อิสราเอลเปิดหลักฐาน เหตุโรงพยาบาลกาซาระเบิด เป็นจรวดของปาเลสไตน์เอง
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/208324
 
 
โฆษกกองทัพอิสราเอลตั้งโต๊ะแถลง เปิดหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อิสราเอลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดโรงพยาบาลในฉนวนกาซาเมื่อคืนนี้
 
วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เกิดระเบิดขึ้นที่ โรงพยาบาลอัล-อะห์ลี อัล-อาระบี แบปทิสต์ (al-Ahli al-Arabi Baptist Hospital) ในฉนวนกาซา
 
โดยหลังเกิดเหตุ กระทรวงสาธารณสุขกาซาของกลุ่มฮามาสออกมาเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการโจมตีโรงพยาบาลดังกล่าวสูงมากกว่า 500 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันพลเรือนกาซาบอกว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 300 ราย

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฉนวนกาซาระบุว่า นี่เป็นฝีมือการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลเชื่อว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นผลจากการปล่อยจรวดล้มเหลวของกลุ่มติดอาวุธญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์
 
ซึ่งในการแถลงข่าวล่าสุด ฮาการีบอกว่า “กองทัพอิสราเอลได้ข้อสรุปว่า กลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ ต้องรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดในโรงพยาบาลอัล-อะห์ลี ... เราได้ตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของกองทัพอิสราเอลแล้ว”
 
เขากล่าวว่า กลุ่มฮามาสยิงจรวดจำนวนมากไปยังอิสราเอลเมื่อเวลา 18:15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร ก่อนที่โรงพยาบาลจะระเบิด จากนั้น ในเวลา 18:59 น. กลุ่มญิฮาดอิสลามได้ยิงจรวดประมาณ 10 ลูกออกจากสุสานในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีรายงานเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลในเมืองกาซาพอดี

ฮาการีกล่าวต่อไปว่า กลุ่มฮามาสรู้ดีว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดจากจรวดของญิฮาดอิสลามที่ยิงผิดพลาด แต่เลือกที่จะใช้สื่อทั่วโลกเพื่อตำหนิอิสราเอล
 
“พวกเขาทำถึงขั้นเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิต พวกเขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่านั่นเป็นจรวดที่ยิงผิดพลาดโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามที่สร้างความเสียหายให้กับโรงพยาบาล” ฮาการีกล่าว
 
เขาเสริมว่า ภาพทางอากาศยืนยันว่า ไม่มีการโจมตีโดยตรงไปยังโรงพยาบาล และไม่มีความเสียหายต่ออาคารใกล้เคียง สถานที่เดียวที่เสียหายคือลานจอดรถด้านนอกโรงพยาบาล
 
ฮาการียังได้นำภาพสถานที่เกิดเหตุระเบิดมาแสดงในการแถลงข่าว โดยกล่าวว่า หากกองทัพอิสราเอลเป็นผู้โจมตีทางอากาศจนทำให้เกิดการระเบิดที่โรงพยาบาลจริง จะต้องมี “หลุมบนพื้น” หรือ “ความเสียหายทางโครงสร้าง” เกิดขึ้น เพราะจรวดอิสราเอลมีความรุนแรงมาก แต่ในภาพที่เกิดเหตุ ไม่พบว่ามีความเสียหายดังกล่าว “ผนังยังคงสภาพเดิม”
 
เขากล่าวว่า นี่เป็นเพราะเหตุระเบิดดังกล่าวเกิดจากจรวดญิฮาดของอิสลาม ซึ่งยิงผิดพลาด แต่ทางการฮามาสและปาเลสไตน์กลับกล่าวโทษอิสราเอลสำหรับเหตุระเบิดที่โรงพยาบาล
 
เมื่อถามว่า กองทัพอิสราเอลสรุปได้อย่างไรว่าเป็นจรวดญิฮาดของอิสลาม ฮาการีให้เหตุผลดังต่อไปนี้
 
ประการแรก ยืนยันแล้วว่าไม่มีการยิงจรวดของกองทัพอิสราเอลจากทางบก ทะเล หรือทางอากาศ ที่โจมตีโรงพยาบาล ประการที่สอง ระบบเรดาร์ของอิสราเอลได้ติดตามจรวดที่ยิงจากในฉนวนกาซา และมีวิดีโออิสระสองตัวที่แสดงชัดถึงความล้มเหลวของการปล่อยจรวดดังกล่าว และประการที่สาม มีบันทึกเสียงซึ่งแสดงให้เห็นการสื่อสารระหว่างกลุ่มติดอาวุธเกี่ยวกับการปล่อยจรวดที่ล้มเหลว โดยทางกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ได้นำคลิปเสียงดังกล่าวนี้เผยแพร่ผ่าน X (ทวิตเตอร์) ด้วย
 
https://twitter.com/IsraelMFA/status/1714546593146249559

ฮาการีกล่าวย้ำว่า ตั้งแต่สงครามครั้งนี้เริ่มต้น ที่ผ่านมา มีจรวดถึง 450 ลูกจากฉนวนกาซา ที่ยิงผิดพลาดและตกลงในพื้นที่ฉนวนกาซาเอง
สำหรับกลุ่มญิฮาดอิสลามนั้น เป็นกลุ่มติดอาวุธที่ใหญ่เป็นอันดับสองในฉนวนกาซาและได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน มีอุดมการณ์ที่คล้ายคลึงกับกลุ่มฮามาส และยังมุ่งมั่นที่จะทำลายล้างรัฐอิสราเอลด้วย มักถูกมองว่าสุดโต่งมากกว่ากลุ่มฮามาส
 
