ปัจจุบันเราอยู่บ้านเดี่ยวแถวนนทบุรี-ปากเกร็ด โดยที่ทำงานเราอยู่มีนบุรี
ใน 3 ปี มานี้เราประสบปัญหาหมาเพื่อนบ้านเห่าเสียงดังรบกวนทั้งกลางวันและกลางคืน บางที 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ก็ยังเห่าอยู่
มันกระทบต่อสภาพจิตใจเรามาก เพราะโดยปกติเป็นคนนอนหลับยากอยู่แล้ว พอมาเจอเสียงหมาเห่าเค้าไปอีก ก็ยิ่งหลับยากเข้าไปใหญ่
พอตอนกลางวัน บางครั้งจะทำงาน หมาก็เห่าอีก เห่าจนไม่มีสมาธิจะทำงานเลย
พยายามปิดห้อง ปิดหน้าต่างทุกบาน ใช้ที่อุดหูมาใส่ ก็กันเสียงไม่ได้ เพราะบ้านที่เลี้ยงหมาอยู่ใกล้กับบ้านเราเลย
มีทั้งหมาของบ้านตรงข้าม และหมาข้างบ้าน โดยหมาทั้ง 2 หลัง เห่าเสียงดังรบกวนมาก
เราเคยแจ้งนิติไปหลายครั้งแล้ว ให้ช่วยพูดกับเจ้าของบ้านหมาทั้ง 2 หลัง ให้หน่อย ว่าให้ช่วยลดเสียงหมาเห่าหน่อย
แต่พอนิติพูดไปแล้ว เจ้าของบ้านหมาทั้ง 2 หลัง ก็ไม่ปรับปรุงอะไรทั้งนั้น เหมือนเค้าไม่สนใจอะไรเลย
เราก็เลยร้องขอคณะกรรมการหมู่บ้านให้ช่วยแก้ไขเรื่องนี้ให้หน่อย คณะกรรมการหมู่บ้านก็ได้เขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษร
แจ้งเจ้าของบ้านหมา แต่ผลปรากฏว่า เจ้าของบ้านหมาก็ไม่แก้ไขอะไรทั้งนั้น ปัญหายังคงเหมือนเดิม และเรื้อรังมาหลายปี
เราเหนื่อยมากที่ต้องมานั่งฟ้องร้องแล้วก็ไม่ได้รับการแก้ไขอะไรกลับมาเลย
ตอนนี้สภาพจิตใจเราแย่มาก บางครั้งเหมือนอยากจะตายๆ ให้มันจบไป
เราทำงานทุกวันก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว กลับบ้านมาก็อยากจะพักผ่อนบ้าง แต่กลับต้องมาเจอปัญหานี้ทุกวัน
เราเคยคิดว่าเราซื้อบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านกว่า ในหมู่บ้านที่เป็นแบรนด์เนมแล้ว สังคมเพื่อนบ้านน่าจะดี
บ้านน่าจะสงบสุข แต่เราน่าจะคิดผิด เราเสียใจและเครียดมากๆเลย
มันเหมือนกับว่า ยังไงก็แก้ไขที่เพื่อนบ้านไม่ได้ เราเลยคิดทางออกมาบางวิธี ขอรบกวนช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ
1. ทางออกที่ 1 ไปเช่าหอพักรายวันอยู่เป็นการชั่วคราว
อันนี้เราเคยเลยลองแล้ว โดยการไปเช่าหอแถวแยกแครายอยู่ ประมาณคืนละ 600 กว่าบาท ถามว่ามันเปลืองเงินไหม
ก็เปลือง เพราะมีบ้านอยู่แล้วแท้ๆ ต้องมานั่งเช่าหออยู่ แต่สภาพจิตใจก็ดีขึ้นเป็นการชั่วคราว แต่ก็ลำบากตรงที่มันเป็นห้องรายวัน
ของใช้อะไรของเราก็ต้องขนจากบ้านเราไป-มา และสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรต่างๆ ก็ไม่เหมือนอยู่บ้านเรา
2. ทางออกที่ 2 ไปเช่าคอนโดอยู่
