ด้วยความที่ชอบเล่นของจำพวกกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ แต่ก็ไม่เก่งสักอย่าง และก็ไม่มีเงินซื้อหลายๆอย่างด้วย จึงไปอาศัยสินค้าตัวโชว์ของร้าน Big Camera หรือ ขอยืมช่างภาพ ตากล้องคนอื่นๆมาลองเล่น แน่นอนว่าตอนนี้สำหรับสาย Vlog คงไม่มีอะไรน่าสนใจกว่าเจ้ากล้องตัวเล็กสเป็คแรงๆอย่าง DJI OSMO POCKET 3  อีกแล้ว ด้วยคุณสมบัติมากมายที่ทำมาให้แบบเหลือกินเหลือใช้ ประกอบกับราคาตัว Single 17,900 บาท และ ตัวเซ็ท COMBO 21,900 บาท ที่สำหรับหลายคนอาจะจิ๊บๆ แต่ส่วนตัวผมต้องถึงขั้นต้องใช้พลังควบคุมกิเลสไม่ให้เอาชนะเหตุผลได้ขั้นสูงสุด และด้วยปัจจัยบังคับกับความอยากลองก็เลยไปที่ร้าน Big Camera ที่สาขาเซ็นทรัลเชียงราย ไปขอลองเล่นหน่อย เพราะเห็นว่ามีตัวโชว์อยู่ ความรู้สึกแรกที่ได้พบคือ ทำไมมันใหญ่จัง ใหญ่และยาวมากด้วย หากต่อกับแบตเตอรี่เสริมและขาตั้ง
     แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งเชื่อตามผม ที่บอกว่าใหญ่นั้น เพราะผมเคยใช้ตัว DJI OSMO POCKET 1 มาก่อน ( ในรูปเป็นตัว 2 ครับ )และได้ลองหยิบจับตัว DJI OSMO POCKET 2 มาแล้วด้วย ทำให้เห็นว่ามันใหญ๋ขึ้นไม่น้อยเลย แต่เหตุผลที่ใหญ่ก็ยอมรับได้ เพราะจากขนาดของเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นมาถึง 1 นิ้ว ก็ต้องทำให้อะไรๆใหญ่ตามขึ้นไปด้วย  แต่ๆๆๆๆ เมื่อลองมาเปรียบเทียบกันกับไม้กันสั่นจากค่ายเดียวกัน อย่าง DJI OSMO MOBIL 5 ในส่วนของด้ามจับกับขนาดของ DJI OSMO POCKET 3 มีขนาดใกล้เคียงกันเลย เอาละสิ มีเรื่องต้องคิดอีกแล้ว หากใครมีไม้กันสั่นกับมือถือดีๆอยู่แล้ว มีเรื่องต้องคิดเปรียบเทียบแน่นอน เพราะผมเองก็มี DJI OSMO MOBIL 5 ที่ใช้ร่วมกับมือถือ SAMSUNG S 22 ULTRA ที่แทบจะตอบโจทย์ในทุกๆเรื่อง ทั้งเลนส์มุมกว้างพิเศษ มุมกว้างธรรมดา และเลนส์ซูม ถ่ายมาแล้วตัดต่อในตัว แล้วอัปโหลดเลย รวมทั้งการไลฟ์สดต่างๆก็ทำได้ และอื่นๆอีกมากมาย 
     แล้วกันสั่นเจ๋งแค่ไหน ต้องบอกว่าสุดยอดมาก สุดจริงๆ เปรียบเทียบกับพวก Action Cam จากค่าย DJI และ Gopro ได้ไหม ตอบแบบฟันธงเลยครับได้แน่นอน แต่เดี๋ยวก่อน กันสั่นของ DJI OSMO POCKET 3 เป็นแบบ Gimbal 3 แกนนะ มันทำงานไม่เหมือนกันกับพวก Action Cam ที่ใช้กันสั่นแบบดิจิตอล เจ้า POCKET 3 มันต้องมีการเคลื่อนไหวได้ จะเอาไปติดหมวกแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ จักรยานอันนั้นทำได้แต่ไม่น่าเหมาะ หรือแม้แต่จะติดกับสายสะพายเป้ด้านหน้าก็ยังคิดว่าไม่เหมาะ เพราะระบบกันสั่นจะต้องทำงานแบบเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
     เรื่องของราคา ต้องบอกเลยว่าเท่าที่ผมพอรู้คือตอนนี้เจ้าตัวนี้อยู่ระดับบนสุดของห่วงโซ่กิเลสผมละ และด้วยราคาขนาดนี้ทำให้แอบคิดว่าเรามีทางเลือกอื่นอีกไหมที่จะได้สิ่งที่ใกล้เคียงกัน ก็แอบไปหยิบเจ้า DJI osmo action 3 กับ 4 และ Gopro 12 มานั่งเปรียบเทียบอยู่พักใหญ่ ในหัวมีความคิดประมาณว่า จัด DJI OSMO ACTION 3 ตัวธรรมดา ราคาประมาณ 12,500 มาใช้ แล้วเอาเงินที่เหลือไปเที่ยวดีไหม 555 ผมว่าต้องมีคนคิดเหมือนกันแน่นอน 
     มาถึงตรงนี้คงมีคนถามในใจว่า แล้วข้อดีอื่นๆของเจ้า 3 นี่ล่ะ มีอะไรเด่นๆบ้าง โห สุดจะบรรยาย เอาเท่าที่พอจำได้นะครับ จอใหญ่ขึ้นมาก หมุนได้อีกต่างหาก แค่ปรับเป็นแนวนอนก็จะได้วีดีโอแบบ 16:9 ที่เหมาะกับการลงยูทูปมาก พอหมุนกลับมาแนวตั้งก็จะได้วีดีโอแนวตั้งที่เหมาะกับการลง Tiktok หรือวีดีโอสั้นอย่าง Real หรือ Short ทันที โดยไม่ต้องไปเซ็ทค่าอะไรเลย แต่เดี๋ยวก่อน วีดีโอแนวตั้งที่ได้จากวิธีนี้ เป็นวีดีโอที่ได้จากการครอปของวีดีโอแบบแนวนอนมานะครับ พูดง่ายๆคือมันก็ถ่ายแนวนอนเหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะกล้องมันอยู่แบบเดิม ไม่ได้หมุนหัวเป็นแนวตั้งให้ การที่จะได้วีดีโอแนวตั้งคือการตัดเอาภาพด้านขวาและซ้ายออกไปให้เหลือเพียงภาพตรงกลาง เพราะฉนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าถ่ายได้แค่ความละเอียดระดับ 2.7K แต่เดี๋ยวก่อนอีกครั้ง มันไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับคนที่ต้องการถ่ายแบบ 4K เพราะคุณสามารถจะหมุนข้อมือตัวเองให้กล้องขนานไปกับพื้น ให้ตัวกล้องอยู่ในแนวนอน ก็จะถ่ายวีดีโอ 4k แนวตั้งได้เช่นกันครับ นอกเหนือจากนี้อยากให้ลองไปสัมผัสตัวจริงที่ร้าน หรืออ่านในเวปไซด์ เพื่อดูสเปคชัดๆกันดีกว่าครับ

     สุดท้ายนี้ ผมอยากสรุปถึงเจ้า DJI OSMO POCKET 3 ในความคิดเห็นของผมเท่านั้นว่า

ข้อดี  
1. กันสั่นดีมาก
2. ขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้จับได้กระชับมือมากขึ้น
3. แบตเตอรี่มีให้ใช้ถึง 2 ส่วน หากคุณซื้อชุด Combo
4. เซนเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้ว 
5. มีฟีเจอร์ที่ให้มาแบบเพียบพร้อม ทั้ง 10 bit - Dlog - HLG - HDR - 4K/60  และยังมีซอฟแวร์ที่ช่วยทำให้ภาพและวีดีโอของคุณสวยขึ้น
6. ภาพมุมกว้าง เทียบได้กับเลนส์ 20 mm. ในกล้องฟูลเฟรม และยังใช้เลนส์เสริมที่มากับชุด Combo ก็จะให้ภาพมุมกว้างถึง 108 องศา
7. รูรับแสงกว้าง F2
8. ระยะโฟกัสใกล้ถึง 20 CM
9. มีดิจิตอลซูม
10. ถึงจะดูเหมือนใหญ่ แต่น้ำหนักเบาแค่ 179 กรัมเท่านั้น เวลาที่เราต้องใช้จะเลือกถอดแบตเสริมออก แล้วใช้แบตเตอรี่ในตัวแทน ก็จะมีขนาดที่เล็กลงมาก
11. ในชุดคอมโบ คุณจะได้รับไมโครโฟนไร้สายแบบไวเลสมาด้วย 1 ตัว ถือว่าแจ่มสุดๆ

ข้อสังเกตุ
1. ขนาดที่ดูค่อนข้างใหญ่ หากเทียบกับรุ่นพี่ 
2. ราคาที่ตั้งมานั้นคิดว่าสมเหตุสมผลอยู่ แต่ในราคานี้ก็มีตัวเลือกอื่นให้พิจารณาอยู่ไม่น้อย
3. ไม่กันน้ำ หากต้องการไปถ่ายที่มีน้ำหรือความชื้น ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมกันน้ำมาเพิ่ม
4. อุปกรณ์เสริมยังมีน้อย แน่ละ เขาเพิ่งขายนี่
5. ตัวกล้องเองยังหมุนถ่ายแนวนอนไม่ได้ แต่ถ้าใครไม่แคร์ เพราะฉันถ่ายแค่ FHD ก็มองข้ามมันไปซะ
6. คนที่ไม่เคยใช้ระบบกันสั่นแบบ Gimbal 3 แกนมาก่อน อาจหัวร้อนได้ง่ายๆ เพราะการคอนโทรลกล้องโดยใช้ช้อมือนั้นอาจไม่ได้อย่างใจในช่วงแรกๆ แต่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเขามีจอยสติ๊กให้ใช้ได้ครับ

     ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เกิดจากการไปลองจับเล่นที่ร้านประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ข้อมูลอาจไม่ถูกต้อง 100 เปอร์เซนต์ ก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ หากมีโอกาสไปจับใหม่จะเอาข้อมูลมาฝากอีกที