หลายคนถามว่าพรหมลิขิตเมื่อไหร่มันจะเดินเรื่องสักที
ตัวละครใหม่เข้ามาทุกวัน จนเหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกวัน
จนหลายคนมองว่าเดินเรื่องช้า

ต้องยอมรับว่าก็ไม่แปลกใจถ้าพรหมลิขิตใน 2 ตอนแรก
จะเล่าเรื่องแบบที่เห็นกัน เพราะละครมีตอนเยอะกว่าปกติ
แต่นั้นแปลว่า พรหมลิขิตจะกลายเป็นภาคต่อบุพเพที่สมบูรณ์
แบบที่ทุกประเด็นในบุพเพค้างคาไว้ ได้สานต่ออย่างหมดจด
เรียกว่าฉากปิดหน้าต่างของการะเกด คือการปิดฉากการเดินเรื่องของการะเกด
จนคนดูไม่อยากให้การะเกดแก่ หรือลูกของการะเกดโตขึ้นมาเลย
เพราะถือว่าชีวิตของการะเกดได้สมบูรณ์ไปหมดแล้ว
และมันกลายเป็นข้อเสียที่ต้องรับความเสี่ยงที่ บางทีก็ไม่อยากดูพรหมลิขิตแล้ว
เพราะพรหมลิขิตถูกลิขิตให้อยู่ในร่มเงาของบุพเพสันนิวาส

ถึงอย่างนั้น พรหมลิขิตต้องมีเส้นทางต่างจากบุพเพสันนิวาส
พรหมลิขิต ไม่สามารถเล่าเรื่องแบบบุพเพได้
ที่จะเริ่มเล่าจากหญิงชายคู่หนึ่งและครอบครัวเขาจนขยายวงไปเรื่อย ๆ
เพราะตัวละครเขาอยู่ติดกัน เรื่องมันสามารถเล่าแบบนั้นได้
แต่พรหมลิขิต คือ เธอมีอะไรที่ดึงดูดหาเขา
แต่เขาอยู่ใกล้เธอไม่ได้ เพราะมันจะทำให้แม่มีปัญหา
ริดกับพุดตาน จึงไม่สามารถเป็นตัวเดินเรื่องในช่วงต้นได้
และถ้าทำจริง ๆ คุณก็บ่นว่าละครเรื่องนี้จะขายจิ้นอีกแล้ว
จนตอนที่ 6 ริดกับพุดตานถึงได้คุยกันเป็นจริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เพราะพรหมลิขิตไม่ได้ดำเนินเรื่องด้วยริดและพุดตาน
แต่มันเหมือนมีอะไรลิขิตชักพาให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมา
และเมื่อถึงเวลาพรหมนั้นได้ลิขิตให้ทุกอย่างได้มาเจอกัน
พรหมแห่งรัก ของ ริดและพุดตาน
พรหมแห่งบุพเพสันนิวาส ของ เกศสุรางค์กับพุดตาน 
พรหมแห่งอำนาจของ ขุนหลวงท้ายสระ กับริดและพุดตาน
ที่เขาก็สามารถจะลิขิต คนสองคนให้เป็นอย่างไรก็ได้
ซึ่งทั้งหมดมันจะเริ่มเกิดขึ้นพร้อมกันในวันพรุ่งนี้

เมื่ออยู่ในร่มเงาบุพเพสันนิวาสจนพรหมลิขิตไม่รู้จะลิขิตเส้นทางแบบไหน
เป็นเรื่องปกติของละครภาคต่อ เรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้น
อะไรที่อยู่บุพเพสันนิวาสให้มันจบได้แล้ว อย่างหมูกระทะ และ กุ้งเผา
และเปิดใจให้ปลาตะเพียนว่ายเข้ามาบ้าง

คงถึงเวลาที่พรหมลิขิตจะเริ่มทำงานและดำเนินเรื่องด้วยตนเองได้สักที