วันนี้ ได้ฤกษ์งามยามดี มาขอ review รถที่ปัจจุบันใช้มาแล้วประมาณ 10,000 กม. ครับ
ก่อนได้รถ
- ช่วง Motor Expo ธ.ค. 64 ได้ไปเดินดูรถ ตอนนั้น ไม่มีความคิดที่จะออกรถแต่อย่างใด แต่เผอิญไปเห็น Cayman T ราคาพอเอื้อมไหว ประกอบกับหน้ามืดกับรถในฝัน สุดท้ายก็วางจองไป เซลบอกว่า ได้รถช่วงปลายไตรมาส 1 ถึงต้นไตรมาส 2
- แต่พอกลับมาคิดแล้วคิดอีก ในใจก็อยากได้ 911 ให้มันจบ ๆ ไป คิดอยู่ 1 เดือน เลยคิดว่า เอาน่ะ ไหนก็ไหน ให้มันจบ ๆ ไปละกัน เลยเปลี่ยนใจไปจอง 911 แทน (ตัดสินใจช่วงปลายเดือน ม.ค. 65) ซึ่งเซลบอกว่า น่าจะได้รถช่วงไตรมาส 3-4 ยังไม่ชัวร์ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติรอประมาณ 6 เดือน แต่ช่วงนั้นดันมีสงคราม
- สรุป คือ รอกันไป รถมาจริง ๆ คือ ก.พ. 66 เบ็ดเสร็จปีกว่ากว่าจะได้รถ
รายละเอียด option
ตอนนั้น พยายามเอาที่จำเป็นจริง ๆ หลัก ๆ เพราะงบไม่ได้เยอะ
สรุป option ที่สั่งคือ รถสีดำ เบาะแดง / sport exhaust / rear axle / front lift / sport chrono / glass roof / PDLS plus / sport suspension
รีวิวตอนขับขี่
- ตอนรอรถ นั่งดู review ช่อง FOC Drive ที่พูดว่า รถมันดูเกร็งไปหมด ตอนนั้น เราก็สงสัยว่า อารมณ์มันเป็นยังไง
แต่พอได้ขับจริง ๆ ทำให้เข้าใจ feeling ที่เค้าอธิบายเลย เพราะต้องบอกว่า รถมันหนักและดูแข็งแรงตามที่บอกจริง ๆ
แต่กลับกัน เวลาเหยียบไปปุ๊บ มันสนุกมาก แต่ก็ต้องใช้สมาธิและสติอยู่กับรถตลอดเวลา และรู้สึกถึงพื้นถนนเวลาขับอยู่ตลอด
โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งมันแบบยึดเกาะดีมาก
- แน่นอนที่สุด เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ ไม่ใช่รถไฟฟ้า ดังนั้น การออกตัวเทียบกับ Tesla dual motor ก็ลำบากมาก
แต่เนื่องจากเราเป็นคนชอบ feeling ของเครื่องยนต์มากกว่า เลยแบบไม่ได้อะไร
- โหมดที่สนุกสุด คือ โหมด sport ที่ไม่ต้องปรับโช้ค เพราะอัตราเร่งดีและไม่แข็งจนเกินไป
- อีกอย่างคือ เวลาขับไปต่างจังหวด ใช้โหมด manual เปลี่ยนเกียร์เอง ก็สนุกอีกแบบ ปกติก่อนหน้านี้ รถคันก่อน ๆ แทบไม่ค่อยได้ชัดแบบนี้เลย
สิ่งที่ชอบ หลัก ๆ คือ การขับขี่
- ขับสนุกจริงๆ โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง หรือแซง มันแบบมั่นใจมาก
- ระบบเตือนต่าง ๆ เช่น เวลาขับใกล้เกินไป จะมี warning ขึ้น หรือ wet mode เวลาฝนตก ทำให้รู้สึกโอเค
สิ่งที่คิดว่า ไม่ค่อยโอเค ซึ่งแน่นอน รถแบบนี้คงเน้นขับขี่เป็นหลัก แต่จากความเห็นส่วนตัวนะครับ
- เสียงเครื่องยนต์ดังมาก จอดในหมู่บ้าน หรือ start ที คือ รบกวนคนอื่น ๆ อยากให้มี start ไปแบบ hybrid มาก
- อย่าถามหาความนิ่ม ยิ่งเจอถนนเมืองไทย เรียกได้ว่า รับรู้ไปถึงตับไตไส้พุง แถมเจอเวลาขึ้นหรือลงจากที่ชัน เตรียมตัวครืดได้เลย
- รูปทรงทำให้กะระยะเวลาเจอเสา ยากมาก (อันนี้ คงเป็นความเห็นส่วนตัวมาก)
- กล้องถอย (ได้ยินว่า รุ่นอื่นก็เป็นเหมือนกัน) confirm ว่า ไม่ไหวเลยจริง ๆ คือ ควรทำได้ดีกว่านี้
- ที่ปรับพวงมาลัย รุ่นนี้ไม่ใช่ไฟฟ้า เพราะอะไหล่ขาดแคลนเนื่องจากสงคราม
ถ้าใครอยู่ระหว่างตัดสินใจว่า option ไหน จำเป็นไม่จำเป็นก็สอบถามมาหลังไมค์ได้ครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ขอ tag supercar (จริง ๆ ไม่ใช่นะครับ)
