ดอยกิ่วลม ทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังอำเภอปางมะผ้า จุดแวะจอดถ่ายรูปกับมุมที่มองเห็นวิวทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อน ดื่มด่ำสายฝนพรำจาง ๆ ที่นำเอาหมอกและลมบาง ๆ มาปะทะร่างให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาโดยพลัน..สวยกว่าเราก็เขานี่แหละ..ฮิ้ววว 

 ร้ายก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ อ.ปางมะผ้า ทั้งทางขึ้นและลงเขาชันเบอร์แปดจุดห้า (คหสต.) คือตัวก๋อยอ่ะไม่สามารถขับได้อ่ะนะ คนที่ขับต้องค่อนข้างมีความชำนาญ มีความมั่นใจ และรถก็ต้องมีสมรรถนะที่ดีระดับหนึ่งเลย ขับกันแบบระวังมาก ๆ เพราะเป็นช่วงหน้าฝนที่ถนนค่อนข้างลื่น (ยางรถสำคัญมากจีจี) เวลาผ่านแต่ละโค้งก็ทำเอาเสียวแวบบบบบ โดยเฉพาะเวลาโค้งลงเขา..แต่เมื่อไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านจ่าโบ่แล้ว..เรากลับลืมความกลัวไปจนหมดสิ้น...โสยเนาะ!
 
ถ้ำน้ำลอด ความจริงที่แวะคือเราเห็นป้ายถ้ำลอดตั้งแต่เข้าเขตแม่ฮ่องสอน ระหว่างทางจะมีป้ายถ้ำลอดขึ้นเป็นระยะ ๆ ก็เลยเอ๊ มันต้องมีอะไรดีสิน่า ก็เลยวนรถกลับไปเที่ยวชมถ้ำลอด แต่ ๆ ๆ ดันสวยอลังวังเว่อร์เบอร์ตองซะงั้น ไปอ่านข้อมูลของถ้ำน้ำลอดตามลิงค์ได้เลยนะจ๊ะ แล้วเพื่อน ๆ จะร้องว้าว ว้าว และว้าว เลยหละ https://travel.trueid.net/detail/ewy25EK5bZnV    
 
 จุดชมทะเลหมอกหยุนไหล หยุนไหลอะไร ชื่อฟังแปลกหูจริงเชียว? ไปชมทะเลหมอกที่หยุนไหลงัย ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับคนที่อยากมาชมทะเลหมอกที่แม่ฮ่องสอนจ้า วิวดี๊ดี แถมยังเป็นที่สำหรับกางเต๊นท์อีกด้วย เจ้าของกิจการเดาว่าเป็นชาวจีนยูนนานที่เข้ามาตั้งรกรากทำมาหากิน เพราะก่อนทางขึ้นเขาหยุนไหลก็จะผ่านหมู่บ้านทรงจีนยูนนานที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนจ๋า ๆ เลยจ้า ตรงจุดนี้ก๋อยได้เช่าชุดถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ๊ย..ที่ระลึก 1 เซ็ท เสียดายที่อ้ายกากกับพ่อไม่ยอมใส่ชุดด้วยน่ะสิ..ก็เลยมีแต่ภาพสาว(เหลือ)น้อย อย่างก๋อยและแม่นั่นเอง แหะ ๆ ๆ     
 
