[ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Sinhala และ Tamil
วีซ่า (Visa) : **ตั้งแต่ 31 มีนาคม 67 (ปีหน้า) ไทยอยู่ในรายชื่ออนุมัติฟรีวีซ่าชั่วคราวของประเทศศรีลังกาด้วยนะคะ
ส่วนใครที่อยากเดินทางก่อน ให้กรอก E-visa ที่นี่ www.eta.gov.lk/slvisa มี 4 ขั้นตอนง่ายๆ แต่ระบบ Error บ่อย มีข้อควรระวังดังนี้ค่ะ
1.Address hotel Srilanka ห้ามใส่เครื่องหมาย ( , ) 2.ช่องเบอร์โทร ห้ามใส่ ( + )
3.รีบพิม รีบจ่าย ไม่งั้นระบบรวนค่ะ ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย
(อัพเดทพฤษภาคม 2023)
สกุลเงิน (Currency) : Sri Lankan Rupee
(1 Bath ~ 10 Sri Lankan Rupee) ที่พักบางแห่งรับชำระด้วย USD
Time Zone : ช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง
ก่อนเดินทางเราหาข้อมูลไว้เยอะมาก เที่ยวประเทศศรีลังกาถ้าเลือกขึ้นรถไฟ รถบัสแบบเรา ควรเผื่อเวลาไว้ด้วย และไม่ควรแพลนต่อไฟท์เนื่องจากเวลาไม่แน่นอน ทางเว็บไซต์ ก็ได้แจ้งข้อมูลนี้เหมือนกันค่ะ
เราไปเดือนพฤษภาคม มีเวลา 4 วัน 3 คืน เขียนข้อมูลออกมาไว้เลือกทั้งหมด 4 Route
Route 1 เมืองหลวง Colombo - หาด Negombo -บ้านช้าง Pinnawala - เส้นทาง Ratnapura Trail(Adam’s Peak)
Route 2 เที่ยวเหนือแนวประวัติศาสตร์ จากเมืองหลวง Colombo - Kandy - Sigiriya(World Heritage Site) - Pidurangala - Anuradhapura - Polonnaruwa
Route 3 เที่ยวแนวธรรมชาติ จากเมืองหลวง Colombo - เส้นทาง Ratnapura Trail(Adam’s Peak) - หุบเขา Nuwara Eliya - นั่งรถไฟต่อไป Ella - Hortain Plains National Park
Route 4 เที่ยวใต้แนวชิลบนชายหาด จากเมืองหลวง Colombo - Bentota - Unawatuna - Hikkaduwa - Mirissa - Galle - Matara
การเดินทาง :
ครั้งนี้ไปกับ Srilankan Airlines ค่ะ ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงครึ่ง เครื่องลงจอดช่วงใกล้เที่ยง จากสนามบิน ต้องนั่ง Uber มาลงสถานีรถบัส Katunayake (รถสาย 187) และต่อไปสถานีรถไฟ (Fort railway station)อีกที
รถบัสสาย 187 มี 2 แบบ Express bus แอร์และ Ordinary bus พัดลม ระยะทาง 30 km ใช้เวลา 40-50 นาที ราคา 350 RP ต่อคน
รอบรถไฟเราจองผ่านเวป 12Go (Colombo Fort-Habarana) เมื่อถึงสถานีรถไฟต้องติดต่อเคาร์เตอร์รับตั๋วรถไฟอีกทีนะคะ ขบวนออก 15:05 ถึงตอน 19:24
(ซื้อตั๋วออนไลน์ ที่นี่ seatreservation.railway.gov.lk)
เผื่อเวลาไว้นิดหน่อย เลยมีเวลาเดินเล่นชมตลาดตรงข้ามสถานีรถไฟค่ะ ลืมบอกไปว่าตามที่ลิสต์มา เราเลือกเที่ยว Route 2 นะคะ
ฝากกระเป๋าที่ตู้ Locker ภายในสถานีรถไฟ คิดราคา 120 RP
บริเวณหน้าสถานีรถไฟ และตลาดขายของฝั่งตรงข้าม
ขบวนรถไฟออกจากเมือง Colombo มุ่งสู่ Habarana เรานั่งโบกี้คลาส 2 รับลมธรรมชาติยาวๆชมวิวบ้านช่องผู้คนจนพระอาทิตย์ตกดิน รอบข้างเริ่มมืดสนิท สังเกตว่ารถไฟจอดแต่ละป้ายไม่มีเสียงประกาศ ให้อ่านป้ายเอา เราเองคิดว่า Habarana เป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวลงเยอะ ต้องคอยถามคนบนรถไฟเอา ปรากฎว่าเลยสถานี Habarana ไปอีก 38 โล
