แบ่งปันประสบการณ์สำหรับผู้ป่วยสะเก็ดเงิน รักษาให้อาการดีขึ้น90%ภายใน150วัน



คิดไตร่ตรองอยู่นานพอสมควรว่าจะแบ่งปันประสบการณ์ในการรักษาตัวเองให้ดีขึ้นจากการป่วยสะเก็ดเงิน เพื่อหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการป่วยเหมือนกันดีไหม มันยากมากแต่ก็คิดว่าเผื่อท่านที่มีอาการป่วยคล้ายกันจะปรับนำไปใช้ตามความเหมาะสมได้ให้เกิดประโยชน์และเห็นผลได้ตามกำลังและความสามารถของแต่ละท่านตามความเหมาะสม

เพราะรายละเอียดเยอะและขั้นตอนมากมายที่ต้องดูแลตัวเองทั้งทางตรงและทางอ้อม เรียกว่าแทบถอดใจ,ท้อมากในระยะเริ่มแรกที่รักษาตัว เพราะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตแบบมากมาย กว่าอาการจะดีขึ้นเป็นลำดับ จนตอนนี้หลังจากรักษาฟื้นฟูดูแลตัวเองมาจนถึง150วัน อาการอักเสบที่ผิวหนังและรอยด่างขาวที่เกิดจากการรักษาดีขึ้น90% 

- เดือน เม.ย. 2566 เริ่มมีอาการผื่นที่ผิวหนังบริเวณแขนจะค่อนข้างเยอะ มีลักษณะคล้ายกับตุ่มแดงๆคล้ายยุงกับและกินพื้นที่ส่วนร่างกายเยอะ แต่ไม่มีอาการคัน คิดว่าแพ้อาหารทะเล จึงไปหาหมอที่คลีนิคใกล้บ้าน ซึ่งคุณหมอก็วินิจฉัยเบื้องต้นว่า น่าจะแพ้อาหารทะเล จึงฉีดยาและให้ยามากิน และรอยผื่นไม่ทุเลาลงเลยกลับขยายวงกว้างขึ้นและขึ้นจนเต็มร่างกาย 



- เดือน พ.ค. อดทนจนถึงเกือบปลายเดือน ไม่ไหวแล้วอาการไม่บรรเทาลง จนต้องไปพบแพทย์ที่ ร.พ. ท้องถิ่นที่ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ คุณหมอวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วลงความเห็นว่าน่าจะป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน แต่ต้องวินิจฉัยอย่างละเอียดจากผลเลือด ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยสะเก็ดเงินจะเกิดจากสาเหตุได้หลักๆคือ ติดเชื้อHIV, ติดเชื้อซิฟิลิส และ เกิดจากพันธุ์กรรม ถ้าบุคคลในครอบครัวหรือในตระกูลเป็น ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เมื่อภูมิคุ้มกันตก

ปรึกษาบุคคลในครอบครัวเค้าแนะนำว่าควรไปหาคุณหมอที่เก่งดีกว่าจะได้รักษาหายไวๆ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังที่เก่งและมีประสบการณ์ประกอบกับมีความรู้จริงเพื่อจะได้รักษาและวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยแพทย์ที่ทำการรักษาข้าพเจ้านั้น ชื่อว่า รศ.นพ. ป่วน สุทธิพินิจธรรม ท่านเป็นนายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ปี 2561 – 2562

เป็นอาจารย์แพทย์แพทย์ประจำอยู่ที่ ร.พ.ศิริราช และในช่วงวันอังคารและวันพฤหัสบดี ท่านจะมารักษาที่ ร.พ.พญาไท2 ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00น. แนะนำถ้าท่านอยากรักษารวดเร็วไม่ต้องรอคิวนานก็ให้มาจองคิวรักษาก่อนเวลาอย่างน้อย3ชั่วโมง เพราะคนไข้ที่รอรับการรักษาท่านเยอะมาก แต่ท่านค่อนข้างละเอียดพูดคุยและให้คำแนะนำปรึกษาพร้อมบอกรายละเอียดการรักษาอย่างครบถ้วนโดยใช้เวลานาน จากการตรวจสอบอย่างละเอียดแพทย์ลงความเห็นว่าข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินซึ่งเกิดจากพันธุ์กรรม เพราะน้องสาวของแม่ก็ป่วยเป็นสะเก็ดเงินแบบนี้เช่นกัน

- เริ่มต้นการรักษา เดือน มิ.ย. 2566 สิ่งที่คุณหมอให้มารักษาก็จะมียาทาและยากินกดภูมิ โดยเดือนแรกให้กินยาอาทิตย์ละ8เม็ด โดยแบ่งกินครั้งละ2เม็ดทุก12ชั่วโมง พอครบ4ครั้งให้หยุด แล้วเริ่มกินต่อในอาทิตย์ถัดไป ส่วนยาทาก็ให้ทาตามจุดแดงอักเสบต่างๆ หลังจาก1อาทิตย์แรก จุดแดงอักเสบสงบลงแต่ตามผิวร่างกายกลับเป็นด่างขาวแทน

