เริ่มชอบการเซอร์ไพรส์ดีไหมนะ?







"ถามว่ามาส่งให้ใคร
คนส่งก็ไม่รู้
ถามว่าที่อยู่จัดส่งถูกใช่ไหม
คนส่งก็ไม่รู้
เดี๋ยวนะฮะ  เดี๋ยว!!  คนรับไม่รู้น่ะ  ไม่แปลก  แต่คนส่งอ่ะ  ต้องรู้ไหม ว่ามาส่งของให้ใครก่อนนนนนนน"
ก่อน  ของเขาที่ลากยาวเชิงเสียดสีนั้น ทำเอาฉันหัวเราะจนตัวโยน    

กุหลาบช่อยักษ์ที่วางเด่นเป็นสง่าอยู่บนโต๊ะรับแขกในร้าน คือที่มาของเรื่องเล่าชวนหัวจากเพื่อนร่วมงานของฉัน

กุหลาบช่อยักษ์ส่งมาตรงกับวันเกิด
เพราะต้องการให้เป็นเซอร์ไพรส์แก่ฉัน
จึงไม่มีการบอกกล่าวใด ๆ ล่วงหน้า    
ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ

ฉัน  ผู้เป็นเจ้าของวันเกิดก็โน่น บินไปฉลองวันเกิดอย่างเอิกเกริก เกรียงไกรกับน้องชายฉันที่เมืองดอกบัวโน่น  

เมื่อกุหลาบช่อยักษ์มาส่งถึงร้านเสริมสวยแมว-หมาเท่านั้น ความอลหม่านบ้านทรายทองอย่างที่เล่าไว้ข้างต้นจึงบังเกิด 
Girl on Fire 
ชื่อกุหลาบช่อนี้ถูกตั้งตามชื่อเพลงของ- Alicia Keys
เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่น ความมั่นใจในตัวเองของหญิงสาว
กุหลาบสีส้ม คือ พลังอันเร่าร้อนของ
กุหลาบสีแดง คือ เสน่ห์อันเย้ายวน
Girl on fire  
ดอกไม้ไฟที่เย้ายวนและน่าหลงไหล
ส่วนทิวลิปสีส้มสดใส ซึ่งเบ่งบานท่ามกลางกุหลาบนั้น เพิ่มความขี้เล่นด้วยเสน่ห์ของวัยเยาว์ที่ไม่เคยจากไปไหน   
Girl On Fire” 
จึงเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกอบอุ่น ความรู้สึกตื่นเต้น และความรู้สึกชื่นชมอย่างแท้จริง ที่ผู้มอบให้มีต่อผู้ได้รับดอกไม้ช่อนี้  
นั่นเป็นคำจำกัดความที่ร้านดอกไม้ให้ไว้เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องเลือกเฟ้นช่อดอกไม้ให้แก่คนพิเศษ ในโอกาสพิเศษ 
She's living in a world and it's on fire
Girl on fire 
คือช่อดอกไม้ที่ส่งมาให้เนื่องในวันเกิด

ฉันไม่อยู่รับความเซอรไพรส์ไง 

คนที่เซอร์ไพรส์จึงเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ ที่ร้อนรนโทรถามไถ่ฉันว่าได้รับช่อดอกไม้ของร้านแล้วหรือไม่ 
ด้วยว่าคนส่งก็กลับไปรายงานแบบงง ๆ ว่า คนรับก็ทำตัว งงๆ  

ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ
ฉันเป็นสาวราศีกันย์  ที่ละเอียดละออ พิถีพิถัน จุกจิก จู้จี้มันไปเสียแทบทั้งนั้น 
ฉันจะรู้สึกสบายมากกว่า หากได้รู้ข้อมูลอะไรใดๆ ล่วงหน้า 
สบายใจมากกว่า หากได้กะเกณฑ์ไว้แล้วว่าชีวิตในแต่ละวันมันจะเป็นไปอย่างไร
ฉันจึงเกลียด การเซอร์ไพรส์ ที่สุด
เพราะนั่นหมายความมว่า  
ฉัน ไม่รู้อไรล่วงหน้า  
มันผิดแผนการใช้ชีวืตของฉัน 
ข้อสำคัญ คือ 
การเซอร์ไพรส์เหล่านั้น 
อาจจะ อาจจะนะ
อาจจะทำให้ฉันแสดง emotion มากเกินไป
ทุกคนในชีวิตที่ใกล้ชิดกัน รักกันมากพอ ปราราถนาดีต่อกันมากพอที่จะให้ของขวัญวันเกิด 
รู้เรื่องนี้ดีที่สุด  
ดังนั้น จนปูนนี้ ฉันมีเซอร์ไพรส์วันเกิดนับครั้งถ้วน 

