ล่องเรือ เขื่อนขุนด่าน
1. พันธสัญญา
เป็นกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ คือคำพูดในหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เคยดูเมื่อนานมาแล้ว (หากใครรู้ฝากบอกผมทีนะครับ) เราได้สัญญาไว้กับสมาชิกที่ทำงานว่าจะจัดทริปไปเที่ยวกัน ในเมื่อพูดไปแล้วก็จัดไปตามคำเรียกร้อง โดยวางแผนกำหนดเงื่อนไขไว้ง่าย ๆ ที่ขับรถไม่ไกล ไปแบบไม่แพง กิจกรรมไม่ต้องร้อนแรงเหมือนสีน้ำแดง ๆ ในแก้ว และสีของดอกไพ่ที่เรียงรายอยู่ในมือ
รถยนต์ของหมู่คณะจัดแจงแบ่งกำลังพล แล้วนัดเจอกันกลางทางแถว ๆ ห้างค้าส่งขนาดใหญ่บริเวณเมืองนครผู้บริหารประเทศ “นครนายก” ผ่าม ผ่ามมม !!! เปิดฉากโบ๊ะบร๊ะกับหนึ่งในสมาชิกที่จั่วหัวด้วยการเปิดประตูขึ้นรถชาวบ้านที่สีคล้ายกัน ก็ทำเอาเขิลเดินยิ้มแฉงแทบแทรกแผ่นดินหนีกันเลยทีเดียว เยี่ยมนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี ฮาแน่ทริปนี้
2. สันเขื่อนสะเทือนแดด
ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร กับความเร็วของรถที่วิ่ง 100 กิโลมตรต่อชั่วโมง พาเราไปตามถนนหมายเลข 305 ก่อนจะถึงที่หมายปลายทางแรกของพวกเรา เพื่อเริ่มกิจกรรมที่เหล่าสมาชิกตั้งตาคอย ผู้ใหญ่ 10 ชีวิต กับ 1 เด็กน้อย จัดแจงจับจองที่นั่งสำหรับพาหนะที่เรียกว่าเรือที่จะพาเราโลดแล่นไปบนพื้นธารา ในราคาหัวละ 2 แบงค์แดง แดดที่ร้อนจนแทบหน้าจะไหม้และตับจะแตก บ่งบอกเราว่าอากาศแบบนี้มันต้องสวยมาก ๆ แน่เลย น้ำตกจ๋ารอข้าก่อน จะสวยแค่ไหน จะเป็นอย่างไร ยังไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ ๆ ป้ายเด่นชัด “หมดเขตเทศกาลทุ่งหญ้าเขียวสวิตเซอร์แลนด์”
3. ล่องเรือ เขื่อนขุนด่าน
เรือหางยาวมีพี่หนุ่มผมไม่ยาวเป็นผู้ถือหางเสือและเป็นกัปตันในคนคนเดียวกัน นำเรือพาสมาชิกชาวกรุงผู้หลงทางจากแสงสีฟ้าของหน้าจอคอม วิ่งแหวกน้ำแตกฟองไปตามแนวหุบเขาที่สองข้างทางเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ แดดที่แสนดีเริ่มจะจรลีหนีหายห่างเราไป ลมเย็นพัดผ่านวูบวาป หอบเอากลิ่นนั้นมาด้วย ใช่…กลิ่นฝน…ซึ่งกำลังจะมาในไม่ช้าไม่เร็วก็เป็นแน่
4.นักผจญภัย หรือ ผู้ประสบภัย
สถานที่แรกแค่เห็นก็เสียวแล้ว “น้ำตกผางามงอน” ช่วงนี้น้ำเยอะมากเพราะเป็นช่วงฤดูฝน สถานที่นี่นับเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่จะต้องปีนป่าย เหนี่ยวเชือก เหยียบปีนความชันขึ้นไปเพื่อจะได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เหมือนปีนลอบไปพบเจ้าหญิงศิริโฉมที่แอบซ่อนอยู่ภายในปราการขนาดใหญ่
เรามีเวลา 30 นาทีสำหรับที่จะพาดวงตาไปพบกับน้ำตกสายเล็ก ๆ อันสวยงามที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง และเอาหูไปสะดับกับเสียงของน้ำที่ตกกระทบโขดหิน เอาหัวใจสัมผัสกับธรรมชาติที่ชุ่มฉ่ำจากความเขียวขจีสดชื่นของพืชน้ำ ตะไคร่ มอสที่ขึ้นปกคลุมหินและขอนไม้ ช่างเป็นภาพที่ลงตัวอย่างกับภาพวาดเสียจริง และนั้นไงความสุขของฉันกำลังจะถูกพรากหายไปพร้อมกับเสียงคำราม ที่จะเปลี่ยนจากนักผจญภัยให้กลายเป็นผู้ประสบภัยในบัดดล
