จักรวาลที่ 452
ตอนนี้มีข้อมูลจำนวนมากมาถึงผม เรียกได้ว่ามาจากทุกทิศทุกทางก็ว่าได้
มันเป็นข้อมูลที่เรียกว่าสื่อแบบจิตสู่จิต
และข้อมูลก็ไหลเข้ามาในหลายจักรวาลมาก ๆ
การจัดการข้อมูลในจิตของผมต้องชัดเจนและแม่นยำมาก ๆ
ไม่อย่างนั้นจิตของผมอาจจะมีปัญหา
ปัจจุบันเรื่องที่อยากเล่าก็มีมากขึ้นเพราะสื่อจิตได้หลายจักรวาล
แต่เรื่องแรกที่อยากเล่าคงต้องเริ่มจาก
จักรวาลของเราก่อน และเริ่มจากมหาวิทยาลัยที่ผมได้ไปทำงานก่อน
วันนี้ผมได้นัดนักศึกษาที่ดำรงตำแหน่ง
นายกองค์การบริหารนักศึกษามาคุยกัน
ผมนัดเขาที่หอประชุมเลย ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
ผมมานั่งรอก่อน ไม่นานนักเขาก็เข้ามา
ผมมองเขา เขาหน้าตาเหมือนชาวจีนเลย
ร่างกายเขาผอมมาก เขาแนะนำตัวว่าชื่อชาตรี
ผมขอให้เขาเล่าเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุให้ผมฟัง
"วันนั้นเราจัดบายศรีให้น้องครับ เราจัดที่นี่
มีน้องมาร่วมประมาณพันคน ตอนจัดบายศรีเรามีทั้งนางรำ
และคนที่ร้องร่ายคาถาต่าง ๆ ก่อนจะกล่าวบทบายศรี
ขณะการแสดงบนเวทีดำเนินไปเรื่อย ๆ
น้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ก็ลุกและกรีดร้องเป็นคนแรก
พวกพี่ staff ต้องพาไปที่ห้องพยาบาล
หลังจากนั้นก็จะมีน้องผู้หญิงอีกหลายคน
ที่ลุกขึ้นยืนและกรีดร้อง และก็จะมีน้องผู้ชายที่ลุกขึ้นยืน
แล้วก็นั่ง แล้วก็ลุกขึ้นยืนแล้วก็นั่งอีก
พวกรุ่นพี่ต้องทยอยพาน้อง ๆ ไปที่ห้องพยาบาล
เหตุการณ์บานปลายจนพิธีต่าง ๆ ต้องหยุด
แล้วก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับรุ่นพี่ด้วย
รุ่นพี่ผู้หญิงมักจะล้มตัวลงนอนและกรีดร้อง
ส่วนรุ่นพี่ผู้ชายมักจะถอดเสื้อและทำร้ายตนเอง
เช่นหาของมีคมมากรีดตามตัว"
เขาเล่ามาถึงตอนนี้แล้วก็หยุดชะงักอย่างกะทันหัน
"เป็นอะไรไปครับ ไหวรึเปล่าครับนักศึกษา"
"ไหวครับ ขอผมเล่าต่อนะครับ"
ผมพยักหน้า
"ผมเดินไปดูน้อง ๆ ที่ห้องพยาบาล
เห็นน้อง ๆ นอนอยู่กันที่หน้าห้องพยาบาลประมาณ 500 คน
แต่ละคนนอนดิ้น ไม่เป็นตัวของตัวเอง
มีบางคนยืนขึ้นแล้วก็นั่งลง บางคนทำสะพานโค้งแล้วเดินไปเดินมา
เห็นแล้วผมกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ผมจึงเปิดประตูห้องพยาบาลเพื่อจะไปหาพี่นางพยาบาลที่ประจำอยู่ในนั้น
แต่พอเปิดเข้าไป ผมเห็นพี่พยาบาลกำลังรำอยู่
แกรำไปและตาเหลือกไปด้วย พอผมเข้าไปใกล้
แกก็นั่งคุกเข่า แล้วก็คลานรอบห้อง
ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ จนมาถึงตอนที่ผมถอดเสื้อ
