเป็นแว่นโปรเกรสซีฟค่ะ
ด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ เป็นเลนส์ที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ ได้ทุกระยะ ในเลนส์เพียงชิ้นเดียว ในเลนส์จึงมีค่าสายตาหลายค่าอยู่ในนั้น และเลนส์มีราคาที่สูง ดังนั้นต้องเลือกร้านแว่นที่ชำนาญเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้แว่นโปรเกรสซีฟได้ ใส่ใช้งานง่าย สบายตา ภาพคมชัด ใช้งานได้จริง ไม่เสียเงินฟรีค่ะ
5 ขั้นตอน วิธีเลือกร้านตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟอย่างไร? ไม่ให้เสียเงินฟรี
1. เลือกร้านแว่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างดี
โดยร้านแว่นต้องเข้าใจ และรู้ข้อมูลโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างดีค่ะ เพื่อจะได้แนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟให้กับลูกค้าได้อย่างเข้าใจ และเหมาะสม ว่าลูกค้าท่านไหนเหมาะและไม่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟบ้าง ยิ่งถ้ามีคุณหมอสายตาหรือนักทัศนมาตร คอยดูแลตลอดการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ จะยิ่งดีเลยค่ะ
2. เลือกร้านแว่นที่มีเครื่องมือทันสมัยและครบครัน
เนื่องจากการตัดแว่นโปรเกรสซีฟต้องใช้ความเชี่ยวชาญแล้ว ยังต้องใช้ความแม่นยำ ในการวัดสายตา การตั้งโฟกัสและการวัดค่าพารามิเตอร์กรอบแว่นให้ออกมาอย่างแม่นยำที่สุดด้วย ถ้ามีเครื่องมือที่ทันสมัยจะช่วยให้การวัดค่าต่างๆ แม่นยำเพิ่มขึ้น
3. เลือกร้านที่มีเลนส์โปรเกรสซีฟให้ทดลอง
เลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟ สามารถบอกได้ว่า เราสามารถใส่เลนส์โปรเกรสซีฟได้จริงๆ ไหม? แล้วเลนส์รุ่นไหน ยี่ห้อไหน ใส่แล้วเหมาะกับเรามากที่สุด จะสามารถบอกได้ ถ้าได้ทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟค่ะ ยิ่งที่ร้านแว่นนั้น มีเลนส์โปรเกรสซีฟให้ทดลองทุกรุ่น ทุกยี่ห้อได้ยิ่งดีเลยค่ะ ลูกค้าจะได้เลนส์ที่เหมาะสม ใส่แล้วภาพคมชัด ใช้งานง่าย สบายตาที่สุด
4. เลือกร้านที่มีกรอบแว่นให้เลือกที่หลากหลาย
เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟ กรอบแว่นก็มีผลในการใส่ใช้งานให้สบายตาด้วยเช่นกัน ถ้าร้านนั้นมีกรอบให้เลือกที่หลากหลาย และเป็นกรอบที่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ เราจะได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่ใส่แล้วสบายตา ใช้งานง่ายขึ้น คุณหมอสายตาหรือนักทัศนมารจะเป็นผู้ประเมินกรอบให้กับเรา
5. เลือกร้านแว่นที่มีบริการหลังการขาย
เมื่อลูกค้าใส่แว่นแล้วพบเจอปัญหาหลังจากที่ได้รับแว่นไป ที่ร้านควรมีรับประกันให้กับลูกค้าที่มาตัดแว่น เพื่อที่จะได้ดูแลและแก้ไข ให้ลูกค้าใส่ใช้งานแว่นคู่นั้นได้ หรือถ้าแว่นคู่นั้นชำรุดเสียหาย ทางร้านควรจะมีบริกการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าด้วย เนื่องจากแว่นโปรเกรสซีฟมีราคาสูงจึงต้องดูแลแว่นเป็นอย่างดีค่ะ
ถ้าเลือกร้านตัดแว่นโปรเกรสซีฟตามลิสต์นี้ หมอเชื่อเลยค่ะ ว่าลูกค้าจะได้แว่นโปรเกรสซีฟที่ใส้ใช้งานได้จริงๆ ใช้งานได้สบายตา เหมาะกับลูกค้าที่สุด และไม่เสียเงินฟรีค่ะ
ตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ไหนดี? เลือกร้านแว่นอย่างไร ไม่ให้เสียเงินฟรี
ด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ เป็นเลนส์ที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ ได้ทุกระยะ ในเลนส์เพียงชิ้นเดียว ในเลนส์จึงมีค่าสายตาหลายค่าอยู่ในนั้น และเลนส์มีราคาที่สูง ดังนั้นต้องเลือกร้านแว่นที่ชำนาญเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้แว่นโปรเกรสซีฟได้ ใส่ใช้งานง่าย สบายตา ภาพคมชัด ใช้งานได้จริง ไม่เสียเงินฟรีค่ะ
5 ขั้นตอน วิธีเลือกร้านตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟอย่างไร? ไม่ให้เสียเงินฟรี
1. เลือกร้านแว่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างดี
โดยร้านแว่นต้องเข้าใจ และรู้ข้อมูลโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นอย่างดีค่ะ เพื่อจะได้แนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟให้กับลูกค้าได้อย่างเข้าใจ และเหมาะสม ว่าลูกค้าท่านไหนเหมาะและไม่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟบ้าง ยิ่งถ้ามีคุณหมอสายตาหรือนักทัศนมาตร คอยดูแลตลอดการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ จะยิ่งดีเลยค่ะ
2. เลือกร้านแว่นที่มีเครื่องมือทันสมัยและครบครัน
เนื่องจากการตัดแว่นโปรเกรสซีฟต้องใช้ความเชี่ยวชาญแล้ว ยังต้องใช้ความแม่นยำ ในการวัดสายตา การตั้งโฟกัสและการวัดค่าพารามิเตอร์กรอบแว่นให้ออกมาอย่างแม่นยำที่สุดด้วย ถ้ามีเครื่องมือที่ทันสมัยจะช่วยให้การวัดค่าต่างๆ แม่นยำเพิ่มขึ้น
3. เลือกร้านที่มีเลนส์โปรเกรสซีฟให้ทดลอง
เลนส์ทดลองโปรเกรสซีฟ สามารถบอกได้ว่า เราสามารถใส่เลนส์โปรเกรสซีฟได้จริงๆ ไหม? แล้วเลนส์รุ่นไหน ยี่ห้อไหน ใส่แล้วเหมาะกับเรามากที่สุด จะสามารถบอกได้ ถ้าได้ทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟค่ะ ยิ่งที่ร้านแว่นนั้น มีเลนส์โปรเกรสซีฟให้ทดลองทุกรุ่น ทุกยี่ห้อได้ยิ่งดีเลยค่ะ ลูกค้าจะได้เลนส์ที่เหมาะสม ใส่แล้วภาพคมชัด ใช้งานง่าย สบายตาที่สุด
4. เลือกร้านที่มีกรอบแว่นให้เลือกที่หลากหลาย
เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟ กรอบแว่นก็มีผลในการใส่ใช้งานให้สบายตาด้วยเช่นกัน ถ้าร้านนั้นมีกรอบให้เลือกที่หลากหลาย และเป็นกรอบที่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ เราจะได้เลนส์โปรเกรสซีฟที่ใส่แล้วสบายตา ใช้งานง่ายขึ้น คุณหมอสายตาหรือนักทัศนมารจะเป็นผู้ประเมินกรอบให้กับเรา
5. เลือกร้านแว่นที่มีบริการหลังการขาย
เมื่อลูกค้าใส่แว่นแล้วพบเจอปัญหาหลังจากที่ได้รับแว่นไป ที่ร้านควรมีรับประกันให้กับลูกค้าที่มาตัดแว่น เพื่อที่จะได้ดูแลและแก้ไข ให้ลูกค้าใส่ใช้งานแว่นคู่นั้นได้ หรือถ้าแว่นคู่นั้นชำรุดเสียหาย ทางร้านควรจะมีบริกการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าด้วย เนื่องจากแว่นโปรเกรสซีฟมีราคาสูงจึงต้องดูแลแว่นเป็นอย่างดีค่ะ
ถ้าเลือกร้านตัดแว่นโปรเกรสซีฟตามลิสต์นี้ หมอเชื่อเลยค่ะ ว่าลูกค้าจะได้แว่นโปรเกรสซีฟที่ใส้ใช้งานได้จริงๆ ใช้งานได้สบายตา เหมาะกับลูกค้าที่สุด และไม่เสียเงินฟรีค่ะ