ไบเดนประกาศ ‘อียิปต์’ เปิดด่านราฟาห์ ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชุดแรก
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4239283
ไบเดนประกาศ ‘อียิปต์’ เปิดด่านราฟาห์ ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชุดแรก
ประธานาธิบดี
โจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมว่า ประธานาธิบดี
อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ของอียิปต์ ได้ตกลงที่จะเปิดด่านราฟาห์ ซึ่งเป็นช่องทางจากอียิปต์เข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อให้รถบรรทุกส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชุดแรกผ่านเข้าไปได้แล้ว
ไบเดนได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีอียิปต์ขณะอยู่บนแอร์ฟอร์ซวัน ก่อนจะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
ซีซีเห็นชอบที่จะเริ่มต้นด้วยการให้รถบรรทุกมากถึง 20 คันผ่านด่านเข้าไป
ผู้นำสหรัฐระบุว่า สหประชาชาติจะเป็นตัวแทนในการดำเนินการกระจายความช่วยเหลือเข้าไปยังอีกด้านหนึ่ง ขณะที่ความเป็นไปได้ในการการส่งมอบความช่วยเหลือครั้งที่ 2 นั้นขึ้นกับความช่วยเหลือชุดแรกว่าเป็นอย่างไร
ไบเดนเตือนว่า หากกลุ่มฮามาสยึดความช่วยเหลือเหล่านั้น และไม่ปล่อยให้มันผ่านเข้าไป การส่งมอบความช่วยเหลือก็จะยุติลง
ไบเดนซึ่งเดิมมีกำหนดที่จะพบกับประธานาธิบดีอียิปต์ในการประชุมสุดยอด 4 ฝ่ายในจอร์แดน แต่การประชุมถูกยกเลิกไปหลังเหตุโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซาระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือซีซีควรได้รับเครดิตอย่างแท้จริง เพราะเขาให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี
ไบเดนคาดว่าความช่วยเหลือชุดแรกไม่น่าจะข้ามจุดผ่านแดนราฟาห์เข้าไปยังกาซาได้ก่อนจะถึงวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคมนี้ เนื่องจากถนนรอบรอบพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องอย่างไรก็ดีคาดว่าความช่วยได้รับการซ่อมแซม
ไบเดนกล่าวก่อนนี้ว่า อิสราเอลจะไม่ขัดขวางการส่งอาหาร น้ำ และยาจากอียิปต์ให้กับพลเรือนในฉนวนกาซา ตราบใดที่ความช่วยเหลือนี้ไม่ไปถึงกลุ่มฮามาส
นาย
มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการประสานงานกิจการมนุษยธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ฉนวนกาซาต้องการความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมจำนวนมหาศาล โดยต้องเริ่มต้นจากการส่งรถบรรทุกเข้าไปจำนวนมาก และต้องสามารถหารถบรรทุกในการส่งของบรรเทาทุกข์ให้ได้มากถึง 100 คันต่อวัน
กริฟฟิธส์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการหารือในรายละเอียดกับทุกฝ่ายเพื่อความความเข้าใจและความตกลงเกี่ยวกับการช่วยเหลือที่จะเข้าสู่ตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยประการแรกต้องรับประกันว่าเราสามารถจะทำได้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง
กริฟฟิธส์กล่าวว่า ประการที่สองเราต้องสามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างปลอดภัย กฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศมีไว้เพื่อเหตุผลหนึ่ง นั่นคือต้องให้ผู้คนตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่าพวกเขาจะไปที่ไหนได้อย่างปลอดภัย และกำหนดให้ทุกคนต้องได้การรับประกันความปลอดภัย และให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปถึงประชาชนในสถานที่ที่พวกเขาเลือกว่าเป็นที่ปลอดภัย
กริฟฟิธส์กล่าวด้วยว่า เขาหวังว่าภายใน 2-3 วันข้างหน้าโครงการความช่วยเหลือที่จำเป็นจะเริ่มต้นขึ้นได้ โดยสหประชาชาติรวมถึงหน่วยงานบรรเทาทุกข์และกิจการผู้ลี้ภัยในปาเลสไตน์ (UNRWA) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 14,000 คนในพื้นที่ดังกล่าว จะเป็นผู้ช่วยกันกระจายความช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า ความช่วยเหลือจะมุ่งเป้าไปที่พลเรือนปาเลสไตน์ ไม่ใช่กลุ่มฮามาส
