บางคนดูละครแต่ไม่จำชื่อตัวละคร
พอเห็นพ่อลูกเข้าฉากเดียวกัน นั่นก็โป๊ป นี่ก็โป๊ป โป๊ป
แล้วก็บอกเวียนหัวแยกไม่ออกใครเป็นใคร
ดูละครต้องจำชื่อตัวละครด้วยหนาออเจ้ามันจึงจะสนุก

จริงๆ โป๊ปเล่นได้แบบเทพมากนะ คาแรคเตอร์ 3 ตัว ขาดกันชัดเจน แบบไม่ต้องพูดก็ยังรู้ว่าเป็นใคร
คนใส่เสื้อฟ้า หน้าตาเกลี้ยงเกลา ทำผมตามยุคสมัยบุคลิกนิ่งๆ เหมือนพ่อเดช คือ พ่อเรือง อายุ ประมาณ 23 ปี รับราชการอยู่พิษณุโลก
เราจะได้เจอพ่อเรืองตอนต้นเรื่องพ่อเรื่องกลับมาบ้านเดี๋ยวก็จะกลับพิษณุโลกแล้ว
คนใส่เสื้อน้ำตาล มีหนวด ผิวคล้ำกว่าลูกหน่อย บุคลิกนิ่งๆ สุขุม คือพ่อเดช สามีของการะเกด อายุ ประมาณ 40 -​50  ปี + -​
พ่อเดช จะโผล่แบบแว้บไปแว้บมา 
คนใส่เสื้อแดง ทรงผมแอบทันสมัย  หน้าตาทะเล้นบุคลิกเหมือนการะเกด คือ พ่อริด อายุประมาณ 23
เป็นมหาดเล็กคนสนิทของพระเจ้าท้ายสระ เป็นตัวเดินเรื่อง

พรหมลิขิต บทเด่น 80 % จะอยู่ที่ริด 15% พ่อเดช 5% เรือง
ฟังโป๊ปให้สัมภาษณ์ใน Twigh ligh show
การแยกคาแรคเตอร์ตัวละครโป๊ปต้องแยกทั้งบุคลิก แววตา น้ำเสียง ทำแม้กระทั่งเปลี่ยนวิธีการหายใจให้แตกต่างกัน
แฝดเรื่องนี้ต่างจากแฝดเรื่องอื่นที่มักจะดีคนนึงร้ายคนนึงต่างกันชัดเจน
แฝดผู้หญิงหลายเรื่องใช้วิธีคนนึงแต่งหน้าจัด คนนึงแต่งธรรมชาติ ก็ช่วยได้เยอะละ
แต่พอเป็นผู้ชายทั้งพ่อเดช พ่อเรือง พ่อริด เป็นคนดีทั้งสามคน จะแสดงยังไงให้ขาดชัดเจน ยากมากๆ
แถมไม่พอโป๊ปในบทลูกต้องกระชากวัยมาเป็นหนุ่ม 20 ต้นๆ
แต่โป๊ปก็ทำได้ไม่ค้านสายตา แต่คงเหนื่อยมากๆ โป๊ปประกาศว่าขอไม่รับบทแฝดอีกแล้ว

บทพ่อริดพุดตาน ยังไงต้องเป็น โป๊ปเบลลา อยู่แล้ว
แต่บทพ่อเดชการะเกด เอาดาราคนอื่นมาเล่นแฟนละครบุพเพก็ไม่อิน
พ่อแม่อายุประมาณ 40-50
ดาราที่บุคลิกจะเป็นพ่อเดชกับการะเกดได้นึกไม่ออกเลยจริงๆ
แล้วจะทำให้เสียภาพจำ ของ พ่อเดช การะเกด ด้วย
สุดท้ายให้โป๊ปเบลเล่นทั้งรุ่นพ่อแม่และรุ่นลูก
พี่หน่องบอกว่าพรหมลิขิตลงทุนมากกว่าบุพเพสันนิวาส
ผู้จัดก็ต้องเพลย์เซฟเลือกนักแสดงที่มีศักยภาพ
ที่จะพาให้ละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งกระแสและรายได้
ไม่ได้เป็นการประหยัดงบประหยัดนักแสดงแต่อย่างใด
เพราะค่าตัวโป๊ปx3 เบลล่า x3 และยังตัองจ้างแสตนอินเพิ่ม
พี่หน่องบอกเรื่องนี้ใช้นักแสดงถึง 50 คน เยอะที่สุดที่เคยทำมา
ตัวละครเยอะคนดูบางกลุ่มก็บ่นว่าเวียนหัวอีก
ใครไม่เวียนหัว  มารอดูความสนุก ep 5  ด้วยกัน วันจันทร์นี้จ้า