และ

ยิ่งโตขึ้นมากเท่าไหร่ ความสำคัญต่อวาระนี้ ความตื่นเต้นต่อวาระนี้ก็ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ 

ของขวัญ  ไม่ได้เป็นสาระสำคัญใดอีกต่อไป 

การมีมิตรสหายซื้อหนังสือเล่มใหม่ให้  
ชวนไปกินชาบู บางคนมารับไปกินโรตี บ้างก็มีมาชวนไปกินหมูกระทะ  
นั่นถือเป็นความพิเศษ ที่  อิ่มเอมใจมากล้น จนน้ำตารื้นได้เลยทีเดียว  

แต่ว่า 
กันยายนปีนี้   มีเรื่องให้ประหลาดใจ ไม่เหมือนกันยายนแต่ละปีที่ผ่านมา  

ใครคนหนึ่งที่ฉันคิดว่าไม่น่าจะจำวันเกิดฉันได้  เกิดจำได้ขึ้นมาดื้อ ๆ 

นอกจากจำได้ขึ้นมาดื้อ ๆแล้ว
ก็ยังทำให้มันเป็นเรื่องสำคัญ เป็น big issue  

ตั๋วเรือบินไปกลับ  
เพื่อไปฉลองวันเกิดกับครอบครัวใหญ่ของน้องชายที่หัวเมืองริมโขง 
เป็นของขวัญวันเกิดในวาระที่ใครคนหนึ่งคนรั้น เกิดจำวันเกิดฉันได้ขึ้นมาดื้อ ๆ 

“ฉันเป็นพี่สาวของเธอนะ  
ฉันต้องจำวันเกิดเธอได้สิ”  
ทั้งที่ตลอดชีวิตที่ผ่านมาจนอายุปูนนี้ เราไม่เคยได้พูดถึงเรื่องนี้กันเลยนี่นะ 

“ฉันอยากกอดเธอมากนะ  
มาให้ฉันได้กอดให้ชื่นใจสักครั้งเถอะ”
สปอนเซอร์ตั๋วเรือบินบอกมาหนักแน่น 

  
“ตัวเกิดวันเดียวกันกับพ่อตาเค้าเลย  ที่บ้านทำบุญเลี้ยงพระ ตัวมาร่วมงานบุญด้วยกันสิ” 
น้องชายคนโปรดสำทับมาอย่างนั้น  

ทุกอย่างมีวาระของมัน ฉันว่านะ

ความรัก ความคิดถึงระหว่างกันมันคงปริ่ม ๆ จวนเจียนจะล้นอก
พวกเราต่างโหยหาอ้อมกอดที่คุ้นเคย  
อ้อมกอดที่เปี่ยมด้วยรักล้นใจ
อ้อมกอดที่ไม่ว่าเมื่อไหร่มันก็ยังคงเป้นของเราอยู่อย่างนั้น 

โลกนี้เต็มไปด้วยคนโดดเดี่ยวที่ไม่กล้าแสดงตัวก่อน

ฉันจึงไม่อิดเอื้อน
เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า  
ลางานกับลูกน้องของตนเอง แล้วออกเดินทาง 

ฉันชอบบรรยากาศแบบนั้น  

วันโฮม  
ชาวบ้านมากมาย วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ มุ่งหน้าสู่บ้านพ่อตาของน้องชายฉัน ต่างมารวมกันเพื่อ ช่วยงานบุญ 