แล้วหาของมีคมมากรีดที่หน้าอกและหน้าท้อง"
"ทำไมถึงทำอย่างนั้นละครับ"
"มัน มันบอกไม่ถูกจริง ๆ ครับ"
"แล้วเรื่องจบยังไงครับ"
"พวกเราทยอยหมดสติไปทีละคนสองคน
จนหมดสติหมดทุกคน แล้วก็มีอาจารย์และเจ้าหน้าที่
มาช่วยกันปลุกให้พวกเราตื่น แล้วก็ทยอยพาไปเรือนนอนครับ"
เขาหยุดพูด ดูเขาเหนื่อย ๆ
"วันนี้ขอพอแค่นี้นะครับ"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ"
ผมลุกขึ้นก่อน แล้วค่อย ๆ เดินไปทางประตูทางออก
แต่ผมสังเกตว่าเขายังนั่งอยู่ตรงนั้น
ผมหันไปมองเขา "ชาตรี คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ"
เขาลุกขึ้นยืนแล้วก็นั่งลง ลุก แล้วก็นั่ง
หลังจากนั้น เขาก็ถอดเสื้อ นอนคว่ำ แล้วก็แถกปลาหมอไปรอบห้อง
อีกไม่นาน ไฟก็ดับลง มันมืดจนมองอะไรไม่เห็นเลย
ผมไม่กล้าเรียกชื่อเขาอีก แต่ก็รับรู้ได้ว่ามีคนแถกปลาหมอไปรอบห้อง
แต่ตอนนี้ ผมรับรู้ได้ว่าไม่ได้มีแค่ชาตรีคนเดียวที่แถกปลาหมอ
แต่น่าจะมีคนไม่ต่ำกว่าสิบคนที่กำลังแถกปลาหมอไปรอบ ๆ ห้อง
แล้วคนพวกนั้นมาจากไหน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นมีชาตรีเพียงคนเดียว
หลังจากนั้นก็มีคนมาจับขาผม แล้วดึงกระชากจนผมล้มลง
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 204 มหาลัยสยองขวัญ กับ เหตุการณ์สยองเกล้า
ตอนนี้มีข้อมูลจำนวนมากมาถึงผม เรียกได้ว่ามาจากทุกทิศทุกทางก็ว่าได้
มันเป็นข้อมูลที่เรียกว่าสื่อแบบจิตสู่จิต
และข้อมูลก็ไหลเข้ามาในหลายจักรวาลมาก ๆ
การจัดการข้อมูลในจิตของผมต้องชัดเจนและแม่นยำมาก ๆ
ไม่อย่างนั้นจิตของผมอาจจะมีปัญหา
ปัจจุบันเรื่องที่อยากเล่าก็มีมากขึ้นเพราะสื่อจิตได้หลายจักรวาล
แต่เรื่องแรกที่อยากเล่าคงต้องเริ่มจาก
จักรวาลของเราก่อน และเริ่มจากมหาวิทยาลัยที่ผมได้ไปทำงานก่อน
วันนี้ผมได้นัดนักศึกษาที่ดำรงตำแหน่ง
นายกองค์การบริหารนักศึกษามาคุยกัน
ผมนัดเขาที่หอประชุมเลย ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
ผมมานั่งรอก่อน ไม่นานนักเขาก็เข้ามา
ผมมองเขา เขาหน้าตาเหมือนชาวจีนเลย
ร่างกายเขาผอมมาก เขาแนะนำตัวว่าชื่อชาตรี
ผมขอให้เขาเล่าเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุให้ผมฟัง
"วันนั้นเราจัดบายศรีให้น้องครับ เราจัดที่นี่
มีน้องมาร่วมประมาณพันคน ตอนจัดบายศรีเรามีทั้งนางรำ
และคนที่ร้องร่ายคาถาต่าง ๆ ก่อนจะกล่าวบทบายศรี
ขณะการแสดงบนเวทีดำเนินไปเรื่อย ๆ
น้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ก็ลุกและกรีดร้องเป็นคนแรก