สถานีที่เราลง เงียบและเปลี่ยวบรรยากาศเหมือนอยู่กลางป่า แต่คนที่นี่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ทั้งพนักงานโรงแรม Amaya Lake Dambulla ทั้งเจ้าหน้าที่สถานี คอยประสานงานติดต่อตุ๊กตุ๊กให้ ตอนตุ๊กตุ๊กขับออกมาจากป่ามีช่วงเร่งเครื่องบ้างผ่อนเครื่องบ้าง เพราะช้างป่ายืนเรียงริมถนนสองข้างทาง ให้ความรู้สึกเหมือน Night Safari ตื่นเต้นตั้งแต่วันแรกเลย
Sigiriya rock
เชื่อว่าทุกคนที่กำลังหาข้อมูลท่องเที่ยวในศรีลังกา คงไม่มีใครไม่เคยเห็นภาพมรดกโลกทางโบราณคดี ที่ชื่อ Sigiriya นะคะ แท่นหินใหญ่ตั้งตระหง่านเด่นสูงโผล่ขึ้นกลางป่าเขียวครึ้ม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเขต Matale ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 350 เมตร
Sigi แปลว่า สิงโต Riya แปลว่า หิน ย้อนกลับไปสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณหิน Aligala ที่โผล่ด้านตะวันออกของ Sigiriya มีการขุดค้นพบถ้ำที่มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เคยอาศัยอยู่ โดยต่อมากลายเป็นถ้ำที่พระภิกษุใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาของชาวพุทธในยุคนั้น
Sigiriya มีทางเข้า 3 ประตู คือสิงโต ช้าง และงูเห่า เราจ้างไกด์ช่วยแนะนำความเป็นมาของสถานที่นี้ให้ละเอียดขึ้นค่ะ
ผังเมืองรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดยาวจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก โดยมีพระราชวังตั้งอยู่บนหินสูงใจกลางทั้งสองฝั่ง ซึ่งถูกล้อมด้วยกำแพงสูงและคูน้ำลึกเพื่อปกป้องไว้อีกชั้น
พื้นที่ราบด้านหน้าเรียกว่า Water Gardens หรือสวนน้ำพุ จะเจอคนขายกล่องไม้ปริศนา กล่องแห่งความลับนี้คนทั่วไปเปิดไม่ออกนะคะ
พื้นบันไดทางเดินดั้งเดิมจะเห็นเป็นหินอ่อน ส่องประกายวิบวับยามค่ำคืน
ก่อนกษัตริย์จะขึ้นสู่พระราชวังด้านบนต้องผ่านช่องประตู Lion’s Paw ลักษณะเป็นอุ้งเท้ารูปปั้นสิงโตตัวใหญ่หมอบอยู่ ซึ่งยื่นออกมาจากหินทางทิศเหนือ
ขึ้นไปอีกชั้นจะเจอสระว่ายน้ำหลายสระ มีไว้สำหรับหญิงสาวในยุคนั้น ถัดขึ้นไปอีกชั้นเป็นพื้นที่ลานพระที่นั่งของกษัตริย์ไว้ชมกิจกรรมแสดงการร่ายรำ
Sigiriya ทั้งเคยรุ่งโรจน์ และเคยถูกทิ้งร้างให้ป่ารอบข้างกลืนหายไป ต่อมาที่แห่งนี้เริ่มฟื้นคืนโดยคณะวิจัยทางโบราณคดีในปี 1982
ที่นี่เด่นเรื่องการจัดสรรทรัพยากรน้ำค่ะ คนโบราณออกแบบน้ำพุให้ใช้ทั้งพลังแรงโน้มถ่วงและความดัน เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำดินเผาใต้ดิน ออกสู่คูน้ำชั้นนอก
Sigiriya Painting
ภาพวาดหญิงสาวเทพธิดา บนกำแพงหินในถ้ำทางทิศตะวันตก ถูกวาดและแต่งแต้มสีสันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 แต่เป็นบริเวณที่ห้ามถ่ายภาพค่ะ
Sigiriya เปิดเข้าชม 6.30 น. - 19.00 น.