เจ้าหน้าที่ของ UNRWA ระบุว่า พวกเขาจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากสิ่งของที่มีอยู่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และกำลังหมดไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้พวกเขาพยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่เป็นไปได้แต่ก็รู้สึกหนักใจเช่นเดียวกัน
มะกันวีโต้มติ UN ให้ยุติความรุนแรงในกาซา ย้ำต้องเคารพสิทธิอิสราเอลป้องกันตนเอง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4239280
มะกันวีโต้มติ UN ให้ยุติความรุนแรงในกาซา ย้ำต้องเคารพสิทธิอิสราเอลป้องกันตนเอง
สหรัฐอเมริกาใช้สิทธิ์ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) วีโต้ข้อมติประณามความรุนแรงต่อพลเรือนในสงครามอิสราเอล-อามาส พร้อมกับเรียกร้องให้มีการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ในการประชุม UNSC เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ตามเวลาในนครนิวยอร์ก
ข้อมติดังกล่าวได้ประณามความรุนแรงในทุกรูปแบบและการมุ่งร้ายต่อพลเรือน รวมถึงการกระทำอันเป็นการก่อการร้ายทั้งหมด ทั้งยังปฏิเสธและประณามการโจมตีอันเลวร้ายของกลุ่มก่อการร้ายฮามาส รวมถึงการจับตัวประกัน นอกจากนี้ยังร้องขอให้ทุกฝ่ายปฎิบัติตามพันธกรณีของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็น กล่าวว่า คณะมนตรี จำเป็นต้องเปิดทางให้กับความพยายามทางการทูตในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี
โจ ไบเดน ให้เปิดเผยและค้นหาข้อเท็จจริงที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ก่อน ทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมติดังกล่าวล้มเหลวในการเน้นย้ำสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลอีกด้วย
โทมัส-กรีนฟิลด์ กล่าวว่า
ไบเดนกำลังอยู่ในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อดำเนินการในการมีส่วนร่วมทางการทูต โดยหวังว่าจะปกป้องพลเรือน ปล่อยตัวประกัน และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งแพร่กระจาย ซึ่งเราจำเป็นต้องปล่อยให้การดำเนินการทางการทูตนั้นเสร็จสิ้นเสียก่อน
“
UNSC ต้องออกมาพูดในเรื่องนี้ แต่ควรต้องได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ และสนับสนุนความพยายามทางการทูตโดยตรงที่สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ คณะมนตรีจะต้องทำมันให้ถูกต้อง”
โทมัส-กรีนฟิลด์กล่าว
ผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็นยังวิพากษ์วิจารณ์ข้อมตินี้ที่ไม่ได้ระบุอะไรเกี่ยวกับสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง หลังเหตุโจมตีของฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 รายอิสราเอล ว่าทำให้สหรัฐรู้สึกผิดหวัง
ขณะที่
บาบารา วู้ดเวิร์ดเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรอสหราชอาณาจักรประจำยูเอ็น ก็แสดงจุดยืนเช่นเดียวกับสหรัฐในการวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมติของบราซิลว่า ล้มเหลวที่จะกล่าวถึงสิทธิในการป้องกันของอิสราเอลด้วย
ข้อมติดังกล่าวซึ่งนำเสนอโดยบราซิลได้รับการสนับสนุนจากที่ประชุมอย่างกว้างขวาง โดยมีการประณามความรุนแรงทุกอย่างต่อพลเรือน รวมถึงการโจมตีอันโหดเหี้ยมชั่วร้ายของผู้ก่อการร้ายฮามาสต่ออิสราเอล ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุม UNSC 12 จาก 15 เสียง โดยนอกจากสหรัฐที่ใช้สิทธ์วีโต้ข้อมติซึ่งทำให้ข้อมตินี้ตกไปแล้ว รัสเซียและสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นสมาชิกถาวรเช่นกันงดออกเสียง
กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำยูเอ็นได้ขอบคุณสหรัฐที่ใช้สิทธิ์วีโต้ข้อมติที่แย่มากๆ นี้ พร้อมระบุว่าสหรัฐยังคงยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอลในยามที่จำเป็นเสมอ