5.ความลับ
หลังจากหยาดน้ำฟ้าโปรยปรายลงมาอย่างหนักหน่วง ชวนเอาเราและพรรคพวกเปียกปอนชุ่มฉ่ำ เรือจอดสนิทเพื่อรอให้ฝนลงเม็ดซาเสียก่อนถึงจะไปยังสถานที่ 2 สองข้างลำเรือฝนตกหนักเป็นสายจนแถบจะไม่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยข้างทางได้ ความสวยงามแบบไหนที่คุณคิดว่าสวยงาม บางทีแบบนี้เราก็ว่าสวยดี
สถานที่สอง เรือแล่นไปต่อเมื่อฝนเริ่มซา ในหน้าน้ำเรือสามารถพาเราไปพบกับ “น้ำตกคลองคราม” ที่เริ่มเป็นสายสีแดงจากอิทธิฤทธิ์ของฝนห่าใหญ่เมื่อครู่นี้ถึงที่ได้โดยไม่ต้องเดิน
และสถานที่สุดท้ายของโปรแกรมล่องเขือ ณ เขื่อนแห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อนเราเคยมาเยือน และนี่คือความลับ หากมาที่แห่งนี้ในช่วงเดือน 6 7 8 เราจะสามารถพบกับทุ่งหญ้าเขียวขจี ที่หลายคนเรียกขานกันว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ที่มีเส้นทางเดินเท้าให้เราออกกำลังวังชาเสพสบพบกับธรรมชาติของเส้นทาง ก่อนจะมาพบน้ำตกที่ซ่อนเร้นแอบกายอยู่ด้านใน ที่แห่งนี้คือ น้ำตกเขาช่องลม หนึ่งในพระเอกของสถานที่แห่งนี้ แต่เดือนนี้เดือน 10
7. No. 7 คนขวายกหมดแก้ว
เหนื่อยกายใจทนเอา เกษตรเรายอมพลีตน… กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อเสบียงพร้อมก็จัดเมนูตามต้องการ หลังจากเข้าบ้านพักที่คิดว่าจะไม่เอ่ยชื่อแนะนำต่อ อันที่จริงที่แห่งนี้ก็ไม่ไช่จะไม่ดีขนาดนั้น แต่เราไม่ชอบตรงทักไลน์ไปโอนจองตามเงื่อนไขแต่เจ้าหน้าที่ไม่สนใจไม่ตอบไม่อ่านเหมือนไม่อยากได้ลูกค้าพูดละโมโหคิดว่าโดนพี่มิจเสียแล้ว... พอ ๆ ไม่บ่นให้เสียเวลาเสียบรรยากาศ กระโดดข้าม Skip ไปถึงตอนอาหารเสร็จ กิจกรรมสังสรรค์แบบนี้ สุรา นารี และใบผักชีก็มีในวงเราครบ
เกมส์วัดใจด้วยไพ่ 1 ใบใครแต้มน้อยยกหมด ความสนุกอาจยังไม่ทั่วถึง เพิ่มเงื่อนไขใครได้ไพ่หมายเลข 7 คนขวามือยกหมดโดยไม่มีเงื่อนไขเข้าไปอีกเพื่อความเมามันส์ และไอดวงเจ้ากรรมของคนที่กำลังพิมพ์บทความนี้อยู่คงเป็นใครไปไม่ได้โดนมันทุกตา ไม่ได้แต้มน้อยกว่าบ้าง ก็โดนคนทางขวาหยิบมาแต่เลข 7 ไม่รู้เป็นอะไร จะออกไปแตะขอบฟ้าแต่เหมือนโชคชะตาไม่เป็นใจ งั้นไม่เป็นไรยกไปยกมาขอไปให้อาหารปลาสักแปบก่อนก็แล้วกัน (อ้xก)…
8.เช้าวันนี้กับเสียงจิ้งหรีด
เสียงลำธารไหลแว่วดังมาไกล ๆ ยามเช้าอากาศเย็นกำลังสบายผิว ความแฮงค์จางหายไปกับราตรีและนิทราแล้ว พี่บอยอิเมจินบอกว่า
ถ้าหากไปมัวกลัวตะวันในตอนเช้ากลับอาการเมาค้างของวันใหม่ก็คงไม่มีวันที่จะเข้าใจความรื่นรมย์สมใจในสุรา คงเป็นเช่นเดียวกันตราบใดที่สายน้ำยังคงไหล เหงื่อเรานั้นยังสามารถไหลเข้าตา นั่นก็หมายความเราเรายังมีลมหายใจ รีบพักและรีบกลับไป ยังไงก็ต้องพบกับความจริง
สวัสดี เสือซ่อนยิ้ม
[CR] ล่องเรือ เขื่อนขุนด่าน
เป็นกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ คือคำพูดในหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เคยดูเมื่อนานมาแล้ว (หากใครรู้ฝากบอกผมทีนะครับ) เราได้สัญญาไว้กับสมาชิกที่ทำงานว่าจะจัดทริปไปเที่ยวกัน ในเมื่อพูดไปแล้วก็จัดไปตามคำเรียกร้อง โดยวางแผนกำหนดเงื่อนไขไว้ง่าย ๆ ที่ขับรถไม่ไกล ไปแบบไม่แพง กิจกรรมไม่ต้องร้อนแรงเหมือนสีน้ำแดง ๆ ในแก้ว และสีของดอกไพ่ที่เรียงรายอยู่ในมือ
รถยนต์ของหมู่คณะจัดแจงแบ่งกำลังพล แล้วนัดเจอกันกลางทางแถว ๆ ห้างค้าส่งขนาดใหญ่บริเวณเมืองนครผู้บริหารประเทศ “นครนายก” ผ่าม ผ่ามมม !!! เปิดฉากโบ๊ะบร๊ะกับหนึ่งในสมาชิกที่จั่วหัวด้วยการเปิดประตูขึ้นรถชาวบ้านที่สีคล้ายกัน ก็ทำเอาเขิลเดินยิ้มแฉงแทบแทรกแผ่นดินหนีกันเลยทีเดียว เยี่ยมนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี ฮาแน่ทริปนี้
ระยะทางกว่า 130 กิโลเมตร กับความเร็วของรถที่วิ่ง 100 กิโลมตรต่อชั่วโมง พาเราไปตามถนนหมายเลข 305 ก่อนจะถึงที่หมายปลายทางแรกของพวกเรา เพื่อเริ่มกิจกรรมที่เหล่าสมาชิกตั้งตาคอย ผู้ใหญ่ 10 ชีวิต กับ 1 เด็กน้อย จัดแจงจับจองที่นั่งสำหรับพาหนะที่เรียกว่าเรือที่จะพาเราโลดแล่นไปบนพื้นธารา ในราคาหัวละ 2 แบงค์แดง แดดที่ร้อนจนแทบหน้าจะไหม้และตับจะแตก บ่งบอกเราว่าอากาศแบบนี้มันต้องสวยมาก ๆ แน่เลย น้ำตกจ๋ารอข้าก่อน จะสวยแค่ไหน จะเป็นอย่างไร ยังไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ ๆ ป้ายเด่นชัด “หมดเขตเทศกาลทุ่งหญ้าเขียวสวิตเซอร์แลนด์”
เรือหางยาวมีพี่หนุ่มผมไม่ยาวเป็นผู้ถือหางเสือและเป็นกัปตันในคนคนเดียวกัน นำเรือพาสมาชิกชาวกรุงผู้หลงทางจากแสงสีฟ้าของหน้าจอคอม วิ่งแหวกน้ำแตกฟองไปตามแนวหุบเขาที่สองข้างทางเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ แดดที่แสนดีเริ่มจะจรลีหนีหายห่างเราไป ลมเย็นพัดผ่านวูบวาป หอบเอากลิ่นนั้นมาด้วย ใช่…กลิ่นฝน…ซึ่งกำลังจะมาในไม่ช้าไม่เร็วก็เป็นแน่
4.นักผจญภัย หรือ ผู้ประสบภัย
สถานที่แรกแค่เห็นก็เสียวแล้ว “น้ำตกผางามงอน” ช่วงนี้น้ำเยอะมากเพราะเป็นช่วงฤดูฝน สถานที่นี่นับเป็นหนึ่งไฮไลท์ที่จะต้องปีนป่าย เหนี่ยวเชือก เหยียบปีนความชันขึ้นไปเพื่อจะได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เหมือนปีนลอบไปพบเจ้าหญิงศิริโฉมที่แอบซ่อนอยู่ภายในปราการขนาดใหญ่
เรามีเวลา 30 นาทีสำหรับที่จะพาดวงตาไปพบกับน้ำตกสายเล็ก ๆ อันสวยงามที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง และเอาหูไปสะดับกับเสียงของน้ำที่ตกกระทบโขดหิน เอาหัวใจสัมผัสกับธรรมชาติที่ชุ่มฉ่ำจากความเขียวขจีสดชื่นของพืชน้ำ ตะไคร่ มอสที่ขึ้นปกคลุมหินและขอนไม้ ช่างเป็นภาพที่ลงตัวอย่างกับภาพวาดเสียจริง และนั้นไงความสุขของฉันกำลังจะถูกพรากหายไปพร้อมกับเสียงคำราม ที่จะเปลี่ยนจากนักผจญภัยให้กลายเป็นผู้ประสบภัยในบัดดล
