จากกระทู้ที่เขียนไว้ก่อนหน้าคือแม่ทะเลาะกับเราหนัหมากๆ(ตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ) จนเราเข้ามหาละย แม่สั่งให้เราเลิกกับแฟน ดนอปเรียนแล้วติวเรียนให้ไปต่ประเทศ(ทิ้งที่เรียนตอนนี้ไปเลยซึ่งเราก็พยายามเอง)
มาจนถึงกระทู้นี้ที่เราเขียน วันนี้19 ตค.66 ช่วงเที่ยงๆเราบอเลิกกับเเฟนค่ะ เราไม่อยากให้แฟนมาลำบากใจกับเรื่องที่บ้านเราแล้ว อย่างเรื่องที่บ่อยสุดคือเราทะเลาะกับแม่เรื่องอะไร แม่ทำร้ายร่างกายมั้ย(ล่าสุดหยิกเราเลือดออกเป็นแผลเป็นที่แขนค่ะ ละเราเป็นนักดนตรีต้องขึ้นเวทีแสดง ต้องใส่แขนยาวคลุมไว้ตลอด) หนทอเป็นพี่สาวเราที่โทรหาแฟนเราระบายเรื่องอะไรไม่รู้บ่อยๆ(แต่พี่สาวเรามีคนคุยแล้ง ไม่รู้ทำไมไม่ไปปรึกษาคนของตัวเอง)
แม่เราชอบพูดยุยงให้เราเลิกกับแฟนค่ะ ไม่ว่าเป็น ก็แค่อีเด็กผช.คนนึงที่โตมาในสลัมข้างสุสาน(ในกทม.นะคะ แถวๆใจกลางเมือง) มันทำอย่างงั้น พูดอย่างงี้ใส่แม่ ฯลฯซึ่งเราไม่เคยเห็นว่าแฟนทำ เรารู้นิสัยทั้ง2ฝั่ง ซึ่งครั้งนี้ในใจเราเข้าข้างแฟน เราลยขอเลิกกับแฟนก่อน ให้เราหลุดอออกมาจากบ้านหลังนี้ เรียนจบหางานทำได้ แล้ฝเราค่อยมาคุยกันใหม่ แฟนเราก็โอเคนะคะ ตอนคุยกันเรื่องจะเลิกเเฟนก็กอดเราแน่นเพราะรู้ว่าถ้าเราเลือกทางนี้มันจะเป็นยังไง เราต้องแตกหักไปอีกเยอะแน่ๆ เเต่เราก็ยังยืนยันที่จะเลิกกับแฟน ถึงจะดูหักดิบไปหน่อย แต่เรายังอยากให้ความทรงจำนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา2คน ไม่อยากให้ถึงจุดที่ด่ากัน ทะเลากันแรงๆจนมองหน้าไม่ติด ถึงจะมีทะเลาะบ้างงอนน้อยใจบ้างก็ตาม เขาไม่เคยด่าเรานะคะะ ไม่เคยใช้กำลังดเวย จับมือกันคุยทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เราอยากให้ความรู้สึกดีๆ ภาพความทรงจำดีๆนี้อยู่ด้ววกันไปตลอด จนวันที่เราได้มาเจอกันอีกครั้งนึง (ในใจเราไม่ไหวแล้ว ไม่อยากเลิกเลย ตอนอยู่ด้วยกันมันดีมากๆ เขาไม่เคยล่วงเกินเรา ให้เกียรติ เคารพ รับฟังทั้ง2ฝ่าย ตามใจเรา เราก็ตามใจเชา ตั้งแต่มีแฟนมาคือเราโอเคกับคนนี้มากๆเลยค่ะ)
เราอยากให้แยกย้ายกันก่อน งาดความฝันของทั้งคู่ไว้ ไปใผ้ถึงฝันของตัวเอแล้วตอนนั้นเราค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้ง ตอนนั้นเราอาขจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นคู่รัก เป็นนายจ้าง-ลูกจ้างก็ได้
