ขอขอบคุณละครพรหมลิขิต ที่ทำออกมาเป็นภาคต่อ จากละครบุพเพสันนิวาส

ผมไม่ได้จะพูดชมละครนะครับ ท่านที่ชื่นชอบละครเรื่องนี้โปรดข้ามไปเลยครับ

ก่อนหน้านี้ที่มีละครบุพเพสันนิวาส ยอมรับครับว่าดังมากๆ ซะจนบางครั้งผมต้องระเห็จไปชมทีวีจอเล็กๆในห้องส่วนตัวแทน เพราะโดนยึดรีโมทจากคนในครอบครัว คนในบ้างชอบมากถึงขนาดถ้ามีการพูดถึงละครเรื่องนี้บนโต๊ะอาหารก็ต้องเอาตัวรอดโดยการพูดเอาใจเพื่อเอาตัวรอดในวงสนทนา 555 ผมก็ดูบ้างครับ เพราะที่ทำงานพูดกัน บางอย่างก็พอดูได้ บางอย่างก็อยากเบือนหน้าหนีเลยทีเดียว อะไรมันจะมุกเดิมๆ ซ้ำๆ ตลอด ขนาดเราไปวัดอะไรก็จะเจอทีมแต่งตัวตามละครมาเต็มไปหมด ข้อดีก็มีสนุกสนานกันไป

สิ่งที่ผมไม่ชอบคือ ละครไม่มีเนื้อหาน้อยมากๆในแต่ละตอน บางครั้งก็ว่าร้ายแรงนะโดยเฉพาะ คนที่ติดละครจะมองว่าประวัติศาสตร์ที่อ้างกันในละครนั้นถูกต้องแล้ว ถูกซะจนคิดว่าเรื่องจริงคงจะมีคนอย่างการะเกดอยู่ในยุคนั้นจริงๆ 555

ตั้งแต่มีละครเรื่องพรหมลิขิตมา สิ่งที่ผมเคยอธิบายกับคนในบ้านว่า ละครบุพเพสันนิวาส มันแทบไม่มีเนื้อหาอะไรเลยในแต่ละตอน ขำอะไรกับการทำหน้างงๆของคนสมัยก่อนที่เจอคำพูดประหลาดๆของคนสมัยใหม่ ที่ขำกันนี่ผมมองว่าคุณกำลังดูถูกตัวเองกันอยู่นะ มุขก็ซ้ำๆ เดิมๆ แต่พอละครพรหมลิขิตออกมา คนในบ้านไม่ดูละ ผมลองถามดู แฟนก็บอกว่ามันด้อยกว่าบุพเพฯ เลยถามว่าแย่อะไร เธอก็บอกในเหตุที่คล้ายๆกันข้างต้น ผมจึงต้องบอกว่า ที่คุณรู้สึกตอนนี้น่ะ มันก็คือสิ่งที่ผมต้องทนกับละครบุพเพฯนั่นแหล่ะ และตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าที่ผมพยายามให้เหตุผลนั้นมันแย่อย่างไร

ที่เขียนมา ก็เพื่อขอบคุณละครพรหมลิขิต ที่ทำให้แฟนผมเข้าใจผมจนได้ แต่ก็ยังมีอีกอย่างที่ไม่สบายใจ คือการนำประวัติศาสตร์มาใส่ในละคร มันก็สุ่มเสี่ยงเบี่ยงเบนไปตามอารมณ์ละคร โดยเฉพาะในปัจจุบันมีหลายหัวข้อกระทู้ที่มองประวัติศาสตร์เป็นละครกันไปแล้ว จับคู่คนนั้นคนนี้ เฮ้ย... ละครนะครับ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจากประวัติศาสตร์ เดี๋ยวจะเข้าใจตามละครกันหมด เป็นห่วงแบบห่างๆ ครับ 555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่