5.ความลับ
หลังจากหยาดน้ำฟ้าโปรยปรายลงมาอย่างหนักหน่วง ชวนเอาเราและพรรคพวกเปียกปอนชุ่มฉ่ำ เรือจอดสนิทเพื่อรอให้ฝนลงเม็ดซาเสียก่อนถึงจะไปยังสถานที่ 2 สองข้างลำเรือฝนตกหนักเป็นสายจนแถบจะไม่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยข้างทางได้ ความสวยงามแบบไหนที่คุณคิดว่าสวยงาม บางทีแบบนี้เราก็ว่าสวยดี
สถานที่สอง เรือแล่นไปต่อเมื่อฝนเริ่มซา ในหน้าน้ำเรือสามารถพาเราไปพบกับ “น้ำตกคลองคราม” ที่เริ่มเป็นสายสีแดงจากอิทธิฤทธิ์ของฝนห่าใหญ่เมื่อครู่นี้ถึงที่ได้โดยไม่ต้องเดิน
และสถานที่สุดท้ายของโปรแกรมล่องเขือ ณ เขื่อนแห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อนเราเคยมาเยือน และนี่คือความลับ หากมาที่แห่งนี้ในช่วงเดือน 6 7 8 เราจะสามารถพบกับทุ่งหญ้าเขียวขจี ที่หลายคนเรียกขานกันว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ที่มีเส้นทางเดินเท้าให้เราออกกำลังวังชาเสพสบพบกับธรรมชาติของเส้นทาง ก่อนจะมาพบน้ำตกที่ซ่อนเร้นแอบกายอยู่ด้านใน ที่แห่งนี้คือ น้ำตกเขาช่องลม หนึ่งในพระเอกของสถานที่แห่งนี้ แต่เดือนนี้เดือน 10
เหนื่อยกายใจทนเอา เกษตรเรายอมพลีตน… กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่อเสบียงพร้อมก็จัดเมนูตามต้องการ หลังจากเข้าบ้านพักที่คิดว่าจะไม่เอ่ยชื่อแนะนำต่อ อันที่จริงที่แห่งนี้ก็ไม่ไช่จะไม่ดีขนาดนั้น แต่เราไม่ชอบตรงทักไลน์ไปโอนจองตามเงื่อนไขแต่เจ้าหน้าที่ไม่สนใจไม่ตอบไม่อ่านเหมือนไม่อยากได้ลูกค้าพูดละโมโหคิดว่าโดนพี่มิจเสียแล้ว... พอ ๆ ไม่บ่นให้เสียเวลาเสียบรรยากาศ กระโดดข้าม Skip ไปถึงตอนอาหารเสร็จ กิจกรรมสังสรรค์แบบนี้ สุรา นารี และใบผักชีก็มีในวงเราครบ
เกมส์วัดใจด้วยไพ่ 1 ใบใครแต้มน้อยยกหมด ความสนุกอาจยังไม่ทั่วถึง เพิ่มเงื่อนไขใครได้ไพ่หมายเลข 7 คนขวามือยกหมดโดยไม่มีเงื่อนไขเข้าไปอีกเพื่อความเมามันส์ และไอดวงเจ้ากรรมของคนที่กำลังพิมพ์บทความนี้อยู่คงเป็นใครไปไม่ได้โดนมันทุกตา ไม่ได้แต้มน้อยกว่าบ้าง ก็โดนคนทางขวาหยิบมาแต่เลข 7 ไม่รู้เป็นอะไร จะออกไปแตะขอบฟ้าแต่เหมือนโชคชะตาไม่เป็นใจ งั้นไม่เป็นไรยกไปยกมาขอไปให้อาหารปลาสักแปบก่อนก็แล้วกัน (อ้xก)…
8.เช้าวันนี้กับเสียงจิ้งหรีด
เสียงลำธารไหลแว่วดังมาไกล ๆ ยามเช้าอากาศเย็นกำลังสบายผิว ความแฮงค์จางหายไปกับราตรีและนิทราแล้ว พี่บอยอิเมจินบอกว่า ถ้าหากไปมัวกลัวตะวันในตอนเช้ากลับอาการเมาค้างของวันใหม่ก็คงไม่มีวันที่จะเข้าใจความรื่นรมย์สมใจในสุรา คงเป็นเช่นเดียวกันตราบใดที่สายน้ำยังคงไหล เหงื่อเรานั้นยังสามารถไหลเข้าตา นั่นก็หมายความเราเรายังมีลมหายใจ รีบพักและรีบกลับไป ยังไงก็ต้องพบกับความจริง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้