พักทานข้าวมื้อเที่ยงแล้วลุยกันต่อ
Pidurangala rock
ปีนเขาลูกนี้เดินเหนื่อยและทางชันกว่า Sigiriya แต่ชอบเขาลูกนี้เพราะอากาศดีและเงียบสงบกว่าค่ะ
ช่วงแรกต้องผ่านเขตวัด ควรแต่งกายให้สุภาพและถอดรองเท้าด้วย
ระหว่างทางจะเจอพระนอนปิดูรังคลา ยาว 12.5 เมตร ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระพุทธรูปอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต่อมาศีรษะและลำตัวของรูปปั้นถูกทำลายโดยนักล่าสมบัติในช่วงทศวรรษ 1960 แต่ปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นใหม่
เราไม่ได้จ้างไกด์ค่ะ เดินขึ้นมาถึงจุดนึงที่เป็นทางตัน ข้ามไปไหนไม่ได้เลย หินลื่นและน่ากลัวมาก ตัดสินใจนั่งรอคนอยู่พักนึง นานมากจนจะเดินกลับแล้ว น้องหมาตัวนี้ก็เดินสวนขึ้นมา พาปีนมุดแง่นหินเล็กๆที่ไม่น่าเป็นทางขึ้นได้ ขอบคุณพระเอกตัวน้อยน่ารักตัวนี้มากๆเลย
Pidurangala เป็นหินขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากทางเหนือของ Sigiriya หินก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ พื้นผิวด้านบนเป็นเนินสูงชันและเป็นหินแข็ง จุดนี้เป็นวิวที่เรามอง Sigiriya ได้อย่างชัดเจน
ธรรมชาติมุมมองแลนด์สเคปจากลานกว้างแผ่นหินใหญ่สวยงามมาก เราว่าที่นี่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกมากที่สุด อากาศเย็นสบายด้วย
Kandy
มาถึงอีกเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เมืองนี้อยู่ไม่ไกลเมืองหลวง Colombo และไม่ไกล Sigiriya ด้วย Kandy เป็นป่าธรรมชาติล้อมเมือง ใจกลางคือทะเลสาป เราถึงที่นี่คืนก่อนวันวิสาขะบูชา ชาวศรีลังกาเรียกว่าวัน Vesak ในช่วงนี้เองเมืองหลวงเมืองเล็กเมืองใหญ่ต่างก็ประดับธงห้าสี และโคมบูดูเต็มท้องถนน
ตามถนนหนทางที่ขับผ่าน มีคนเสริฟน้ำ เสริฟชา แจกไอศครีม บิสกิต บางที่ก็เลี้ยงข้าวค่ะ
ประเทศศรีลังกานิยมใช้รถตุ๊กตุ๊กเป็นหลัก รถตำรวจก็ใช้นะคะ แชะรูปมาให้เพื่อนๆชมด้วย
เราเดินเล่นแถว Lake จำได้ว่ามีนกตัวขาวๆเกาะเต็มต้นไม้ คืนนี้ผู้คนออกมาทำบุญกันเยอะเลยค่ะ ใกล้ Lake จัดพิธีสักการะพระเขี้ยวแก้ว
Colombo
วันสุดท้ายของทริปเรากลับมาแถวเมืองหลวง วันนี้เป็นวัน Vesak วันหยุดที่ตัวเมืองค่อนข้างจอแจ รถติดมากจากที่ติดอยู่แล้ว ไกด์ช่วยแนะนำให้เปลี่ยนแพลนไปชมพระอาทิตย์ตกแถวชายหาด Negombo แทน
ระหว่างทางกลับเราแวะ Pinnawala Elephant Orphanage แต่ไม่ได้เข้าไปชมช้างด้านในค่ะ
ราคาบัตร (ต่างชาติ)ผู้ใหญ่ 15 USD เด็ก 7.5 USD
Negombo Beach
ชายหาดกว้าง คลื่นแรงมาก ตรงหน้าหาดมีโรงแรม Jetwing Negombo Beach สามารถเช่าสระว่ายน้ำได้นะคะ เราเล่นน้ำจนถึงช่วงค่ำ แล้วเดินออกมาทานข้าวหน้าโรงแรม จากนั้นก็กลับไปสนามบินค่ะ
Sri Lanka 2023
[ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Sinhala และ Tamil
