ใช่ครับ กระทู้ขอมาบ่น ที่เป็นคนหนึ่งเลือกเรียนตามเพื่อนสมัยวัยรุ่น เพราะไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เลือกเรียนนิติศาสตร์ตามเพื่อนไปก่อนคิดว่าคงอดทนเรียนได้ พอเข้ามาเริ่มเรียนตอน ปี 1 วิชาที่เรียนส่วนใหญ่ยังเป็นวิชาพื้นฐานทั่วๆไป มีกฎหมายบ้างเล็กน้อย ก็ยังพอถูไถไปได้ ไม่ได้คิดไรมาก
แต่พอเริ่มขึ้นปี 2 ถึงปี 4 ความหายนะเริ่มมาเยือนเพราะเริ่มเรียนกฎหมายเต็มตัว แต่ละวิชาเนื้อหาเยอะล้านแปดมากและกองหนังสือที่ต้องอ่านสอบแต่ละวิชาเป็นตั้งๆ ตอนนี้รู้ทันทีว่าคณะนี้ไม่ใช่ทางของเราเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ก็ต้องอดทนเรียนและประคองตัวให้ตัวเองเรียนจบด้มาวยเกรด 2.5 ซึ่งช่วงใกล้จบก็อ่านหนังสือเตรียมไปสอบภาค ก. กพ ทิ้งไว้ ประกาศผลออกมาผ่าน ประกอบกับมีหน่วยงานรัฐเปิดสอบข้าราชการตำแหน่งนิติกรพอดี ก็ต้องรีบอ่านหนังสือไปสอบต่อเพราะอยากได้งานหลังเรียนจบเลย จะได้ไม่เป็นภาระของที่บ้าน สอบติด ทำงานได้ระยะ 1 เดือน ก็ต้องลงเรียนเนติบัณฑิตต่ออีก อ่านหนังสือหลังเลิกงานและเสาร์อาทิตย์ เตรียมตัวๆๆอ่านๆๆๆๆเข้าไป กว่าจะสอบผ่านใช้เวลา 1 ปีกว่า อ่านกันเลือดตาแทบกระเด็น ป.ตรีว่าหนักแล้ว เนติหนักเป็นพันเท่า อ่าจบเนติแล้ว ก็ต้องอ่านหนังสือสอบผู้พิพากษาหรืออัยการต่อ ซึ่งต้องเตรียมตัวอ่าน ทุ่มเทแรงกายและแรงใจหนักทวีคูณขึ้นไปยิ่งกว่าที่เคยทำมาอีก...สอบครั้งแรก ไม่ผ่าน ท้อ หมดไฟ และปีนี้ก็ต้องอ่านหนังสือเตรียมตัววนเป็นวัฎจักรเดิมอีกเช่นเคย... ปัจจุบันอายุ 26 ปี ตั้งแต่จบมา
(อายุ 23 ปี) นับเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ที่ทำงาน เลิกงานแล้วอ่านหนังสือ วันหยุดไม่ไปไหนก็ต้องอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวและก็ลงสนามเพื่อสอบๆๆๆๆๆๆๆๆ วนเป็นวัฎจักรแบบนี้ หันมองเพื่อนรอบข้างที่จบมาทั้งคณะเดียวกันและต่างคณะ ไปใช้ชีวิตลั้นล้า กิน เที่ยว สบายใจ ไม่ต้องเลิกงานมานั่งอ่านหนังสืองกๆแบบเรา เสาร์อาทิตย์ก็ไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมได้สบายใจ ใครคิดจะเดินเส้นทางนี้ ถ้าไม่รักหรือชอบจริงๆ แนะนำหนีไปตั้งแต่ต้นดีกว่าครับ อย่าถลำลึกเข้ามาแบบที่ผมเป็นอยู่ ณ ตอนนี้เลย ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่วิชาชีพกฎหมาย ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจยาวๆ
เลือกเรียนนิติศาสตร์ = ตกนรกทั้งเป็นแม้จะเรียนจบแล้ว
แต่พอเริ่มขึ้นปี 2 ถึงปี 4 ความหายนะเริ่มมาเยือนเพราะเริ่มเรียนกฎหมายเต็มตัว แต่ละวิชาเนื้อหาเยอะล้านแปดมากและกองหนังสือที่ต้องอ่านสอบแต่ละวิชาเป็นตั้งๆ ตอนนี้รู้ทันทีว่าคณะนี้ไม่ใช่ทางของเราเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ก็ต้องอดทนเรียนและประคองตัวให้ตัวเองเรียนจบด้มาวยเกรด 2.5 ซึ่งช่วงใกล้จบก็อ่านหนังสือเตรียมไปสอบภาค ก. กพ ทิ้งไว้ ประกาศผลออกมาผ่าน ประกอบกับมีหน่วยงานรัฐเปิดสอบข้าราชการตำแหน่งนิติกรพอดี ก็ต้องรีบอ่านหนังสือไปสอบต่อเพราะอยากได้งานหลังเรียนจบเลย จะได้ไม่เป็นภาระของที่บ้าน สอบติด ทำงานได้ระยะ 1 เดือน ก็ต้องลงเรียนเนติบัณฑิตต่ออีก อ่านหนังสือหลังเลิกงานและเสาร์อาทิตย์ เตรียมตัวๆๆอ่านๆๆๆๆเข้าไป กว่าจะสอบผ่านใช้เวลา 1 ปีกว่า อ่านกันเลือดตาแทบกระเด็น ป.ตรีว่าหนักแล้ว เนติหนักเป็นพันเท่า อ่าจบเนติแล้ว ก็ต้องอ่านหนังสือสอบผู้พิพากษาหรืออัยการต่อ ซึ่งต้องเตรียมตัวอ่าน ทุ่มเทแรงกายและแรงใจหนักทวีคูณขึ้นไปยิ่งกว่าที่เคยทำมาอีก...สอบครั้งแรก ไม่ผ่าน ท้อ หมดไฟ และปีนี้ก็ต้องอ่านหนังสือเตรียมตัววนเป็นวัฎจักรเดิมอีกเช่นเคย... ปัจจุบันอายุ 26 ปี ตั้งแต่จบมา
(อายุ 23 ปี) นับเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ที่ทำงาน เลิกงานแล้วอ่านหนังสือ วันหยุดไม่ไปไหนก็ต้องอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวและก็ลงสนามเพื่อสอบๆๆๆๆๆๆๆๆ วนเป็นวัฎจักรแบบนี้ หันมองเพื่อนรอบข้างที่จบมาทั้งคณะเดียวกันและต่างคณะ ไปใช้ชีวิตลั้นล้า กิน เที่ยว สบายใจ ไม่ต้องเลิกงานมานั่งอ่านหนังสืองกๆแบบเรา เสาร์อาทิตย์ก็ไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมได้สบายใจ ใครคิดจะเดินเส้นทางนี้ ถ้าไม่รักหรือชอบจริงๆ แนะนำหนีไปตั้งแต่ต้นดีกว่าครับ อย่าถลำลึกเข้ามาแบบที่ผมเป็นอยู่ ณ ตอนนี้เลย ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเส้นทางอื่นที่ไม่ใช่วิชาชีพกฎหมาย ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจยาวๆ