ชีวิตคือความไม่แน่นอน..จากลูกแมวจรที่ถูกทิ้ง บินลัดฟ้าสู่อเมริกาด้วยค่าตัวที่แสนแพง

กระทู้สนทนา
ตีสี่ครึ่งของวันนี้ (26 ต.ค.66) เป็นเวลานัดหมายกับเอเจนซี่ให้นำแมวทั้ง 3 ตัว ไปส่งที่เดิมที่ไปติดต่อเมื่อวานเพื่อทำเอกสารการส่งออกสัตว์เลี้ยงไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา "ที่เดิม" ที่พูดถึงนั้นหมายถึงบริเวณด้านหน้าอาคารคาร์โก้สนามบินภูเก็ต วันนี้ Mom (แม่)ตื่นแต่เช้ามานั่งจิ๊บกาแฟรอเวลาออกจากบ้านเพื่อให้ไปให้ทันเวลานัดหมาย และเจตนาอยากเจอลูกๆทั้งสามวิ่งเล่นยามเช้าเป็นครั้งสุดท้ายในบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านของลูกสาวคนเล็กของมอมที่ Dad (พ่อ)เรียกว่า Young ซึ่งมอมและแดดนำลูกๆ ทั้งสามคือ Big cat, Medium cat and Small cat โดยมอมและแดดตั้งชื่อให้ตามอายุของลูกแมวทั้ง 3 ขณะนำมาเลี้ยง แมวทั้ง 3 จึงมีชื่อบิ๊ก แคท (เพศผู้) อายุ 6 สีขาวส้ม, มีเดี่ยม แคท (เพศ เมีย) อายุ 5 ปี สีดำ,ส้ม และ ขาว และสมอลแคท (เพศผู้) อายุ 5 ปี อ่อนเดือนกว่ามีเดี่ยมเล็กน้อย สีขาวดำ น้องแมวทั้ง 3 มีกำหนดเดินทางออกจากสนามบินภูเก็ต จุดหมายปลายทางคือสนามบินออร์แลนโด รัฐฟลอริกา สหรัฐอเมริกา ในเวลาประมาณแปดโมงเช้าวันนี้  โดยมีแดดรอรับอยู่ที่นั่น ส่วนมอมยังอยู่ที่เมืองไทยและมีกำหนดการเดินทางตามไปในไม่ช้านี้
         เย็นวานนี้ก่อนถึงกำหนดการเดินทางเช้านี้ก็มีเรื่องให้มอมลุ้นระทึกใจหายใจคว่ำเพราะกลัวตามหาไม่เจอ เพราะว่าบิ๊กแคทหายออกจากบ้าน ไม่รู้หายไปตั้งแต่ช่วงไหน มอมก็มัวก้มหน้าก้มตาสารวนอยู่กับการจัดแจงเอกสาร กว่าจะพบว่าประตูกระจกเลื่อนปิดเปิดหน้าบ้านถูกเปิดเลื่อนออกประมาณคืบกว่า รู้ได้ทันทีว่ามีใครตัวใดตัวหนึ่งเขี่ยประดูแล้วเปิดออกไป ตอนนั้นมอมตกใจมาก รีบมองสำรวจหาแมวในบ้านว่าตัวไหนหายไปบ้าง โล่งใจหน่อยที่เห็นสมอลแคท ยังคงนอนหลับบนโซฟาร์ใกล้ประตูที่มีรอยเปิด ส่วนมีเดี่ยมแคทพบว่านอนหลังอยู่ชั้นบน ที่หายไปคือบิ๊กแคท แม้จะถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่หากตัวใดตัวหนึ่งหายไป เพราะต้องเดินทางไปสนามบินแต่เช้ามืด ขณะนั้นก็เกือบจะหกโมงเย็นแล้วไม่นานก็จะมืดแล้ว มอมตกใจมากแต่ก็พยายามตั้งสติรีบพิมพ์ข้อความส่งไลน์ในกลุ่มหมู่บ้านบอกว่าหากใครพบเห็นแมวสีขาวส้มกรุณาแจ้งให้ทราบด้วย แล้วรีบออกเดินตามหาบีกแคทในซอยต่างๆของหมู่บ้านโดยเริ่มจากซอยที่อยู่ด้านหลังก่อน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ รูปแบบการก่อสร้างของทุกหลังจะดูคล้ายกันหมดแม้แต่รั้วบ้าน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายหากแมวที่ถูกเลี้ยงในบ้านตลอดเวลาเมื่อหลุดออกไปจะสามารถจดจำและกลับบ้านเองได้ และที่สำคัญหลายบ้านหลังรั้วทึบนั้นมีสุนัขพันธุ์ดุรอขย้ำแมวหากมีหลงเข้าไป มอมกึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อตามหาบิ๊กแคทพร้อมภาวนาขอให้เจอก่อนจะมืด เพราะจะยากมากในการตามหา และในที่สุดก็พบว่าแคทยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ติดถนนสองด้านขณะนั้นไม่มีคนอยู่ในบ้านหลังนั้น มอมดีใจอย่างที่สุดรีบเรียกบิ๊กแคท และเห็นเขายืนงงๆคงเริ่มตกใจว่ากลับบ้านไม่ถูก เมือได้ยินเสียงเรียกของมอมก็จำได้และเดินมาหา โชคดีที่ประตูเหล็กหน้าบ้านเป็นซี่เหล็กที่จะเอื้อมมือเข้าไปดึงออกมาได้ ตอนนั้นรู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่ได้ตัวบิ๊กแคทกลับคืนมา ก่อนที่จะหลุดออกจากนอกเขตหมู่บ้านคือรั้วด้านหลังซึ่งอยู่ไม่ไกล ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ยังเมตตาทั้งคนทั้งแมว เพราะกว่าที่มอมและแดดจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆเพื่อที่จะนำน้องแมวทั้ง 3 ไปอยู่อเมริกา ไม่ใช่เรื่องง่ายและค่าใช้จ่ายก็ไม่น้อยเลย (รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างทุกขั้นตอนจนถึงสนามบินปลายทางประมาณหนึ่งแสน+) แดดจะเป็นผู้ขับรถไปรับระยะทางจากบ้านถึงสนามบินออร์แลนโด ฟลอริดา ประมาณ2-3ชั่วโมง
        บิ๊กแคท เป็นพี่ใหญ่ของบ้าน พบเขาครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ขณะมอบกับแดดเดินอยู่ในตลาดปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ขณะนั้นมอบย้ายไปรับราชการที่นั่นและพาแดดที่ถือว่าอาจจะเป็นฝรั่งคนเดียวที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนั้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม  ขณะที่เดินซื้อของก็สังเกตุเห็นลูกแมวตัวหนึ่งเหมือนยังไม่ลืมตาเดินสะเปะสะปะอยู่ใต้รถเข็ญแม่ค้าขายไก่ทอดพร้อมได้ยินเสียงกร่นด่าจากแม่ค้าว่าลูกแมวมา่จากไหนหรือใครเอามาทิ้งแถวนี้ ซึ่งขณะนั้นแม่ค้ากำลังเตรียมข้าวของจะทอดไก่ขาย เขาคงจะรำคาญเพราะมีลูกแมวที่กำลังหิวเดินเกะกะพันแข้งพันขา เมื่อเห็นพวกเราหันไปมอง แม่ค้าก็รีบเอ่ยปากว่าเอาไปเลย เอาไปเลย ไม่รู้ใครเอามาทิ้ง แดดซึ่งเป็นคนที่มีจิตใจดีเมตตาสัตว์ทุกชนิดมาก