ด้าน
ริยาด มันซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์เตือนว่า การสังหารชาวปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นก็ไม่อาจทำให้อิสราเอลปลอดภัยยิ่งขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนฮิวแมนไรท์วอทช์ออกมาประณามการยับยั้งข้อมติของสหรัฐผ่านโพสต์บน X ว่า UNSC ไม่สามารถที่จะดำเนินใดๆ กับอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้ในช่วงเวลาแห่งการสังหารหมู่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้
ด้านกระทรวงการต่างประเทศบราซิลซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของ UNSC ในเดือนนี้ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจที่ถูกสกัดกั้นข้อมติ บราซิลเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องทำให้เกิดการหยุดยิงและหรือฟื้นกระบวนการสันติภาพขึ้น
ก้าวไกลแจงปม สมาชิกพรรคซ้อมเมีย เพิ่งสมัครเมื่อส.ค. ยันสอบสวนแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4239516
ก้าวไกลแจงปม สมาชิกพรรคซ้อมเมีย เพิ่งสมัครเมื่อส.ค. ยันสอบสวนแน่
วันที่ 19 ต.ค.เวลา 09.40 น. ที่รัฐสภา นาย
กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล(ก.ก.) กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคก้าวไกลทำร้ายร่างกายภรรยา ว่ายืนยันพรรคจะไม่อดทนกับการใช้กำลังในการตัดสิทธิ์ปัญหาและแก้ปัญหา รวมถึงชายทำร้ายหญิง หญิงทำร้ายชาย เราไม่สามารถยอมรับได้ แต่เรียนขอเรียนว่าจากการสอบถามและค้นประวัติพบว่าเป็นเพียงสมาชิกพรรคที่สมัครเข้ามาเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และตรวจสอบจากคณะทำงานของพรรคที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริหารพรรคไม่มีชื่อบุคคลดังกล่าว เราจึงมั่นใจได้ว่าบุคคลนี้ไม่ได้เป็นคณะทำงานแต่เป็นสมาชิกพรรคที่ร่วมลงพื้นที่กับคณะทำงานของพรรคเท่านั้น
เมื่อถามถึงมาตรการในการดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว นาย
กรุณพล กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือสส.ถ้าอยู่ในสังกัดพรรคก้าวไกล เราจะสอบสวนตามระเบียบกฎกติกาของสมาชิกพรรคอยู่แล้ว และถ้าผิดคงต้องขับออกจากพรรค ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนก็โดยขับออก แม้กรณีดังกล่าวจะมีคดีความแล้วก็ตาม แต่พรรคยืนยันเสมอไม่ว่าคดีทำร้ายร่างกายหรือ คดีมาตรา112 ที่พยายามเรียกร้องว่า ก่อนศาลตัดสินว่าผู้ใดกระทำผิด เราต้องเชื่อว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เช่นเดียวกับคดีดังกล่าวไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าเหตุใดจึงเกิดการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น และผู้ที่ทำร้ายร่างกายคือบุคคลนี้จริงหรือไม่ ถ้าใช่ ไม่ต้องกังวล พรรคขับออกแน่นอน
เมื่อถามอีกว่าภายหลังจากนี้จะมีวิธีคัดกรองบุคคลเข้าเป็นทีมอย่างไร นาย
กรุณพล กล่าวว่า พรรคคัดกรองระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะคนที่เข้าไปเป็นทีมงานต้องรู้จักกับผู้สมัครสส.และคณะทำงานจังหวัดอยู่แล้ว รวมถึงต้องดูประวัติย้อนหลังว่ามีอะไรที่น่ากังวลหรือไม่ แต่ตนเข้าใจว่าการคัดกรองคนดี ไม่ดี เราดูจากประวัติอาชญากรรมหรือพฤติกรรม แต่นิสัยส่วนตัวไม่ว่าจะติดยาเสพติด อารมณ์รุนแรง ชอบใช้กำลัง เราไม่สามารถดูได้หากไม่มีประวัติหรือการกระทำนั้นมาก่อน
ต่อข้อถามว่าตอนนี้พรรคก้าวไกลมีแต่เรื่องการใช้ความรุนแรงทางเพศ นายกรุณพล กล่าวว่า ด้วยความที่พรรคมีสมาชิกพรรคและสส.มากที่สุดในประเทศ รวมถึงเครือข่ายที่กำลังขยายในทุกระดับ จึงทำให้คนที่สนใจพรรคมีมากขึ้น อีกทั้งพรรคให้เสรีภาพกับประชาชนในการใช้โลโก้ผลิตสินค้าต่างๆ เช่น เสื้อ ของที่ระลึก เพื่อจำหน่าย จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ซึ่งพรรคพยายามตรวจสอบและตอบข้อสงสัยของประชาชนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด
JJNY : ไบเดนประกาศ ‘อียิปต์’ เปิดด่าน│มะกันวีโต้มติ UN│ก้าวไกลแจงสมาชิกซ้อมเมีย ยันสอบสวนแน่│ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4239283
ไบเดนประกาศ ‘อียิปต์’ เปิดด่านราฟาห์ ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชุดแรก
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมว่า ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ของอียิปต์ ได้ตกลงที่จะเปิดด่านราฟาห์ ซึ่งเป็นช่องทางจากอียิปต์เข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อให้รถบรรทุกส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมชุดแรกผ่านเข้าไปได้แล้ว
ไบเดนได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีอียิปต์ขณะอยู่บนแอร์ฟอร์ซวัน ก่อนจะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ซีซีเห็นชอบที่จะเริ่มต้นด้วยการให้รถบรรทุกมากถึง 20 คันผ่านด่านเข้าไป
ผู้นำสหรัฐระบุว่า สหประชาชาติจะเป็นตัวแทนในการดำเนินการกระจายความช่วยเหลือเข้าไปยังอีกด้านหนึ่ง ขณะที่ความเป็นไปได้ในการการส่งมอบความช่วยเหลือครั้งที่ 2 นั้นขึ้นกับความช่วยเหลือชุดแรกว่าเป็นอย่างไร
ไบเดนเตือนว่า หากกลุ่มฮามาสยึดความช่วยเหลือเหล่านั้น และไม่ปล่อยให้มันผ่านเข้าไป การส่งมอบความช่วยเหลือก็จะยุติลง
ไบเดนซึ่งเดิมมีกำหนดที่จะพบกับประธานาธิบดีอียิปต์ในการประชุมสุดยอด 4 ฝ่ายในจอร์แดน แต่การประชุมถูกยกเลิกไปหลังเหตุโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซาระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือซีซีควรได้รับเครดิตอย่างแท้จริง เพราะเขาให้ความช่วยเหลือช่วยเหลือเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดีไบเดนคาดว่าความช่วยเหลือชุดแรกไม่น่าจะข้ามจุดผ่านแดนราฟาห์เข้าไปยังกาซาได้ก่อนจะถึงวันศุกร์ที่ 20 ตุลาคมนี้ เนื่องจากถนนรอบรอบพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องอย่างไรก็ดีคาดว่าความช่วยได้รับการซ่อมแซม
ไบเดนกล่าวก่อนนี้ว่า อิสราเอลจะไม่ขัดขวางการส่งอาหาร น้ำ และยาจากอียิปต์ให้กับพลเรือนในฉนวนกาซา ตราบใดที่ความช่วยเหลือนี้ไม่ไปถึงกลุ่มฮามาส
นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านการประสานงานกิจการมนุษยธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ฉนวนกาซาต้องการความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมจำนวนมหาศาล โดยต้องเริ่มต้นจากการส่งรถบรรทุกเข้าไปจำนวนมาก และต้องสามารถหารถบรรทุกในการส่งของบรรเทาทุกข์ให้ได้มากถึง 100 คันต่อวัน
กริฟฟิธส์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการหารือในรายละเอียดกับทุกฝ่ายเพื่อความความเข้าใจและความตกลงเกี่ยวกับการช่วยเหลือที่จะเข้าสู่ตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยประการแรกต้องรับประกันว่าเราสามารถจะทำได้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง
กริฟฟิธส์กล่าวว่า ประการที่สองเราต้องสามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างปลอดภัย กฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศมีไว้เพื่อเหตุผลหนึ่ง นั่นคือต้องให้ผู้คนตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่าพวกเขาจะไปที่ไหนได้อย่างปลอดภัย และกำหนดให้ทุกคนต้องได้การรับประกันความปลอดภัย และให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปถึงประชาชนในสถานที่ที่พวกเขาเลือกว่าเป็นที่ปลอดภัย
กริฟฟิธส์กล่าวด้วยว่า เขาหวังว่าภายใน 2-3 วันข้างหน้าโครงการความช่วยเหลือที่จำเป็นจะเริ่มต้นขึ้นได้ โดยสหประชาชาติรวมถึงหน่วยงานบรรเทาทุกข์และกิจการผู้ลี้ภัยในปาเลสไตน์ (UNRWA) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 14,000 คนในพื้นที่ดังกล่าว จะเป็นผู้ช่วยกันกระจายความช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า ความช่วยเหลือจะมุ่งเป้าไปที่พลเรือนปาเลสไตน์ ไม่ใช่กลุ่มฮามาส