ตอนเย็นเรากลับบ้านมาต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ เราก็ทำงานช่วยแม่(ที่บ้านเป็นรร.ดนตรีค่ะ) รร.ใกล้ปิดเราก็ซ้อใเงี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง แต่เราทนไม่ไหวน้ำตาไหลไม่หยุด เราไม่สามารถห้ามน้ำตาได้เลย แม่เดินมากอดถามว่าเป็นอะไร ใครทำลูกแม่ แม่ก็ถามแบบเป็นห่วงนะคะ เราก็ตอบ แม่ด่าเราทันควันเลยค่ะ ไอคนเห*นี่จะไปให้ค่ามันทำไม กูเลี้ยงมาจะ20ปีเห็นค่าในตัวกูมั้ย ถ้าอยู่กับพ่อจะได้ดีแบบทุกวันนี้รึป่าว(แม่กับพ่อแยกทางกันค่ะ) แล้ฝแม่ก็พูดเสียๆหายๆถึงแฟนเราว่านิสัยเสียอย่างงั้น ที่บ้านไม่มีรายได้เสริมอย่างงี้เลยมาเกาะกินให้ไปเลี้ยงผู้ชาย แล้วก็ด่าเรามาชม.กว่าในทุกๆเรื่องตั้งแต่เรายังเด็กจนโต ไม่มีปลอบไม่อะไรเลย สมน้ำหน้าเราซ้ำด้วบค่ะ
เราทนไม่ไหวแล้วเลยปล่อยตัวเองร้องไห้หนักใส่แม่เลยค่ะ จังหวะนั้นไม่สามารถคุมสติตัวเองแล้ว พึ่งขอเลิกแฟนทั้งๆที่ยังรัก แล้วโดนแม่ด่ายับๆเป็นชม.แบบนั้น กลาสเป็นเราใจแตกติดผช. เข้าข้างผั* ซึ่งเรางงมากๆแต่ขก.คุยกับแม่แล้วเลยปล่อยแม่พูดไป เเม่ก็ออกไปรับพี่สาวที่หอเราอาบน้ำนอนเขียนกระทู้นี้
ที่เราจะขอความเห็นคือ
1.ตอนปีหรือ2ที่แล้ว เราเคยหาข้อมูลต่างๆเรื่องการออกมาอยู่คนเดียวทั้งทางปฏิบัติปกติและทางกฎหมาย
-ทางปกติคือคำนวนรายได้ฝห้พอใช้แต่ละเดือน ค่าน้ำไฟ เดินทาง ค่ากิน ของใช้ต่างๆ แล้วก็เงินสำรองเผื่อมีอุบัติเหตุหรืออะไรฉุกเฉินกับตัวเรา
-ทางกฎหมายคือต้อง20ปีบริบูรณ์ถจะออกมาอยู่คนเดียวได้ ถ้ายังไม่ถึง20ผู้ปกครองตามกฎหมายมีสิทธิกำหนดที่อยู่อาศัยของผู้เยาว์ในการปกครอง
เรื่องอายุเราปล่อยเบลอเลยค่ะเพราะอายุเรายังไม่ถึง(อายุ18ค่ะ ปีหน้า19) ระหว่างนี้มีอะไรที่หนูพอจะขยับตัวหรือทำได้ด้วยตังเองโดยที่ทางบ้านไม่รู้บ้างมั้ยคะ เราคิดไม่ออกแล้วค่ะ(เราเด็กดนตรีนะคะ เล่นเปียโนค่ะ ข้อจำกัดของเราคือที่บ้านทำงานวันพฤ.-อา. ถ้าจะหารับสอนดนตรีตามรร.ส่วนใหญ่เด็กจะมาเรัยนวันเสาร์-อา.ค่ะซึ่งเราทำไม่ได้แต่อยากทำมากๆเลยค่ะ)
2. เราตกลงกับแม่ได้ว่าเทอมหน้าให้ลงเรียนเฉพาะวิชาที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับเรา(ทฤษฎีดนตรี,สกิล,ประวัติดนตรี,ฯลฯ) เวลาที่ไม่ได้เรียนก็กลับมาซ้อมที่บ้าน ติวออกไปเรียนต่างประเทศ(ป.ตรีจะจบแล้วแต่แม่สั่งให้ดรอปค่ะ😭) ถ้าเราออกจากบ้านได้ปีหน้า(อายุ19) เราจะข้ามเรื่องนี้ไปเลย เพราะเราก็หนีแม่ออกไปเรียนต่างประเทศแล้ว แต่กว่าจะทำได้มันก็ยากมากๆ