อันนี้เรายังไม่ได้ลอง เนื่องจากการเช่าอยู่จะต้องเสียงเงินรายเดือนประมาณ 7,000 - 10,000 บาท และอาจจะต้องทําสัญญาเช่าต่อเนื่องเป็นระยะ
เวลา 6 เดือน หรือ 1 ปีอย่างต่ำ เราก็ไม่อยากเสียเงินแบบเปล่าๆ เป็นระยะเวลานานๆ แบบนั้น ทั้งๆที่มีบ้านอยู่แล้ว และอีกอย่าง
ไม่รู้ว่าเรากลัวไปเองรึป่าว คือ ก็กลัวว่าเสียเงินเช่าคอนโดไปแล้ว จะมีการรบกวนจากข้างห้อง หรือห้องใกล้เคียงรึป่าว เช่น เพื่อนข้างห้องเสียงดัง
หรือมีกลิ่นรบกวน อย่างการสูบบุหรี่ ถ้าหนีเสือปะจระเข้ แล้วยังต้องมาเสียเงินเพิ่มอีกก็เครียดตายเลย
ในกรณีนี้หากมีท่านไหนพอจะแนะนำที่พักที่เงียบสงบ และ ไม่มีการรบกวน ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยคะ
3. ทางออกที่ 3 หาซื้อคอนโดไปเลย
เป็นทางที่คิดว่า บ้านเดี่ยวเราก็เก็บไว้ โดยถ้าซื้อคอนโด ก็อาจจะต้องกู้เงินเพิ่มอีก อันนี้ก็ลำบากเหมือนกัน เพราะจะต้องทำงานใช้หนี้ไป
อีกยาว และจะต้องโดนดอกเบี้ยธนาคารกินจนไม่มีเงินเก็บไปอีกหลายปี แต่ข้อดีก็คือไม่ได้เป็นการเช่าเปล่า เงินที่เสียไปยังไงก็
เป็นเงินที่ซื้อห้องที่เป็นของเรา ถ้าทางเลือกนี้ ความกังวลเรื่องเพื่อนบ้านก็เหมือนข้อที่ 2 ก็คือกลัวหนีเสือปะจระเข้ แล้วถ้าไปเจอปัญหาใหม่อีกจริงๆ
ทีนี้ก็แย่เลย เพราะเสียเงินกู้ไปแล้ว เสียเงินก้อนไปแล้ว ต้องมาเจอปัญหาเรื่องเพื่อนบ้านอีกก็คงไม่ไหว
ท่านไหนพอจะแนะนำคอนโดที่เงียบสงบ และ ไม่มีการรบกวน ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
4. ทางออกที่ 4 มองหาบ้านเดี่ยวใหม่โดยประกาศขายบ้านเก่าไปด้วย
ถ้าเป็นทางนี้เราจะได้เงินก้อนจาก การขายบ้านเก่า อย่างน้อยก็ประมาณ 5 ล้าน ถ้ามองหาบ้านหลังใหม่ ที่ราคาไม่เกิน 6 ล้าน
อาจจะเป็นบ้านมือสอง หรือมือ 1 ก็ได้ ก็น่าจะพอสู้ไหว แต่อันนี้ก็คงต้องเป็นแผนระยะยาว เพราะว่าบ้านไม่ได้ซื้อขายกันใน เดือน 2 เดือน อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี หรือมากกว่านั้น ความกังวลเรื่องเพื่อนบ้านก็ยังคงมี กลัวหนีเสือปะจระเข้ ถ้าเจอปัญหาเดิมหรือปัญหาใหม่อีก ก็คงเครียดมาก
และคงถึงขนาดไม่มีกำลังใจจะใช้ชีวิตต่อเลย เพราะไม่สามารถที่จะหาบ้านที่สงบสุขได้
อันนี้ถ้าท่านไหนพอจะแนะนำบ้าน ทั้งมือ 1 หรือมือ 2 ที่เงียบสงบ ไม่มีการรบกวน ไม่การตั้งวงกินเหล้า ไม่มีการจดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น
เพื่อนบ้านเป็นมิตร ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
หากทุกท่านมีคำแนะนำอย่างไร สามารถให้คำแนะนำเราได้นะคะ
เรายินดีรับฟังทุกความเห็น