พวกพี่ staff ต้องพาไปที่ห้องพยาบาล
หลังจากนั้นก็จะมีน้องผู้หญิงอีกหลายคน
ที่ลุกขึ้นยืนและกรีดร้อง และก็จะมีน้องผู้ชายที่ลุกขึ้นยืน
แล้วก็นั่ง แล้วก็ลุกขึ้นยืนแล้วก็นั่งอีก
พวกรุ่นพี่ต้องทยอยพาน้อง ๆ ไปที่ห้องพยาบาล
เหตุการณ์บานปลายจนพิธีต่าง ๆ ต้องหยุด
แล้วก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับรุ่นพี่ด้วย
รุ่นพี่ผู้หญิงมักจะล้มตัวลงนอนและกรีดร้อง
ส่วนรุ่นพี่ผู้ชายมักจะถอดเสื้อและทำร้ายตนเอง
เช่นหาของมีคมมากรีดตามตัว"
เขาเล่ามาถึงตอนนี้แล้วก็หยุดชะงักอย่างกะทันหัน
"เป็นอะไรไปครับ ไหวรึเปล่าครับนักศึกษา"
"ไหวครับ ขอผมเล่าต่อนะครับ"
ผมพยักหน้า
"ผมเดินไปดูน้อง ๆ ที่ห้องพยาบาล
เห็นน้อง ๆ นอนอยู่กันที่หน้าห้องพยาบาลประมาณ 500 คน
แต่ละคนนอนดิ้น ไม่เป็นตัวของตัวเอง
มีบางคนยืนขึ้นแล้วก็นั่งลง บางคนทำสะพานโค้งแล้วเดินไปเดินมา
เห็นแล้วผมกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ผมจึงเปิดประตูห้องพยาบาลเพื่อจะไปหาพี่นางพยาบาลที่ประจำอยู่ในนั้น
แต่พอเปิดเข้าไป ผมเห็นพี่พยาบาลกำลังรำอยู่
แกรำไปและตาเหลือกไปด้วย พอผมเข้าไปใกล้
แกก็นั่งคุกเข่า แล้วก็คลานรอบห้อง
ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ จนมาถึงตอนที่ผมถอดเสื้อ
แล้วหาของมีคมมากรีดที่หน้าอกและหน้าท้อง"
"ทำไมถึงทำอย่างนั้นละครับ"
"มัน มันบอกไม่ถูกจริง ๆ ครับ"
"แล้วเรื่องจบยังไงครับ"
"พวกเราทยอยหมดสติไปทีละคนสองคน
จนหมดสติหมดทุกคน แล้วก็มีอาจารย์และเจ้าหน้าที่
มาช่วยกันปลุกให้พวกเราตื่น แล้วก็ทยอยพาไปเรือนนอนครับ"
เขาหยุดพูด ดูเขาเหนื่อย ๆ
"วันนี้ขอพอแค่นี้นะครับ"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ"
ผมลุกขึ้นก่อน แล้วค่อย ๆ เดินไปทางประตูทางออก
แต่ผมสังเกตว่าเขายังนั่งอยู่ตรงนั้น
ผมหันไปมองเขา "ชาตรี คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ"
เขาลุกขึ้นยืนแล้วก็นั่งลง ลุก แล้วก็นั่ง
หลังจากนั้น เขาก็ถอดเสื้อ นอนคว่ำ แล้วก็แถกปลาหมอไปรอบห้อง
อีกไม่นาน ไฟก็ดับลง มันมืดจนมองอะไรไม่เห็นเลย
ผมไม่กล้าเรียกชื่อเขาอีก แต่ก็รับรู้ได้ว่ามีคนแถกปลาหมอไปรอบห้อง
แต่ตอนนี้ ผมรับรู้ได้ว่าไม่ได้มีแค่ชาตรีคนเดียวที่แถกปลาหมอ
แต่น่าจะมีคนไม่ต่ำกว่าสิบคนที่กำลังแถกปลาหมอไปรอบ ๆ ห้อง
แล้วคนพวกนั้นมาจากไหน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นมีชาตรีเพียงคนเดียว
หลังจากนั้นก็มีคนมาจับขาผม แล้วดึงกระชากจนผมล้มลง