...ดูตัวอย่าง เช่น ..จะเห็นว่า ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ขนาดเศรษฐกิจของอเมริกา ดูเหมือนจะเป็นอันดับโหล่ๆของโลก...แต่ พอหลังเสร็จสงครามไม่กี่ปี เศรษฐกิจของอเมริกา ก็ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก และเป็นมาเรื่อยๆ จนหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ...คราวนี้ อเมริกาก็เป็นอันดับ 1 ของโลกในทุกๆด้าน เป็นมหาอำนาจสุดยอดของโลกมาจนถึงวันนี้ ...ประเทศอื่นๆที่เคยย่อยยับจากสงคราม ก็ทำนองเดียวกัน มีความเจริญ พุ่งๆๆ ตามมาทั้งหมด เช่น เยอรมัน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อังกฤษ เกาหลีใต้ ฯ..แม้แต่ เวียดนาม มาช้าหน่อย แต่ตอนนี้ก็กำลังพุ่งๆ หรือ จีน ซึ่งเคยรบกันเองย่อยยับ เคยทำสงครามกับญี่ปุ่น ก็เจริญ
...ทำนองเดียวกัน รอบนี้ เป็นรอบของ ยูเครน กับ อิสราเอล หลังเสร็จศึก จะเจริญพุ่งๆๆ ...ส่วนยูเครนก็อาจจะกลายเป็นมหาอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และอาวุธ ของยุโรปอีกประเทศหนึ่ง ที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่ารัสเซียได้เลย (น่าจะใช้เวลาสัก 20 ปี) ...อิสราเอล ก็ได้เงินช่วยเหลือจากบรรดามหาเศรษฐียิว ทั่วโลก ส่งเงินไปให้มากมาย ..อิ่มปรี้พีมันแน่ๆ เศรษฐกิจ และกองทัพจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมมาก เตอรกี อิหร่าน และบรรดาประเทศอาหรับ คงจะไม่กล้าล้วงคองูเห่าแน่นอน ...อิสราเอลคงฉวยโอกาสวิกฤติครั้งนี้ ดำเนินการไปตามนั้น คือ ทำให้ประเทศอิสราเอล ยิ่งใหญ่ ร่ำรวย มีอำนาจขึ้นอีกมากมาย...
...การใช้สงครามเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อเมริกาเป็นต้นฉบับในเรื่องนี้ และทำมาเรื่อยๆๆ ...สงครามกลางเมือง , สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 , สงครามเกาหลี , สงครามเวียดนาม , สงครามอ่าวเปอร์เซีย 2 ครั้ง , สงครามในอาฟกานิสฐาน และตอนนี้กำลังทำสงครามการค้ากับจีน ...อเมริกาจะเปิดแนวรบ ไม่เพียงแต่สงครามตามแบบ ที่เอาอาวุธมาฆ่ากัน แต่จะเปิดสงครามในรูปแบบอื่นๆด้วย อีกหลายๆรูปแบบ เช่น สงครามการค้า ฯลฯ..
...แต่ประเทศที่สงบๆ ไม่ค่อยมีสงคราม จะเจริญช้ามาก
...การพัฒนาเท็คโนโลยี่ต่างๆ มาจากสงคราม ทั้งนั้น ...เช่น การพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ , การคิดค้นคอมพิวเตอร์ , การคิดค้นส่งจรวด และยานอวกาศไปนอกโลก ..ฯลฯ เป็นต้น... รากฐานของสิ่งเหล่านั้นล้วนคิดค้นขึ้นมาจากการทำสงคราม
นี่คือหลักการของ War Economy
ดูประวัติศาสตร์เศรษฐกิจยุคใหม่หลังสิ้นศึก ประเทศที่ผ่านสงครามจะมีความเจริญพุ่งมากๆในทุกๆด้าน.ยูเครน อิสราเอล คงทำนองนั้น
...ทำนองเดียวกัน รอบนี้ เป็นรอบของ ยูเครน กับ อิสราเอล หลังเสร็จศึก จะเจริญพุ่งๆๆ ...ส่วนยูเครนก็อาจจะกลายเป็นมหาอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และอาวุธ ของยุโรปอีกประเทศหนึ่ง ที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่ารัสเซียได้เลย (น่าจะใช้เวลาสัก 20 ปี) ...อิสราเอล ก็ได้เงินช่วยเหลือจากบรรดามหาเศรษฐียิว ทั่วโลก ส่งเงินไปให้มากมาย ..อิ่มปรี้พีมันแน่ๆ เศรษฐกิจ และกองทัพจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมมาก เตอรกี อิหร่าน และบรรดาประเทศอาหรับ คงจะไม่กล้าล้วงคองูเห่าแน่นอน ...อิสราเอลคงฉวยโอกาสวิกฤติครั้งนี้ ดำเนินการไปตามนั้น คือ ทำให้ประเทศอิสราเอล ยิ่งใหญ่ ร่ำรวย มีอำนาจขึ้นอีกมากมาย...
...การใช้สงครามเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อเมริกาเป็นต้นฉบับในเรื่องนี้ และทำมาเรื่อยๆๆ ...สงครามกลางเมือง , สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 , สงครามเกาหลี , สงครามเวียดนาม , สงครามอ่าวเปอร์เซีย 2 ครั้ง , สงครามในอาฟกานิสฐาน และตอนนี้กำลังทำสงครามการค้ากับจีน ...อเมริกาจะเปิดแนวรบ ไม่เพียงแต่สงครามตามแบบ ที่เอาอาวุธมาฆ่ากัน แต่จะเปิดสงครามในรูปแบบอื่นๆด้วย อีกหลายๆรูปแบบ เช่น สงครามการค้า ฯลฯ..
...แต่ประเทศที่สงบๆ ไม่ค่อยมีสงคราม จะเจริญช้ามาก
...การพัฒนาเท็คโนโลยี่ต่างๆ มาจากสงคราม ทั้งนั้น ...เช่น การพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ , การคิดค้นคอมพิวเตอร์ , การคิดค้นส่งจรวด และยานอวกาศไปนอกโลก ..ฯลฯ เป็นต้น... รากฐานของสิ่งเหล่านั้นล้วนคิดค้นขึ้นมาจากการทำสงคราม