ถ้าเราผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอปรึกษาเรื่องหาที่อยู่ที่เงียบสงบหน่อยค่ะ
ใน 3 ปี มานี้เราประสบปัญหาหมาเพื่อนบ้านเห่าเสียงดังรบกวนทั้งกลางวันและกลางคืน บางที 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ก็ยังเห่าอยู่
มันกระทบต่อสภาพจิตใจเรามาก เพราะโดยปกติเป็นคนนอนหลับยากอยู่แล้ว พอมาเจอเสียงหมาเห่าเค้าไปอีก ก็ยิ่งหลับยากเข้าไปใหญ่
พอตอนกลางวัน บางครั้งจะทำงาน หมาก็เห่าอีก เห่าจนไม่มีสมาธิจะทำงานเลย
พยายามปิดห้อง ปิดหน้าต่างทุกบาน ใช้ที่อุดหูมาใส่ ก็กันเสียงไม่ได้ เพราะบ้านที่เลี้ยงหมาอยู่ใกล้กับบ้านเราเลย
มีทั้งหมาของบ้านตรงข้าม และหมาข้างบ้าน โดยหมาทั้ง 2 หลัง เห่าเสียงดังรบกวนมาก
เราเคยแจ้งนิติไปหลายครั้งแล้ว ให้ช่วยพูดกับเจ้าของบ้านหมาทั้ง 2 หลัง ให้หน่อย ว่าให้ช่วยลดเสียงหมาเห่าหน่อย
แต่พอนิติพูดไปแล้ว เจ้าของบ้านหมาทั้ง 2 หลัง ก็ไม่ปรับปรุงอะไรทั้งนั้น เหมือนเค้าไม่สนใจอะไรเลย
เราก็เลยร้องขอคณะกรรมการหมู่บ้านให้ช่วยแก้ไขเรื่องนี้ให้หน่อย คณะกรรมการหมู่บ้านก็ได้เขียนจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษร
แจ้งเจ้าของบ้านหมา แต่ผลปรากฏว่า เจ้าของบ้านหมาก็ไม่แก้ไขอะไรทั้งนั้น ปัญหายังคงเหมือนเดิม และเรื้อรังมาหลายปี
เราเหนื่อยมากที่ต้องมานั่งฟ้องร้องแล้วก็ไม่ได้รับการแก้ไขอะไรกลับมาเลย
ตอนนี้สภาพจิตใจเราแย่มาก บางครั้งเหมือนอยากจะตายๆ ให้มันจบไป
เราทำงานทุกวันก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว กลับบ้านมาก็อยากจะพักผ่อนบ้าง แต่กลับต้องมาเจอปัญหานี้ทุกวัน
เราเคยคิดว่าเราซื้อบ้านเดี่ยวราคา 5 ล้านกว่า ในหมู่บ้านที่เป็นแบรนด์เนมแล้ว สังคมเพื่อนบ้านน่าจะดี
บ้านน่าจะสงบสุข แต่เราน่าจะคิดผิด เราเสียใจและเครียดมากๆเลย
มันเหมือนกับว่า ยังไงก็แก้ไขที่เพื่อนบ้านไม่ได้ เราเลยคิดทางออกมาบางวิธี ขอรบกวนช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ
1. ทางออกที่ 1 ไปเช่าหอพักรายวันอยู่เป็นการชั่วคราว
อันนี้เราเคยเลยลองแล้ว โดยการไปเช่าหอแถวแยกแครายอยู่ ประมาณคืนละ 600 กว่าบาท ถามว่ามันเปลืองเงินไหม
ก็เปลือง เพราะมีบ้านอยู่แล้วแท้ๆ ต้องมานั่งเช่าหออยู่ แต่สภาพจิตใจก็ดีขึ้นเป็นการชั่วคราว แต่ก็ลำบากตรงที่มันเป็นห้องรายวัน
ของใช้อะไรของเราก็ต้องขนจากบ้านเราไป-มา และสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรต่างๆ ก็ไม่เหมือนอยู่บ้านเรา
2. ทางออกที่ 2 ไปเช่าคอนโดอยู่
อันนี้เรายังไม่ได้ลอง เนื่องจากการเช่าอยู่จะต้องเสียงเงินรายเดือนประมาณ 7,000 - 10,000 บาท และอาจจะต้องทําสัญญาเช่าต่อเนื่องเป็นระยะ
