สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังว่าผมทำงานกราฟฟิกบริษัทเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรี
โดยที่ตกลงฐานเงินเดือนอยู่ที่ 15,000.- ไม่รวมเงินพิเศษอื่นๆ อีกประมาณ 2-3พัน รวมๆจะได้ 17,000-18,000.- ต่อเดือน
ผมเริ่มงาน 1 มิถุนายนปี 65 และถูกบีบบังคบให้ออก วันที่ 1 กันยายน 2566
เนื่องด้วยผมป่วยเป็นเยื้อหุ้มปอดอักเสบ น้ำท่วมหัวใจและปอด เข้า icu และพักห้องปกติในโรงบาลตั้งแต่ 1-22 สิงหาคม 2566
โดยบริษัทจะจ่ายเงินแบ่งเป็น 2 วีค ซึ่งวันที่ 16 เดือน สิงหาคม 2566 บริษัทได้จ่ายเงินให้ปกติ ณ ตอนนั้นยังรักษาตัวอยู่โรงบาล
และออกจากโรงบาลวันที่ 22 สิงหา มีกำหนดจะพักฟื้นและจะกลับเข้าไปทำงานในวันที่ 1 กันยายน
แต่ระหว่างวันที่ 22-31 สิงหา ผมได้ทำงาน WFH ที่บ้าน
ส่งงานตามปกติอาจจะมีช้าบ้าง (เพิ่มเวลาทำ ส-อให้แทน) เพราะต้องกินยาและร่างกายไม่คงที่ ทำงานได้ไม่เยอะมาก
แต่วันที่ 31 เป็นวันที่เงินเดือนควรจะออก ผมกลับไม่ได้รับเงินเดือนส่วนนั้น
พอครบกำหนดเข้าไปทำงานวันที่ 1 บริษัทได้เรียกคุยตอนเย็นก่อนกลับบ้าน
ผมถูกบีบบังคับให้ออก โดยมีทางเลือกสองทาง
1. ทำงานอยู่ต่อให้แต่ให้เป็นรายวันแทนเงินเดือน วันละ 500.- ถ้า ส-อ ไม่เข้าออฟฟิศก็ไม่ให้ค่าจ้าง
2. เขาเสนอเงิน 10,000.- และให้ผมออกไปเลย ไม่ต้องมาทำงานอีก
***หรือเท่ากับเขาจ่ายเงินเดือนผมเดือนสุดท้าย และให้ออกโดยไม่มีเงินชดเชยอะไรเลย คุณว่าเขาเหลี่ยมแค่ไหน
ผมคุยกับเขาอยู่นาน ราวๆ 1-2 ชั่วโมง ได้ว่าจะตกลงหาทางออกยังไงร่วมกัน
บทสรุปผมคิดไตร่ตรองว่าถ้าเป็นแบบนี้ ผมควรจะออก เพราะบริษัท ไม่มีวันลาป่วย ลากิจ หรืออื่นๆ ถ้าใครลาไม่ว่ากรณีไหน ถ้าฐานเงินเดือนมากกว่า 15,000.- จะถูกหักเงินวันละ 1,000.- ใช่ครับฟังไม่ผิด ซึ่งตัวนโยบายนี้มีผลบังคับใช้ที่บริษัทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 66 ที่ผ่านมา
โดยแลกกับการมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ (ก่อนหน้าจะเป็นการหยุดเสาร์เว้นเสาร์)
โดยส่วนตัวผมมีโรคประจำตัวคือโรคเก๊าท์ และโรคหัวใจเต้นเร็ว 120-180bpm เวลาไปหาหมอรับยาหรือตรวจประจำเดือน ก็จะโดนหัก วันไหนเก๊าท์กำเริบมาทำงานไม่ได้ ก็จะโดนหักเหมือนกัน มีใบรับรองแพทย์ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ประเด็นหลังจากที่ตัวผมออกจากงานแล้ว ได้มีการยื่นรายงานตัวว่างงานในวันที่ 15/09/66 และ 11/10/66
โดยเงินเงินมา 2 รอบแบ่งเป็น ครั้งแรกเงินเข้า 989.55บาท รอบสอง 2,858.70 บาท
ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงของฐานเงินเดือนที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น
ถ้าคำนวนคราวๆ ก็คือเขาตั้งฐานเงินเดือนผมไว้ที่ 9,500 และเงินชดเชย 30% คือ 2,850 บาท
แต่เงินเดือนที่ผมตกลงคือ 15,000 และ 30% คือ 4,500 นั้นคือเงินที่ผมควรจะได้จากการชดเชย
ผมทักไลน์เข้าไปคุยส่วนตัวกับเจ้าของบริษัท แต่ก็ไม่มีการตอบกับมา เงียบหาย ผมจึงมาตั้งกระทู้นี้เพื่อสอบถามแนวทางว่าผมควรทำยังไงดี
มีหลายคนบอกว่าให้ผมฟ้องกรมแรงงาน ถ้าจะฟ้องจริงๆ ผมต้องเตรียมเอกสารหลักฐานอะไรไว้บ้าง ขอบคุณครับ
** ผมโทรไปที่ประกันสังคมเขตชลบุรี โทรไม่ติดสายไม่ว่างตลอด
เจอบริษัทเหลี่ยมใส่เรื่องฐานเงินเดือนควรทำยังไงดีครับ
ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังว่าผมทำงานกราฟฟิกบริษัทเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรี
โดยที่ตกลงฐานเงินเดือนอยู่ที่ 15,000.- ไม่รวมเงินพิเศษอื่นๆ อีกประมาณ 2-3พัน รวมๆจะได้ 17,000-18,000.- ต่อเดือน
ผมเริ่มงาน 1 มิถุนายนปี 65 และถูกบีบบังคบให้ออก วันที่ 1 กันยายน 2566
เนื่องด้วยผมป่วยเป็นเยื้อหุ้มปอดอักเสบ น้ำท่วมหัวใจและปอด เข้า icu และพักห้องปกติในโรงบาลตั้งแต่ 1-22 สิงหาคม 2566
โดยบริษัทจะจ่ายเงินแบ่งเป็น 2 วีค ซึ่งวันที่ 16 เดือน สิงหาคม 2566 บริษัทได้จ่ายเงินให้ปกติ ณ ตอนนั้นยังรักษาตัวอยู่โรงบาล
และออกจากโรงบาลวันที่ 22 สิงหา มีกำหนดจะพักฟื้นและจะกลับเข้าไปทำงานในวันที่ 1 กันยายน
แต่ระหว่างวันที่ 22-31 สิงหา ผมได้ทำงาน WFH ที่บ้าน
ส่งงานตามปกติอาจจะมีช้าบ้าง (เพิ่มเวลาทำ ส-อให้แทน) เพราะต้องกินยาและร่างกายไม่คงที่ ทำงานได้ไม่เยอะมาก
แต่วันที่ 31 เป็นวันที่เงินเดือนควรจะออก ผมกลับไม่ได้รับเงินเดือนส่วนนั้น
พอครบกำหนดเข้าไปทำงานวันที่ 1 บริษัทได้เรียกคุยตอนเย็นก่อนกลับบ้าน
ผมถูกบีบบังคับให้ออก โดยมีทางเลือกสองทาง
1. ทำงานอยู่ต่อให้แต่ให้เป็นรายวันแทนเงินเดือน วันละ 500.- ถ้า ส-อ ไม่เข้าออฟฟิศก็ไม่ให้ค่าจ้าง
2. เขาเสนอเงิน 10,000.- และให้ผมออกไปเลย ไม่ต้องมาทำงานอีก
***หรือเท่ากับเขาจ่ายเงินเดือนผมเดือนสุดท้าย และให้ออกโดยไม่มีเงินชดเชยอะไรเลย คุณว่าเขาเหลี่ยมแค่ไหน
ผมคุยกับเขาอยู่นาน ราวๆ 1-2 ชั่วโมง ได้ว่าจะตกลงหาทางออกยังไงร่วมกัน
บทสรุปผมคิดไตร่ตรองว่าถ้าเป็นแบบนี้ ผมควรจะออก เพราะบริษัท ไม่มีวันลาป่วย ลากิจ หรืออื่นๆ ถ้าใครลาไม่ว่ากรณีไหน ถ้าฐานเงินเดือนมากกว่า 15,000.- จะถูกหักเงินวันละ 1,000.- ใช่ครับฟังไม่ผิด ซึ่งตัวนโยบายนี้มีผลบังคับใช้ที่บริษัทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 66 ที่ผ่านมา
โดยแลกกับการมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ (ก่อนหน้าจะเป็นการหยุดเสาร์เว้นเสาร์)
โดยส่วนตัวผมมีโรคประจำตัวคือโรคเก๊าท์ และโรคหัวใจเต้นเร็ว 120-180bpm เวลาไปหาหมอรับยาหรือตรวจประจำเดือน ก็จะโดนหัก วันไหนเก๊าท์กำเริบมาทำงานไม่ได้ ก็จะโดนหักเหมือนกัน มีใบรับรองแพทย์ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ประเด็นหลังจากที่ตัวผมออกจากงานแล้ว ได้มีการยื่นรายงานตัวว่างงานในวันที่ 15/09/66 และ 11/10/66
โดยเงินเงินมา 2 รอบแบ่งเป็น ครั้งแรกเงินเข้า 989.55บาท รอบสอง 2,858.70 บาท
ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงของฐานเงินเดือนที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น
ถ้าคำนวนคราวๆ ก็คือเขาตั้งฐานเงินเดือนผมไว้ที่ 9,500 และเงินชดเชย 30% คือ 2,850 บาท
แต่เงินเดือนที่ผมตกลงคือ 15,000 และ 30% คือ 4,500 นั้นคือเงินที่ผมควรจะได้จากการชดเชย
ผมทักไลน์เข้าไปคุยส่วนตัวกับเจ้าของบริษัท แต่ก็ไม่มีการตอบกับมา เงียบหาย ผมจึงมาตั้งกระทู้นี้เพื่อสอบถามแนวทางว่าผมควรทำยังไงดี
มีหลายคนบอกว่าให้ผมฟ้องกรมแรงงาน ถ้าจะฟ้องจริงๆ ผมต้องเตรียมเอกสารหลักฐานอะไรไว้บ้าง ขอบคุณครับ
** ผมโทรไปที่ประกันสังคมเขตชลบุรี โทรไม่ติดสายไม่ว่างตลอด