วีซ่า (Visa) : **ตั้งแต่ 31 มีนาคม 67 (ปีหน้า) ไทยอยู่ในรายชื่ออนุมัติฟรีวีซ่าชั่วคราวของประเทศศรีลังกาด้วยนะคะ
ส่วนใครที่อยากเดินทางก่อน ให้กรอก E-visa ที่นี่ www.eta.gov.lk/slvisa มี 4 ขั้นตอนง่ายๆ แต่ระบบ Error บ่อย มีข้อควรระวังดังนี้ค่ะ
1.Address hotel Srilanka ห้ามใส่เครื่องหมาย ( , ) 2.ช่องเบอร์โทร ห้ามใส่ ( + )
3.รีบพิม รีบจ่าย ไม่งั้นระบบรวนค่ะ ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย
(อัพเดทพฤษภาคม 2023)
สกุลเงิน (Currency) : Sri Lankan Rupee
(1 Bath ~ 10 Sri Lankan Rupee) ที่พักบางแห่งรับชำระด้วย USD
Time Zone : ช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง
ก่อนเดินทางเราหาข้อมูลไว้เยอะมาก เที่ยวประเทศศรีลังกาถ้าเลือกขึ้นรถไฟ รถบัสแบบเรา ควรเผื่อเวลาไว้ด้วย และไม่ควรแพลนต่อไฟท์เนื่องจากเวลาไม่แน่นอน ทางเว็บไซต์ ก็ได้แจ้งข้อมูลนี้เหมือนกันค่ะ
เราไปเดือนพฤษภาคม มีเวลา 4 วัน 3 คืน เขียนข้อมูลออกมาไว้เลือกทั้งหมด 4 Route
Route 1 เมืองหลวง Colombo - หาด Negombo -บ้านช้าง Pinnawala - เส้นทาง Ratnapura Trail(Adam’s Peak)
Route 2 เที่ยวเหนือแนวประวัติศาสตร์ จากเมืองหลวง Colombo - Kandy - Sigiriya(World Heritage Site) - Pidurangala - Anuradhapura - Polonnaruwa
Route 3 เที่ยวแนวธรรมชาติ จากเมืองหลวง Colombo - เส้นทาง Ratnapura Trail(Adam’s Peak) - หุบเขา Nuwara Eliya - นั่งรถไฟต่อไป Ella - Hortain Plains National Park
Route 4 เที่ยวใต้แนวชิลบนชายหาด จากเมืองหลวง Colombo - Bentota - Unawatuna - Hikkaduwa - Mirissa - Galle - Matara
การเดินทาง :
ครั้งนี้ไปกับ Srilankan Airlines ค่ะ ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมงครึ่ง เครื่องลงจอดช่วงใกล้เที่ยง จากสนามบิน ต้องนั่ง Uber มาลงสถานีรถบัส Katunayake (รถสาย 187) และต่อไปสถานีรถไฟ (Fort railway station)อีกที
รถบัสสาย 187 มี 2 แบบ Express bus แอร์และ Ordinary bus พัดลม ระยะทาง 30 km ใช้เวลา 40-50 นาที ราคา 350 RP ต่อคน
รอบรถไฟเราจองผ่านเวป 12Go (Colombo Fort-Habarana) เมื่อถึงสถานีรถไฟต้องติดต่อเคาร์เตอร์รับตั๋วรถไฟอีกทีนะคะ ขบวนออก 15:05 ถึงตอน 19:24
(ซื้อตั๋วออนไลน์ ที่นี่ seatreservation.railway.gov.lk)
เผื่อเวลาไว้นิดหน่อย เลยมีเวลาเดินเล่นชมตลาดตรงข้ามสถานีรถไฟค่ะ ลืมบอกไปว่าตามที่ลิสต์มา เราเลือกเที่ยว Route 2 นะคะ
ฝากกระเป๋าที่ตู้ Locker ภายในสถานีรถไฟ คิดราคา 120 RP
บริเวณหน้าสถานีรถไฟ และตลาดขายของฝั่งตรงข้าม
ขบวนรถไฟออกจากเมือง Colombo มุ่งสู่ Habarana เรานั่งโบกี้คลาส 2 รับลมธรรมชาติยาวๆชมวิวบ้านช่องผู้คนจนพระอาทิตย์ตกดิน รอบข้างเริ่มมืดสนิท สังเกตว่ารถไฟจอดแต่ละป้ายไม่มีเสียงประกาศ ให้อ่านป้ายเอา เราเองคิดว่า Habarana เป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวลงเยอะ ต้องคอยถามคนบนรถไฟเอา ปรากฎว่าเลยสถานี Habarana ไปอีก 38 โล