[CR] รีวิว Porsche 911 carrera s (992)
ก่อนได้รถ
- ช่วง Motor Expo ธ.ค. 64 ได้ไปเดินดูรถ ตอนนั้น ไม่มีความคิดที่จะออกรถแต่อย่างใด แต่เผอิญไปเห็น Cayman T ราคาพอเอื้อมไหว ประกอบกับหน้ามืดกับรถในฝัน สุดท้ายก็วางจองไป เซลบอกว่า ได้รถช่วงปลายไตรมาส 1 ถึงต้นไตรมาส 2
- แต่พอกลับมาคิดแล้วคิดอีก ในใจก็อยากได้ 911 ให้มันจบ ๆ ไป คิดอยู่ 1 เดือน เลยคิดว่า เอาน่ะ ไหนก็ไหน ให้มันจบ ๆ ไปละกัน เลยเปลี่ยนใจไปจอง 911 แทน (ตัดสินใจช่วงปลายเดือน ม.ค. 65) ซึ่งเซลบอกว่า น่าจะได้รถช่วงไตรมาส 3-4 ยังไม่ชัวร์ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติรอประมาณ 6 เดือน แต่ช่วงนั้นดันมีสงคราม
- สรุป คือ รอกันไป รถมาจริง ๆ คือ ก.พ. 66 เบ็ดเสร็จปีกว่ากว่าจะได้รถ
รายละเอียด option
ตอนนั้น พยายามเอาที่จำเป็นจริง ๆ หลัก ๆ เพราะงบไม่ได้เยอะ
สรุป option ที่สั่งคือ รถสีดำ เบาะแดง / sport exhaust / rear axle / front lift / sport chrono / glass roof / PDLS plus / sport suspension
รีวิวตอนขับขี่
- ตอนรอรถ นั่งดู review ช่อง FOC Drive ที่พูดว่า รถมันดูเกร็งไปหมด ตอนนั้น เราก็สงสัยว่า อารมณ์มันเป็นยังไง
แต่พอได้ขับจริง ๆ ทำให้เข้าใจ feeling ที่เค้าอธิบายเลย เพราะต้องบอกว่า รถมันหนักและดูแข็งแรงตามที่บอกจริง ๆ
แต่กลับกัน เวลาเหยียบไปปุ๊บ มันสนุกมาก แต่ก็ต้องใช้สมาธิและสติอยู่กับรถตลอดเวลา และรู้สึกถึงพื้นถนนเวลาขับอยู่ตลอด
โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งมันแบบยึดเกาะดีมาก
- แน่นอนที่สุด เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์ ไม่ใช่รถไฟฟ้า ดังนั้น การออกตัวเทียบกับ Tesla dual motor ก็ลำบากมาก
แต่เนื่องจากเราเป็นคนชอบ feeling ของเครื่องยนต์มากกว่า เลยแบบไม่ได้อะไร
- โหมดที่สนุกสุด คือ โหมด sport ที่ไม่ต้องปรับโช้ค เพราะอัตราเร่งดีและไม่แข็งจนเกินไป
- อีกอย่างคือ เวลาขับไปต่างจังหวด ใช้โหมด manual เปลี่ยนเกียร์เอง ก็สนุกอีกแบบ ปกติก่อนหน้านี้ รถคันก่อน ๆ แทบไม่ค่อยได้ชัดแบบนี้เลย
สิ่งที่ชอบ หลัก ๆ คือ การขับขี่
- ขับสนุกจริงๆ โดยเฉพาะเวลาเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง หรือแซง มันแบบมั่นใจมาก
- ระบบเตือนต่าง ๆ เช่น เวลาขับใกล้เกินไป จะมี warning ขึ้น หรือ wet mode เวลาฝนตก ทำให้รู้สึกโอเค
สิ่งที่คิดว่า ไม่ค่อยโอเค ซึ่งแน่นอน รถแบบนี้คงเน้นขับขี่เป็นหลัก แต่จากความเห็นส่วนตัวนะครับ
- เสียงเครื่องยนต์ดังมาก จอดในหมู่บ้าน หรือ start ที คือ รบกวนคนอื่น ๆ อยากให้มี start ไปแบบ hybrid มาก
- อย่าถามหาความนิ่ม ยิ่งเจอถนนเมืองไทย เรียกได้ว่า รับรู้ไปถึงตับไตไส้พุง แถมเจอเวลาขึ้นหรือลงจากที่ชัน เตรียมตัวครืดได้เลย
- รูปทรงทำให้กะระยะเวลาเจอเสา ยากมาก (อันนี้ คงเป็นความเห็นส่วนตัวมาก)
- กล้องถอย (ได้ยินว่า รุ่นอื่นก็เป็นเหมือนกัน) confirm ว่า ไม่ไหวเลยจริง ๆ คือ ควรทำได้ดีกว่านี้
- ที่ปรับพวงมาลัย รุ่นนี้ไม่ใช่ไฟฟ้า เพราะอะไหล่ขาดแคลนเนื่องจากสงคราม
ถ้าใครอยู่ระหว่างตัดสินใจว่า option ไหน จำเป็นไม่จำเป็นก็สอบถามมาหลังไมค์ได้ครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ขอ tag supercar (จริง ๆ ไม่ใช่นะครับ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้