นอกเหนือจากยาที่คุณหมอให้มา ข้าพเจ้ากินน้ำด่างซึ่งเป็นน้ำที่ได้กลั่นมาจากธารน้ำแร่ของน้ำพุร้อนสันกำแพง ซึ่ง คุณสมบัติของน้ำด่างก็จะช่วยเพิ่มอ๊อกซิเจนให้กับเลือด,ล้างสารพิษในร่างกาย,บรรเทาอาการอักเสบผิวหนัง และนอกเหนือจากกินแล้วก็ยังใช้น้ำด่างนี้พ่นที่ตามผิวร่างกายด้วย 


คุณหมอแนะนำว่าผู้ที่ป่วยเป็นสะเก็ดเงินผิวจะแห้งมากดังนั้นจะใช้ครีมทาผิวเยอะเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งก็จะช่วยได้ระดับหนึ่งแต่ต้องใช้ครีมในปริมาณเยอะมากเพราะมันขึ้นทั่วทั้งร่างกายครีมทาผิวขวดใหญ่1,000 ml ข้าพเจ้าใช้แค่2สัปดาห์ก็หมดแล้ว ซึ่งอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ข้าพเจ้าใช้เสริมร่วมด้วยก็คือใช้ครีมอาบน้ำที่สะกัดจากไขข้อม้าจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งดีมากๆ เพราะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นเยอะอีกทั้งยังช่วยประหยัดใช้ครีมทาผิวปริมาณน้อยลงแต่ผิวก็ชุ่มชื้นไม่แห้ง


หลังจาก1อาทิตย์แรก จุดแดงอักเสบสงบลงแต่ตามผิวร่างกายกลับเป็นด่างขาวแทน นี่คือภาพถ่ายวันที่2 มิ.ย. 2566 หลังจากกินยาและทายาได้ครบ7วัน



สิ่งที่ข้าพเจ้าปรับเปลี่ยนเพื่อทำการรักษาอาการป่วยนี้ให้หายรวดเร็ว มันมีรายละเอียดเยอะมากไม่ว่าจะเป็นจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในร่างกาย   


1) ไม่กินอาหารทะเล,ของหมักของดอง และอาหารดิบ เน้นกินปลาแม่น้ำเป็นหลักเสริมด้วยอกไก่ เพื่อ ลดการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหนังเพิ่มขึ้น ซึ่งคุณหมอท่านก็ไม่ได้ห้ามแต่ข้าพเจ้าอ่านจากประสบการณ์ของผู้ที่เคยป่วย ส่วนใหญ่จะบอกว่าแนะนำไม่ให้กิน จึงยังไม่กิน จนกว่าอาการป่วยจะดีขึ้นเป็นลำดับหรือหายดีแล้วจึงจะทดลองกินอาหารแต่ละชนิดใหม่ เพราะภูมิคุ้มกันร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางท่านอาจจะแพ้อาหารทะเลทุกชนิดแต่บางท่านอาจจะแพ้เพียงแค่บางชนิดเท่านั้น
2) ปรับพฤติกรรมการนอนใหม่ ต้องนอนพักผ่อนให้ได้อย่างต่ำ7ชั่วโมงและเข้านอนไม่เกินเวลา 22.30น. 
3) ก่อนเข้านอนนั่งสมาธิ 45นาที แต่ช่วงแรกจะมีอาการปวดหลัง,ปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วยก็จะใช้นอนสมาธิฟังธรรมะแทน เพื่อปล่อยวางความวิตกกังวลและความเครียด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ อาการสะเก็ดเงินกำเริบหรือไม่เบาอาการอักเสบบริเวณผิวกาย
4) ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างต่ำวันละ1ชั่วโมง ซึ่งข้าพเจ้าก็จะเล่นฟิตเนสเป็นประจำอยู่แล้ว สลับกันวันพุธจะไปว่ายน้ำ1,200เมตร ในส่วนตอนเช้าเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะแกว่งแขน30นาทีพร้อมทำสมาธิไปด้วยให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน,ไม่เพิ่มความเครียดให้ร่างกาย เพราะความเครียดก็คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการอักเสบของผิวหนังจุดใหม่ๆขึ้นมา หรือจุดเดิมที่เคยขึ้นก็จะเป็นอีก ,ต่อด้วยเล่นโยคะยืดเหยียดกล้ามเนื้ออีก20นาที 
5) อาบน้ำเสร็จตอนเช้าก่อนทายา ก็จะตากแดดเป็นเวลา10นาที พยายามให้อยู่ในช่วงเวลา 8.30-9.30น.
6) ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
7) เพิ่มอ๊อกซิเจนให้เลือด โดยการกำหนดหายใจเข้าให้ลึกที่สุดนับ1-10 เสร็จแล้วกลั้นลมหายใจไว้อีก นับ1-10 เสร็จแล้วค่อยๆผ่อนหายใจออก                    นับ1-10 ทำแบบนี้ 10เซ็ท โดยจะทำวันละ2เวลา คือตอนเช้าหลังจากเล่นโยคะเสร็จแล้ว และ หลังนั่งสมาธิเรียบร้อยแล้วก่อนเข้านอน