เด็กหนุ่ม ชายฉกรรจ์ กุลีกุจอกางเต๊นท์ ตั้งโต๊ะ วางเก้าอี้เพื่อรับรองแขกไปไทยมา 

สาว ๆ ช่วยกันห่อข้ามต้มมัดอย่างชำนาญ  
แผนกห่อก็จับกลีบใบตองพับทบกันคล่องแคล่ว ชวนมอง 
ห่อเสร็จส่งไปให้แผนกมัดนำข้าวต้มประกบกัน ใช้ตอกพันอย่างว่องไว สอดปลายตอกเข้าไว้ จัดวางเรียงข้าวต้มมัดลงในซึ้ง เตรียมส่งต่อให้แผนกนึ่งนำไปจัดการต่อ

แม่ครัวสาวใหญ่ง่วนอยู่กับเมนูอาหาร ลาบปลา หมกหน่อไม้ ปอเปี๊ยะทอด แกงหน่อหวาย แกงไข่ผำ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ส่วนผลหมากรากไม้ ที่ล้าง ผึ่งไว้เตรียมาจัดงจานใหญ่ก็ทำไปอย่างขันแข็ง  
ขนมไทย ขนมฝรั่ง สัมปาปิที่เพื่อนบ้านเอามาร่วมบุญ ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย งามตา

ฉันพินิจดูความขวักไขว่ของผู้คนเหล่านั้นด้วยความปิติ
  
อุ๊บอิ๊บเอาว่า ปีนี้ฉันช่างมีบุญ ได้มีงานวันเกิดที่เอิกเริก เกรียงไกร ราวกับว่า เป็นซุปเปอร์สตาร์ทีเดียว
เพราะว่า
พรุ่งนี้ผู้คนทั้งหมู่บ้านจะมาร่วมฉลองงานวันเกิดของฉัน  

พ่อตาของน้องชายฉันเป็นครูที่เกษียณอายุราชการแล้ว 
หากความดีงามที่สั่งสมมาตลอดนั้น เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้าน และมิตรสหาย 
จึงไม่แปลกอันใดที่งานวันเกิดในหมู่บ้านเลียบโขงแสนไกลนั้น จะอุ่นหนาฝาคั่ง สัมผัสหด้ถึงกระแสแห่งความดีงามที่แต่ละคนกระจายออกมาสู่กัน

Good Vibes

ฉันนั่งเอี้ยมเฟี้ยมรับพรที่พระสงฆ์ทั้ง 9 รูป ต่างร่วมกันสวดให้พรแก่พวกเรา  
 
จากนั้นฉันใส่บาตรด้วยอาหาร ขนม ผลไม้ ที่มีคนจัดเตรียมไว้ให้แก่เจ้าของวันเกิดทั้ง 2 คน พร้อมสรรพ 

ถวายเพล รับพรอีกครั้ง 
กรวดน้ำตามธรรมเนียม 

จึงเป็นช่วงเวลาสู่ขวัญผูกแขนเจ้าของวันเกิด ทั้ง 2 คน  

ผู้เฒ่า ผู้แก่ผูกด้ายสายสิญจน์สีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความดี ความงาม ลงบนข้อมือของฉัน 
ให้ศีลให้พรที่เปี่ยมไปด้วยถ้อยคำแสนดี 
ถ้อยคำที่เป็นมงคลแก่ชีวิต 

“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ ที่คนเกิดวันเดียวกันจะได้มาเกี่ยวดองเป็นญาติพี่น้องกัน แล้วยังได้มาร่วมทำบุญด้วยกันแบบนี้ทั้งที่อยู่ห่างกันแสนไกล 
ถือเป็นบุญที่มีร่วมกัน  
เมื่อเป็นญาติกันแล้วก็ขอให้เป็นตลอดไปนะ”  
ป้าของเมียน้องชายฉันบอกอย่างนั้น ขณะลงมือผูกสายสิญจน์ลงบนข้อมือฉัน 

ขอให้เป็นที่รักของทั้งมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเหยียบย่างไปแห่งหนใดก็ตาม” 
ฉันน้ำตารื้นต่อคำอวยพรที่ช่างจับจิตจับใจนักหนา   