ในกรณีนี้ถ้าเราทำไม่ได้แล้วอายุ20พอดีในปีถัดไป เราสามารถออกมาอยู่คนเดียวได้เองเราควรคิดเรื่องอะไรไว้บ้างคะ แล้วเตรียมใจรับแรงกระแทกจากคนในบ้านยังไง แม่ติองมาตามอาละวาดพาเรากลับบ้านแน่นอนค่ะ ตอยนั้นอายุ20เราสามารถแจ้งข้อหาบุกรุกหรือทำร้ายร่างกายกับแม่ได้มั้ย จากนิสัยของแม่เรามาแนวนี้แน่นอนค่ะ หรือมีอะไรที่เราจะเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนี้ได้บ้าง(ส่วนตัวคิดว่าสภาพเราตอนนั้นก็น่าจะยังเรียนไม่จบเพราะระหว่างทางแม่สั่งดรอปไปก่อนแล้ว)
3. หรืออีกทางที่ดูดีที่สุดเรามี2ทางเล็กน้อยค่ะ
-ไปเรียนต่างประเทศได้ กลับมาไทยไม่เข้าบ้าน แยกกันอยู่เลย หางานทำเลี้ยงตังเองส่งเงินให้แม่นิดหน่อยเท่าที่อยากส่ง
-ไปเรียนต่างประเทศไม่ได้ ยื้อกับแม่จนกว่าจะจบป.ตรีแล้วออกมาเลย ไม่สนแม่แล้ว ให้พี่สาวดูแลแล้วเราเอาวุฒิป.ตรีนี้ไปหางานทุกเลี้ยงตัวเองส่งให้แม่เท่าที่อยากส่ง
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำนะคะ ส่วนท่านไหนต้องการรู้เลื้องหลังก่อนที่เรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ อ่านที่กระทู้เก่าเราได้นะคะ เหตุการณ์นั้นก็เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเองค่ะ
ขอความเห็นหน่อยค่ะ ยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่อยากออกจากบ้านไปเพราะทะเลาะกับแม่หนักมากๆ ไม่ไหวแล้วค่ะ
มาจนถึงกระทู้นี้ที่เราเขียน วันนี้19 ตค.66 ช่วงเที่ยงๆเราบอเลิกกับเเฟนค่ะ เราไม่อยากให้แฟนมาลำบากใจกับเรื่องที่บ้านเราแล้ว อย่างเรื่องที่บ่อยสุดคือเราทะเลาะกับแม่เรื่องอะไร แม่ทำร้ายร่างกายมั้ย(ล่าสุดหยิกเราเลือดออกเป็นแผลเป็นที่แขนค่ะ ละเราเป็นนักดนตรีต้องขึ้นเวทีแสดง ต้องใส่แขนยาวคลุมไว้ตลอด) หนทอเป็นพี่สาวเราที่โทรหาแฟนเราระบายเรื่องอะไรไม่รู้บ่อยๆ(แต่พี่สาวเรามีคนคุยแล้ง ไม่รู้ทำไมไม่ไปปรึกษาคนของตัวเอง)
แม่เราชอบพูดยุยงให้เราเลิกกับแฟนค่ะ ไม่ว่าเป็น ก็แค่อีเด็กผช.คนนึงที่โตมาในสลัมข้างสุสาน(ในกทม.นะคะ แถวๆใจกลางเมือง) มันทำอย่างงั้น พูดอย่างงี้ใส่แม่ ฯลฯซึ่งเราไม่เคยเห็นว่าแฟนทำ เรารู้นิสัยทั้ง2ฝั่ง ซึ่งครั้งนี้ในใจเราเข้าข้างแฟน เราลยขอเลิกกับแฟนก่อน ให้เราหลุดอออกมาจากบ้านหลังนี้ เรียนจบหางานทำได้ แล้ฝเราค่อยมาคุยกันใหม่ แฟนเราก็โอเคนะคะ ตอนคุยกันเรื่องจะเลิกเเฟนก็กอดเราแน่นเพราะรู้ว่าถ้าเราเลือกทางนี้มันจะเป็นยังไง