สวัสดีค่ะ รบกวนปรึกษาค่ะ 
เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เลี้ยวขวา(ออกจากหมู่บ้าน) ชนกับมอเตอร์ไซต์ (มาทางตรง) ดังรูปค่ะ 
จากคลิปกล้องวงจรปิดรถฝั่งซ้ายจอดให้แล้ว-ฝั่งขวาไม่มีรถมา เลยเอาหน้าออกมาก่อนกำลังจะเข้าเลนส์(ออกมาช้า ไม่ได้พุ่งออกมา) แต่มอเตอร์ไซต์ตรงมาจากฝั่งขวา (ไม่ได้ชะลอ) เลยเฉี่ยวกับรถตรงกันชนหน้า(ฝั่งซ้าย)ค่ะ กรณีนี้รถเก๋งประมาทฝ่ายเดียวหรือเป็นประมาทร่วมคะ

ตอนแรกจะอยากช่วยเหลทอมอเตอร์ไซต์เลยจะยอมประมาทฝ่ายเดียวให้เพราะฝั่งนั้นไม่มีประกัน แต่ฝั่งมอเตอร์ไซต์เรียกจะเอาค่าสินไหมค่อนข้างสูง 30k แจ้งว่าต้องหยุดงาน 1 เดือน (ใบรับรองแพทย์เขียนแค่ให้มาติดตามอาการต่อเนื่อง เป็นแผลถลอกฟกช้ำ และเอ็นอักเสบ ให้กลับบ้านได้ไม่ต้องแอดมิด เอกซเรย์แล้วไม่มีอะไรหักหรือร้าวค่ะ) ทางคู่กรณีมีหลักฐานยืนยันเงินเดือนแค่ 9k ทางประกันจึงอนุมัติจ่ายให้ได้แค่ตามหลักฐานที่มี แต่ครอบครัวของคู่กรณีอ้างว่าทำงานอื่นอีก แต่ไม่ได้มีหลักฐานรายได้ เลยเรียกร้องให้ฝั่งเราจ่ายแยกนอกเหนือจากที่ประกันจ่ายเพิ่มให้ 20,000 เพื่อให้ยอมจบคดี โดยอ้างว่าทที่เรียกเยอะเพราะว่าทางฝั่งเราไม่โทรไปเยี่ยมลูกเค้า แต่เราและคุณแม่ติดต่อไปสอบถามอาการ 2 รอบ ทั้งคุณอาของคนเจ็บ และตัวคนเจ็บ ยืนยันว่าเอกซเรย์และพบคุณหมอเรียบร้อยแล้วไม่มีอาการอะไร และคุณหมอให้กลับบ้านได้ ทางเราจึงไม่ได้ไปสอบถามอะไรต่อ และแจ้งว่าให้รวบรวมหลักฐานค่าใช้จ่ายแล้วแจ้งเราเพื่อนัดเจรจาได้เลย  ทางประกันเราแนะนำว่าคู่กรณีเรียกร้องค่อนข้างเกินเหตุ จึงแนะนำให้แย้งกลับเป็นประมาทร่วมเนื่องจากรถเราเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าก่อนออก และออกมาช้า แต่ทางมอเตอร์ไซต์ขับมาค่อนข้างเร็วค่ะ อยากปรึกษาผู้ที่พอทราบกฏหมายว่าจากเหตุการณ์นี้สามารถเป็นประมาทร่วมได้ไหมคะ หรืออย่างไรรถที่ออกมาจากทางโทก็ผิด ขอบคุณล่วงหน้ามากๆค่ะ