[CR] เที่ยวเชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน รวดเดียว 4 อำเภอ

เป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวตลอดกาล คงหนีไม่พ้น “เชียงใหม่” เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา มีครบทุกสิ่งในแบบที่ต้องการ ทั้งดอยสวย ทะเลหมอก ธรรมชาติ และสวนดอกไม้ที่งดงาม กับทริปบุกเมืองเชียงใหม่หน้าร้อน เน้นที่พักสุดชิคและมีสไตล์ รู้แล้วเก็บไว่ในลิสต์ได้เลย
เชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน 4 อำเภอ ตั้งแต่จอมทอง ไปหางดง มุ่งตรงแม่ออน และจบตอนที่แม่ริม

เริ่มจากการจับจองเที่ยวบินและที่พักผ่านเว็บไซต์ ราคาและส่วนลดหนักทุกโปร วันแรกบินลัดฟ้าจากสนามบินดอนเมืองกรุงเทพมุ่งสู่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษๆ บ่ายแก่ๆ ของวันแรกที่ไม่เร่งรีบนัก ขนสัมภาระขึ้นรถเช่าที่ดีลไว้เรียบร้อย รถเช่าที่นี่ไม่เก็บค่ามัดจำสักบาท (ขวัญรถเช่า) แอบบอกพิกัดเล็กน้อย เผื่อเพื่อนๆยังไม่มีอยู่ในลิสต์

พวกเรามุ่งหน้าอำเภอจอมทองไปยังที่พักคืนแรก กินเวลาเดินทางไป 1 ชั่วโมง 32 นาที ราวๆ 90 กิโลเมตร พวกเราพักนอนค้างคืนกันที่นี่ Giant Bamboo Hut เป็นบ้านไม้ไผ่ยักษ์ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาบนเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์พิกัดแม่กลางหลวง
บรรยากาศสุดชื่น มีลำธาร ทุ่งนาล้อมรอบ กลางคืนนอนฟังเสียงธารน้ำไหลบรรเลงเพลงตลอดทั้งวันทั้งคืน เติมพลังชีวิตได้ดีทีเดียว แต่หากใครเป็นพวกตื่นง่ายหรือหลับยาก คงต้องลองมองหาที่อื่นดีกว่า เพราะเสียงน้ำไหลมิอาจปิดได้
เช้าวันที่ 2 หลังจากรับอาหารเช้า ก็มีพลังเดินต่อไปยังอำเภอแม่แจ่มสักนิด ลัดเลาะไปตามเส้นทางดอยอินทนนท์นี่แหละ แยกซ้ายไปราว 69 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เพื่อไปบริจาคอาหารและขนม ตลอดจนเสื้อผ้าแก่เด็กบนดอย ณ โรงเรียนสบวาก มีเด็กนักเรียนประมาณ 50 คน เรียนและกินนอนอยู่ที่โรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในพื่นที่และเด็กที่อยู่ไกลต่างหมู่บ้าน
จบภาระกิจจากการแบ่งปันอาหารและขนมให้กับเด็กบนดอยแล้ว คิดถึงเป้าหมายการพักผ่อนต่อไปทันที ลงจากดอยแม่แจ่มหลังจากจัดอาหารกลางวันจานโตเป็นข้าวมันไก่ ลัดเลาะภูเขาไต่ลงมาถึงตีนดอยอีก 4 ชั่วโมง จุดหมายค่ำคืนนี้เป็นที่พักที่อยู่ในอำเภอหางดง เขตตำบลน้ำแพร่ มีชื่อว่า Empreo Residence
ขอสลบบนรถบ้านล่ะกัน ที่นี่มีรถบ้านและพลูวิลล่าให้เลือก มีอาหาร เครื่องดื่ม มุมถ่ายรูป ที่สำคัญคือสงบและได้บรรรยากาศธรรรมชาติ คืนนี้สลบตามๆกัน กับ 2 วันเต็มๆ ที่เดินทางไกลและพักไม่เต็มอิ่มจริงๆ

วันที่ 3 กับเช้าที่อากาศกำลังดี เติมพลังท้องด้วยอาหารเช้าสไตล์อังกฤษ มุ่งหน้าสักการะพระธาตุดอยคำ อยู่ในเขตเมืองนครเชียงใหม่ ที่มีความเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี และยังมีหลวงพ่อทันใจที่มีผู้คนหลั่งใหลมาขอพรกันเยอะมากๆ ด้านหลังมีระเบียงวิวที่สวยมากๆ ด้านล่างมีขายล็อตเตอรี่ เสื้อผ้าพื้นเมือง และเครื่องดื่ม
กราบลาหลวงพ่อทันใจ และควบรถทะยานไปอำเภอแม่ออนเป้าหมายคือ แม่กำปอง ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิดๆ 60 กิโลเมตรก็ถึง เราถึงจุดหมายปลายทางคือน้ำตกแม่กำปอง น้ำตกในหุบเขาท่ามกลางภูเขาล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน อากาศเย็นสบาย น้ำใส มี 7 ชั้น และชั้นที่ 7 จะมีแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้
แวะรับประทานอาหารที่บ้านต้นไม้แม่กำปอง เป็นคาเฟ่และเป็นที่พักสไตล์บ้านที่อยู่บนต้นไม้ ซึ่งที่นี่เราจะค้างแรมกันเป็นคืนที่ 3 แม่กำปองเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีที่พักแบบธรรมชาติให้ได้เลือกสัมผัส พวกเราเลือกบ้านต้นไม้เพราะรู้สึกชอบในความร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้ใหญ่
คอนเซปของที่นี่ คือนอน 1 คืน อายุยืน 1 ปี ที่นี่มีบ้านพัก 5 หลัง แต่ละหลังมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา และเวลาพระอาทิตย์ตกจะสวยที่สุด ใกล้ชิดธรรมชาติ และรับอากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดทั้งวัน