เจ้าหน้าที่ของ UNRWA ระบุว่า พวกเขาจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากสิ่งของที่มีอยู่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และกำลังหมดไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้พวกเขาพยายามให้ความช่วยเหลือเท่าที่เป็นไปได้แต่ก็รู้สึกหนักใจเช่นเดียวกัน
มะกันวีโต้มติ UN ให้ยุติความรุนแรงในกาซา ย้ำต้องเคารพสิทธิอิสราเอลป้องกันตนเอง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4239280
มะกันวีโต้มติ UN ให้ยุติความรุนแรงในกาซา ย้ำต้องเคารพสิทธิอิสราเอลป้องกันตนเอง
สหรัฐอเมริกาใช้สิทธิ์ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) วีโต้ข้อมติประณามความรุนแรงต่อพลเรือนในสงครามอิสราเอล-อามาส พร้อมกับเรียกร้องให้มีการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ในการประชุม UNSC เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ตามเวลาในนครนิวยอร์ก
ข้อมติดังกล่าวได้ประณามความรุนแรงในทุกรูปแบบและการมุ่งร้ายต่อพลเรือน รวมถึงการกระทำอันเป็นการก่อการร้ายทั้งหมด ทั้งยังปฏิเสธและประณามการโจมตีอันเลวร้ายของกลุ่มก่อการร้ายฮามาส รวมถึงการจับตัวประกัน นอกจากนี้ยังร้องขอให้ทุกฝ่ายปฎิบัติตามพันธกรณีของตนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็น กล่าวว่า คณะมนตรี จำเป็นต้องเปิดทางให้กับความพยายามทางการทูตในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้เปิดเผยและค้นหาข้อเท็จจริงที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ก่อน ทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมติดังกล่าวล้มเหลวในการเน้นย้ำสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอลอีกด้วย
โทมัส-กรีนฟิลด์ กล่าวว่า ไบเดนกำลังอยู่ในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อดำเนินการในการมีส่วนร่วมทางการทูต โดยหวังว่าจะปกป้องพลเรือน ปล่อยตัวประกัน และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งแพร่กระจาย ซึ่งเราจำเป็นต้องปล่อยให้การดำเนินการทางการทูตนั้นเสร็จสิ้นเสียก่อน
“UNSC ต้องออกมาพูดในเรื่องนี้ แต่ควรต้องได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในพื้นที่ และสนับสนุนความพยายามทางการทูตโดยตรงที่สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ คณะมนตรีจะต้องทำมันให้ถูกต้อง” โทมัส-กรีนฟิลด์กล่าว
ผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็นยังวิพากษ์วิจารณ์ข้อมตินี้ที่ไม่ได้ระบุอะไรเกี่ยวกับสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง หลังเหตุโจมตีของฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 รายอิสราเอล ว่าทำให้สหรัฐรู้สึกผิดหวัง
ขณะที่บาบารา วู้ดเวิร์ดเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรอสหราชอาณาจักรประจำยูเอ็น ก็แสดงจุดยืนเช่นเดียวกับสหรัฐในการวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมติของบราซิลว่า ล้มเหลวที่จะกล่าวถึงสิทธิในการป้องกันของอิสราเอลด้วย
ข้อมติดังกล่าวซึ่งนำเสนอโดยบราซิลได้รับการสนับสนุนจากที่ประชุมอย่างกว้างขวาง โดยมีการประณามความรุนแรงทุกอย่างต่อพลเรือน รวมถึงการโจมตีอันโหดเหี้ยมชั่วร้ายของผู้ก่อการร้ายฮามาสต่ออิสราเอล ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุม UNSC 12 จาก 15 เสียง โดยนอกจากสหรัฐที่ใช้สิทธ์วีโต้ข้อมติซึ่งทำให้ข้อมตินี้ตกไปแล้ว รัสเซียและสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นสมาชิกถาวรเช่นกันงดออกเสียง
กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำยูเอ็นได้ขอบคุณสหรัฐที่ใช้สิทธิ์วีโต้ข้อมติที่แย่มากๆ นี้ พร้อมระบุว่าสหรัฐยังคงยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอลในยามที่จำเป็นเสมอ