เราต้องแตกหักไปอีกเยอะแน่ๆ เเต่เราก็ยังยืนยันที่จะเลิกกับแฟน ถึงจะดูหักดิบไปหน่อย แต่เรายังอยากให้ความทรงจำนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา2คน ไม่อยากให้ถึงจุดที่ด่ากัน ทะเลากันแรงๆจนมองหน้าไม่ติด ถึงจะมีทะเลาะบ้างงอนน้อยใจบ้างก็ตาม เขาไม่เคยด่าเรานะคะะ ไม่เคยใช้กำลังดเวย จับมือกันคุยทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เราอยากให้ความรู้สึกดีๆ ภาพความทรงจำดีๆนี้อยู่ด้ววกันไปตลอด จนวันที่เราได้มาเจอกันอีกครั้งนึง (ในใจเราไม่ไหวแล้ว ไม่อยากเลิกเลย ตอนอยู่ด้วยกันมันดีมากๆ เขาไม่เคยล่วงเกินเรา ให้เกียรติ เคารพ รับฟังทั้ง2ฝ่าย ตามใจเรา เราก็ตามใจเชา ตั้งแต่มีแฟนมาคือเราโอเคกับคนนี้มากๆเลยค่ะ)
เราอยากให้แยกย้ายกันก่อน งาดความฝันของทั้งคู่ไว้ ไปใผ้ถึงฝันของตัวเอแล้วตอนนั้นเราค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้ง ตอนนั้นเราอาขจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นคู่รัก เป็นนายจ้าง-ลูกจ้างก็ได้
ตอนเย็นเรากลับบ้านมาต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ เราก็ทำงานช่วยแม่(ที่บ้านเป็นรร.ดนตรีค่ะ) รร.ใกล้ปิดเราก็ซ้อใเงี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง แต่เราทนไม่ไหวน้ำตาไหลไม่หยุด เราไม่สามารถห้ามน้ำตาได้เลย แม่เดินมากอดถามว่าเป็นอะไร ใครทำลูกแม่ แม่ก็ถามแบบเป็นห่วงนะคะ เราก็ตอบ แม่ด่าเราทันควันเลยค่ะ ไอคนเห*นี่จะไปให้ค่ามันทำไม กูเลี้ยงมาจะ20ปีเห็นค่าในตัวกูมั้ย ถ้าอยู่กับพ่อจะได้ดีแบบทุกวันนี้รึป่าว(แม่กับพ่อแยกทางกันค่ะ) แล้ฝแม่ก็พูดเสียๆหายๆถึงแฟนเราว่านิสัยเสียอย่างงั้น ที่บ้านไม่มีรายได้เสริมอย่างงี้เลยมาเกาะกินให้ไปเลี้ยงผู้ชาย แล้วก็ด่าเรามาชม.กว่าในทุกๆเรื่องตั้งแต่เรายังเด็กจนโต ไม่มีปลอบไม่อะไรเลย สมน้ำหน้าเราซ้ำด้วบค่ะ
เราทนไม่ไหวแล้วเลยปล่อยตัวเองร้องไห้หนักใส่แม่เลยค่ะ จังหวะนั้นไม่สามารถคุมสติตัวเองแล้ว พึ่งขอเลิกแฟนทั้งๆที่ยังรัก แล้วโดนแม่ด่ายับๆเป็นชม.แบบนั้น กลาสเป็นเราใจแตกติดผช. เข้าข้างผั* ซึ่งเรางงมากๆแต่ขก.คุยกับแม่แล้วเลยปล่อยแม่พูดไป เเม่ก็ออกไปรับพี่สาวที่หอเราอาบน้ำนอนเขียนกระทู้นี้
ที่เราจะขอความเห็นคือ
1.ตอนปีหรือ2ที่แล้ว เราเคยหาข้อมูลต่างๆเรื่องการออกมาอยู่คนเดียวทั้งทางปฏิบัติปกติและทางกฎหมาย
