กลับมาพบกับรีวิวตอนที่ 5 ครับ
รีวิวตอนก่อนหน้าครับ
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 1 :
https://ppantip.com/topic/42314927
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 2 :
https://ppantip.com/topic/42315540
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 3 :
https://ppantip.com/topic/42315730
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 4 :
https://ppantip.com/topic/42315899
********
จริงๆ เมื่อคืนที่ตัดสินใจนอน Asahikawa เพราะว่า จะได้ขึ้นรถบัสรอบเช้าสุดไป Asahidake
แต่เมื่อวานพยายามเช็คสถาพอากาศแล้ว เวปบอกว่า ฝนตกหนัก กระเช้าก็ไม่เปิดทำการ
เลยลังเลใจว่าจะไปดี ไม่ไปดี
สรุป เห็นพยากรณ์อากาศว่า วันที่จะไปนี้ฝนตกหนัก ก็เลยล้มเลิกแผน ว่าจะกลับซัปโปโร ตอนเช้าเลย ไปหาอะไรทำในซัปโปโรแทนละกัน
ตอนเช้าเลยตื่นมาชิวๆ 8 โมงกว่า ลองกดเช็คกระเช้าที่ Asahidake ปรากฏว่า เปิดปกติ
เอาไงดี 8 โมงกว่าแล้ว รถบัสไป Asahidake รอบต่อไปมี 9 โมงกว่า
เอาวะ มาแล้ว ไปก็ไป เลยรีบเช็คเอาท์โรงแรม
โรงแรมมีอาหารเช้าให้กินฟรี เป็นข้าว กับ ไข่ดิบ แต่ไม่ได้กิน รีบไปขึ้นรถบัสก่อน
ไปถาม Bus Information เค้าก็ให้ไปซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติให้เลย ซื้อง่าย มีภาษาอังกฤษ
แล้วก็ไปขอตารางรถมา
เปิดดูบนรถ อ้าว เค้าให้ซื้อที่ตู้อัตโนมัติสองขาเลย เพราะที่ Asahidake ไม่มีตู้ขายตั๋ว (แต่จ่ายเงินสดบนรถได้)
ป้ายรถบัสหมายเลข 9
ขึ้นรถให้หยิบตั๋วที่ทางขึ้นมาด้วยนะครับ จะได้รู้ว่าเราขึ้นที่ป้ายไหน
เวลาจ่าย ก็หย่อนไปพร้อมกับตั๋วที่เราซื้อมา หรือไม่ก็เงินสดได้เลย
ตั๋วราคา 1800 เยน ป้ายสถานี Asahikawa เป็นป้าย no.3 ครับ
รถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อถึงแล้ว เดินขึ้นชั้นสองไปซื้อตั๋ว Ropeway ครับ มีแบบเที่ยวเดียว กับ ไปกลับ
กระเช้ามีทุกๆ 15 นาที ทั้งขาไปและขากลับ ถึงไม่มีคนก็ตีกระเช้าเปล่า
ดังนั้นเลยไม่รีบ หาอะไรกินก่อนดีกว่า มีร้านอาหารทั้งชั้น 1 และ ชั้น 2
ชั้น 1 มีร้านขายของฝากด้วย
หนาวๆ กินไก่ทอดร้อนๆ กับ ไส้กรอกครับ
ไก่ทอดเป็นแบบอกไก่อ่ะครับ ไม่ค่อยชอบ เค็มๆ แปลกๆ
ส่วนไส้กรอกอร่อยอยู่ครับ
โคร็อคเกะหมู ไม่ผ่านครับ
อิ่มแล้ว ก็ขึ้นกระเช้ากันครับ
ไปถึงข้างบน จะมีคนมาอธิบายเส้นทางต่างๆ ให้เรารู้
ฝนตก ทางลื่น เค้าแนะนำให้เช่ารองเท้าบู๊ท ซึ่งควรเช่ามากๆ เพราะเดินสะดวกขึ้นเยอะ
ค่าเช่ารองเท้า 300 เยน
แล้วเค้าให้เช่าไม้โพลไว้เดินด้วย แต่ผมมีร่ม เลยใช้ร่มเป็นไม้โพลแทน แล้วใส่เสื้อกันฝนเอา
ทางออกไปเดินด้านนอก
ดูพยากรณ์แล้วบอกฝนตก เลยซื้อทั้งร่ม ทั้งเสื้อกันฝนมา
เส้นทางเดินตามนี้ครับ เริ่มต้นที่สถานี Ropeway Sugatami
