ในปี 2477 นวลจัน (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เพิ่งดังจากเพื่อนสนิทนี่คือหนังเรื่องที่ 2 ในชีวิตของเธอ)
สาวตั้งครรภ์เธอเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อหวังตามหาสามีของเธอที่จากไปนานแล้ว และไม่กลับบ้านสักที
ท่ามกลางเบาะแสที่น้อยนิด เธอนั่งสามล้อไปจนพบกับคฤหาสน์หลังนึง เธอเลยตัดสินใจว่าจะขอเจ้าของบ้านเพื่อพึ่งพิงเป็นการชั่วคราว
นวลจันได้พบกับ สมจิตต์ (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์)ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้าน สมจิตต์อนุญาตให้นวลจันพักอยู่ที่นี่ได้เป็นการชั่วคราว
แต่มีข้อแม้ว่าห้ามไปยุ่มย่ามกับเรือนหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่ของเจ้าของบ้านโดยเด็ดขาด นวลจันรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ
อย่างน้อยเธอก็มีที่ซุกหัวนอนแล้ว ที่สำคัญเธอยังมีเพื่อนอย่างช้อย (วิสาข์ คงคา)
ที่เป็นคนใช้ทำงานจิปาถะในบ้านหลังนี้คอยช่วยเหลือเธออยู่อีกคน
นวลจันออกตามหาสามี แต่ก็ไร้วี่แววที่จะได้พบ มิหนำซ้ำท้องเธอก็โตขึ้นทุกทีจะคลอดเมื่อไหร่วันไหนก็ไม่รู้
ขณะเดียวกันบรรยากาศของบ้านหลังนี้ก็เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างคอยจับตามองเธออยู่ทุกฝีก้าว ทุกอย่างดูไม่น่าไว้วางใจเลย....
เปนชู้กับผี เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ฉายในปี พ.ศ. 2549 ผลงานการกำกับของวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
เจ้าของผลงานที่โด่งดังมากมายทั้งฟ้าทะลายโจร.. หมานคร.. และล่าสุดอย่างฆาตกรรมอิหยังวะ
มาบวกกับยอดนักเขียนบทอย่างก้องเกียรติ โขมศิริ ที่มีทั้งงานกำกับและเขียนบทมากมายไม่แพ้กัน (ล่าสุดก็ขุนพันธ์ทั้ง 3 ภาค)
งานของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เราจะเห็นชัดเจนเลยว่าเค้าคือ 1 ในผู้กำกับที่มีสไตล์โดดเด่นเรื่องของการใช้สี
อารมณ์แบบเดียวกับเวส แอนเดอร์สัน คนนั้นเค้าพาสเทลเรียบง่ายสมมาตร..
แต่ของวิศิษฎ์ คือฉูดฉาดเหนือจริงกันเลยทีเดียว อารมณ์แต่งภาพในมือถือแล้วเร่งค่าสีไปเกือบสุดเลยล่ะครับ
แต่มาในเรื่องเปนชู้กับผี ไม่ได้มีสีสันอย่างที่ผ่านมา แน่นอนว่าเรื่องผีบรรยากาศทุกอย่างดูอึมครึม
โทนสีที่ให้แทบที่เราเห็นทั้งเรื่องในฉากตอนกลางวันนั้น อารมณ์เหมือนฟ้าที่มีแต่เมฆหนาปกคลุม แสงแดดส่องไม่ถึง
ดังนั้นฉากต่างๆจะหม่นหมองตลอดเวลา ซึ่งงานทั้งหมดนั้นางผู้กำกับและผู้เขียนบทได้แรงบันดาลใจมาจาก
บทประพันธ์ของครูเหม เวชกร โดยสร้างพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ โดยมีกลิ่นอายของเหม มาผสมผสาน
เปนชู้กับผี คือหนังผีที่สร้างบรรยากาศให้คนดูได้อย่างดีเยี่ยมครับ โดยจำเป็นต้องมีซาวน์ดังๆ หรือ Jump scare มาให้เราต้องตกใจ
(แต่มีบ้างนะนิดนึง) หนังผีที่ดีมันอยู่ที่ตรงนี้จริงๆครับคือทำยังไงก็ได้ให้คนดูรู้สึกตาม
การปรากฏตัวก็มีอย่างครับ บางซีนก็ถือเป็นตำนานอย่างหลอนกันเลยทีเดียว
เสียดายผมว่าหนังเรื่องนี้มาก่อนเวลาไปสักนิดนึง แต่ว่าจนถึงทุกวันนี้คนดูหนังส่วนมากที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว
ต่างก็หยิบยกเปนชู้กับผีมาพูดถึงเสมอในฐานะหนังผีที่ดีที่สุดเรื่องนึงของไทยเท่าที่เคยมีมา
ใน pantip ช่วงเวลานั้นมีการตั้งกระทู้พูดถึงอย่างมากมายถึงจุดสำคัญต่างๆของเรื่อง มีหลายประเด็นมาวิเคราะห์กันต่อว่าเพราะอะไร
และทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เรียกว่าหนังจบคนไม่จบจริงๆ (ลองหาดูนะครับมีเยอะมาก แต่ถ้ายังไม่เคยดู อย่าไปอ่านล่ะเพราะสปอยล์ล้วนๆ)
ที่สำคัญที่สุด เปนชู้กับผีคือหนังผีที่หลอกคนดูได้อย่างสนิทใจ
ถ้าคุณยังไม่เคยดู ลองหาโอกาสชมนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณโดนหลอกจริงๆ (หลอกซ้อนหลอกอีกต่างหาก)...
