"......: 10-27-2023 :: After Death | "More Hope Than Ever" :......"

10-27-23 :: วันนี้ไปดูหนังเรื่อง After Death รอบ 12:44PM(วันนี้เป็นวันที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรงเป็นวันแรก และรอบฉายเวลานี้เป็นรอบแรกซะด้วย) ตั้งใจไว้ตั้งแต่เห็นโฆษณาหนังเรื่องนี้มาแล้ว และพอไปดูบอกเลยว่าขอให้หนังเรื่องนี้เป็น Movie of the year 2023 for me.

กับยุคสงครามโลกครั้งที่ 3 กำลังเริ่ม กับยุคยาเสพติดล้นโลก กับยุค Organized Gang Stalking กำลังทำลายสังคม ชีวิตผู้คนหลาย ๆ คนต้องพังทลายเพราะคนเหล่านี้ ผู้คนต้องมาตายกันเป็นเบือ เหมือนโลกกำลังอยู่ในช่วงแห่งความสิ้นหลัง อยากให้ผู้คนได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้กันจังเลย จะได้แง่คิดดี ๆ กลับไปเยอะเลย

ปล. 1 :: ในฐานะที่ผ่านประสบการณ์ตรงในช่วง Twin Flame Reunion (รอบสองก็ตั้งแต่ 18 ก.ค. 2553 เรียกว่าเกิดขึ้นแบบปุบปับตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนั้นและก็ลากยาวมาเลย และค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไปตามกาลเวลา ค่อย ๆ ตั้งสติ ค่อย ๆ เยียวยาจิตใจตัวเอง แต่ก็ยังอยู่กับอาการของหัวใจจนถึงวินาทีนี้และอาการนี้รู้สึกตลอดเวลา) หลังจากผ่านประสบการณ์นั้นมาเลยกลายเป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกกลัวความตาย (เพราะ ณ ช่วงเวลานั้นความรู้สึกเราเหมือนครึ่งคนครึ่งวิญญาณเลยก็ว่าได้ เรียกว่าหลุดโลกไปอยู่อีก Dimension นึง เหมือนครึ่งนึงของสติหลุดไปอยู่ในโหมดของวิญญาณเลยก็ว่าได้ มีภาพเล่าเรื่องราวเป็นภาพขาวดำถึงชีวิตในชาติก่อน ๆ ของคนสองคนและคนที่เกี่ยวข้อง แถมสถานที่บางจุดในภาพเล่าเหตุการณ์นั้นบางภาพก็คล้ายกันมากกับสถานที่ที่เราใช้ชีวิตในปัจจุบัน ต่างกันแค่ภาพเล่านั้นเป็นแบบขาวดำและสถานที่นั้นจะมีความเก่าแก่กว่ามาก เหมือนอยู่คนละยุค) และที่สำคัเญส่วนตัวแล้วมีความพร้อมเสมอกับความตาย และจากนั้นกลายเป็นมีความเชื่อแบบ 100% ว่าโลกหลังความตายนั้นมีอยู่จริง และการเวียนว่ายตายเกิดของจิตวิญญาณนั้นมีอยู่จริง เพียงแค่เราไม่รู้ว่าจิตเรา(พลังงาน)นั้นจะไปอยู่ในร่างไหน สถานที่ไหนในชาติต่อ ๆ ไป เรื่องชีวิตหลังความตาย เรื่องวิญญาณเหล่านี้ทางวิทยาศาสตร์เองก็คงจะไม่อยากมองว่ามีจริงเพราะไม่รู้จะหาหลักฐานมาพิสูจน์ยังไงน่ะเนาะ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของคนที่เค้าเผชิญเอง ส่วนคนที่บอกเล่าประสบการณ์ออกไปก็มักจะโดนมองว่าเป็นพวกบ้า พวกหลอน ไปซะ หลาย ๆ คนก็เลยเลือกที่จะไม่เล่า เอาจริง ๆ ถ้ามีเครื่องมือนี่อยากบันทึกภาพเหล่านั้นไว้เลยนะ

ปล. 2 :: หลังจากที่ผู้คนได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจจะช่วยลดอีโก้ ลดความโลภ ลดความเห็นแก่ตัว ลดความเกลียดชัง แก่งแย่งกัน ชิงดีชิงเด่นกัน และอยากหันมาเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น และใช้ความรักเป็นตัวนำ "Love & Peace" เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้แก่งแย่งกันให้ตายแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วทุกชีวิตต่างก็จากโลกนี้ไป มันขึ้นอยู่กับว่าเวลาของใครจะมาถึงก่อนเท่านั้น ที่สำคัญไม่มีใครสมารถเอาอะไรไปด้วยได้ซักคน แม้แต่ร่างกายตัวเองก็ต้องทิ้งไว้ที่โลกนี้และกลายเป็นเศษขยะแค่นั้นเอง

ปล. 3 :: WITH THIS ERA....(DRUGS ERA(BOTH LEGAL DRUGS AND ILLEGAL DRUGS), PRE-WORLD WAR III ERA, ORGANIZED GANG STALKING ERA). WE NEED MOIVE LIKE THIS...."AFTER DEATH" TO REMIND ALL OF US AS THE EARTHLINGS. WHAT WE ARE FIGHTING FOR? WHAT WE'RE GREEDY FOR? WHAT'S THE PURPOSE THAT WE'RE TRYING TO DESTROY EACH OTHER? FOR WHAT? OR JUST FOR FEEDING OUR OWN EGOTIC. I JUST HOPE THIS MOVIE WILL BE THE MOVIE OF THE YEAR 2023, WHICH IT IS FOR ME ALREDAY. ไปดูหนังเรื่องนี้เถอะค่ะ ดูแล้วคิดตามแล้วจะได้แง่คิดเยอะเลย ที่แน่ ๆ จะช่วยลดอาการกลัวความตายของตัวเองลงไปได้ และการปลงและปล่อยวางก็มีเพิ่มขึ้นเยอะเช่นกัน




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  เพลง นักร้องนักดนตรีฝรั่ง เพลงสากล
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่