JJNY : 5in1 สื่อนอกมีหลักฐาน│อังกฤษเคียงข้างอิสราเอล│ก้าวไกลไล่บี้รัฐแก้ เด็กขายนมเปรี้ยว│หมออ๋องพร้อมมาก│หุ้นปิดร่วง

สื่อนอกชี้มีหลักฐาน กลุ่มฮามาสใช้อาวุธที่ชื้อจากเกาหลีเหนือ
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208427
 
 
มีหลักฐานที่เหมือนจะบ่งชี้ว่า กลุ่มฮามาสซื้ออาวุธบางส่วนจากเกาหลีเหนือ เช่น เครื่องยิงระเบิด F-7
 
หนึ่งในข้อกังขาที่เกิดขึ้นในใจของใครหลายคนเมื่อกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน คือกลุ่มฮามาสไปเอาอาวุธยุทโธปกรณ์จำวนมากมาจากที่ไหน และลักลอบขนส่งเข้าไปในฉนวนกาซาได้อย่างไร
 
ในเรื่องของการขนส่ง คาดว่าคำตอบยังคงเป็นเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาส ซึ่งซับซ้อนและครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ทำให้สามารถมีการขนย้ายสิ่งต่าง ๆ เข้าไปข้างในได้

แต่กับคำถามว่าอามาสหาอาวุธมาจากไหนนั้น ดูจะหาคำตอบที่ชี้ชัดไปเลยได้ยาก แต่ที่เชื่อกันมากที่สุดคือ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน กระนั้น อาวุธจากอิหร่านเพียงอย่างไรเดียวก็ไม่น่าจะเพียงพอ ที่น่าจะเป็นไปได้อีกทางหนึ่งก็คือ “การซื้อจากต่างชาติ
 
ล่าสุด มีหลักฐานที่เหมือนจะบ่งชี้ว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้ซื้ออาวุธบางส่วนมาจากคนที่เรานึกไม่ถึงว่าจะมีเอี่ยวในสงครามอิสราเอล-ฮามาสด้วย นั่นคือ “เกาหลีเหนือ
 
ในวิดีโอของกลุ่มติดอาวุธฮามาส และจากอาวุธที่อิสราเอลยึดมาได้บางส่วน ได้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มฮามาสได้ใช้อาวุธของเกาหลีเหนือโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดฉากโจมตี
 
วิดีโอดังกล่าวได้รับการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเกาหลีเหนือ 2 คน ประกอบกับหน้าตาอาวุธที่ยึดได้ในสนามรบ และข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของเกาหลีใต้ ทั้งหมดนำมาประกอบกันแล้วบ่งชี้ว่า กลุ่มฮามาสใช้ “เครื่องยิงระเบิด F-7” ซึ่งเป็นเครื่องยิงระเบิดประทับบ่ายิงที่ผลิตโดยเกาหลีเหนือ
 
หลักฐานดังกล่าวเผยให้เห็นช่องทางที่เกาหลีเหนือใช้ในการหาทุนทรัพย์มาพัฒนาศักยภาพทางทหารของตน ด้วยการขายอาวุธให้กับกองกำลังติดอาวุธ
เอ็น.อาร์. เจนเซน-โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ และผู้อำนวยการที่ปรึกษาของ Armament Research Services ระบุว่า F-7 เป็นเครื่องยิงลูกระเบิดที่ขับเคลื่อนด้วยจรวด จะยิงหัวรบเพียงหัวเดียวและสามารถบรรจุกระสุนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เอาว้ใช้รับมือกับรถถังหรือยานเกราะต่าง ๆ ทำให้เป็นอาวุธที่มีค่าสำหรับกองกำลังใด ๆ ก็ตามในการสู้กับยานพาหนะหนัก
 
เขาเสริมว่า ที่ผ่านมามีรายงานพบเห็น F-7 ทั้งในซีเรีย อิรัก เลบานอน และฉนวนกาซา “เกาหลีเหนือให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์มาเป็นเวลานาน และก่อนหน้านี้เคยมีการบันทึกหลักฐานอาวุธของเกาหลีเหนือเอาไว้ได้

ด้าน แมตต์ ชโรเดอร์ นักวิจัยอาวุโสจาก Small Arms Survey กล่าวว่า ในคลิปวิดีโอที่กลุ่มฮามาสเผยแพร่ออกมาเอง ได้แสดงภาพการฝึกซ้อมรบของพวกเขา พร้อมอาวุธที่คล้ายกับเครื่องยิงระเบิด ซึ่งมีแถบสีแดงโดดเด่นพาดบนหัวรบ และองค์ประกอบการออกแบบอื่น ๆ ที่ตรงกับ F-7
 
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ได้เห็นอาวุธของเกาหลีเหนืออยู่ในมือกลุ่มฮามาส” ชโรเดอร์กล่าว และเสริมว่า F-7 ของเกาหลีเหนือมีลักษณะคล้ายกับเครื่องยิงจรวด RPG-7 ในยุคโซเวียต โดยมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนเล็กน้อย
 
วิดีโออีกตัวของกลุ่มติดอาวุธฮมาสยังแสดงให้เห็นเครื่องบินรบ 1 ลำกำลังบรรทุก F-7 ที่กองทัพอิสราเอลยึดมาได้และแสดงต่อนักข่าว โดยมีแถบสีแดงและองค์ประกอบการออกแบบอื่น ๆ ที่ตรงกับ F-7
 
เมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า F-7 เป็นหนึ่งในอาวุธของเกาหลีเหนือที่เชื่อว่ากลุ่มฮามาสใช้ในการโจมตี
 
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการเกาหลีเหนือได้ออกมาปฏิเสธผ่านทางสำนักข่าว KCNA ของรัฐ โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวอ้างที่ว่ากลุ่มฮามาสใช้อาวุธของตนในการโจมตีอิสราเอล และบอกว่านี่เป็น “ข่าวลืออันไร้เหตุผลและเป็นเท็จที่สหรัฐฯ สร้างขึ้น
 
ก่อนหน้านี้มีวิดีโอและภาพถ่ายของกลุ่มฮามาสที่แสดงให้เห็นนักรบที่ใช้ขีปนาวุธต่อต้านรถถังบุลเซ (Bulsae; วิหคเพลิง) ของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ เจนเซน-โจนส์กล่าวว่า เขาเชื่อว่า เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายอาวุธที่นักรบฮามาสใช้ พวกเขายังใช้ปืนไรเฟิล Type 58 ของเกาหลีเหนือด้วย
 
ในเดือนธันวาคม 2009 เคยเกิดกรณีที่ทางการประเทศไทยสั่งระงับการบินของเครื่องบินขนส่งสินค้าของเกาหลีเหนือ เพราะพบอาวุธน้ำหนักรวมกว่า 35 ตัน รวมทั้งจรวดและเครื่องยิงระเบิด ขณะจอดเติมน้ำมันที่สนามบินในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ไทยกล่าวว่า อาวุธดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าไปยังสู่อิหร่าน ต่อมาในปี 2012 สหรัฐฯ กล่าวว่า การขนส่งดังกล่าวที่ถูกขัดขวางนั้น เดิมมีเป้าหมายจะส่งไปยังกลุ่มฮามาส
 
เรียบเรียงจาก Associated Press
 


นายกฯอังกฤษ ถึงเทลอาวีฟ ประกาศยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล เร่งกดดัน นำความช่วยเหลือมนุษยธรรมสู่กาซา
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4240559

นายกฯอังกฤษ ถึงเทลอาวีฟ ประกาศยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล เร่งกดดัน นำความช่วยเหลือมนุษยธรรมสู่กาซา
 
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตามรอยผู้นำสหรัฐ ที่เดินทางมายังกรุงเทลอาวีฟ เพื่อแสดงความสนับสนุนอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส โดยหลังเดินทางถึงสนามบินในกรุงเทลอาวีฟในช่วงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากไบเดนเดินทางกลับสหรัฐไป นายซูแน็กกล่าวกับผู้สื่อข่าวอิสราเอลว่า เหนือสิ่งอื่นใดตนมาที่นี่เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนอิสราเอลที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากการก่อการร้ายอันน่าสยดสยองและไม่อาจบรรยายได้ และเพื่อต้องการให้รู้ว่าสหราชอาณาจักรและตนยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล

ในเวลาต่อมานายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เดินทางเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีอิซัค เฮอร์ซ็อค ของอิสราเอล โดยกล่าวว่าสหราชอาณาจักรยืนหยัดในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวอิสราเอลและสิทธิในการปกป้องตนเองของอิสราเอล พร้อมกับย้ำว่าชาวปาเลสไตน์ก็ตกเป็นเหยื่อของสิ่งที่กลุ่มฮามาสทำ สิ่งสำคัญคือเราต้องจัดหาการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาต่อไป นอกจากนี้เขายังได้พบกับครอบครัวของเหยื่อที่ถูกจับเป็นตัวประกันด้วย
 
ต่อจากนั้นนายซูแน็กมีกำหนดจะพบหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล โดยคาดว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษจะใช้โอกาสนี้ในการกดดันเพื่อให้มีการนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซาโดยเร็วด้วย


 
ก้าวไกล ไล่บี้รัฐแก้ เด็กขายนมเปรี้ยว กลางสี่แยก ชี้โลกจับตา วราวุธลุกแจง-คุยบริษัท
https://www.matichon.co.th/politics/news_4240813

‘ณัฐวุฒิ’ ก้าวไกล ไล่บี้รัฐแก้ เด็กขายนมเปรี้ยว กลางสี่แยก ชี้โลกจับตา วราวุธลุกแจง-คุยบริษัท ย้ำกำชับ พม. ทำงานเชิงรุก รับตกใจ เพิ่งเข้ามาทำงานปัญหาล้านแปด

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระกระทู้ถามสด ของ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธานบอร์ดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งชาติ ถึงปัญหาการใช้แรงงานเด็ก โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้ตอบแทน ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ลุกอภิปรายว่า ตนตั้งใจจะถามนายกฯ ประธานบอร์ดค้ามนุษย์ฯ แต่เมื่อมอบให้นายวราวุธมา ก็ต้องขอขอบคุณ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตามสี่แยกจังหวัดต่างๆ พบว่า มีการขายที่หลากหลาย ทั้งพวงมาลัย กล้วยแขก รวมไปถึงบริการเช็ดกระจก แต่ประเด็นที่ตนกังวลที่สุด คือเรื่องการขายนมเปรี้ยว ซึ่งเรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นหลังสถานการณ์โควิด พบด้วยว่ามีความสัมพันธ์กับความยากจน เรื่องการที่เด็กๆ จะต้องไปโรงเรียน เรื่องความปลอดภัยอื่นๆ ของผู้ใช้ถนน ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้น เด็กทำด้วยตนเอง หรือมีบุคคลอื่นเป็นผู้จ้างวาน หรือให้เด็กเป็นคนกระทำ เป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม นานาอารยประเทศก็จับตาดู อย่างจังหวัดอ่างทอง พบเด็กที่มาขายนมเปรี้ยว โดยใช้เวลาปิดเทอมมาขาย เนื่องจากเป็นหัวหน้าครอบครัว
 
คำถามคือเด็กและเยาวชนสามารถขายได้หรือไม่ สามารถใส่เครื่องแบบนักเรียนมาขายได้หรือไม่ สรุปเป็นการมาโดยสมัครใจ หรือมีบริษัท 4-5 บริษัท ตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด ใช้หรือจ้างวานให้มาขายหรือไม่ รัฐมนตรีมีลูก ผมเองก็มีลูกเล็ก สิ่งที่อยากให้ลูกเราได้รับคือการเข้าศึกษา แต่เห็นหรือไม่ว่า เด็กจำนวนไม่น้อยในประเทศไทย ต้องเข้าสู่การทำงานเร็ว เราจะไปตอบประเด็นเรื่องแรงงานเด็กเรื่องการค้ามนุษย์ได้อย่างไร” นายณัฐวุฒิ กล่าว
 
จากนั้น นายวราวุธ ชี้แจงว่า ตนทราบดีว่า นายณัฐวุฒิทำประเด็นเรื่องเด็ก และเยาวชนมานานพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมา คงทราบว่า กระทรวงรับทราบถึงปัญหาที่มี และได้ดำเนินการถึงมาตรการหลายส่วน ซึ่งตนได้กำชับให้ทำงานเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นงานในสังกัดใด ก็ต้องไปดูการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายบนพื้นที่การจราจรอยู่ 2 ฉบับคือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กปี 2546 และ พ.ร.บ. การจราจรทางบกปี 2522 ซึ่งการเรี่ยไร-ค้าขายบนผิวจราจร ถือว่า ไม่สามารถทำได้

