อิสราเอลเตือนเลบานอน กำลังโดนฮิซบอลเลาะห์ลากเข้าสงคราม
https://www.dailynews.co.th/news/2828991/
กองทัพอิสราเอลเตือนเลบานอน "เข้าสู่สงครามโดยไม่จำเป็น" จากพฤติกรรมของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่ากองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางตอนเหนือของประเทศ ที่มีพรมแดนติดกับทางตอนใต้ของเลบานอน และทวีความรุนแรงควบคู่ไปกับสงครามระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มฮามาส ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์กำลังดึงเลบานอน ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับสงคราม “
ที่เลบานอนไม่ได้อะไร ทว่ามีแต่จะเสีย”
ด้วยเหตุนี้ กองทัพอิสราเอลขอเรียกร้องไปยังเลบานอน ให้เร่งควบคุมสถานการณ์อันตราย จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ส่งผลต่ออธิปไตยและการพัฒนาของเลบานอน
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์จัดงานศพให้กับหนึ่งในสมาชิก ซึ่งเสียชีวิตระหว่างการยิงปืนใหญ่โต้ตอบกับอิสราเอล ในเขตทางใต้ของเลบานอน
ด้านรัฐบาลเลบานอนยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นาย
นาอิม กัสเซ็ม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส คือสัญญานบอกเหตุว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่นาย
โยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล เคยกล่าวว่า “
ไม่มีความสนใจ” ที่จะทำสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หลังเคยสู้รบกันอย่างหนักหน่วงมาแล้ว เมื่อปี 2549 ในสงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน ซึ่งทุกฝ่ายมองว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มากกว่า แต่หากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อยากทำสงคราม อิสราเอล “
พร้อมเอาคืนอย่างสาสม”
ผู้ร่วมก่อตั้งเวทีเทคระดับโลกลาออก หลังโพสต์เรื่องอิสราเอล
https://tna.mcot.net/world-1259589
ลิสบอน 22 ต.ค.- ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บ ซัมมิท (Web Summit) ซึ่งเป็นเวทีด้านเทคโนโลยีใหญ่ระดับโลกประกาศลาออกเมื่อวันเสาร์ หลังจากเกิดกระแสไม่พอใจต่อโพสต์ที่เขาแสดงความเห็นเรื่องอิสราเอล
นาย
แพทริค หรือ
แพดดี คอสเกรฟ ผู้ประกอบการชาวไอริชวัย 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเว็บ ซัมมิทแถลงชี้แจงสั้น ๆ กับเอเอฟพีว่า เป็นที่น่าเสียดายว่าความเห็นส่วนตัวของเขาได้เบี่ยงเบนความสนใจจากเว็บ ซัมมิท 2023 เขาขอโทษอย่างจริงใจอีกครั้งที่ได้ทำร้ายความรู้สึกผู้ใด ด้านโฆษกเว็บ ซัมมิทแถลงว่า จะมีการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอคนใหม่โดยเร็วที่สุด ขณะที่เว็บ ซัมมิท 2023 ที่กรุงลิสบอนของโปรตุเกสระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายนจะดำเนินไปตามที่กำหนด ก่อนหน้านี้ผู้จัดงานเผยว่า จะมีสตาร์ทอัพ 2,300 รายและผู้ร่วมงานมากกว่า 70,000 คน
นาย
คอสเกรฟโพสต์ในเอ็กซ์ (X) เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมว่า ตกใจมากที่ผู้นำและรัฐบาลชาติตะวันตกจำนวนมากแสดงถ้อยคำและการกระทำสนับสนุนอิสราเอล การก่ออาชญากรรมสงครามก็คือการก่ออาชญากรรมสงครามแม้ว่ากระทำโดยพันธมิตร และควรต้องถูกแสดงออกเรียกร้องตามที่เป็น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างกูเกิลและเมตาประกาศถอนตัวจากเว็บ ซัมมิท 2023 จากนั้นก็มีบริษัทและบุคคลในวงการเทคโนโลยีหลายคนประกาศถอนตัวเช่นกัน. - สำนักข่าวไทย
‘นิติพล’ ฝากการบ้าน กมธ.วิฯ ศึกษา ‘แลนด์บริดจ์’ มองแค่ ‘ภูมิศาสตร์’ เหมาะสมไม่ได้
https://voicetv.co.th/read/ovrnGS1Sv
‘นิติพล’ แนะ กมธ.วิสามัญฯ ใช้ ‘วิทย์ฯ-คณิตฯ’ ศึกษาผลกระทบ ‘แลนด์บริดจ์’ ชี้แค่ภูมิศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ ย้ำไม่คัดค้าน แต่ห่วงความรอบคอบ
วันที่ 22 ต.ค.
นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษา โครงการแลนด์บริดจ์ ว่า เห็นด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมกกะโปรเจ็คที่จะเกิดขึ้นในภาคใต้ และตนได้อภิปรายถึงข้อสังเกตไว้จึงอยากฝากเป็นโจทย์ให้ กมธ.ชุดนี้ ไปทำการบ้านต่อ
นิติพล กล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์ จะมองด้วยเหตุผลด้านภูมิศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องนำเอาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์มาประเมินร่วมด้วย โดยเหตุผลด้านภูมิศาสตร์ เห็นด้วยว่า ไทยเราอยู่ในจุดที่เหมาะสมในการเป็นจุดเชื่อมต่อทางการค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิค จะช่วยย่นระยะเวลาขนส่งสินค้าได้ 4-5 วัน ซึ่งหมายถึงการประหยัดต้นทุนได้อีกมหาศาล รวมถึงเศรษฐกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นตรงเมืองท่าหลักทั้งฝั่ง จ.ระนอง และจ.ชุมพร ก็จะโตตามไปด้วยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ที่ต้องนำมาคิดด้วย เช่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ปะการัง ป่าชายเลน กระแสน้ำ หรือบนบก ที่นักวิชาการสิ่งแวดล้อมบางคนกังวลว่า จะตัดผ่านเส้นทางของฝูงช้างด้วยหรือเปล่า ซึ่งมันจะหมายถึงปัญหาช้างป่ารุกที่ทำกินของประชาชนเพื่อหาพื้นที่ใหม่ที่ซ้ำรอยกับปัญหาช้างป่าภาคตะวันออก
นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่มองไม่ได้คือผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน เพราะหากมองจากแผนที่ เส้นที่ลากง่ายๆ เหมือนที่นายกรัฐมนตรีลากให้เหล่านักลงทุนจีนดูนั้น จึงไม่แน่ใจว่าศึกษากันดีพอหรือยัง ว่ามันพาดผ่านบ้านผ่านสวนของคนที่มีชีวิต มีตัวตนมากน้อยเท่าไหร่ และตัวเลขที่ต้องชดเชยเยียวยานั้นมันคุ้มค่ากับที่เขาต้องเสียสละวิถีชีวิต และการโยกย้ายออกจากถิ่นฐานบ้านเกิดหรือไม่ และที่ใหม่ที่จะให้พวกเขาเดินทางโยกย้ายไปนั้นมีแผนรองรับแล้วหรือเปล่า
นิติพล ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องนำมาศึกษาด้วย คือยังไม่นับว่าผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น อาหารทะเลอาจปนเปื้อนได้ง่ายขึ้นหรือไม่ ที่ผ่านมาก็มีเหตุน้ำมันรั่วไหลบ่อยครั้ง จะป้องกันอย่างไร นอกจากนี้ แสงและเสียงจากท่าเรือจะทำให้พวกเขาหลับตานอนสบายได้เหมือนเดิมไหม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่เรามีบทเรียนมาแล้วจากท่าเรือน้ำลึกภาคตะวันออก
"
หรือหากมองทางคณิตศาสตร์ ผมคิดว่าบางทีอาจต้องนำมาเทียบกันให้ชัดระหว่างการสร้างโครงการใหม่โดยคิดจากต้นทุนที่ต้องแลกดังที่ผมยกตัวอย่างไปข้างต้น กับการคงไว้แบบเดิมแล้วหาทางเลือกอื่นในการขับเคลื่อนพัฒนา เช่น การขายคาร์บอนเครดิตที่ไม่ใช่การฟอกเขียวให้กลุ่มทุน แต่เป็นเรื่องของชุมชนท้องถิ่น หรือแม้แต่การท่องเที่ยว ทั้งอันดามันและอ่าวไทยก็ยังเป็นเพชรน้ำเอกของการเดินทาง เพียงแต่เราจะหาโมเดลอะไรในการเพิ่มศักยภาพลงไป ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์ย่อมส่งผลตรงข้ามหากเรายังมองว่าการท่องเที่ยวคือเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่ภาคใต้เราทิ้งไม่ได้"
นิติพล ย้ำทิ้งท้ายว่า นี่ไม่ใช่การเห็นด้วยหรือคัดค้าน แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตเอาไว้เพื่อความรอบคอบก่อนจะลงมือสร้างโครงการที่จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของภาคใต้ครั้งใหญ่ ซึ่งมันอาจออกมาเป็นบวกหรือลบก็ได้ การคิดให้รอบคอบรอบด้านก่อนลงมือจึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
JJNY : อิสราเอลเตือนเลบานอน│ผู้ร่วมก่อตั้งเวทีเทคระดับโลกลาออก│‘นิติพล’ ฝากการบ้าน กมธ.วิฯ ศึกษา│ร้านทองตู้แดงอุดรฯหงอย