-ทางปกติคือคำนวนรายได้ฝห้พอใช้แต่ละเดือน ค่าน้ำไฟ เดินทาง ค่ากิน ของใช้ต่างๆ แล้วก็เงินสำรองเผื่อมีอุบัติเหตุหรืออะไรฉุกเฉินกับตัวเรา
-ทางกฎหมายคือต้อง20ปีบริบูรณ์ถจะออกมาอยู่คนเดียวได้ ถ้ายังไม่ถึง20ผู้ปกครองตามกฎหมายมีสิทธิกำหนดที่อยู่อาศัยของผู้เยาว์ในการปกครอง
เรื่องอายุเราปล่อยเบลอเลยค่ะเพราะอายุเรายังไม่ถึง(อายุ18ค่ะ ปีหน้า19) ระหว่างนี้มีอะไรที่หนูพอจะขยับตัวหรือทำได้ด้วยตังเองโดยที่ทางบ้านไม่รู้บ้างมั้ยคะ เราคิดไม่ออกแล้วค่ะ(เราเด็กดนตรีนะคะ เล่นเปียโนค่ะ ข้อจำกัดของเราคือที่บ้านทำงานวันพฤ.-อา. ถ้าจะหารับสอนดนตรีตามรร.ส่วนใหญ่เด็กจะมาเรัยนวันเสาร์-อา.ค่ะซึ่งเราทำไม่ได้แต่อยากทำมากๆเลยค่ะ)
2. เราตกลงกับแม่ได้ว่าเทอมหน้าให้ลงเรียนเฉพาะวิชาที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับเรา(ทฤษฎีดนตรี,สกิล,ประวัติดนตรี,ฯลฯ) เวลาที่ไม่ได้เรียนก็กลับมาซ้อมที่บ้าน ติวออกไปเรียนต่างประเทศ(ป.ตรีจะจบแล้วแต่แม่สั่งให้ดรอปค่ะ😭) ถ้าเราออกจากบ้านได้ปีหน้า(อายุ19) เราจะข้ามเรื่องนี้ไปเลย เพราะเราก็หนีแม่ออกไปเรียนต่างประเทศแล้ว แต่กว่าจะทำได้มันก็ยากมากๆ
ในกรณีนี้ถ้าเราทำไม่ได้แล้วอายุ20พอดีในปีถัดไป เราสามารถออกมาอยู่คนเดียวได้เองเราควรคิดเรื่องอะไรไว้บ้างคะ แล้วเตรียมใจรับแรงกระแทกจากคนในบ้านยังไง แม่ติองมาตามอาละวาดพาเรากลับบ้านแน่นอนค่ะ ตอยนั้นอายุ20เราสามารถแจ้งข้อหาบุกรุกหรือทำร้ายร่างกายกับแม่ได้มั้ย จากนิสัยของแม่เรามาแนวนี้แน่นอนค่ะ หรือมีอะไรที่เราจะเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนี้ได้บ้าง(ส่วนตัวคิดว่าสภาพเราตอนนั้นก็น่าจะยังเรียนไม่จบเพราะระหว่างทางแม่สั่งดรอปไปก่อนแล้ว)
3. หรืออีกทางที่ดูดีที่สุดเรามี2ทางเล็กน้อยค่ะ
-ไปเรียนต่างประเทศได้ กลับมาไทยไม่เข้าบ้าน แยกกันอยู่เลย หางานทำเลี้ยงตังเองส่งเงินให้แม่นิดหน่อยเท่าที่อยากส่ง
-ไปเรียนต่างประเทศไม่ได้ ยื้อกับแม่จนกว่าจะจบป.ตรีแล้วออกมาเลย ไม่สนแม่แล้ว ให้พี่สาวดูแลแล้วเราเอาวุฒิป.ตรีนี้ไปหางานทุกเลี้ยงตัวเองส่งให้แม่เท่าที่อยากส่ง
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำนะคะ ส่วนท่านไหนต้องการรู้เลื้องหลังก่อนที่เรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ อ่านที่กระทู้เก่าเราได้นะคะ เหตุการณ์นั้นก็เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเองค่ะ