พอดีผมทำงานอยู่โชว์รูมรถแห่งนึง ซึ่งเจ้าของหรือหัวหน้าผมคนนี้ตอนแรกเค้าบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย สรุปแล้วคือเรื่องที่ผมมีกลิ่นตัว เค้าให้ผมกลับไปแก้ปัญหามา เพราะเค้ารู้สึกไม่โอเค ผมก็กลับไปแก้ปัญหาหลายอย่างเช่น การตัดเล็บบ่อยขึ้นให้ไม่มีกลิ่นมือกลิ่นเท้า รองเท้าที่มันอับก็ซัก แต่วันไหนที่ฝนตกแล้วรองเท้าไม่แห้งก็แก้ปัญหาโดยใช้แป้งโรยเอาก่อน ปกติผมใช้นสพ. แต่ช่วงนี้มันไม่มีขาย เรื่องกลิ่นตัวผมก็อาบน้ำถูสบู่มากขึ้น จากวันนึงผมอาบแค่5-10นาที แต่เดี๋ยวนี้ผมอาบน้ำไม่ต่ำกว่าครึ่งชม. อาจจะไม่ได้ใช้น้ำหอมเพราะผมเคยใช้แล้วมันอยู่ได้ไม่นานก็เป็นเหมือนเดิม ลูกกลิ้งโคโลญจน์ก็มีกลิ่นติด ผมเลยแก้เพิ่มโดยโกนขนรักแร้ออก ซึ่งผมทำแบบนี้ทุกเช้าก่อนไปทำงาน แต่สุดท้ายช่วงหัวหน้ามาที่โชว์รูมกลิ่นตัวผมก็มีเหมือนเดิมทั้งๆที่ผมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเต็มที่แล้ว วันนี้หัวหน้ามาบอกผมว่า ถ้าแก้ไม่ได้ก็ออกจากงานไป แต่เค้าใช้คำพูดที่ด่าผมแบบไอเห้ ไอanimal บอกว่าเค้าไม่อยากยุ่งกับปัญหากระบือๆ(จริงๆหยาบกว่านี้) แล้วมาด่าบิดาผมตาย บอกผมไม่มีความสามารถการทำงานด้านนี้ (ผมเคยทำงานฟรีแลนซ์เซลล์รถบ้านมาก่อน ซึ่งมันขายยากมากถ้าลูกค้ารู้ง่าเป็นรถเต๊นท์ แต่ที่ทำปัจจุบันเป็นรถหรูคันไม่ตำกว่าล้าน บางคัน50ล้าน) ผมเข้าใจว่าผมอาจจะยังเก่งพอที่จะงานที่นี่ แต่ผมเริ่มงานนี้ไม่ถึงเดือนเลย แต่เหมือนถูกปิดกั้นไม่ให้ได้เรียนรู้อะไรก่อน ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นเค้าก็ขายไม่ได้สักคัน แถมยังให้ผมทำงานส่วนอื่นที่ผมไม่ได้สมัครตำแหน่งนั้นด้วย แต่คนอื่นไม่เคยถูกว่าขายไม่ได้ อาจจะเพราะมีอายุป้วหรือเคยเป็นคนใหญ่คนโตมาก่อนรึเปล่าก็ไม่ทราบ แต่หลักคือเค้าเหมือนพยามให้ผมออกเพราะเค้าไม่โอเคเรื่องกลิ่น แต่ผมก็พยายามแก้ไปแล้ว ผมรู้สึกว่าเค้าไม่ฟังสิ่งที่ผมอธิบายอะไรเลย ซึ่งผมโดนด่าหลายเรื่องเหมือนกันครับ เวลาผมจะเสนอความเห็นก็โดนบอกว่าไม่ต้องยุ่ง มันไม่รู้เรื่องอะไร เหมือนทำอะไรก็ไม่ถูกใจเค้าสักอย่าง แล้วมาบอกว่าผมยังเด็กเกินไป(พึ่งอายุ22) ไม่มีดุลยพินิจ 
พอมีเรื่องประชุมงานทุกคนโดนเรียกไปหมดยกเว้นผม ซึ่งตอนนี้เหมือนเค้าพยายามให้ผมออก ผมควรทำยังไงดีครับ