ท๊าดาาาาาาา...
“หัวหินเป็นถิ่นมีหอย ฝรั่งนั่งคอยจนหอยติดหิน” เพลงที่ฟังแล้วจักจี้หูมากๆ เพลงหนึ่ง ถึงกับแอบคิดทะลึ่งจินตนาการภาพตามเพลงนั้นไปด้วย หัวหินเป็นชายหาดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สายเที่ยวทะเลต้องมีลิสท์ชายหาดหัวหินกันบ้างแหละ ก๋อยว่า..
++ หัวหินถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญมากๆ แห่งหนึ่งของไทยแต่ดังไกลไประดับโลกไม่แพ้พัทยา ซึ่งคราวก่อนก๋อยไปเที่ยวหัวหินกับครอบครัว แต่แทบไม่ได้เห็นทะเลเพราะบ้านพักที่อยู่ห่างจากหาดและต้องนั่งรถออกไปไกลสักหน่อย แถมตอนนั้นก็ไม่ค่อยจะสบายด้วย พอมารอบนี้ก็เลยไปแบบ Private กันเลยจ้า แต่จริงๆ แล้วอ่ะนะก่อนจะตัดสินใจจัดทริปหัวหินก็เห็นเพื่อนๆ โพสภาพว่าไปเที่ยวหัวหินกันมา..อืม ใครๆ ก็ไปหัวหินกันแฮะ เราก็เอ๊ะมันจะสวยจริงอย่างในภาพเร้อะ?? ++
/// สรุปว่าภาพสวยๆ จากอินเตอร์เน็ตนี่ไม่ได้ลวงตาเลยนะ หัวหินมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสแจ๋ว ลงเล่นน้ำแล้วไม่คันระคายตัวแม้แต่น้อย..ใครรักทะเลลองไปเล่นน้ำย่ำหาดที่หัวหินกันดูได้น้าาาาา...///
/// เปิดหัวว่านั่งรถไฟไปเที่ยว..สำหรับคนขี้เกียจขับรถเองก็ถือว่าเหมาะ เราเลือกและตกลงกันอยู่นานว่าจะไปรถไฟจริงๆ ใช่มั้ย เพราะถ้าเราขับรถไปเองอยากแวะจุดไหนก็ได้แวะ และเรายังกำหนดเวลาเดินทางไป-กลับเองได้ แต่ถ้าเรานั่งรถไฟเราก็จะไม่ต้องเหนื่อยขับเอง ประหยัดค่าน้ำมัน แต่อาจมีข้อจำกัดด้านเวลาอยู่บ้าง ซึ่งพอบวกลบคูณ หารดูแล้ว..สุดท้ายเราเลือกขึ้นรถไฟไปจ้า ///
++ ปู๊นนนนน ปู๊นนนนนน กว่าจะได้มารีวิวทริปนี้ก็ปาเข้าเดือนตุลาคม..แต่อันรึจะปล่อยผ่านไม่มารีวิวก็กระไรอยู่ อย่างน้อยก็ยังเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งได้นั่งรถไฟไปเที่ยวหัวหิน ++
++ และไม่ใช่ราคาคุยว่าเป็นทริปที่ทุ่นค่าน้ำมันไปได้เยอะจริงๆ เพราะค่ารถไฟเทียบกับค่าน้ำมันรถยนต์ ต่างกันลิบลับ ค่ารถไฟเพียงคนละ 43 บาท และที่ต้องนั่งรถไฟดีเซลรางธรรมดาชั้น 3 เพราะจองผ่านออนไลน์ไม่ทัน (คิดบวกสิจ๊ะ) รถไฟธรรมดาๆ นี่แหละสายชิลอย่างเราก็ติดใจอยู่นะ ได้นั่งชมวิวเพลินๆ ดิ๊งด่องๆ ไปตลอดสาย ราว 4 ชั่วโมงนิดนิด..เริ่มต้นจากสถานีบางกอกน้อย สถานีต้นทางที่เราจะได้ที่นั่งแบบไม่ต้องลุ้น..(แต่ลึกๆ ก็แอบตื่นเต้นว่าจะมีที่นั่งมั้ยอยู่ดี)++
/// แล้วถ้านั่งๆ อยู่แล้วเกิดเบื่อขึ้นมาล่ะ..////
