- หลังจากดูจบปรากฎว่าสนุกมาก เพลินมาก แม้รู้อยู่แล้วว่าบทสรุปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะอ่านจากเรื่องย่อมาก่อนแต่ระหว่างทางนี่สิผมกลับลุ้นยิ่งกว่าไม่ใช่เพราะเส้นทางที่ตัวละครแวะผ่านไปแต่ละที่อย่างใดหากแต่เป็นตัวของนางเอกนี่แหล่ะที่เจ้ากี้เจ้าการไปซะทุกอย่างเดี๋ยวดีเดี๋ยววีนและนำจนพาให้สมาชิกที่เหลือในวงอีก 3 คน กับ ลุงขับรถอีก 1 พบเจอเหตุการณ์ชวนว้าวุ่นไปต่าง ๆ ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 37 นาที ที่ทั้งสนุกไปกับจังหวะดนตรีที่แพรวพราวทั้งฮากับความไร้บทพูดของสมาชิกในวงทั้ง 3 คนที่นอกจากมีหน้าที่เล่นดนตรีแล้วยังได้กินแค่น้ำเปล่าทั้งทราบซึ้งในมิตรภาพของสมาชิกในวงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเหมือนเป็นทั้งเพื่อนทั้งครอบครัวและทาสไปพร้อมกัน แม้แต่ยูนิฟอร์มก็ยังใส่ชุดเหมือนกัน ซึ่งเราก็ยืนยันอย่างแน่นอนไม่ได้เต็ม 100% ว่าหนังมันจะพาเราไปถึงจุดหมายกันตอนไหนแต่รู้ว่าถึงแน่ ?
- ชอบการเล่าเรื่องแบบนี้ตัดแบ่งออกเป็น Chapters หลาย ๆ บทแล้วกำหนด Topic ขึ้นมาว่า Chapters ขณะนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร ? หนังก็จะเล่าในส่วนนี้จนกระทั่งจบบทไป คือ นอกจากจะเป็นระเบียบต่อการเรียงลำดับเนื้อเรื่องแล้วยังทำให้คนดูอย่างเราเข้าใจกับเรื่องราวที่มีโทนสนุกสนานมีชีวิตชีวาของเสียงเพลงแต่ละเพลงที่เล่นไม่ซ้ำกันให้น่าติดตามได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งไม่บ่อยนักที่หนังญี่ปุ่นแนวนี้จะสามารถ Balance ระหว่างโทนความเป็น Comedy , Drama และ Music ให้พอดีกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อหรือยืดยาดกับการขายบรรยากาศรอบทางเหมือนที่หนังญี่ปุ่นเรื่องอื่น ๆ นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่
- เปิดเรื่องมาถึงเป็นชาย 3 คนสวมแว่นตากันแดดและชุดยูนิฟอร์มเหมือนกันกำลังยืนบรรเลงดนตรีเรียงหน้ากระดานอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมีนางเอกซึ่งเป็นหัวหน้าวงกำลังยืนดูอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเจ้าของค่ายเพลงท่ามกลางแดดเปรี้ยง ๆ กลางทุ่งแห่งหนึ่ง หลังจากโชว์จบเจ้าของค่ายเพลงก็ได้สรุปและให้คำแนะนำกับนางเอกว่าควรพาวงไปออดิชั่นที่งานเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นที่โตเกียวดีกว่า เพราะเป็นการเปิดตัวในฐานะวงดนตรีหน้าใหม่ไปด้วย ซึ่ง Plot หลักจริงมีแค่นี้ หลังจากนี้หนังก็จะแบ่งเป็น Chapters ตามที่กล่าวไป ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ซับซ้อนอะไร เดินเป็นเส้นตรงดิ่ง นอกจากจะมีสถานการณ์เกิดขึ้นคับขันเฉพาะหน้าพอเล่นกับอารมณ์ของเราได้ขำออกมาบ้าง อาทิเช่น