สถานีที่เราลง เงียบและเปลี่ยวบรรยากาศเหมือนอยู่กลางป่า แต่คนที่นี่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ทั้งพนักงานโรงแรม Amaya Lake Dambulla ทั้งเจ้าหน้าที่สถานี คอยประสานงานติดต่อตุ๊กตุ๊กให้ ตอนตุ๊กตุ๊กขับออกมาจากป่ามีช่วงเร่งเครื่องบ้างผ่อนเครื่องบ้าง เพราะช้างป่ายืนเรียงริมถนนสองข้างทาง ให้ความรู้สึกเหมือน Night Safari ตื่นเต้นตั้งแต่วันแรกเลย
Sigiriya rock
เชื่อว่าทุกคนที่กำลังหาข้อมูลท่องเที่ยวในศรีลังกา คงไม่มีใครไม่เคยเห็นภาพมรดกโลกทางโบราณคดี ที่ชื่อ Sigiriya นะคะ แท่นหินใหญ่ตั้งตระหง่านเด่นสูงโผล่ขึ้นกลางป่าเขียวครึ้ม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเขต Matale ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 350 เมตร
Sigi แปลว่า สิงโต Riya แปลว่า หิน ย้อนกลับไปสมัยก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณหิน Aligala ที่โผล่ด้านตะวันออกของ Sigiriya มีการขุดค้นพบถ้ำที่มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์เคยอาศัยอยู่ โดยต่อมากลายเป็นถ้ำที่พระภิกษุใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาของชาวพุทธในยุคนั้น
Sigiriya มีทางเข้า 3 ประตู คือสิงโต ช้าง และงูเห่า เราจ้างไกด์ช่วยแนะนำความเป็นมาของสถานที่นี้ให้ละเอียดขึ้นค่ะ
ผังเมืองรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดยาวจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก โดยมีพระราชวังตั้งอยู่บนหินสูงใจกลางทั้งสองฝั่ง ซึ่งถูกล้อมด้วยกำแพงสูงและคูน้ำลึกเพื่อปกป้องไว้อีกชั้น
พื้นที่ราบด้านหน้าเรียกว่า Water Gardens หรือสวนน้ำพุ จะเจอคนขายกล่องไม้ปริศนา กล่องแห่งความลับนี้คนทั่วไปเปิดไม่ออกนะคะ
พื้นบันไดทางเดินดั้งเดิมจะเห็นเป็นหินอ่อน ส่องประกายวิบวับยามค่ำคืน
ก่อนกษัตริย์จะขึ้นสู่พระราชวังด้านบนต้องผ่านช่องประตู Lion’s Paw ลักษณะเป็นอุ้งเท้ารูปปั้นสิงโตตัวใหญ่หมอบอยู่ ซึ่งยื่นออกมาจากหินทางทิศเหนือ
ขึ้นไปอีกชั้นจะเจอสระว่ายน้ำหลายสระ มีไว้สำหรับหญิงสาวในยุคนั้น ถัดขึ้นไปอีกชั้นเป็นพื้นที่ลานพระที่นั่งของกษัตริย์ไว้ชมกิจกรรมแสดงการร่ายรำ
Sigiriya ทั้งเคยรุ่งโรจน์ และเคยถูกทิ้งร้างให้ป่ารอบข้างกลืนหายไป ต่อมาที่แห่งนี้เริ่มฟื้นคืนโดยคณะวิจัยทางโบราณคดีในปี 1982
ที่นี่เด่นเรื่องการจัดสรรทรัพยากรน้ำค่ะ คนโบราณออกแบบน้ำพุให้ใช้ทั้งพลังแรงโน้มถ่วงและความดัน เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำดินเผาใต้ดิน ออกสู่คูน้ำชั้นนอก
Sigiriya Painting
ภาพวาดหญิงสาวเทพธิดา บนกำแพงหินในถ้ำทางทิศตะวันตก ถูกวาดและแต่งแต้มสีสันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 แต่เป็นบริเวณที่ห้ามถ่ายภาพค่ะ
Sigiriya เปิดเข้าชม 6.30 น. - 19.00 น.