++ เอาจริงๆ นะระหว่างทางมันก็มีอารมณ์แอบเบื่ออยู่นิดนึง แต่ ๆ ๆ .... เพื่อให้หายเซ็งก็เปิดแอพติดตามขบวนรถไฟไปด้วยซะเลย จะได้ไม่รู้สึกเคว้งคว้างแถมยังรู้สึกตื่นเต้นว่าต่อไปจะเป็นสถานีอะไร??? นี่เลยหน้าตาแอพติดตามขบวนรถไฟ แค่เรากรอกหมายเลขขบวนรถไฟลงไปก็จะเห็นว่าเรากำลังจะไปสถานีอะไร และจะไปถึงสถานีอีกกี่นาที..บางสถานีเราก็อาจไปถึงล่าช้า บางสถานีตรงเวลา แต่บางสถานีเราอาจไปถึงเร็วกว่ากำหนด แอพนี้ดีอย่างนะมันทำให้เรารู้ว่ารถไฟไทยไม่ได้หวานเย็นแบบแต่ก่อนอีกต่อไป ++
++ และในไม่ช้าการรถไฟจะเพิ่มรางคู่สำหรับสายใต้ด้วย คราวนี้แหละการเดินทางด้วยรถไฟจะสามารถทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนแน่นอน ++
+++ ขอเล่าย้อนไปช่วงก่อนขึ้นรถไฟ ซึ่งเราได้แวะหาข้าวกินกันก่อน ด้านหน้าสถานีรถไฟเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ มีทั้งของสด ของคาว ผลไม้ อาหารการกินสารพัดสารพือ และเราจบลงที่ต้มเลือดหมู+ข้าวเปล่า และโอเลี้ยงเจ้มจ้น ทัชใจก๋อยมากกกกก เพราะหิว..555++
/// ความจริงรถไฟล่องใต้มีหลายสายมากทั้งแบบธรรมดาไปจนถึงด่วนพิเศษแบบเร็วสุดๆ ราคาก็แตกต่างกันไปตามความพิเศษนั่นแหละ แต่เพราะเราตัดสินใจช้าเกินไปจึงไม่มีรถไฟขบวนใดที่ว่างพอให้เราจองแบบออนไลน์ (e-ticket) ได้ แต่รถไฟขบวนดีเซลรางธรรมดาก็ใช่ว่าจะขี้เหร่นะ จบที่ขบวน 519 ///
++ ระหว่างทางมีเรื่องให้คิดและจินตนาการไปเรื่อย โดยเฉพาะเวลาที่เราได้เห็นชาวบ้านที่มีบ้านพักใกล้ทางรถไฟ ความคุ้นชินกับทั้งเสียงขบวนรถไฟขณะกำลังเคลื่อนตัวไปตามรางที่มาเป็นระยะๆ กับเสียงหวูดดังกึกก้องเวลารถจะผ่านเข้าเขตชุมชนเมือง นึกถึงว่าพวกเขาคงจะชินชากับเสียงเหล่านั้นจนกลายเป็นเสียงหนึ่งที่ดังอยู่ในชีวิตและจิตวิญญาณเลยก็ว่าได้..บางภาพชัด บางภาพเบลอ..อย่างว่าแหละ ชีวิตไม่สิ้นก็คงต้องดิ้นกันต่อไป ++
/// เพ้ออะไรอีกล่ะก๋อย..กินข้าวกันเถอะ ไม่ใช่ว่าหิวอะไรหรอกแต่มันน่ากินจริงๆ กระทงนี้ 10 บาทเอง พออิ่มอยู่นะ ณ สถานีชุมทางหนองปลาดุก ///
++ นั่งรถไฟก็เหมือนจะเพลินล่ะนะ แต่ก็อยากให้ถึงปลายทางสักที เพราะอากาศช่วงมีนา-เมษานี่ร้อนสุดๆ ทั้งเหนียวเหนอะหนะตัวแถมพ่วงด้วยกลิ่นสนิมรถไฟอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะนั้นนับว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ++