เช้าวันที่ 4 ไฮไลท์ของวันนี้จะพาไปตะลุยที่อำเภอแม่ริม เริ่มจากการอัดมื้อเช้าเข้าไปด้วยอาหารเช้าแบบฝรั่งๆ เบาๆ พร้อมเครื่องดื่มร้อนๆ จากนั้นโบกมือลาแม่กำปองด้วยความสดชื่น ซิ่งรถจากแม่ออนไปเริ่มสตาร์ทจุดแรกที่คุ้มเสือ Tiger Kingdom
ที่นี่มีเสือโคร่งหลายชนิดสามารถถ่ายรูปกับเสือ เล่นกับเสือได้แบบถึงเนื้อถึงตัวกันเลย มีค่าเข้าชม 50 บาทหากว่าต้องการใกล้ชิดสนิทแนบเนื้อกับเสือ ก็เพิ่มเงินอีกซักเล็กน้อย ตั้งแต่ 250 บาท ไปจนถึง 1,300 บาท งานนี้ตื่นเต้นมากๆ
หลุดออกจากกรงเสือไปโลดโผนที่น้ำตกแม่สา ใช้เวลาแค่ 10 นาทีก็ถึง น้ำตกแห่งนี้มีต้นกำเนิดมาจากลำน้ำที่ไหลมารวมกันถึง 17 สาย มีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันประมาณ 100 ถึง 150 เมตร มีความยาวรวม 1.5 กิโลเมตร ที่สวยที่สุดคือน้ำตกชั้นที่ 5,6,7 เพราะมีศาลาชมวิวและใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ
สูดบรรยากาศจากน้ำตกแม่สาจนทะลักปอด ก็แจ่นไปที่โป่งแยงจังเกิ้ลคาเฟ่ พักรบกันต่อกับโป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์ซิปไลน์ ที่อยู่ติดกันกับคาเฟ่เพียง 50 เมตร กินอาหารไปด้วยดูเครื่องเล่นไปด้วย แสนจะชิวและตื่นเต้นสุดๆ จะโหนสลิงทิ้งตัวหรือว่าจะคลิกจั๊ม ใครชอบกิจกรรมท้าทายโลดโผนต้องรีบเลย
หนังท้องตึงหนังตาก็จะปิดอัตโนมัติทันที งานนี้ต้องขอตัวไปสูดอากาศกันอีกสักรอบ กับอีกหนึ่งสวนดอกไม้และสวนส้มบนดอยม่อนแจ่ม สวนดอกไม้ป้างฮวา นั่นเอง ใครที่มาเที่ยวหน้าร้อนแบบนี้ก็อาจไม่เห็นดอกไม้สวยๆ อย่างดอกมากาเร็ตสีม่วง ที่มันพลิ้วไหวตามลมที่พัดผ่านมาจากภูเขารอบทิศ
แล้วก็ยังมีสวนส้มที่มีทางเดินไม้ไผ่รอบสวน มาที่นี่ที่เดียวได้ถ่ายภาพทั้งทุ่งดอกไม้และก็สวนส้มด้วย ค่าเข้าชมสวนคนละ 50 บาท นะจ๊ะ มุมถ่ายรูปเพียบ มาให้ได้นะ
รื่นเริงกันมามากแล้ว เห็นทีต้องพักกายกันได้แล้ว รู้สึกว่าร่างกายต้องการหมูกระทะ พวกเราปิดฉากวันนี้ด้วย ที่พักม่อนไอดิน ที่พักระดับกลางบนม่อนแจ่ม ราคาก็ไม่ได้สูงมาก มีทั้งเต็นท์โดมและบ้านเป็นหลังๆ ที่นี่บริการดีมากๆ เพราะว่าพวกเราคือลูกค้าเจ้าเดียวหลังเดียวของที่นี่ในคืนนี้
เช้าวันที่ 5 รีบตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเล็กน้อย เพราะอยากจะดูหมอก แต่วันนี้ไม่มีหมอกเลย เพราะว่าพวกเราตื่นสาย 555 เวลานี้ 8โมง พวกเรารีบเช็คเอาท์ ที่นี่ไม่มีอาหารเช้า งงมาก ท้องก็ร้องเลยต้องรีบลงจากม่อนแจ่มมุ่งหน้าหามื้อเช้าริมทาง สุดท้ายได้ KFC ในปั๊มน้ำมันในเมือง จัดแจงเติมน้ำมันแล้วก็ส่งคืนรถเช่า จากนั้นก็บินกลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายๆก็ถึงดอนเมือง ได้ไส้กรอกย่าง 2 ไม้ จากนั้นแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน
ทริปนี้โคตรโหด เดินทางเยอะมาก เน้นที่พักตามที่ชอบ บอกเลยว่าเหนื่อย ทริปนี้ไม่เน้นกิน ไม่เน้นคาเฟ่ เน้นเอามันส์ พอเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ที่อยากจะท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้มีแรงบันดาลใจในการเที่ยวบ้างนะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเชียงใหม่ 5 วัน 4 คืน รวดเดียว 4 อำเภอ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ไปเที่ยวมา อยากเล่าให้ฟัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่