ญิฮาดอิสลามดำเนินงานโดยเป็นอิสระจากกลุ่มฮามาส มีกองกำลังติดอาวุธของตนเอง นั่นคือ กองพลอัลกุดส์ และคลังแสงจรวดของตนเอง ในช่วงแรกของปฏิบัติการนี้ ญิฮาดอิสลามกล่าวว่ากำลังเข้าร่วมปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสด้วย
 
เรียบเรียงจาก BBC / The Guardian

---

 
อิสราเอลเปิด “โซนมนุษยธรรม” ตอนใต้กาซา ยูเอ็นหวั่นวิกฤติอาหารในพื้นที่
https://www.dailynews.co.th/news/2817857/

กองทัพอิสราเอล ประกาศให้พื้นที่แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของฉนวนกาซา "เป็นเขตมนุษยธรรม" และย้ำให้ประชาชนเร่งอพยพ ด้านสหประชาชาติเตือนว่า อาหารในฉนวนกาซากำลังจะหมดแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เรื่องการเปิด “พื้นที่มนุษยธรรม” ในเมืองอับ-มาวาซี ใกล้กับเมืองข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา “สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาประเทศ” พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ประชาชนในภาคเหนือของฉนวนกาซาต้องอพยพลงสู่พื้นที่ทางใต้ เนื่องจากกองทัพอิสราเอลเตรียม “ปฏิบัติการครั้งใหญ่ภายในอีกไม่นานนี้” แต่ยังไม่มีการระบุช่วงเวลา

ขณะที่โครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า ฉนวนกาซาเหลืออาหารเพียงพอสำหรับประชาชนในพื้นที่อีกประมาณ 4-5 วันเท่านั้น ปัจจุบัน มีร้านจำหน่ายขนมปังที่ขึ้นทะเบียนกับดับเบิลยูเอฟพีเพียง 5 แห่ง จาก 23 แห่ง ซึ่งมีสินค้าเพียงพอขายให้แก่ประชาชน

ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอฟพียืนยันการเตรียมอาหารไว้มากกว่า 300 เมตริกตัน ซึ่งเพียงพอให้ความช่วยเหลือประชาชนในฉนวกนาซาได้ราว 250,000 คน ครอบคลุมระยะเวลา 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม อียิปต์ยังคงปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ ซึ่งติดกับภาคใต้ของฉนวนกาซา

---

 
ฝ่ายค้านเล็งอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการเตือนรัฐบาล – เชื่อ“ภูมิใจ-รวมไทยสร้างชาติ”เป้าใหญ่
https://www.matichon.co.th/clips/news_4237794

อธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง คอลัมนิสต์การเมือง ให้ความเห็นในรายการ The Politics ถึงกรณีพรรคก้าวไกลเตรียมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเร็วๆ นี้ โดยมองว่าไม่เร็วไปที่ฝ่ายค้านจะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่อาจจะเร็วไปสำหรับการปรับคณะรัฐมนตรี ถือเป็นการเตือนสติรัฐบาลต้องทำงานให้ดี เพราะฝ่ายค้านจับตาดูการทำงานอยู่ และอาจเป็นโอกาสที่ดีในการปรับคณะรัฐมนตรี มอง “ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ” อาจจะถูกอภิปรายหนัก ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

 
สภาไม่เห็นด้วยตั้ง ‘กมธ.วิสามัญแก้เด็กไร้สัญชาติ’ ชี้ ควรส่งเรื่องเข้ากมธ.สามัญ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4238501

สภาไม่เห็นด้วย 245:164 เสียงตั้ง กมธ.วิสามัญแก้เด็กไร้สัญชาติ ชี้ ควรส่งเรื่องเข้า กมธ.สามัญแทน
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม มีการประชุมพิจารณาญัตติเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนหรือไม่มีสัญชาติไทย ที่นายปารมี ไวจงเจริญ​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นผู้เสนอ
  
โดยสภาเปิดให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง จากนั้นมีการลงมติ โดยมีจำนวนผู้ลงมติ 410 เสียง เห็นด้วย 164 เสียง ไม่เห็นด้วย 245 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการปัดตกไม่ให้ตั้ง กมธ.วิสามัญดังกล่าว แต่ให้ส่งเรื่องไปยัง กมธ.สามัญอื่นแทน