พักทานข้าวมื้อเที่ยงแล้วลุยกันต่อ
Pidurangala rock
ปีนเขาลูกนี้เดินเหนื่อยและทางชันกว่า Sigiriya แต่ชอบเขาลูกนี้เพราะอากาศดีและเงียบสงบกว่าค่ะ
ช่วงแรกต้องผ่านเขตวัด ควรแต่งกายให้สุภาพและถอดรองเท้าด้วย
ระหว่างทางจะเจอพระนอนปิดูรังคลา ยาว 12.5 เมตร ครั้งหนึ่งเคยเป็นพระพุทธรูปอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต่อมาศีรษะและลำตัวของรูปปั้นถูกทำลายโดยนักล่าสมบัติในช่วงทศวรรษ 1960 แต่ปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นใหม่
เราไม่ได้จ้างไกด์ค่ะ เดินขึ้นมาถึงจุดนึงที่เป็นทางตัน ข้ามไปไหนไม่ได้เลย หินลื่นและน่ากลัวมาก ตัดสินใจนั่งรอคนอยู่พักนึง นานมากจนจะเดินกลับแล้ว น้องหมาตัวนี้ก็เดินสวนขึ้นมา พาปีนมุดแง่นหินเล็กๆที่ไม่น่าเป็นทางขึ้นได้ ขอบคุณพระเอกตัวน้อยน่ารักตัวนี้มากๆเลย
Pidurangala เป็นหินขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากทางเหนือของ Sigiriya หินก่อตัวขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ พื้นผิวด้านบนเป็นเนินสูงชันและเป็นหินแข็ง จุดนี้เป็นวิวที่เรามอง Sigiriya ได้อย่างชัดเจน
ธรรมชาติมุมมองแลนด์สเคปจากลานกว้างแผ่นหินใหญ่สวยงามมาก เราว่าที่นี่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกมากที่สุด อากาศเย็นสบายด้วย
Kandy
มาถึงอีกเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เมืองนี้อยู่ไม่ไกลเมืองหลวง Colombo และไม่ไกล Sigiriya ด้วย Kandy เป็นป่าธรรมชาติล้อมเมือง ใจกลางคือทะเลสาป เราถึงที่นี่คืนก่อนวันวิสาขะบูชา ชาวศรีลังกาเรียกว่าวัน Vesak ในช่วงนี้เองเมืองหลวงเมืองเล็กเมืองใหญ่ต่างก็ประดับธงห้าสี และโคมบูดูเต็มท้องถนน
ตามถนนหนทางที่ขับผ่าน มีคนเสริฟน้ำ เสริฟชา แจกไอศครีม บิสกิต บางที่ก็เลี้ยงข้าวค่ะ
ประเทศศรีลังกานิยมใช้รถตุ๊กตุ๊กเป็นหลัก รถตำรวจก็ใช้นะคะ แชะรูปมาให้เพื่อนๆชมด้วย
เราเดินเล่นแถว Lake จำได้ว่ามีนกตัวขาวๆเกาะเต็มต้นไม้ คืนนี้ผู้คนออกมาทำบุญกันเยอะเลยค่ะ ใกล้ Lake จัดพิธีสักการะพระเขี้ยวแก้ว
Colombo
วันสุดท้ายของทริปเรากลับมาแถวเมืองหลวง วันนี้เป็นวัน Vesak วันหยุดที่ตัวเมืองค่อนข้างจอแจ รถติดมากจากที่ติดอยู่แล้ว ไกด์ช่วยแนะนำให้เปลี่ยนแพลนไปชมพระอาทิตย์ตกแถวชายหาด Negombo แทน
ระหว่างทางกลับเราแวะ Pinnawala Elephant Orphanage แต่ไม่ได้เข้าไปชมช้างด้านในค่ะ
ราคาบัตร (ต่างชาติ)ผู้ใหญ่ 15 USD เด็ก 7.5 USD
Negombo Beach
ชายหาดกว้าง คลื่นแรงมาก ตรงหน้าหาดมีโรงแรม Jetwing Negombo Beach สามารถเช่าสระว่ายน้ำได้นะคะ เราเล่นน้ำจนถึงช่วงค่ำ แล้วเดินออกมาทานข้าวหน้าโรงแรม จากนั้นก็กลับไปสนามบินค่ะ