ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 17
เรื่องพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (เจ้าฟ้าพร) ถวายราชสมบัติแก่พระเจ้าท้ายสระ (เจ้าฟ้าเพชร) ไม่มีบันทึกในพงศาวดารแม้แต่ฉบับเดียว แต่มีเอกสารของต่างประเทศคือ Histoire Civile Et Naturelle Du Royaume De Siam: Et Des Révolutions Qui Ont Bouleversé Cet Empire Jusquén 1770 ของ François Henri Turpin ความว่า
“รัชทายาทของเพทราชา [พระเจ้าเสือ-ผู้เขียน] ทรงมีพระราชโอรสหลายพระองค์ ด้วยเหตุที่พระองค์ไม่พอพระทัยในพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ พระองค์จึงโปรดให้พระราชโอรสองค์ที่สองเป็นรัชทายาท พระราชโอรสพระองค์นี้ทรงแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงคู่ควรกับราชสมบัติอย่างแท้จริงด้วยการปฏิเสธที่จะสืบราชสมบัติด้วยการทำร้ายพระเชษฐา พระองค์ทรงมีเงื่อนไขประการเดียวคือหากพระเชษฐาสวรรคตไปก่อนพระองค์ ราชสมบัติจึงจะตกเป็นของพระองค์ เงื่อนไขนี้ได้รับการยอมรับ พระเชษฐาจึงได้รับสืบทอดราชสมบัติของพระราชบิดา ส่วนพระอนุชาทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระมหาอุปราชหรือรัชทายาทผู้สืบราชสมบัติ
พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาหลายพระองค์ และด้วยเหตุที่ทรงถูกชักนำให้เข้าพระทัยผิดในความรักของพระราชบิดาและพระราชมารดา จึงทำให้ไม่ทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวางดุจดังพระอนุชาที่ทรงประพฤติตนอย่างสูงส่งเป็นแบบอย่าง”
สาเหตุที่พระเจ้าเสือไม่พอพระทัยเจ้าฟ้าเพชร เท่าที่ศึกษามายังไม่พบบันทึกชัดเจนครับ
เรื่องที่พระเจ้าเสือโกรธตอนที่พระโอรสทั้งสองเป็นแม่กองไปถมบึงทำทางเสด็จแล้วช้างพระที่นั่งตกหล่ม มีคนกล่าวว่าอาจทำให้พระเจ้าเสือโกรธเจ้าฟ้าเพชร แต่ตามพงศาวดารก็เป็นความรับผิดชอบของทั้งเจ้าฟ้าเพชร เจ้าฟ้า พร และพระเจ้าเสือก็โกรธระแวงว่าจะเป็นกบฏจนลงโทษเฆี่ยนทั้งสององค์ ไม่ได้โกรธแต่เจ้าฟ้าเพชรคนเดียวครับ
หากให้สันนิษฐาน บางทีอาจเป็นด้วยเรื่องนิสัยใจคอก็เป็นได้ เพราะพระเจ้าท้ายสระแม้จะไม่ปรากฏว่าโหดร้ายเหมือนพระเจ้าเสือ แต่มีบันทึกว่าชอบกิจกรรมแบบเดียวกับพระเจ้าเสือ คือชอบเที่ยวเล่นประพาส ล้อมช้าง จับปลา ล่าเนื้อยิงนก กระทำปาณาติบาตหลายอย่าง
ในขณะที่พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เอกสารสมัยรัตนโกสินทร์นำเสนอภาพว่ามีความเป็น "ธรรมราชา" ตามจารีตประเพณีแบบพุทธ ละเว้นจากการปาณาติบาต ปกครองราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข
พระเจ้าเสืออาจจะมองว่าพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีความเหมาะสมที่จะปกครองแผ่นดินมากกว่าก็เป็นได้ เพราะตัวพระเจ้าเสือเองก็มีบันทึกของดัตช์กล่าวทำนองว่าเคยพูดกับบรรดสขุนนางว่าตัวเองไม่อยากปกครองแผ่นดิน อยากเที่ยวเล่นหาความสำราญมากกว่า
“รัชทายาทของเพทราชา [พระเจ้าเสือ-ผู้เขียน] ทรงมีพระราชโอรสหลายพระองค์ ด้วยเหตุที่พระองค์ไม่พอพระทัยในพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ พระองค์จึงโปรดให้พระราชโอรสองค์ที่สองเป็นรัชทายาท พระราชโอรสพระองค์นี้ทรงแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงคู่ควรกับราชสมบัติอย่างแท้จริงด้วยการปฏิเสธที่จะสืบราชสมบัติด้วยการทำร้ายพระเชษฐา พระองค์ทรงมีเงื่อนไขประการเดียวคือหากพระเชษฐาสวรรคตไปก่อนพระองค์ ราชสมบัติจึงจะตกเป็นของพระองค์ เงื่อนไขนี้ได้รับการยอมรับ พระเชษฐาจึงได้รับสืบทอดราชสมบัติของพระราชบิดา ส่วนพระอนุชาทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระมหาอุปราชหรือรัชทายาทผู้สืบราชสมบัติ
พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาหลายพระองค์ และด้วยเหตุที่ทรงถูกชักนำให้เข้าพระทัยผิดในความรักของพระราชบิดาและพระราชมารดา จึงทำให้ไม่ทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวางดุจดังพระอนุชาที่ทรงประพฤติตนอย่างสูงส่งเป็นแบบอย่าง”
สาเหตุที่พระเจ้าเสือไม่พอพระทัยเจ้าฟ้าเพชร เท่าที่ศึกษามายังไม่พบบันทึกชัดเจนครับ
เรื่องที่พระเจ้าเสือโกรธตอนที่พระโอรสทั้งสองเป็นแม่กองไปถมบึงทำทางเสด็จแล้วช้างพระที่นั่งตกหล่ม มีคนกล่าวว่าอาจทำให้พระเจ้าเสือโกรธเจ้าฟ้าเพชร แต่ตามพงศาวดารก็เป็นความรับผิดชอบของทั้งเจ้าฟ้าเพชร เจ้าฟ้า พร และพระเจ้าเสือก็โกรธระแวงว่าจะเป็นกบฏจนลงโทษเฆี่ยนทั้งสององค์ ไม่ได้โกรธแต่เจ้าฟ้าเพชรคนเดียวครับ
หากให้สันนิษฐาน บางทีอาจเป็นด้วยเรื่องนิสัยใจคอก็เป็นได้ เพราะพระเจ้าท้ายสระแม้จะไม่ปรากฏว่าโหดร้ายเหมือนพระเจ้าเสือ แต่มีบันทึกว่าชอบกิจกรรมแบบเดียวกับพระเจ้าเสือ คือชอบเที่ยวเล่นประพาส ล้อมช้าง จับปลา ล่าเนื้อยิงนก กระทำปาณาติบาตหลายอย่าง
ในขณะที่พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เอกสารสมัยรัตนโกสินทร์นำเสนอภาพว่ามีความเป็น "ธรรมราชา" ตามจารีตประเพณีแบบพุทธ ละเว้นจากการปาณาติบาต ปกครองราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข
พระเจ้าเสืออาจจะมองว่าพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมีความเหมาะสมที่จะปกครองแผ่นดินมากกว่าก็เป็นได้ เพราะตัวพระเจ้าเสือเองก็มีบันทึกของดัตช์กล่าวทำนองว่าเคยพูดกับบรรดสขุนนางว่าตัวเองไม่อยากปกครองแผ่นดิน อยากเที่ยวเล่นหาความสำราญมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
ทำไมพระเจ้าเสือถึงมอบบัลลังก์ให้เจ้าฟ้าพร ทั้งที่เป็นน้อง