ด้านริยาด มันซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์เตือนว่า การสังหารชาวปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นก็ไม่อาจทำให้อิสราเอลปลอดภัยยิ่งขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนฮิวแมนไรท์วอทช์ออกมาประณามการยับยั้งข้อมติของสหรัฐผ่านโพสต์บน X ว่า UNSC ไม่สามารถที่จะดำเนินใดๆ กับอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้ในช่วงเวลาแห่งการสังหารหมู่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้
ด้านกระทรวงการต่างประเทศบราซิลซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของ UNSC ในเดือนนี้ออกแถลงการณ์ว่า รู้สึกเสียใจที่ถูกสกัดกั้นข้อมติ บราซิลเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องทำให้เกิดการหยุดยิงและหรือฟื้นกระบวนการสันติภาพขึ้น
ก้าวไกลแจงปม สมาชิกพรรคซ้อมเมีย เพิ่งสมัครเมื่อส.ค. ยันสอบสวนแน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4239516
ก้าวไกลแจงปม สมาชิกพรรคซ้อมเมีย เพิ่งสมัครเมื่อส.ค. ยันสอบสวนแน่
วันที่ 19 ต.ค.เวลา 09.40 น. ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล(ก.ก.) กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคก้าวไกลทำร้ายร่างกายภรรยา ว่ายืนยันพรรคจะไม่อดทนกับการใช้กำลังในการตัดสิทธิ์ปัญหาและแก้ปัญหา รวมถึงชายทำร้ายหญิง หญิงทำร้ายชาย เราไม่สามารถยอมรับได้ แต่เรียนขอเรียนว่าจากการสอบถามและค้นประวัติพบว่าเป็นเพียงสมาชิกพรรคที่สมัครเข้ามาเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และตรวจสอบจากคณะทำงานของพรรคที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริหารพรรคไม่มีชื่อบุคคลดังกล่าว เราจึงมั่นใจได้ว่าบุคคลนี้ไม่ได้เป็นคณะทำงานแต่เป็นสมาชิกพรรคที่ร่วมลงพื้นที่กับคณะทำงานของพรรคเท่านั้น
เมื่อถามถึงมาตรการในการดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว นายกรุณพล กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือสส.ถ้าอยู่ในสังกัดพรรคก้าวไกล เราจะสอบสวนตามระเบียบกฎกติกาของสมาชิกพรรคอยู่แล้ว และถ้าผิดคงต้องขับออกจากพรรค ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนก็โดยขับออก แม้กรณีดังกล่าวจะมีคดีความแล้วก็ตาม แต่พรรคยืนยันเสมอไม่ว่าคดีทำร้ายร่างกายหรือ คดีมาตรา112 ที่พยายามเรียกร้องว่า ก่อนศาลตัดสินว่าผู้ใดกระทำผิด เราต้องเชื่อว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เช่นเดียวกับคดีดังกล่าวไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าเหตุใดจึงเกิดการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น และผู้ที่ทำร้ายร่างกายคือบุคคลนี้จริงหรือไม่ ถ้าใช่ ไม่ต้องกังวล พรรคขับออกแน่นอน
เมื่อถามอีกว่าภายหลังจากนี้จะมีวิธีคัดกรองบุคคลเข้าเป็นทีมอย่างไร นายกรุณพล กล่าวว่า พรรคคัดกรองระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะคนที่เข้าไปเป็นทีมงานต้องรู้จักกับผู้สมัครสส.และคณะทำงานจังหวัดอยู่แล้ว รวมถึงต้องดูประวัติย้อนหลังว่ามีอะไรที่น่ากังวลหรือไม่ แต่ตนเข้าใจว่าการคัดกรองคนดี ไม่ดี เราดูจากประวัติอาชญากรรมหรือพฤติกรรม แต่นิสัยส่วนตัวไม่ว่าจะติดยาเสพติด อารมณ์รุนแรง ชอบใช้กำลัง เราไม่สามารถดูได้หากไม่มีประวัติหรือการกระทำนั้นมาก่อน
ต่อข้อถามว่าตอนนี้พรรคก้าวไกลมีแต่เรื่องการใช้ความรุนแรงทางเพศ นายกรุณพล กล่าวว่า ด้วยความที่พรรคมีสมาชิกพรรคและสส.มากที่สุดในประเทศ รวมถึงเครือข่ายที่กำลังขยายในทุกระดับ จึงทำให้คนที่สนใจพรรคมีมากขึ้น อีกทั้งพรรคให้เสรีภาพกับประชาชนในการใช้โลโก้ผลิตสินค้าต่างๆ เช่น เสื้อ ของที่ระลึก เพื่อจำหน่าย จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ซึ่งพรรคพยายามตรวจสอบและตอบข้อสงสัยของประชาชนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด