เป็นประสบการณ์จากคนใกล้ตัวครับ ขอไม่เอ่ยชื่อบุคล และชื่อสถานที่นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า มีน้องคนนึงเค้าเรียนหมอ น้องเป็นคนที่จริงจังกับงาน เรียกว่าเป็น Perfectionist ก็ว่าได้ จริงจังทุกอย่างและชอบคิดมาก
ชอบเก็บทุกเรื่องมาคิดทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ จากเรื่องเล็กก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ จากเรื่องปกติทั่วไปที่ทุกคนต้องเจอในที่ทำงาน
ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปหมด
รู้จักกับน้องตั้งแต่ปี 1 แล้วครับ ซึ่งตอนเรียนตั้งแต่ ปี 1 จน ถึง ปี 6 น้องเค้าเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ ไม่ค่อยกลัวอะไร
เป็นเด็กเรียนดี ทำงานเก่ง จบเกียรตินิยมอันดับ 1 ซึ่งระหว่างเรียนน้องเค้าก็มีความเครียดนะ แต่ยังพอที่จะจัดการความเครียดได้บ้าง
ยังเป็นคนร่าเริงปกติ คือช่วงตอนเรียนเครียดแต่ยังไม่มีปัญหา ปัญหาคือหลังจากนี้ คือการเริ่มทำงาน
หลังจากเริ่มเข้าทำงานเดือนแรกซึ่งเป็นการวนวอร์ดต่างๆ ซึ่งมันมีปัญหาเล็กๆน้อยๆมาตลอด และเริ่มเครียดมากขึ้น
เริ่มคุมอารมณ์ไม่ได้ ประมาณว่าน้องเป็นคนเป๊ะกับเรื่องงาน ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง ซึ่งตรงนี้มันเป็นข้อดี เพราะ อาจารย์แต่ละวอร์ดที่น้อง
ไปเจอ บางคนเป็นคนที่ดุมากๆๆๆๆ น้องเค้าก็ฟังจากรุ่นพี่จากเพื่อนที่วนมาก่อน ว่าอาจารย์ดุบ้างอะไรบ้าง จนเริ่มมีความกลัว คิดไปเองทั้งที่ยัง
ไม่ได้ลองทำงาน แต่พอได้เข้าไปเจอกับตัวเองจริงๆ มันต่างจากที่คนฟังคนอื่นบอก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะน้องทำงานเก่ง รับผิดชอบงาน ขยันมาก
จนอาจารย์ที่ทั้งรุ่นพี่ ทั้งเพื่อนบอกว่าดุมากๆๆ ยังไม่เคยด่าน้องสักครั้ง ถึงขั้นชวนให้มาอยู่วอร์ดเดียวกันด้วยซ้ำ มาถึงตรงนี้คงจะสัมผัสได้ว่าน้องเริ่ม
มีปัญหากับความคิดตัวเอง เริ่มกังวล เริ่มกลัวทุกอย่าง ทั้งที่ยังไม่ได้ทำ
หลังจากผ่านช่วงแรกในการทำงาน เริ่มมีความเครียดสะสม จนผ่านการทำงานมา 1 ปี อาการเครียดของน้องเริ่มชัดขึ้น เริ่มมีปัญหาในการใช้ชีวิต
ล่าสุดตั้งแต่เดือนกันยาที่ผ่านมา มีปัญหาภายในกับอาจารย์บางคนที่เป็นกล่าวขานว่านิสัยไม่ดีจริงๆ เป็นอาจารย์ที่ไม่มีใครอยากทำงานด้วย มีปัญหาถึงขั้นมีความรู้สึกอยากจะลาออกและได้ไปปรึกษากับอาจารย์ ถึงขั้นเรียกประชุม รวมถึงอาจารย์คนที่ทุกว่าดุก่อนหน้านี้ คนชวนน้องไปอยู่ด้วย ซึ่งอาจารย์ในนั้นได้บอกว่า ถ้าน้องทำให้อาจารย์คนนี้ชวนไปอยู่ด้วยได้ น้องไม่ใช่เด็กทั่วไป น้องต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เพราะที่ผ่านอาจารย์ไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยเลย
อาจารย์ทุกคน เคยทำงานและรู้จักน้องเค้าดีว่า เป็นเด็กขยัน ทำงานเก่ง รับผิดชอบงานดีมาก จนทุกคนไม่อยากให้ลาออก จึงให้เวลาไปพักและคิดทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง
ระหว่างที่หยุดน้องได้ปรึกษาอาจารย์คนนึงที่ไว้ใจได้ที่สุด เพื่อให้อาจารย์นัดอาจารย์จิตแพทย์ให้ เพราะน้องมีความเครียด จนถึงขั้นอะไรนิดๆหน่อยๆ ที่ขัดใจก็จะหงุดหงิด คุมอารมณ์ไม่ได้ หลังจากเข้าไปคุยกับอาจารย์จิตแพทย์ สรุปได้ว่า น้องเริ่มมีอาการ burnout syndrome ซึ่งเป็นภาวะหมดไฟในการทำงาน คือ ภาวะที่บุคคลเกิดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ที่สะสมต่อเนื่องกัน อันเป็นผลพวงมาจากความเครียดและความกดดันในที่ทำงาน หากปล่อยทิ้งนานไว้กว่านี้ อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าได้เลย ซึ่งอาจารย์หลายๆคนที่น้องไปปรึกษาก็ได้บอกว่า หมอ เสี่ยงที่เป็นแบบนี้เยอะมาก ส่วนนึงเพราะระบบของโรงพยาบาลที่น้องอยู่มันไม่ได้ดี เรียกว่าแย่ได้เลยแหละ แล้วตัวน้องเองเป็นคนเป๊ะ จริงจังกับงาน ปล่อยวางไม่เป็น มันเลยทำให้เป็นโรคแบบนี้ได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป อาจารย์รู้ครับว่าปัญหาจริงๆของน้องเค้าไม่ได้มาจากเรื่องการทำงาน แต่มันมาจากระบบการจัดงานของรพ เรื่องคนซะมากกว่า เพราะน้องทำงานดีมาตลอด อาจารย์ที่คนอื่นบอกว่าดุ น้องแทบไม่โดนดุเลย
จากที่ได้คุยกับน้องซึ่งน้องเค้าก็อยากรู้ว่าหมอคนอื่นๆมีอาการแบบนี้บ้างมั้ย ระบบการอยู่เวรที่อยู่เวรนอน(ที่เหมือนไม่ได้นอน) เช้าก็ต้องทำงานต่อ การจัดการงาน พยาบาล อาจารย์แพทย์ หรือเพื่อนร่วมงาน มันทำให้เราเครียด หรือ มันมาจากนิสัยของเราเท่านั้น
ในความคิดส่วนตัว เรื่องนี้มันเกิดจากทั้ง 2ฝ่าย ตัวน้องเองก็มีนิสัยที่แทบจะเป็น Perfectionist พอเจอที่ทำงานแย่ๆ ระบบไม่ดี เจอคนพูดจาไม่ดีไม่มีเหตุผลมันเลยมีความเครียด รู้สึกเบื่อจนอยากลาออก
ส่วนระบบภายใน รพ ที่แห่งนั้นอาจจะไม่ดีจริงๆ เพราะน้องคุยกับเพื่อนหรือใครก็มีแต่คนบ่นอยากลาออก
แล้วคุณหมอคนอื่นละครับ เคยตกอยู่ในสภาวะเดียวกันแบบนี้มั้ย รพที่คุณอยู่ ระบบการทำงาน เพื่อนร่วมงานดีมั้ย แชร์ประสบการณ์หรือแนะนำ รพดีๆเข้ามาได้นะ เพราะตอนนี้น้องเค้าก็ยังมีความคิดอยากลาออก เผื่อจะมีใครแนะนำ รพดีๆ ที่สังคมการทำงานดีๆให้น้องได้ไปลองดูครับ น้องเค้าเป็นคนเก่งมากๆ
ลืมบอกไปว่ามีช่วงที่ไปรับจ๊อบตามรพ ถึงขั้นมีคนไข้อยากนัดตรวจกับน้องเค้าอีก เพราะไม่เคยเจอหมอคนไหนตรวจและอธิบายละเอียดแบบนี้ ^_^
ขอบคุณที่สละเวลากดเข้ามาครับ จะอ่านจบหรือเลื่อนผ่าน ก็ขอให้ผ่านเรื่องเครียดๆไปได้ทุกคนนะครับ
เล่าสู่กันฟัง - ระบบไม่ดีหรือเป็นที่นิสัยเราเอง (หมอ)
เรื่องมีอยู่ว่า มีน้องคนนึงเค้าเรียนหมอ น้องเป็นคนที่จริงจังกับงาน เรียกว่าเป็น Perfectionist ก็ว่าได้ จริงจังทุกอย่างและชอบคิดมาก
ชอบเก็บทุกเรื่องมาคิดทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ จากเรื่องเล็กก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ จากเรื่องปกติทั่วไปที่ทุกคนต้องเจอในที่ทำงาน
ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปหมด
รู้จักกับน้องตั้งแต่ปี 1 แล้วครับ ซึ่งตอนเรียนตั้งแต่ ปี 1 จน ถึง ปี 6 น้องเค้าเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ ไม่ค่อยกลัวอะไร
เป็นเด็กเรียนดี ทำงานเก่ง จบเกียรตินิยมอันดับ 1 ซึ่งระหว่างเรียนน้องเค้าก็มีความเครียดนะ แต่ยังพอที่จะจัดการความเครียดได้บ้าง
ยังเป็นคนร่าเริงปกติ คือช่วงตอนเรียนเครียดแต่ยังไม่มีปัญหา ปัญหาคือหลังจากนี้ คือการเริ่มทำงาน
เริ่มคุมอารมณ์ไม่ได้ ประมาณว่าน้องเป็นคนเป๊ะกับเรื่องงาน ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง ซึ่งตรงนี้มันเป็นข้อดี เพราะ อาจารย์แต่ละวอร์ดที่น้อง
ไปเจอ บางคนเป็นคนที่ดุมากๆๆๆๆ น้องเค้าก็ฟังจากรุ่นพี่จากเพื่อนที่วนมาก่อน ว่าอาจารย์ดุบ้างอะไรบ้าง จนเริ่มมีความกลัว คิดไปเองทั้งที่ยัง
ไม่ได้ลองทำงาน แต่พอได้เข้าไปเจอกับตัวเองจริงๆ มันต่างจากที่คนฟังคนอื่นบอก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะน้องทำงานเก่ง รับผิดชอบงาน ขยันมาก
จนอาจารย์ที่ทั้งรุ่นพี่ ทั้งเพื่อนบอกว่าดุมากๆๆ ยังไม่เคยด่าน้องสักครั้ง ถึงขั้นชวนให้มาอยู่วอร์ดเดียวกันด้วยซ้ำ มาถึงตรงนี้คงจะสัมผัสได้ว่าน้องเริ่ม
มีปัญหากับความคิดตัวเอง เริ่มกังวล เริ่มกลัวทุกอย่าง ทั้งที่ยังไม่ได้ทำ
ล่าสุดตั้งแต่เดือนกันยาที่ผ่านมา มีปัญหาภายในกับอาจารย์บางคนที่เป็นกล่าวขานว่านิสัยไม่ดีจริงๆ เป็นอาจารย์ที่ไม่มีใครอยากทำงานด้วย มีปัญหาถึงขั้นมีความรู้สึกอยากจะลาออกและได้ไปปรึกษากับอาจารย์ ถึงขั้นเรียกประชุม รวมถึงอาจารย์คนที่ทุกว่าดุก่อนหน้านี้ คนชวนน้องไปอยู่ด้วย ซึ่งอาจารย์ในนั้นได้บอกว่า ถ้าน้องทำให้อาจารย์คนนี้ชวนไปอยู่ด้วยได้ น้องไม่ใช่เด็กทั่วไป น้องต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เพราะที่ผ่านอาจารย์ไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยเลย
อาจารย์ทุกคน เคยทำงานและรู้จักน้องเค้าดีว่า เป็นเด็กขยัน ทำงานเก่ง รับผิดชอบงานดีมาก จนทุกคนไม่อยากให้ลาออก จึงให้เวลาไปพักและคิดทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง
ระหว่างที่หยุดน้องได้ปรึกษาอาจารย์คนนึงที่ไว้ใจได้ที่สุด เพื่อให้อาจารย์นัดอาจารย์จิตแพทย์ให้ เพราะน้องมีความเครียด จนถึงขั้นอะไรนิดๆหน่อยๆ ที่ขัดใจก็จะหงุดหงิด คุมอารมณ์ไม่ได้ หลังจากเข้าไปคุยกับอาจารย์จิตแพทย์ สรุปได้ว่า น้องเริ่มมีอาการ burnout syndrome ซึ่งเป็นภาวะหมดไฟในการทำงาน คือ ภาวะที่บุคคลเกิดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ที่สะสมต่อเนื่องกัน อันเป็นผลพวงมาจากความเครียดและความกดดันในที่ทำงาน หากปล่อยทิ้งนานไว้กว่านี้ อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าได้เลย ซึ่งอาจารย์หลายๆคนที่น้องไปปรึกษาก็ได้บอกว่า หมอ เสี่ยงที่เป็นแบบนี้เยอะมาก ส่วนนึงเพราะระบบของโรงพยาบาลที่น้องอยู่มันไม่ได้ดี เรียกว่าแย่ได้เลยแหละ แล้วตัวน้องเองเป็นคนเป๊ะ จริงจังกับงาน ปล่อยวางไม่เป็น มันเลยทำให้เป็นโรคแบบนี้ได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป อาจารย์รู้ครับว่าปัญหาจริงๆของน้องเค้าไม่ได้มาจากเรื่องการทำงาน แต่มันมาจากระบบการจัดงานของรพ เรื่องคนซะมากกว่า เพราะน้องทำงานดีมาตลอด อาจารย์ที่คนอื่นบอกว่าดุ น้องแทบไม่โดนดุเลย
จากที่ได้คุยกับน้องซึ่งน้องเค้าก็อยากรู้ว่าหมอคนอื่นๆมีอาการแบบนี้บ้างมั้ย ระบบการอยู่เวรที่อยู่เวรนอน(ที่เหมือนไม่ได้นอน) เช้าก็ต้องทำงานต่อ การจัดการงาน พยาบาล อาจารย์แพทย์ หรือเพื่อนร่วมงาน มันทำให้เราเครียด หรือ มันมาจากนิสัยของเราเท่านั้น
ในความคิดส่วนตัว เรื่องนี้มันเกิดจากทั้ง 2ฝ่าย ตัวน้องเองก็มีนิสัยที่แทบจะเป็น Perfectionist พอเจอที่ทำงานแย่ๆ ระบบไม่ดี เจอคนพูดจาไม่ดีไม่มีเหตุผลมันเลยมีความเครียด รู้สึกเบื่อจนอยากลาออก
ส่วนระบบภายใน รพ ที่แห่งนั้นอาจจะไม่ดีจริงๆ เพราะน้องคุยกับเพื่อนหรือใครก็มีแต่คนบ่นอยากลาออก
ลืมบอกไปว่ามีช่วงที่ไปรับจ๊อบตามรพ ถึงขั้นมีคนไข้อยากนัดตรวจกับน้องเค้าอีก เพราะไม่เคยเจอหมอคนไหนตรวจและอธิบายละเอียดแบบนี้ ^_^
ขอบคุณที่สละเวลากดเข้ามาครับ จะอ่านจบหรือเลื่อนผ่าน ก็ขอให้ผ่านเรื่องเครียดๆไปได้ทุกคนนะครับ