เล่นดนตรีเปิดหมวกกลางสนามหญ้า , นางเอกเจอกับชายคนนึงที่ทำตัวพิรุธชอบกลมอบของบางอย่างให้แก่เธอ หรือ แวะรับจ๊อบจากลูกค้าที่จ้างมาเล่นดนตรีตามที่ต่าง ๆ รวมทั้งการสูญเสียสมาชิกในวงจนเป็นชนวนให้เกิดการทะเลาะกันระหว่างนางเอกกับสมาชิกในวงจนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายตามมาแล้วยังมีปมเสริมตามมาก็คือ ปมการตามหาน้องสาวที่หายตัวไปของนางเอก แทรกเข้ามาด้วยเป็นระยะ
- สรุป ภาพรวมสนุก ดูง่าย กระชับ มีความเป็นผจญภัย Road Trip ที่ขายความเป็น Music แบบ Dream Team อีกที แถมเพลิดเพลินกับดนตรีอีเล็คโทรนิกส์ที่ตัวละครหยิบยกมาทั้ง Tracks เลยว่า Chapters นี้ก็เล่นเพลงนี้ไปตามโทนขณะนั้น ซึ่งถือว่าเป็นสีสันอีกอย่างนึงที่ช่วยยกระดับให้เรื่องมีความ Inter มากขึ้น บวกกับการที่ตัวละครหลักมีไม่กี่คนแต่ทุกคนมีพื้นที่ให้ปล่อย Scene เป็นของตนเอง โดยเฉพาะความเท่ห์ของนางเอกตอนที่ใส่แว่นแต่พอถอดแว่นออกมายอมรับว่าน่ารักมากจนให้อภัยในความเกรี้ยวกราดของเธอไปชั่วครู่ ที่ขาดไปไม่ได้คือ 3 หน่อในวงที่นอกจากมีสกิลการเล่นดนตรีระดับเทพแล้วยังเป็นตัวเด็ดของทีมที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน มีแวะข้างทางแต่ไม่หลงประเด็นหลักอย่างเป้าหมาย การค้นหาความฝัน แต่มีปมอื่นที่แทรกเข้ามาอย่างเรื่องน้องสาวของนางเอกที่มีเพียงแต่บทสนทนาจากปากเปล่า และ End Credit ที่มีการพูดถึงขึ้นมาอีกครั้งก็ยังไม่มีการคลี่คลายให้ชัดเจนไปมากกว่านี้เพื่อรอไว้ปล่อยของต่อในภาคต่อไป
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม และ ติดตามช่องทาง Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
[CR] No.65. Techno Brothers : ร้องเต้น เล่นเทค-โน
- หลังจากดูจบปรากฎว่าสนุกมาก เพลินมาก แม้รู้อยู่แล้วว่าบทสรุปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะอ่านจากเรื่องย่อมาก่อนแต่ระหว่างทางนี่สิผมกลับลุ้นยิ่งกว่าไม่ใช่เพราะเส้นทางที่ตัวละครแวะผ่านไปแต่ละที่อย่างใดหากแต่เป็นตัวของนางเอกนี่แหล่ะที่เจ้ากี้เจ้าการไปซะทุกอย่างเดี๋ยวดีเดี๋ยววีนและนำจนพาให้สมาชิกที่เหลือในวงอีก 3 คน กับ ลุงขับรถอีก 1 พบเจอเหตุการณ์ชวนว้าวุ่นไปต่าง ๆ ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 37 นาที ที่ทั้งสนุกไปกับจังหวะดนตรีที่แพรวพราวทั้งฮากับความไร้บทพูดของสมาชิกในวงทั้ง 3 คนที่นอกจากมีหน้าที่เล่นดนตรีแล้วยังได้กินแค่น้ำเปล่าทั้งทราบซึ้งในมิตรภาพของสมาชิกในวงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขเหมือนเป็นทั้งเพื่อนทั้งครอบครัวและทาสไปพร้อมกัน แม้แต่ยูนิฟอร์มก็ยังใส่ชุดเหมือนกัน ซึ่งเราก็ยืนยันอย่างแน่นอนไม่ได้เต็ม 100% ว่าหนังมันจะพาเราไปถึงจุดหมายกันตอนไหนแต่รู้ว่าถึงแน่ ?