จึงไม่รีรอที่จะคิดนานและไม่ถามความเห็นใคร เดินไปหยิบลูกแมวตัวนั้นและเดินไปใส่ไว้ในรถ และนำกลับบ้านซึ่งตอนนั้นอาศัยอยู่ในแฟลตที่พักของทางราชการที่จัดไว้ให้และไม่รู้จะตั้งชื่อว่าอะไรจึงเรียกว่าแคท และกลายเป็นบิ๊กแคท เมื่อ2-3ปีต่อมา แดดและมอมพาลูกแมวที่ถูกทิ้งสภาพไม่ต่างจากครั้งแรกที่เจอแคทมาเลี้ยงเพิ่มอีก 2 ตัว และตั้งชื่อว่ามีเดี่ยมแคท และสมอลแคท
       มีเดี่ยมแคทและสมอลแคท มอมเป็นผู้ไปเจอทั้งสองครั้งแรกขณะไปจอดรถและเดินออกกำลังกายบริเวณสุสานหอย 75 ล้านปี สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อยู่ไม่ไกลจากชายหาดอ่าวนาง ขณะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆปิดทำการเนื่องจากเกิดการระบาดของเชื้อโควิดในปีแรกๆ ช่วงที่พบมีเดี่ยมและสมอลราวๆเดือน เม.ย.ปี 2020 สถานประกอบการหลายแห่งปิดตัวลง ทำให้หลายคนประสบปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงานและปัญหามากมายตามที่ทุกคนได้รู้ได้ทราบโดยทั่วกัน จึงเชื่อว่าอาจเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำบาปกรรมไปตกอยู่กับหมาแมวที่มีผู้นำไปทิ้งเป็นจำนวนมาก เพราะความจำเป็นของเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องหยุดงานหรือเดินทางกลับภูมิลำนา หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่อาจทราบได้ทั้งหมด วันนั้นได้พูดคุยกับหญิงมุสลิมสูงวัยใจดี ที่พักอาศันอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าสุสานหอย 75 ล้านปี ว่ามีคนนำแมวมาทิ้งเป็นจำนวนมาก และหลายคอกเป็นแมวเพิ่งแรกเกิด มารายนำมาพร้อมผ้าห่มและของเล่นแมว เธอบอกว่ามะก็ดูได้เท่าที่ทำได้เพราะมีเยอะเกิน ตายไปก็เยอะแล้ว เพราะเดินออกไปกลางถนนบางครั้งมีรถเข้ามาสุสานหอยแล้วพบว่าประตูทางเข้าปิดก็จะกลับรถออกไป โดยไม่ทันสังเกตว่ามีลูกแมวเดินเพ่นพ่านเพราะความหิว พร้อมกันนั้นผู้หญิงสูงวัยใจดีที่มอมเรียกว่ามะก็พาเดินไปดูจุดที่แมวหลายตัวยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่ พบว่าเป็นภาพที่น่าสงสารเพราะมีลูกแมวหลายตัวหลายสีหลายขนาด เดินสะเปะสะปะกินดินกินทรายสภาพมอมแมมเลอะเทอะ  สังเกตุเห็นมีตัวหนึ่งกำลังเดินอยู่บนหลังคาที่เป็นร้านค้าแต่ช่วงนั้นร้านค้าปิดทั้งหมดจึงไม่มีอาหารหลงเหลือให้แมวจรจัดหริอแมวที่มีคนนำไปทิ้ง มะบอกว่าแมวตัวนั้นชอบอยู่บนหลังคาหาจับแมลงจับจิ้งจกบนหลังคาเป็นอาหาร จึงรอดอยู่ตัวเดียวจากคอกเดียวกันที่มีคนนำมาทิ้งหลายตัว..