 และสุดท้ายถ้ำผานางคอย จ.แพร่ (อันนี้ไปแบบงงจริง ถ้าไม่ใช่คนแถบทางถิ่นนี้ก็อาจไม่ค่อยให้ความสนใจมากสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วถ้ำผานางคอยนั้นมีตำนานที่ทำเอาจึ้งมาก ๆ เกี่ยวกับความรักของสตรีนางหนึ่งที่มีต่อชายคนรัก แต่สุดท้ายจบเศร้าจนเป็นที่มาของชื่อถ้ำที่ทำเอาเราสะเทือนใจไม่น้อย..ตรงนี้ก๋อยอยากให้คนที่มีโอกาสผ่านไปทางจังหวัดแพร่ลองปักหมุดและไปเดินเที่ยวดู ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น คือถือว่าเป็นถ้ำที่สวย สงบ และร่มรื่น แถมทางเดินไป-กลับตรงทางเข้าไปถึงถ้ำก็ไม่ไกลและไม่ลำบากอะไรเลย เพื่อน ๆ ลองตามไปอ่านข้อมูลจากลิงค์นี้ได้นะ https://www.museumthailand.com/th/3520/storytelling/
++ การเดินทางหน้าฝนอย่างที่ก๋อยเคยบอกว่ามันดีตรงคนเที่ยวไม่มาก ไม่แออัด เวลาไปใช้บริการสาธารณะที่ไหนก็ไม่ต้องรอคิวนาน แถมอากาศก็ดีเพราะฝนตก อากาศไม่ร้อนรุนแรง วิวทิวทัศน์เขียวขจีมองไปทางไหนก็สบายตาพาให้สบายหัวใจ ++
 
/// เราออกเดินทางล่วงหน้าไปพักบ้านอ้ายกากที่อุตรดิตถ์ก่อนคืนนึงเพื่อร่นระยะทางเข้ามาอีกสัก 1 ถึง 2 ชั่วโมง..คือดีย์จริงตื่นสายได้และไม่ต้องรีบไม่ต้องร้อน..แต่จะว่าไปทริปนี้เป็นทริปที่ร้องว้าวบ่อยมากเลยนะ นั่นเพราะวิวรายทางขณะที่รถเคลื่อนไปยังอำเภอทางผ่านต่าง ๆ นั้นสวยจริง สวยสุด อลังการไปด้วยแนวทิวเขาสลับซับซ้อน ยิ่งหน้าฝนด้วยแล้ว เขียวสุด ๆ ไปเล้ยยยย /// 

/// จากที่แพลนไว้เราจะสามารถเดินทางจากอุตรดิตถ์ไปปายโดยใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่เหนื่อยจนเกินไป และด้วยความที่มี สว. ไปด้วย เราจำเป็นต้องจอดรถพักเป็นระยะ ๆ เพื่อเซฟร่างกายผู้โดยสาร และเพื่อให้โชเฟอร์ได้ผ่อนคลายอิริยาบถเหยียดแข้งขา อื้มมม ต่อนยอนต๊ะต่อนยอน...แฮปปี้ดีต่อตับไตไส้พุงและถุงน้ำดี ///
“ทางไปปายกี่โค้งนะ” พ่ออ้ายกากถาม 
“ก็ราว ๆ พันนิด ๆ 
“อืม พอได้อยู่”
 
++ ถนนพันโค้ง แน่นอนว่าคนเมารถต้องคิดหนักแน่ แต่เพราะเราผ่านเส้นทางไปอุ้มผางมาแล้วถือว่าเราผ่านบททดสอบที่ยากมาได้ระดับหนึ่ง ซึ่งถ้ามองจากภาพรวมเส้นทางไปปายยังมีถนนที่กว้างกว่าแถมขับสบายกว่าทางไปอุ้มผางเป็นไหน ๆ ++ 
 
+++ แต่สรุปว่า..รอดทุกคน ไม่มีใครอ้วกจ้า! เข้าโค้งนิ่งกรุบตลอดเส้นทาง ปรบมือให้โชเฟอร์ 3 แปะ ขอบพระคุณหลาย ๆ จ้า ชีวิตของพวกเราอยู่ในมือคุณจริง ๆ น้าาาา +++
 
/// ประมาณนี้จ้า โค้งไปโค้งมา โค้งมาแล้วก็โค้งงงงงงไป จะบอกว่าเส้นทางถ้านับตั้งแต่เข้าอำเภอแม่แตงแล้วล่ะก้อ สวยอย่าบอกใครเลยล่ะเพื่อน ๆ.. ยิ่งขากลับซึ่งเราใช้อีกเส้นทางที่จะผ่านไปทางดอยอินทนนท์ คือไม่ต้องพูดถึง สวยสุดอะไรสุด หรือว่าเราเริ่มตกหลุมรักเชียงใหม่เข้าให้แล้ว ///