แล้วก็ถึงเวลา โอมากาเสะ 

โอย  สวรรค์ดี ๆ นี่เอง 
ในชุดเอาบุญที่ผู้คนต่างออกปากเป็นเสียงเดียวกันว่า งามแท้   
ฉันถือถ้วยหนึ่งใบ ช้อนอีกหนึ่งคัน เดินตีนเปล่าจากโต๊ะนี้ไปโต๊ะนั้น ชิมอาหารทุกจานให้วุ่นวายไปหมด 
 
“เพิ่นถือว่าไม่มีใครรู้จัก  
ได้ถ้วยใบนึงเพิ่นเดินตักกินรอบงานเลย  เกิบก็ไม่ใส่”  
คุณน้าของเมียน้องชายแซวฉันอย่างเอ็นดู  

ครึ่งวันเช้าของพวกเราหมดไปกับการกิน อาหารเครื่องดื่ม  เต็มคราบ

“มาช่วยกันเฮ็ดเวียก มา”  
น้องชายบัญชาอย่างนั้น 
เมื่อถึงครึ่งวันบ่าย 
ซึ่งเป็นการเก็บกวาด ทำความสะอาด ถ้วยโถโอชามและอุปกรณ์ทั้งหลายที่ยืมของวัดมา เพื่อนำไปส่งคืน ฉันขยันขันแข็งกับการเช็ดถ้วยโถโอชามให้แห้ง หลังการล้างทำความสะอาดแล้ว  ก่อนจัดวางลงตระกร้า แยกนำไปคืนตามแหล่งที่ขอยืมมา    

เสียงเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้นเมื่อมีข้อความส่งเข้ามา  

“ลาล่ามูฟกำลังนำส่งพัสดุหมายเลข….ถึงท่าน”  

น่าจะเป็นการส่งข้อความผิดเบอร์ไหมนะ  ฉันนึกอย่างนั้นทันทีที่อ่านข้อความจบ
   
เพราะฉันไม่ได้สั่งสินค้าออนไลน์ค้างไว้  จึงไม่น่าจะใช่ข้อความที่ผู้ขายต้องการสื่อสารกับฉัน

ช่างมันเถอะ  
ฉันเลิกใส่ใจและหันกลับไปทำงานของฉันต่อไปจนสำเร็จ 

เบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ ที่แสดงบนหน้าจอนั้น  ทำให้ฉันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าจะกดทิ้งดีไหม  
จะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่  

แต่แล้วฉันก็กดรับสาย 

“คุณ…ไหมครับ   ได้รับดอกไม้หรือยังครับ”  ปลายสายทักมาอย่างนั้นทันทีที่ฉันกล่าวคำสวัสดี 

อ้าวเฮ้ย!!! 
Dead Air สิคะจะรออะไร  
นานด้วยสิ

“คนส่งไปส่งดอกไม้ให้คุณ…ที่ร้านครับ คนรับดูท่าทาง งง ๆ เลยโทรมาถามให้แน่ใจว่าได้รับช่อดอกไม้แล้วหรือยัง” 
ปลายสายแนะนำตัวว่าโทรมาจากร้านดอกไม้ย่านสุขุมวิท ก่อนร่ายยาวถึงสาเหคุของการโทรมาหาฉัน

ฉันปฏิเสธว่าขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่จะโทรศัพท์ไปถามไถ่ว่ามีใครรับช่อดอกไม้ไว้หรือไม่

ความประหลาดใจพุ่งพล่านในหัว

ฉันถามรายละเอียดจากเจ้าของร้านดอกไม้เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่
 
“คุณ Geoffrey สั่งออนไลน์ครับ เรารับออเดอร์จากอังกฤษ” 

Girl on fire 
สวย สตรอง รอฉันอยู่ 2 วันเพื่อให้ฉันกลับมาชื่นชม

“watch what I say” 
ขณะพินิจกุหลาบดอกโตหลายทีละดอก 
คำพูดของเจ้าของกุหลาบช่อนี้ก็ชัดเจนราวกับว่าเขามาพูดอยู่ที่ข้างหูฉันนี่เอง

“I kept my word”  
สีหน้าหยิ่ง ๆ ขณะพูดจาคำนั้น ก็ยิ่งชัดเจนราวกับว่า เขาถือกุหลาบช่อนี้มายืนพูดอยู่ตรงหน้าฉัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่