เวลา 6 เดือน หรือ 1 ปีอย่างต่ำ เราก็ไม่อยากเสียเงินแบบเปล่าๆ เป็นระยะเวลานานๆ แบบนั้น ทั้งๆที่มีบ้านอยู่แล้ว และอีกอย่าง
ไม่รู้ว่าเรากลัวไปเองรึป่าว คือ ก็กลัวว่าเสียเงินเช่าคอนโดไปแล้ว จะมีการรบกวนจากข้างห้อง หรือห้องใกล้เคียงรึป่าว เช่น เพื่อนข้างห้องเสียงดัง
หรือมีกลิ่นรบกวน อย่างการสูบบุหรี่ ถ้าหนีเสือปะจระเข้ แล้วยังต้องมาเสียเงินเพิ่มอีกก็เครียดตายเลย
ในกรณีนี้หากมีท่านไหนพอจะแนะนำที่พักที่เงียบสงบ และ ไม่มีการรบกวน ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยคะ
3. ทางออกที่ 3 หาซื้อคอนโดไปเลย
เป็นทางที่คิดว่า บ้านเดี่ยวเราก็เก็บไว้ โดยถ้าซื้อคอนโด ก็อาจจะต้องกู้เงินเพิ่มอีก อันนี้ก็ลำบากเหมือนกัน เพราะจะต้องทำงานใช้หนี้ไป
อีกยาว และจะต้องโดนดอกเบี้ยธนาคารกินจนไม่มีเงินเก็บไปอีกหลายปี แต่ข้อดีก็คือไม่ได้เป็นการเช่าเปล่า เงินที่เสียไปยังไงก็
เป็นเงินที่ซื้อห้องที่เป็นของเรา ถ้าทางเลือกนี้ ความกังวลเรื่องเพื่อนบ้านก็เหมือนข้อที่ 2 ก็คือกลัวหนีเสือปะจระเข้ แล้วถ้าไปเจอปัญหาใหม่อีกจริงๆ
ทีนี้ก็แย่เลย เพราะเสียเงินกู้ไปแล้ว เสียเงินก้อนไปแล้ว ต้องมาเจอปัญหาเรื่องเพื่อนบ้านอีกก็คงไม่ไหว
ท่านไหนพอจะแนะนำคอนโดที่เงียบสงบ และ ไม่มีการรบกวน ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
4. ทางออกที่ 4 มองหาบ้านเดี่ยวใหม่โดยประกาศขายบ้านเก่าไปด้วย
ถ้าเป็นทางนี้เราจะได้เงินก้อนจาก การขายบ้านเก่า อย่างน้อยก็ประมาณ 5 ล้าน ถ้ามองหาบ้านหลังใหม่ ที่ราคาไม่เกิน 6 ล้าน
อาจจะเป็นบ้านมือสอง หรือมือ 1 ก็ได้ ก็น่าจะพอสู้ไหว แต่อันนี้ก็คงต้องเป็นแผนระยะยาว เพราะว่าบ้านไม่ได้ซื้อขายกันใน เดือน 2 เดือน อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี หรือมากกว่านั้น ความกังวลเรื่องเพื่อนบ้านก็ยังคงมี กลัวหนีเสือปะจระเข้ ถ้าเจอปัญหาเดิมหรือปัญหาใหม่อีก ก็คงเครียดมาก
และคงถึงขนาดไม่มีกำลังใจจะใช้ชีวิตต่อเลย เพราะไม่สามารถที่จะหาบ้านที่สงบสุขได้
อันนี้ถ้าท่านไหนพอจะแนะนำบ้าน ทั้งมือ 1 หรือมือ 2 ที่เงียบสงบ ไม่มีการรบกวน ไม่การตั้งวงกินเหล้า ไม่มีการจดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น
เพื่อนบ้านเป็นมิตร ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
หากทุกท่านมีคำแนะนำอย่างไร สามารถให้คำแนะนำเราได้นะคะ
เรายินดีรับฟังทุกความเห็น
ถ้าเราผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