เดินตามเส้นสีส้มจะครบสุด
เริ่มละ
ทางเดินขึ้นทั้งน้ำ และน้ำแข็ง ทั้งหิมะ
หันหลังกลับไปมองสถานี Ropeway ถอนตัวทันมั้ยวะ 555
ทางเดินขึ้น
Suribachi Pond
มาที่นี่เพราะชอบ Suribachi Pond นี่แหละครับ
Kagami Pond
มีป้ายบอกว่า ถ้าจะเดินป่าคือทางข้างหน้า ถ้ามาเดินธรรมดา อย่าหลงเข้าไปนะ
เดินฝ่าหิมะ มาจนถึงจุดชมวิว Asahidake ตรงนี้จนได้ครับ
ภูเขาไฟยังมีไอออกมาอยู่
จุดชมวิว ถ่ายรูปครับ
มีระฆังด้วยนะ
Sugatami Pond
จากตรงนี้ เดินอีกหน่อย ก็ถึงสถานี Ropeway ละครับ ครบรอบพอดี
แต่พอมารถบัสรอบ 9 โมงนี้แล้ว รอบรถบัสที่จะกลับเข้า Asahikawa ต่อไปคือ 15:40 เลย ซึ่งมีเวลาเยอะเกินไปครับ
นั่งแกร่วรอรถบัส หาไรกินเล่นฆ่าเวลา
ไส้กรอกเนื้อกวาง ก็ใช้ได้อยู่ครับ
ราคา Ropeway
ดังนั้นใครมา ควรจะขึ้นรถบัสรอบเช้าสุด แล้วกลับลงไปรอบ 11 โมง เวลากำลังดี
ถึง Asahikawa ตอนเย็น
หาอะไรทานตรง Food Court ครับ
ได้อันนี้มา
ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ หมูเหนียว แล้วไก่ทอดก็ไหม้นิดๆ
ถึงเวลาก็ขึ้นรถไฟ กลับซัปโปโรครับ
ถึงซัปโปโร ฝนก็ตกหนัก
สิ่งที่ทำได้คือ วิ่งตรงไปร้าน Parfait ก่อนเลย
วันนี้เลือกร้าน Pafaiteria Pal
https://maps.app.goo.gl/dJpHGyRwgyn1PkGE9
ไปถึงกดลิฟต์ขึ้นไป ก็งงๆ ว่าร้านอยู่ตรงไหน
เห็นคนเดินเข้าร้าน ก็เดินตามเค้า
พนักงานหันมาเห็นบอกว่า 1 คน เค้าก็ให้เข้าร้าน
เมนูจะไม่มีรูปให้ดูนะครับ เป็นรูปวาดแล้วอธิบายว่า แต่ละส่วนคืออะไร
เป็นร้านที่ตกแต่งเหมือนผับเลย
ลองๆ สุ่มสั่งตัวนี้มา
พนักงานก็เอาใบนี้มาให้ บอกว่าเป็นส่วนประกอบของฟาร์เฟต์ที่เราสั่ง
ของจริงมาเสิร์ฟ
สวยงาม
และก็อร่อยด้วยครับ คราวหน้าอยากมาลองอย่างอื่นบ้าง
ออกจากร้านมา เห็นพนักงานที่ร้านเดินเข้าออกตรงทางอื่นด้วย ก็เลยเข้าไปส่อง
อ้าว ร้านนี้มี A B C ด้วย
หันไปด้านหลัง คนต่อคิวตรงบันไดเยอะเลย
ดังนั้นร้านนี้มาเร็วๆ หน่อยก็ดีนะครับ ดึกๆ คนเยอะเลย
ออกจากร้านผมก็ใช้ Streetcar ผมลงสถานี Shiseikanshogakko-Mae Station แล้วเดินไปโรงแรมอีก 2 บล็อค
ระหว่างทางกลับโรงแรม นึกได้ว่า เรายังไม่เคยใช้ห้อง Common Room กับเค้าเลย ก็เลยซื้อของกินไปนั่งกินขำๆ
คนเยอะอยู่ มีทั้งนั่งเล่น นั่งทานข้าว นั่งดูทีวี
พึ่งได้ขึ้นมาสำรวจ ครัว มีตู้เย็น เตาอบ เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า พร้อมมาก
มีคนญี่ปุ่นก็มาพักเยอะเหมือนกันครับ
ของกินที่ซื้อมาขำๆ เพื่อลองมาใช้ common room
อิ่มแล้ว ก็กลับห้องนอนครับ
ไม่ได้คุยกับใครเลย เข้าหาคนไม่เก่งครับ
รีวิวตอนที่ 5 ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ พบกันใหม่ตอนที่ 6 ครับ
[CR] Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 5 - Asahidake, Parfaiteria Pal