สุขสันต์วันฮาโลวีนครับ ฝันดีเห็นผีรอบเตียง
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== เปนชู้กับผี (2549) ฉันแค่มาตามหาสามีของฉัน..... ==
ในปี 2477 นวลจัน (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เพิ่งดังจากเพื่อนสนิทนี่คือหนังเรื่องที่ 2 ในชีวิตของเธอ)
สาวตั้งครรภ์เธอเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อหวังตามหาสามีของเธอที่จากไปนานแล้ว และไม่กลับบ้านสักที
ท่ามกลางเบาะแสที่น้อยนิด เธอนั่งสามล้อไปจนพบกับคฤหาสน์หลังนึง เธอเลยตัดสินใจว่าจะขอเจ้าของบ้านเพื่อพึ่งพิงเป็นการชั่วคราว
นวลจันได้พบกับ สมจิตต์ (ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์)ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้าน สมจิตต์อนุญาตให้นวลจันพักอยู่ที่นี่ได้เป็นการชั่วคราว
แต่มีข้อแม้ว่าห้ามไปยุ่มย่ามกับเรือนหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่ของเจ้าของบ้านโดยเด็ดขาด นวลจันรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ
อย่างน้อยเธอก็มีที่ซุกหัวนอนแล้ว ที่สำคัญเธอยังมีเพื่อนอย่างช้อย (วิสาข์ คงคา)
ที่เป็นคนใช้ทำงานจิปาถะในบ้านหลังนี้คอยช่วยเหลือเธออยู่อีกคน
นวลจันออกตามหาสามี แต่ก็ไร้วี่แววที่จะได้พบ มิหนำซ้ำท้องเธอก็โตขึ้นทุกทีจะคลอดเมื่อไหร่วันไหนก็ไม่รู้
ขณะเดียวกันบรรยากาศของบ้านหลังนี้ก็เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างคอยจับตามองเธออยู่ทุกฝีก้าว ทุกอย่างดูไม่น่าไว้วางใจเลย....
เปนชู้กับผี เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ฉายในปี พ.ศ. 2549 ผลงานการกำกับของวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
เจ้าของผลงานที่โด่งดังมากมายทั้งฟ้าทะลายโจร.. หมานคร.. และล่าสุดอย่างฆาตกรรมอิหยังวะ
มาบวกกับยอดนักเขียนบทอย่างก้องเกียรติ โขมศิริ ที่มีทั้งงานกำกับและเขียนบทมากมายไม่แพ้กัน (ล่าสุดก็ขุนพันธ์ทั้ง 3 ภาค)
งานของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เราจะเห็นชัดเจนเลยว่าเค้าคือ 1 ในผู้กำกับที่มีสไตล์โดดเด่นเรื่องของการใช้สี
อารมณ์แบบเดียวกับเวส แอนเดอร์สัน คนนั้นเค้าพาสเทลเรียบง่ายสมมาตร..
แต่ของวิศิษฎ์ คือฉูดฉาดเหนือจริงกันเลยทีเดียว อารมณ์แต่งภาพในมือถือแล้วเร่งค่าสีไปเกือบสุดเลยล่ะครับ
แต่มาในเรื่องเปนชู้กับผี ไม่ได้มีสีสันอย่างที่ผ่านมา แน่นอนว่าเรื่องผีบรรยากาศทุกอย่างดูอึมครึม
โทนสีที่ให้แทบที่เราเห็นทั้งเรื่องในฉากตอนกลางวันนั้น อารมณ์เหมือนฟ้าที่มีแต่เมฆหนาปกคลุม แสงแดดส่องไม่ถึง
ดังนั้นฉากต่างๆจะหม่นหมองตลอดเวลา ซึ่งงานทั้งหมดนั้นางผู้กำกับและผู้เขียนบทได้แรงบันดาลใจมาจาก
บทประพันธ์ของครูเหม เวชกร โดยสร้างพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ โดยมีกลิ่นอายของเหม มาผสมผสาน
เปนชู้กับผี คือหนังผีที่สร้างบรรยากาศให้คนดูได้อย่างดีเยี่ยมครับ โดยจำเป็นต้องมีซาวน์ดังๆ หรือ Jump scare มาให้เราต้องตกใจ
(แต่มีบ้างนะนิดนึง) หนังผีที่ดีมันอยู่ที่ตรงนี้จริงๆครับคือทำยังไงก็ได้ให้คนดูรู้สึกตาม
การปรากฏตัวก็มีอย่างครับ บางซีนก็ถือเป็นตำนานอย่างหลอนกันเลยทีเดียว
เสียดายผมว่าหนังเรื่องนี้มาก่อนเวลาไปสักนิดนึง แต่ว่าจนถึงทุกวันนี้คนดูหนังส่วนมากที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว
ต่างก็หยิบยกเปนชู้กับผีมาพูดถึงเสมอในฐานะหนังผีที่ดีที่สุดเรื่องนึงของไทยเท่าที่เคยมีมา
ใน pantip ช่วงเวลานั้นมีการตั้งกระทู้พูดถึงอย่างมากมายถึงจุดสำคัญต่างๆของเรื่อง มีหลายประเด็นมาวิเคราะห์กันต่อว่าเพราะอะไร
และทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เรียกว่าหนังจบคนไม่จบจริงๆ (ลองหาดูนะครับมีเยอะมาก แต่ถ้ายังไม่เคยดู อย่าไปอ่านล่ะเพราะสปอยล์ล้วนๆ)
ที่สำคัญที่สุด เปนชู้กับผีคือหนังผีที่หลอกคนดูได้อย่างสนิทใจ
ถ้าคุณยังไม่เคยดู ลองหาโอกาสชมนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณโดนหลอกจริงๆ (หลอกซ้อนหลอกอีกต่างหาก)...
สุขสันต์วันฮาโลวีนครับ ฝันดีเห็นผีรอบเตียง
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===