- เดือน ก.ค. 2566 อาการป่วยดีขึ้นเป็นลำดับแต่ยังมีจุดแดงและผื่นแดงขึ้นเป็นระยะ ทั้งที่ดูแลตัวเองอย่างหนักหน่วงสุดๆแทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย ก่อนนอน3ชั่วโมงและ หลังตื่นเช้าอีก3ชั่วโมง นั่นคือระยะเวลาในการดูแลตัวเองอย่างเต็มพิกัด ซึ่งเหนื่อยและท้อเป็นระยะ ว่าทำไมจุดแดงยังมีขึ้นอีกเป็นระยะ ทั้งที่ดูแลใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างยิ่งและดูแลในปัจจัยต่างๆเต็มที่ อีกทั้งจุดด่างขาวก็ไม่มีท่าทีว่าสีผิวจะกลับเป็นปกติ จนถึงเวลาไปพบคุณหมอ ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าอาการถือว่าดีขึ้นเยอะหายรวดเร็วเพราะใส่ใจดูแลเต็มที่ แต่มีการปรับเปลี่ยนยาใหม่โดยลดปริมาณยาลง เหลือให้กินครั้งละ2เม็ด ทุก12ชั่วโมง แค่ 3เวลา ใน1อาทิตย์พอ และเพิ่มยาทาผิวแบบปรับสีผิวมาให้เพิ่ม ให้ทาบริเวณที่เป็นจุดด่างขาวให้สีผิวปรับเป็นผิวเดิม ในส่วนผิวที่เป็นจุดแดงก็ใช้ครีมทาอีกตัวซึ่งให้มาตั้งแต่ตอนแรกที่คุณหมอสั่งจ่ายยามา



ต่อมาได้"นิ้วพระ"หรือไม้ขูด ซึ่งบูชามาจาก"วัดสันป่ายางหลวง จ.ลำพูน" คุณประโยชน์ของไม้นี้ดีมาก คล้ายกับไม้กัวซา แต่บริเวณหัวทั้งสองด้านจะทำจากแม่เหล็ก ซึ่ีงเวลาขูดตามผิวหนังและส่วนต่างๆของร่างกายจะช่วยคลายความตึงและการยึดตัวของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ผิวหนังได้มีการปรับสภาพและสีผิวปรับกลมกลืนเป็นผิวเดิมไวขึ้น ใช้ขูดร่างกายเช้าและเย็นหลังทายาก่อนทาครีมทาผิว

ด้วยความกังวลว่าทำไม จุดแดงตามร่างกายยังมีการผุดขึ้นเป็นระยะไม่หายขาด เพราะอาหารก็ควบคุมแบบเต็มที่แล้ว จึงตัดสินใจไปตรวจ Food Print ปฏิกิริยาของอาหารที่สุ่มเสี่ยงให้ร่างกายแพ้ เกิดอาการภูมิแพ้อาหารแฝง 216 รายการ เพื่ออยากทราบว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้อาการยังไม่สงบลง จึงทราบว่ามีอาหารบางอย่างที่ข้าพเจ้ากินเยอะเกินไปมีผลกระทบอาทิเช่นไข่ขาว เพราะปกติกินวันละ3-4ฟอง,กินนมถั่วเหลืองวันละครึ่งลิตร ฯลฯ ซึ่ง อาหารเหล่านี้มีผลทำให้อาการเห่อแดงและผุดขึ้นของจุดสีแดง มีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงหยุดกินอาหารเหล่านั้น ซึ่งก็ทำให้อาการจุดแดงต่างๆ แทบไม่มีขึ้นมาให้เห็นหรือมีก็น้อยลงมากจนเป็นที่น่าพอใจ




- เดือน ส.ค.2566 ได้มีการกินสมุนไพรไทยร่วมบำบัดรักษาอาการป่วยด้วย นั่นคือ สมุนไพรไทย พลูคาว Plu Kaow หรือภาคเหนือเรียกว่า คาวตอง เพราะสารที่อยู่ในผักชนิดนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดเลือดขาวช่วยรักษาภาวะภูมิแพ้, ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสชนิดต่าง ๆ เช่น ไข้ทรพิษ หัด งูสวัด เริม เอดส์ (HIV),มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสฯลฯ โดยข้าพเจ้าปลูกเองโดยไปขอต้นกล้ามาจากญาติผู้ใหญ่ที่เค้ามีปลูกอยู่  วิธีกินก็กินแบบต้นสดเลย ตัดใบแต่ตอนตัดต้องตัดให้ต่ำมาถึงระดับก้าน เพราะ กลิ่นใบจะฉุนมากๆ ถ้ากินโดยไม่กินร่วมกับส่วนก้าน แต่ถ้ากินร่วมกับส่วนก้านด้วยจะกลบกลิ่นคาวได้เยอะ เวลากินอาหารก็จะกินผักนี้ประมาณ 10ใบ โดย 1อาทิตย์ กินประมาณ 2 ครั้ง 

- เดือน ต.ค. 25
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่