- ชอบการเล่าเรื่องแบบนี้ตัดแบ่งออกเป็น Chapters หลาย ๆ บทแล้วกำหนด Topic ขึ้นมาว่า Chapters ขณะนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร ? หนังก็จะเล่าในส่วนนี้จนกระทั่งจบบทไป คือ นอกจากจะเป็นระเบียบต่อการเรียงลำดับเนื้อเรื่องแล้วยังทำให้คนดูอย่างเราเข้าใจกับเรื่องราวที่มีโทนสนุกสนานมีชีวิตชีวาของเสียงเพลงแต่ละเพลงที่เล่นไม่ซ้ำกันให้น่าติดตามได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งไม่บ่อยนักที่หนังญี่ปุ่นแนวนี้จะสามารถ Balance ระหว่างโทนความเป็น Comedy , Drama และ Music ให้พอดีกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อหรือยืดยาดกับการขายบรรยากาศรอบทางเหมือนที่หนังญี่ปุ่นเรื่องอื่น ๆ นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่
- เปิดเรื่องมาถึงเป็นชาย 3 คนสวมแว่นตากันแดดและชุดยูนิฟอร์มเหมือนกันกำลังยืนบรรเลงดนตรีเรียงหน้ากระดานอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมีนางเอกซึ่งเป็นหัวหน้าวงกำลังยืนดูอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเจ้าของค่ายเพลงท่ามกลางแดดเปรี้ยง ๆ กลางทุ่งแห่งหนึ่ง หลังจากโชว์จบเจ้าของค่ายเพลงก็ได้สรุปและให้คำแนะนำกับนางเอกว่าควรพาวงไปออดิชั่นที่งานเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นที่โตเกียวดีกว่า เพราะเป็นการเปิดตัวในฐานะวงดนตรีหน้าใหม่ไปด้วย ซึ่ง Plot หลักจริงมีแค่นี้ หลังจากนี้หนังก็จะแบ่งเป็น Chapters ตามที่กล่าวไป ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ซับซ้อนอะไร เดินเป็นเส้นตรงดิ่ง นอกจากจะมีสถานการณ์เกิดขึ้นคับขันเฉพาะหน้าพอเล่นกับอารมณ์ของเราได้ขำออกมาบ้าง อาทิเช่น เล่นดนตรีเปิดหมวกกลางสนามหญ้า , นางเอกเจอกับชายคนนึงที่ทำตัวพิรุธชอบกลมอบของบางอย่างให้แก่เธอ หรือ แวะรับจ๊อบจากลูกค้าที่จ้างมาเล่นดนตรีตามที่ต่าง ๆ รวมทั้งการสูญเสียสมาชิกในวงจนเป็นชนวนให้เกิดการทะเลาะกันระหว่างนางเอกกับสมาชิกในวงจนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายตามมาแล้วยังมีปมเสริมตามมาก็คือ ปมการตามหาน้องสาวที่หายตัวไปของนางเอก แทรกเข้ามาด้วยเป็นระยะ
- สรุป ภาพรวมสนุก ดูง่าย กระชับ มีความเป็นผจญภัย Road Trip ที่ขายความเป็น Music แบบ Dream Team อีกที แถมเพลิดเพลินกับดนตรีอีเล็คโทรนิกส์ที่ตัวละครหยิบยกมาทั้ง Tracks เลยว่า Chapters นี้ก็เล่นเพลงนี้ไปตามโทนขณะนั้น ซึ่งถือว่าเป็นสีสันอีกอย่างนึงที่ช่วยยกระดับให้เรื่องมีความ Inter มากขึ้น บวกกับการที่ตัวละครหลักมีไม่กี่คนแต่ทุกคนมีพื้นที่ให้ปล่อย Scene เป็นของตนเอง โดยเฉพาะความเท่ห์ของนางเอกตอนที่ใส่แว่นแต่พอถอดแว่นออกมายอมรับว่าน่ารักมากจนให้อภัยในความเกรี้ยวกราดของเธอไปชั่วครู่ ที่ขาดไปไม่ได้คือ 3 หน่อในวงที่นอกจากมีสกิลการเล่นดนตรีระดับเทพแล้วยังเป็นตัวเด็ดของทีมที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน มีแวะข้างทางแต่ไม่หลงประเด็นหลักอย่างเป้าหมาย การค้นหาความฝัน แต่มีปมอื่นที่แทรกเข้ามาอย่างเรื่องน้องสาวของนางเอกที่มีเพียงแต่บทสนทนาจากปากเปล่า และ End Credit ที่มีการพูดถึงขึ้นมาอีกครั้งก็ยังไม่มีการคลี่คลายให้ชัดเจนไปมากกว่านี้เพื่อรอไว้ปล่อยของต่อในภาคต่อไป
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม และ ติดตามช่องทาง Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้