/// และแล้วก็มาถึงสถานีรถไฟหัวหิน สถานีรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย..ลงรถไฟมาก็มองหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ เดินไปเรื่อยจนมาถึงโรงแรมที่จอง 51 Fashion Hotel..สรุปมาได้รถมอเตอร์ไซค์เช่าจากดีลของโรงแรมนั่นเอง ///
ปล. สำหรับโรงแรมนี้ถ้าให้ประเมินด้วยสายตาน่าจะถูกดัดแปลงมาจากอพาร์ทเม้นท์ (หรือเปล่า?) เพราะความหลืบมุมและการจัดวางห้องดูคล้ายห้องชุด ขอเรทคะแนนให้ 7/ 10 ดีตรงที่อยู่ไม่ไกลสถานีรถไฟ และอยู่ห่างจากหาดหัวหินไม่เกิน 1 กม. รีเซฟชั่นก็ดูแลต้อนรับและให้ข้อมูลต่างๆ เป็นอย่างดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แต่..ติดตรงอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ค่อนข้างเก่าและชำรุดอยู่หลายจุด..แต่อย่างว่าสมราคาเค้าแหละ คือถ้าไม่ได้สตริคอะไรมากก็ถือว่าพอพักได้
++ หลังจากอาบน้ำล้างกลิ่นสนิมรถไฟเสร็จก็ชวนกันออกตระเวนหามื้อเที่ยงและขี่รถดูตัวเมืองหัวหินซะหน่อย อาหารถ้าเป็นร้านปกติรายทางก็ราคาไม่แรง อิ่มท้องแถมสบายกระเป๋า..และสถานที่ต่างๆ ในตัวเมืองหัวหินช่วงกลางวันก็อย่างที่เห็นแอบเหงานิดๆ กอปรกับอากาศช่วงเมษาคือร้อนตับแล่บจ้า..555 พยับแดดทำเอาปวดหัวได้เลยล่ะ ++
/// แต่เมื่อเทียบกับช่วงกลางคืนล่ะก้อ..ผิดกันเยอะ ฝรั่ง จีน ไทย เดินกันขวักไขว่พอสมควร ณ Sisda market..สรุปว่ามาถึงหัวหินแล้วก็ยังไม่ได้เอาเท้าไปจุ่มในน้ำทะเลเลย เพราะมัวแต่เพลินกับของกินที่ Sisda market รอไปเล่นน้ำช่วงเช้าก็แล้วกัน ///
++ เช้าวันใหม่เริ่มต้นและเป็นวันที่เราจะต้อง check out ก่อนกลับ งั้นก็ขอเล่นน้ำและตระเวนหาของกินอร่อยๆ กันดีกว่า ขี่รถไปตามตรอกซอกซอยจนมาจบที่ร้าน “เจ๊กเปี๊ยะ” สั่งต้มเลือดหมู ข้าวหมูแดง ขอบอกว่ารสชาติดี ปริมาณพอเหมาะสมราคา และมารู้ทีหลังว่าเป็นร้านดังที่ต้องมากินเป็นมื้อเช้าร้านด้วยนะ ตอนไปคนกำลังเยอะแต่ก็ยังพอมีที่นั่งจ้า ++
/// ในที่สุดก็มาถึงชายหาดหัวหิน จากโรงแรมขี่รถมาจริงๆ แค่ 3 นาทีเอง ไม่ไกลเลย แต่เราก็เลือกจะมาเล่นน้ำตอนเช้าเพราะแดดยังไม่แรง ได้เวลาพะยูนไปเกยตื้นแล้วววว..ทางเข้าไปยังหาดหัวหินก็เหมือนๆ กับชายหาดอื่นๆ มีร้านขายของเต็มไปหมดโดยเฉพาะพวกเสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำ กับพวกอุปกรณ์ของเล่นของเด็กๆ ///