https://www.dailynews.co.th/news/2828991/
กองทัพอิสราเอลเตือนเลบานอน "เข้าสู่สงครามโดยไม่จำเป็น" จากพฤติกรรมของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่ากองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางตอนเหนือของประเทศ ที่มีพรมแดนติดกับทางตอนใต้ของเลบานอน และทวีความรุนแรงควบคู่ไปกับสงครามระหว่างอิสราเอล กับกลุ่มฮามาส ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์กำลังดึงเลบานอน ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับสงคราม “ที่เลบานอนไม่ได้อะไร ทว่ามีแต่จะเสีย”
ด้วยเหตุนี้ กองทัพอิสราเอลขอเรียกร้องไปยังเลบานอน ให้เร่งควบคุมสถานการณ์อันตราย จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ส่งผลต่ออธิปไตยและการพัฒนาของเลบานอน
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์จัดงานศพให้กับหนึ่งในสมาชิก ซึ่งเสียชีวิตระหว่างการยิงปืนใหญ่โต้ตอบกับอิสราเอล ในเขตทางใต้ของเลบานอน
ด้านรัฐบาลเลบานอนยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นายนาอิม กัสเซ็ม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส คือสัญญานบอกเหตุว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล เคยกล่าวว่า “ไม่มีความสนใจ” ที่จะทำสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ หลังเคยสู้รบกันอย่างหนักหน่วงมาแล้ว เมื่อปี 2549 ในสงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน ซึ่งทุกฝ่ายมองว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มากกว่า แต่หากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อยากทำสงคราม อิสราเอล “พร้อมเอาคืนอย่างสาสม”
ผู้ร่วมก่อตั้งเวทีเทคระดับโลกลาออก หลังโพสต์เรื่องอิสราเอล
https://tna.mcot.net/world-1259589
ลิสบอน 22 ต.ค.- ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บ ซัมมิท (Web Summit) ซึ่งเป็นเวทีด้านเทคโนโลยีใหญ่ระดับโลกประกาศลาออกเมื่อวันเสาร์ หลังจากเกิดกระแสไม่พอใจต่อโพสต์ที่เขาแสดงความเห็นเรื่องอิสราเอล
นายแพทริค หรือแพดดี คอสเกรฟ ผู้ประกอบการชาวไอริชวัย 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเว็บ ซัมมิทแถลงชี้แจงสั้น ๆ กับเอเอฟพีว่า เป็นที่น่าเสียดายว่าความเห็นส่วนตัวของเขาได้เบี่ยงเบนความสนใจจากเว็บ ซัมมิท 2023 เขาขอโทษอย่างจริงใจอีกครั้งที่ได้ทำร้ายความรู้สึกผู้ใด ด้านโฆษกเว็บ ซัมมิทแถลงว่า จะมีการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอคนใหม่โดยเร็วที่สุด ขณะที่เว็บ ซัมมิท 2023 ที่กรุงลิสบอนของโปรตุเกสระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายนจะดำเนินไปตามที่กำหนด ก่อนหน้านี้ผู้จัดงานเผยว่า จะมีสตาร์ทอัพ 2,300 รายและผู้ร่วมงานมากกว่า 70,000 คน
นายคอสเกรฟโพสต์ในเอ็กซ์ (X) เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมว่า ตกใจมากที่ผู้นำและรัฐบาลชาติตะวันตกจำนวนมากแสดงถ้อยคำและการกระทำสนับสนุนอิสราเอล การก่ออาชญากรรมสงครามก็คือการก่ออาชญากรรมสงครามแม้ว่ากระทำโดยพันธมิตร และควรต้องถูกแสดงออกเรียกร้องตามที่เป็น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างกูเกิลและเมตาประกาศถอนตัวจากเว็บ ซัมมิท 2023 จากนั้นก็มีบริษัทและบุคคลในวงการเทคโนโลยีหลายคนประกาศถอนตัวเช่นกัน. - สำนักข่าวไทย
‘นิติพล’ ฝากการบ้าน กมธ.วิฯ ศึกษา ‘แลนด์บริดจ์’ มองแค่ ‘ภูมิศาสตร์’ เหมาะสมไม่ได้
https://voicetv.co.th/read/ovrnGS1Sv
‘นิติพล’ แนะ กมธ.วิสามัญฯ ใช้ ‘วิทย์ฯ-คณิตฯ’ ศึกษาผลกระทบ ‘แลนด์บริดจ์’ ชี้แค่ภูมิศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ ย้ำไม่คัดค้าน แต่ห่วงความรอบคอบ