      รู้สึกสงสารแต่ก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร เพราะที่บ้านก็มีหนึ่งตัวแล้วคือบิ๊กแคทที่เก็บมาจากปาดังเบซาร์ และยังมีน้องหมาชิวาวาเล็กๆอีก 2 ตัว ที่แดดนำมาจากอเมริกาตั้งแต่ปีแรกที่เดินทางมาปักหลักพักอาศัยกับภรรยาคนไทยที่แดดเรียกแทนแมวว่ามอม และที่สำคัญในขณะนั้นหน่วยงานต้นสังกัดที่มอมจะต้องปฏิบัติงานประจำก็ยังไม่แน่นอน ยังมีการโยกย้ายบ่อยครั้ง จึงไม่สะดวกนักที่จะหอบหิ้วสัตว์เลี้ยงหลายตัวไปยังที่ต่างๆ บ้านพักที่อ่าวนางกระบี่ ซึ่งอยู่อาศัยในขณะนั้นก็เป็นเพียงบ้านเช่าที่พร้อมจะย้ายได้ตลอดเวลา
      เมื่อกลับไปถึงบ้าน จึงเล่าให้แดดฟังเกี่ยวกับลูกแมวที่ไปพบเห็นที่สุสานหอย 75 ล้านปี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก เมื่อฟังแล้วแดดก็สนใจอยากไปดู มอมจึงขับรถพาแดดไปดูลูกแมวบริเวณนั้นอีกครั้ง เมื่อแดดไปเจอก็มีท่าทีจะพากลับมาเลี้ยงมาบางส่วน จากพื้นฐานจิตใจที่เป็นคนรักสัตว์เมื่อเหตุแล้วจึงนิ่งดูดายไม่ได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะดูแลได้ทั้งหมด ขณะนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหน อาจเป็นความโชคดีหรือเป็นบุญของสมอล เพราะหน้าบ้านหลังนั้น(เป็นห้องแถวที่ปลูกสร้างติดกันหลายคูหา เพื่อเป็นร้านค้าในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว) มีโต๊ะเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงนั้น และไม่รู้ว่าสมอลขึ้นไปอยู่บนโต๊ะได้อย่างไร สภาพของสมอลคือผอมมากและพุงโต (ทราบภายหลังว่าเป็นพยาธิ)คงเกิดจากการกินดินกินทรายหรือสิ่งของสกปรกเพื่อประทังความหิว แดดเป็นฝรั่งพุงโตที่ไม่สะดวกจะก้มไปเลือกหาว่าจะเอาแมวตัวไหน จึงหยิบสมอลที่อยู่บนโต๊ะเพราะหยิบง่ายกว่าตัวอื่นๆ สมอลจึงเป็นตัวแรกที่ถูกเลือก และที่น่าประหลาดใจมากกว่า คือมีเดี่ยมแคท ที่ครั้งแรกเห็นเดินอยู่บนหลังคา มีชีวิตอยู่ได้ลำพังโดยไม่ง้อใครไม่สนใจใคร ในขณะนั้นกลับเดินลงจากหลังคามาหาแดดที่กำลังจะเลือกแมว วันนั้นจึงได้แมวกลับมาเลี้ยง 2 ตัว คือมีเดี่ยมแคท และ สมอลแคท รวมกับแคทเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วและถูกเรียกว่าบิ๊กแคทตั้งแต่บัดนั้น
      หลายปีผ่านมามีเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นกับครอบครัวแดดและมอบรวมถึงสัตว์เลี้ยงทุกตัว  ซึ่งมอมซึ่งเป็นนักขีดเขียนหรือนักเล่าคงจะนำมาบอกกล่าว อับเดทเรื่องราวความเป็นไปของทั้งคนและสัตว์เลี้ยงซึ่งเปรียบเสมือนสมาชิกของครอบครัวเป็นระยะ
      วันนี้ ณ เวลานี้ น้องแมวทั้ง 3 ตัว กำลังบินอยู่บนฟ้ากับสายการบินอาหรับเอมิเรต  มุ่งสู่สหรัฐอเมริกา เพื่อไปอยู่กับแดดกับบ้านของเราทุกคนทุกตัวที่นั่น ฝากติดตามชมเรื่องราวความเป็นไปของน้องแมวทั้ง 3 สัตว์เลี้ยงทุกตัวในบริเวณบ้านที่ฟลอริดา และความเป็นมาเป็นไปของแดดและมอมที่เป็นเหมือนพ่อและแม่ของสัตว์เลี้ยงทุกตัวและเมตตาปราณีไปยังสัตว์โลกทุกชนิดที่พบเห็นได้ที่นี่นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอ่านจนจบค่ะ ขอให้โชคดีมีความสุขค่ะคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่