รีวิวตอนก่อนหน้าครับ
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 1 : https://ppantip.com/topic/42314927
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 2 : https://ppantip.com/topic/42315540
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 3 : https://ppantip.com/topic/42315730
Hokkaido - ใบไม้เกือบเปลี่ยนสี : 4 : https://ppantip.com/topic/42315899
********
จริงๆ เมื่อคืนที่ตัดสินใจนอน Asahikawa เพราะว่า จะได้ขึ้นรถบัสรอบเช้าสุดไป Asahidake
แต่เมื่อวานพยายามเช็คสถาพอากาศแล้ว เวปบอกว่า ฝนตกหนัก กระเช้าก็ไม่เปิดทำการ
เลยลังเลใจว่าจะไปดี ไม่ไปดี
สรุป เห็นพยากรณ์อากาศว่า วันที่จะไปนี้ฝนตกหนัก ก็เลยล้มเลิกแผน ว่าจะกลับซัปโปโร ตอนเช้าเลย ไปหาอะไรทำในซัปโปโรแทนละกัน
ตอนเช้าเลยตื่นมาชิวๆ 8 โมงกว่า ลองกดเช็คกระเช้าที่ Asahidake ปรากฏว่า เปิดปกติ
เอาไงดี 8 โมงกว่าแล้ว รถบัสไป Asahidake รอบต่อไปมี 9 โมงกว่า
เอาวะ มาแล้ว ไปก็ไป เลยรีบเช็คเอาท์โรงแรม
โรงแรมมีอาหารเช้าให้กินฟรี เป็นข้าว กับ ไข่ดิบ แต่ไม่ได้กิน รีบไปขึ้นรถบัสก่อน
ไปถาม Bus Information เค้าก็ให้ไปซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติให้เลย ซื้อง่าย มีภาษาอังกฤษ
แล้วก็ไปขอตารางรถมา
เปิดดูบนรถ อ้าว เค้าให้ซื้อที่ตู้อัตโนมัติสองขาเลย เพราะที่ Asahidake ไม่มีตู้ขายตั๋ว (แต่จ่ายเงินสดบนรถได้)
ป้ายรถบัสหมายเลข 9
ขึ้นรถให้หยิบตั๋วที่ทางขึ้นมาด้วยนะครับ จะได้รู้ว่าเราขึ้นที่ป้ายไหน
เวลาจ่าย ก็หย่อนไปพร้อมกับตั๋วที่เราซื้อมา หรือไม่ก็เงินสดได้เลย
ตั๋วราคา 1800 เยน ป้ายสถานี Asahikawa เป็นป้าย no.3 ครับ
รถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เมื่อถึงแล้ว เดินขึ้นชั้นสองไปซื้อตั๋ว Ropeway ครับ มีแบบเที่ยวเดียว กับ ไปกลับ
กระเช้ามีทุกๆ 15 นาที ทั้งขาไปและขากลับ ถึงไม่มีคนก็ตีกระเช้าเปล่า
ดังนั้นเลยไม่รีบ หาอะไรกินก่อนดีกว่า มีร้านอาหารทั้งชั้น 1 และ ชั้น 2
ชั้น 1 มีร้านขายของฝากด้วย
หนาวๆ กินไก่ทอดร้อนๆ กับ ไส้กรอกครับ
ไก่ทอดเป็นแบบอกไก่อ่ะครับ ไม่ค่อยชอบ เค็มๆ แปลกๆ
ส่วนไส้กรอกอร่อยอยู่ครับ
โคร็อคเกะหมู ไม่ผ่านครับ
อิ่มแล้ว ก็ขึ้นกระเช้ากันครับ
ไปถึงข้างบน จะมีคนมาอธิบายเส้นทางต่างๆ ให้เรารู้
ฝนตก ทางลื่น เค้าแนะนำให้เช่ารองเท้าบู๊ท ซึ่งควรเช่ามากๆ เพราะเดินสะดวกขึ้นเยอะ
ค่าเช่ารองเท้า 300 เยน
แล้วเค้าให้เช่าไม้โพลไว้เดินด้วย แต่ผมมีร่ม เลยใช้ร่มเป็นไม้โพลแทน แล้วใส่เสื้อกันฝนเอา
ทางออกไปเดินด้านนอก
ดูพยากรณ์แล้วบอกฝนตก เลยซื้อทั้งร่ม ทั้งเสื้อกันฝนมา
เส้นทางเดินตามนี้ครับ เริ่มต้นที่สถานี Ropeway Sugatami
เดินตามเส้นสีส้มจะครบสุด
เริ่มละ
ทางเดินขึ้นทั้งน้ำ และน้ำแข็ง ทั้งหิมะ
หันหลังกลับไปมองสถานี Ropeway ถอนตัวทันมั้ยวะ 555
ทางเดินขึ้น
Suribachi Pond
มาที่นี่เพราะชอบ Suribachi Pond นี่แหละครับ
Kagami Pond
มีป้ายบอกว่า ถ้าจะเดินป่าคือทางข้างหน้า ถ้ามาเดินธรรมดา อย่าหลงเข้าไปนะ
เดินฝ่าหิมะ มาจนถึงจุดชมวิว Asahidake ตรงนี้จนได้ครับ
ภูเขาไฟยังมีไอออกมาอยู่
จุดชมวิว ถ่ายรูปครับ
มีระฆังด้วยนะ
Sugatami Pond
จากตรงนี้ เดินอีกหน่อย ก็ถึงสถานี Ropeway ละครับ ครบรอบพอดี
แต่พอมารถบัสรอบ 9 โมงนี้แล้ว รอบรถบัสที่จะกลับเข้า Asahikawa ต่อไปคือ 15:40 เลย ซึ่งมีเวลาเยอะเกินไปครับ
นั่งแกร่วรอรถบัส หาไรกินเล่นฆ่าเวลา
ไส้กรอกเนื้อกวาง ก็ใช้ได้อยู่ครับ
ราคา Ropeway
ดังนั้นใครมา ควรจะขึ้นรถบัสรอบเช้าสุด แล้วกลับลงไปรอบ 11 โมง เวลากำลังดี
ถึง Asahikawa ตอนเย็น
หาอะไรทานตรง Food Court ครับ
ได้อันนี้มา
ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ หมูเหนียว แล้วไก่ทอดก็ไหม้นิดๆ
ถึงเวลาก็ขึ้นรถไฟ กลับซัปโปโรครับ
ถึงซัปโปโร ฝนก็ตกหนัก
สิ่งที่ทำได้คือ วิ่งตรงไปร้าน Parfait ก่อนเลย
วันนี้เลือกร้าน Pafaiteria Pal
https://maps.app.goo.gl/dJpHGyRwgyn1PkGE9
ไปถึงกดลิฟต์ขึ้นไป ก็งงๆ ว่าร้านอยู่ตรงไหน
เห็นคนเดินเข้าร้าน ก็เดินตามเค้า
พนักงานหันมาเห็นบอกว่า 1 คน เค้าก็ให้เข้าร้าน
เมนูจะไม่มีรูปให้ดูนะครับ เป็นรูปวาดแล้วอธิบายว่า แต่ละส่วนคืออะไร
เป็นร้านที่ตกแต่งเหมือนผับเลย
ลองๆ สุ่มสั่งตัวนี้มา
พนักงานก็เอาใบนี้มาให้ บอกว่าเป็นส่วนประกอบของฟาร์เฟต์ที่เราสั่ง
ของจริงมาเสิร์ฟ
สวยงาม
และก็อร่อยด้วยครับ คราวหน้าอยากมาลองอย่างอื่นบ้าง
ออกจากร้านมา เห็นพนักงานที่ร้านเดินเข้าออกตรงทางอื่นด้วย ก็เลยเข้าไปส่อง
อ้าว ร้านนี้มี A B C ด้วย
หันไปด้านหลัง คนต่อคิวตรงบันไดเยอะเลย
ดังนั้นร้านนี้มาเร็วๆ หน่อยก็ดีนะครับ ดึกๆ คนเยอะเลย
ออกจากร้านผมก็ใช้ Streetcar ผมลงสถานี Shiseikanshogakko-Mae Station แล้วเดินไปโรงแรมอีก 2 บล็อค
ระหว่างทางกลับโรงแรม นึกได้ว่า เรายังไม่เคยใช้ห้อง Common Room กับเค้าเลย ก็เลยซื้อของกินไปนั่งกินขำๆ
คนเยอะอยู่ มีทั้งนั่งเล่น นั่งทานข้าว นั่งดูทีวี
พึ่งได้ขึ้นมาสำรวจ ครัว มีตู้เย็น เตาอบ เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า พร้อมมาก
มีคนญี่ปุ่นก็มาพักเยอะเหมือนกันครับ
ของกินที่ซื้อมาขำๆ เพื่อลองมาใช้ common room
อิ่มแล้ว ก็กลับห้องนอนครับ
ไม่ได้คุยกับใครเลย เข้าหาคนไม่เก่งครับ
รีวิวตอนที่ 5 ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ พบกันใหม่ตอนที่ 6 ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้