ในระยะสั้นตนได้กำชับให้ไปดูที่จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนพื้นที่อื่นกรมกิจการเด็กและเยาวชนได้มีการประสานงานกับทุกหน่วยงาน รวมไปถึงบริษัทนมเปรี้ยวแล้ว เพื่อปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังได้มีบริษัทนมเปรี้ยวรายใหญ่ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังตัวแทนการขายของบริษัทตนเองแล้ว ซึ่งหากฝ่าฝืนก็จะมีอยู่ในเงื่อนไขว่า บริษัทจะลงโทษโดยลดปริมาณสินค้า หรือยกเลิกตัวแทนการขาย
 
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนในระยะยาวมีการเสนอให้ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ให้มีเงื่อนไขให้เหมาะสมตามสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เช่น การว่าจ้างเด็ก แม้จะเป็นพ่อแม่ก็ไม่ควร หรือแม้แต่จะต้องมีการหาประโยชน์ใดๆจากเด็กนั้น พ่อแม่เองจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ในการเฝ้าดู ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพิจารณาจำนวนเด็กน้อย จากนี้ไปแรงงานก็จะน้อยลงๆ มันเป็นสิ่งที่กระทรวงพยายามสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันครอบครัวเพื่อจะได้เพิ่มปริมาณเด็กเกิดใหม่ในสังคมไทย
 
จากนั้น นายณัฐวุฒิ ลุกถามต่อว่า ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ยังมีการขายอยู่ ซึ่งส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเด็ก เรื่องนี้เป็นบทสะท้อนความยากจน ซึ่งตามสถิติเรามีผู้ว่างานเป็นจำนวนมาก และมีเด็กอยู่ในครอบครัวของผู้ว่างงาน ถือเป็นความยากจนทับซ้อน ทำให้เด็กหยุดขายไม่ได้ ระบบคุ้มครองเด็กหายไปไหน ไม่จำเป็นต้องรอวงเวียนชีวิตหรือคนมาแจ้ง รวมถึงต้องรอเงินอุดหนุนเด็ก วันนี้ระบบที่ผ่านชุมชน ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หายไปไหน ในเมื่อรัฐมนตรีมีเจตจำนง ข้าราชการพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ และสภาฯก็มีเจตจำนงเช่นเดียวกัน
 
ตนขอถามว่า ถ้าเช่นนั้นรัฐบาล จะมีนโยบายมีแผนให้เห็นเป็นรูปธรรม รวมถึงแนวทางมาตรการในการป้องกันหรือแก้ไขปัญหาไม่ให้เด็กเหล่านี้ ไปขายสินค้าหรือบริการต่างๆ บริเวณสี่แยกหรือท้องถนนได้อย่างไร เพราะเด็กรอไม่ได้ แม้แต่วันเดียว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยกร่าง พ.ร.บ.เด็กเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยากให้ส่งร่าง พ.ร.บ.เด็กที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ประเดิมสภาฯก่อนจะประชุมสมัยหน้า เอา พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาพิจารณาเป็นฉบับแรก เพราะแก้เสร็จแล้ว
 
ทำให้ นายวราวุธ ชี้แจงว่า ในส่วนของกระทรวง ได้มีการใช้สารสนเทศมาช่วยแล้ว โดยจัดตั้งเป็นศูนย์ ที่ผ่านมาได้มีการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงแล้ว หากไม่ดีควรจะรีบกลับมาปรับปรุง แต่หากดีเราอยากให้ทำงานเพิ่มเราก็ยินดี เราจะจัดให้มีสวัสดิการเด็กและเยาวชนสำหรับครอบครัวยากจน รวมถึงค่าเลี้ยงดูบุตรสำหรับครอบครัวอุปถัมภ์ที่รับเด็กไปเลี้ยง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับหัวหน้าครอบครัว รวมถึงการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่