++ ชายหาดหัวหินสวยจริง หาดทรายก็ขาวจริง น้ำใสจริง เล่นได้ไม่มีเบื่อ แต่จะไม่ไหวก็ตรงแดดนี่เอง ก่อนถึงตัวชายหาดเราจะเห็นพวกม้าที่เจ้าของเอามาปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่าขี่เดินเล่น มีอยู่ประมาณ 5-10 ตัวได้ นักท่องเที่ยวในช่วงนี้ก็มีเท่าๆ กันทั้งฝรั่งและคนไทย ก๋อยเองได้มีโอกาสพบพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มาจากพิษณุโลกเหมือนกัน พี่สาวมาทำงานอยู่ที่หัวหินกว่ายี่สิบปี เปิดร้านขายส้มตำเล็กๆ แถวหาดตะเกียบที่อยู่ห่างจากหาดหัวหินไปไม่มาก และวันนี้พี่เค้ามานั่งหาหอยนางรมเอาไปทำอาหารกิน ถามไปถามมาก็ได้ความว่า แก่งหินที่เราเห็นกลางทะเลนั้นจะมีพวกหอยนางรมมาเกาะอาศัย แล้วพอน้ำลดชาวบ้านก็จะเอามีดมาแกะหอยออกไปทำอาหาร บ้างก็เอาไปกิน บ้างก็เอาไปขาย แต่ดูแล้วจะเอาไปกินเสียมากกว่าเพราะไซส์หอยนั้นเล็กกระจิดเดียว แต่ถ้าขยันหน่อยก็น่าจะเก็บได้หลายกิโลอยู่ คุยกันสักพักก็แยกย้าย พี่สาวเดินลุยน้ำไปยังเกาะหินเกาะอื่นเพื่อหาหอยของแกต่อไป ++
/// ก๋อยเล่นน้ำอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงเพราะแดดเมษาแรงโพด ไม่ทันไรผิวเริ่มหมองและเริ่มแสบตัว ขึ้นจากน้ำก็บึ่งกลับโรงแรมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมวางแผนเดินทางกลับ กทม. ///
ปล. ขากลับเพื่อเป็นการทำเวลาก๋อยกับอ้ายกากเราขึ้นมินิบัสกลับ ได้รถเที่ยวเที่ยงตรง ใช้เวลาเดินทางกลับ กทม. เพียงแค่ 2 ชม. กว่าๆ..เป็นอันจบทริปหัวหินของก๋อย เหนื่อยไม่มาก ไม่ลำบากอะไรเลย แถมได้เที่ยวได้กินตามใจ ก๋อยถือว่าชีวิตคนเรามันสั้นนักอยากทำอะไรก็ให้รีบทำกันนะจ๊ะทุกคน
บัยบัย[/cen
นั่งรถไฟไปกินหอยที่หัวหิน..(8-10 เมษายน 2566)
++ เอาจริงๆ นะระหว่างทางมันก็มีอารมณ์แอบเบื่ออยู่นิดนึง แต่ ๆ ๆ .... เพื่อให้หายเซ็งก็เปิดแอพติดตามขบวนรถไฟไปด้วยซะเลย จะได้ไม่รู้สึกเคว้งคว้างแถมยังรู้สึกตื่นเต้นว่าต่อไปจะเป็นสถานีอะไร??? นี่เลยหน้าตาแอพติดตามขบวนรถไฟ แค่เรากรอกหมายเลขขบวนรถไฟลงไปก็จะเห็นว่าเรากำลังจะไปสถานีอะไร และจะไปถึงสถานีอีกกี่นาที..บางสถานีเราก็อาจไปถึงล่าช้า บางสถานีตรงเวลา แต่บางสถานีเราอาจไปถึงเร็วกว่ากำหนด แอพนี้ดีอย่างนะมันทำให้เรารู้ว่ารถไฟไทยไม่ได้หวานเย็นแบบแต่ก่อนอีกต่อไป ++
ปล. ขากลับเพื่อเป็นการทำเวลาก๋อยกับอ้ายกากเราขึ้นมินิบัสกลับ ได้รถเที่ยวเที่ยงตรง ใช้เวลาเดินทางกลับ กทม. เพียงแค่ 2 ชม. กว่าๆ..เป็นอันจบทริปหัวหินของก๋อย เหนื่อยไม่มาก ไม่ลำบากอะไรเลย แถมได้เที่ยวได้กินตามใจ ก๋อยถือว่าชีวิตคนเรามันสั้นนักอยากทำอะไรก็ให้รีบทำกันนะจ๊ะทุกคน