วันที่ 22 ต.ค. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษา โครงการแลนด์บริดจ์ ว่า เห็นด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมกกะโปรเจ็คที่จะเกิดขึ้นในภาคใต้ และตนได้อภิปรายถึงข้อสังเกตไว้จึงอยากฝากเป็นโจทย์ให้ กมธ.ชุดนี้ ไปทำการบ้านต่อ
นิติพล กล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์ จะมองด้วยเหตุผลด้านภูมิศาสตร์อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องนำเอาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์มาประเมินร่วมด้วย โดยเหตุผลด้านภูมิศาสตร์ เห็นด้วยว่า ไทยเราอยู่ในจุดที่เหมาะสมในการเป็นจุดเชื่อมต่อทางการค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิค จะช่วยย่นระยะเวลาขนส่งสินค้าได้ 4-5 วัน ซึ่งหมายถึงการประหยัดต้นทุนได้อีกมหาศาล รวมถึงเศรษฐกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นตรงเมืองท่าหลักทั้งฝั่ง จ.ระนอง และจ.ชุมพร ก็จะโตตามไปด้วยอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ที่ต้องนำมาคิดด้วย เช่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ปะการัง ป่าชายเลน กระแสน้ำ หรือบนบก ที่นักวิชาการสิ่งแวดล้อมบางคนกังวลว่า จะตัดผ่านเส้นทางของฝูงช้างด้วยหรือเปล่า ซึ่งมันจะหมายถึงปัญหาช้างป่ารุกที่ทำกินของประชาชนเพื่อหาพื้นที่ใหม่ที่ซ้ำรอยกับปัญหาช้างป่าภาคตะวันออก
นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่มองไม่ได้คือผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน เพราะหากมองจากแผนที่ เส้นที่ลากง่ายๆ เหมือนที่นายกรัฐมนตรีลากให้เหล่านักลงทุนจีนดูนั้น จึงไม่แน่ใจว่าศึกษากันดีพอหรือยัง ว่ามันพาดผ่านบ้านผ่านสวนของคนที่มีชีวิต มีตัวตนมากน้อยเท่าไหร่ และตัวเลขที่ต้องชดเชยเยียวยานั้นมันคุ้มค่ากับที่เขาต้องเสียสละวิถีชีวิต และการโยกย้ายออกจากถิ่นฐานบ้านเกิดหรือไม่ และที่ใหม่ที่จะให้พวกเขาเดินทางโยกย้ายไปนั้นมีแผนรองรับแล้วหรือเปล่า
นิติพล ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องนำมาศึกษาด้วย คือยังไม่นับว่าผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น อาหารทะเลอาจปนเปื้อนได้ง่ายขึ้นหรือไม่ ที่ผ่านมาก็มีเหตุน้ำมันรั่วไหลบ่อยครั้ง จะป้องกันอย่างไร นอกจากนี้ แสงและเสียงจากท่าเรือจะทำให้พวกเขาหลับตานอนสบายได้เหมือนเดิมไหม เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่เรามีบทเรียนมาแล้วจากท่าเรือน้ำลึกภาคตะวันออก
"หรือหากมองทางคณิตศาสตร์ ผมคิดว่าบางทีอาจต้องนำมาเทียบกันให้ชัดระหว่างการสร้างโครงการใหม่โดยคิดจากต้นทุนที่ต้องแลกดังที่ผมยกตัวอย่างไปข้างต้น กับการคงไว้แบบเดิมแล้วหาทางเลือกอื่นในการขับเคลื่อนพัฒนา เช่น การขายคาร์บอนเครดิตที่ไม่ใช่การฟอกเขียวให้กลุ่มทุน แต่เป็นเรื่องของชุมชนท้องถิ่น หรือแม้แต่การท่องเที่ยว ทั้งอันดามันและอ่าวไทยก็ยังเป็นเพชรน้ำเอกของการเดินทาง เพียงแต่เราจะหาโมเดลอะไรในการเพิ่มศักยภาพลงไป ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์ย่อมส่งผลตรงข้ามหากเรายังมองว่าการท่องเที่ยวคือเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่ภาคใต้เราทิ้งไม่ได้"
นิติพล ย้ำทิ้งท้ายว่า นี่ไม่ใช่การเห็นด้วยหรือคัดค้าน แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตเอาไว้เพื่อความรอบคอบก่อนจะลงมือสร้างโครงการที่จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของภาคใต้ครั้งใหญ่ ซึ่งมันอาจออกมาเป็นบวกหรือลบก็ได้ การคิดให้รอบคอบรอบด้านก่อนลงมือจึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด