สวัสดีครับ ผมอายุ25ปี นะครับ
ก่อนจะเข้าเรื่องผมจะสารภาพก่อนนะครับว่า
ผมเป็นคนมีอีโก้ครับ และที่แย่กว่าคือผมเป็นคนToxic
พูดจาหยาบคาย ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
พื้นฐานผมโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยอบอุ่น
และแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ค่อยได้รับความอบอุ่น
ผมจะเห็นพ่อด่าแม่ ตีแม่ให้เห็นอยู่บ่อยๆ และแกขี้เมา
ตั้งแต่เด็กจนผมโต พ่อก็เป็นแบบนี้มาตลอด
แต่ตีแม่ ไม่ค่อยมีแล้ว เหลือแต่ขี้เหล้า และด่ากราด
ทำให้ผมตั้งมั่นเลยว่า ผมจะโตมาไม่เป็นแบบแก
ซึ่งก็ทำได้จริง แต่ดูเหมือนจะไม่ทั้งหมด
ผมไม่กินเหล้าเมายาก็จริง แต่ผมซึมซับเรื่องแย่ๆ
เช่นคำหยาบคาย คำพูดแย่ๆ จากพ่อมา
ตรงนี้ผมกล่าวถึง ไม่ได้อยากจะโทษพ่อนะครับ😢
เพราะในที่สุดแล้ว คนที่กระทำสิ่งที่ไม่ดีก็คือตัวผมเอง
ผมผิดเองครับ ผมยอมรับผิดทุกอย่างเลย
เข้าเรื่องนะครับ คืออย่างที่ผมสารภาพก่อนหน้านี้
กับสิ่งที่ผมเป็น ตอนแรกมันยังไม่รุนแรงครับ
จนกระทั้งเรียนจบ ป.ตรี แล้วเข้าสู่วัยทำงาน
ซึ่งช่วงที่ผมเรียนจบ ก็เป็นช่วงเดียวกับที่มีโรคระบาด
มันทำให้หางานยากมาก ผมก็เลยเลือกมาทำพวก
โซเชียลออนไลน์ อย่างการเป็น คอนเทนต์ครีเอเตอร์
หรือว่าสตรีมเมอร์ โดยมีคอนเทนต์หลักเกี่ยวกับวิดีโอเกม
ช่วงแรกทำมาก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ก็มีความสุขกับการทำงานตรงนี้
แล้วก็จะมีแฟนคอยซัพพอร์ตในเรื่องนี้เสมอ
แล้ววันนึงก็มีเกมนึงเปิดมาให้เข้าไปเล่นได้ฟรีๆ
ผมเลยหยิบมาทำเป็นคอนเทนต์หลัก
ผมทำการเล่นและไลฟ์สตรีมเกมนี้ เอาเป็นเอาตาย
เป็นระยะเวลากว่า2ปีครับ
และตรงนี้ผมว่ามันคือจุดเปลี่ยน จุดแรกเลยนะครับ
เพราะว่าผมเอาเป็นเอาตายกับมันจริงๆ
หามรุ่งหามค่ำ โฟกัสแต่ความสำเร็จ
จะได้มีคนรู้จักเยอะๆ พอมีคนรู้จัก มียอดวิว
มีคนโดเนทให้ ผมจะได้มีตังค์เยอะๆ
ถ้าเรามีตังค์หละก็ เราก็จะมีเวลาเอง
มายเซ็ตผมช่วงนั้นจะเป็นประมาณนี้ครับ
ทำให้ผมแทบจะไม่มีเวลาให้แฟนเลย
จะเป็นเขาส่วนใหญ่ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตผม
แล้วช่วงเวลาที่ผมทำงานเป็นสตรีมเมอร์
ผมก็Toxicขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากในเกมที่เล่น
มันมีการสื่อสารครับ ทุกคนสามารถพูดคุย
หรือสนทนากันในเกมได้
มันก็ควรจะเป็นเรื่องดีใช่มั๊ยครับ?
แต่มันToxicมากเลย สังคมในเกมมันแย่มาก
แล้วเดิมทีผมก็Toxicอยู่แล้วด้วย
พอมาเจอสังคมในเกมนี้ มันยิ่งซึมซับมากขึ้น
พัฒนาการไปในเชิงลบ มันมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ได้จะโทษเกมนะครับ ผมก็โทษตัวเองเหมือนเดิม
เพราะสุดท้ายคนที่ทำเรื่องแย่ๆ มันก็เป็นผมเอง
หลังจากที่ผมToxicขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนครับว่า
แฟนผมคือคนที่รับเคราะห์ เขาคือคนที่
ถูกผมToxicใส่เยอะที่สุดแล้วหละครับ
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ว่าผมเดิมทีก็Toxicอยู่แล้ว
อาจจะไม่ได้รุนแรงมากเท่าช่วงหลัง แต่ก็Toxic
คบกับแฟนช่วงแรกๆ ก็จะมีToxicบ้าง ซึ่งก็ทำมาเรื่อยๆ
ถามว่าเรื่องดีๆได้ทำมั๊ย? แน่นอนว่าต้องทำอยู่แล้ว
แต่ผมจะให้โฟกัสไปที่เรื่องแย่ๆนี่แหละครับ
กลับมาช่วงที่ผมเป็นสตรีมเมอร์
ซึ่งดูท่าแล้วมันจะไปไม่รอด ทุนที่มีตอนแรกเริ่มหมด
เพราะรายได้ที่ได้จากการทำงานตรงนี้มันน้อยมาก
แฟนเลยแนะนำให้ไปทำอย่างอื่นครับ
แต่ผมไม่ได้ไปครับ แล้วก็ทะเลาะกัน
เพราะเขาอยากให้ผมไปทำอย่างอื่น
แต่ตอนนั้นผมมีอีโก้ แทบจะไม่ฟังแฟนเลย
มันก็เลยกลายเป็นว่าทะเลาะกันทุกครั้ง
ที่เขาบอกให้ผมไปหางานอย่างอื่นทำ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ฟังเลยส้ะทีเดียว
ผมก็รับฟังอยู่แหละ เพราะผมก็ไปสมัครงาน
ไปสัมพาษณ์งานหลายที่ ระหว่างรอติดต่อกลับ
ผมก็ยังคงทำงานเดิมไปเรื่อยๆ
ซึ่งผมก็ให้ความสำคัญกับการหางานน้อยไปจริงๆ
เพราะว่าผมรอเป็นเดือนๆ ว่าเขาจะติดต่อมามั๊ย?
แล้วถ้าเป็นเดือนๆแล้ว เขายังไม่ติดต่อมา
ผมก็จะทำงานเดิมๆไปเรื่อยๆ และมันไม่มีรายได้
ผมว่าผมสรุปให้ดีกว่าครับ มันเยอะเกินไป ไม่น่าพิมพ์หมด
สรุปก็คือ ผมทำไม่ดีกับแฟนในหลายๆเรื่อง
ส่วนมากแฟนผมจะเป็นฝ่ายที่ยอมให้ผม
ผมจะพ้นคำแย่ๆ คำหยาบคายใส่เขา
โฟกัสแต่ผลลัพธ์ของงาน ว่าจะตัองออกมาดี
จนผมไปละเลยเขา เพราะคิดแค่ว่า
รีบทำให้สำเร็จจะได้มีตังค์ มีตังค์ก็จะได้มีเวลา
แล้วเอาเวลาและเงินทองไปใช้กับแฟนดีกว่า
แล้วมันก็มาถึงจุดที่เขารู้สึกว่ารับไม่ไหว
เขามาบอกเลิกผม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่
ผมเลิกเป็นสตรีมเมอร์ แล้วได้งานใหม่พอดี
ไปทำงานวันแรกผมต้องฝืนทน อดกลั้นมากๆ
มันสูญเสียความมั่นใจ มือไม้สั่น ขาสั่นไปหมด
ผมไม่อยากจะเสียเขาไป ผมถึงได้หางานทำ
จนได้งานมันก็เป็นเพราะเขา ผมคิดได้ก่อนที่
เขาจะบอกเลิกผมนะครับ ก่อนเลิกคือไม่ได้ทะเลาะกัน
แต่ที่ทะเลาะกันมันคือเรื่องเก่าเมื่อ2สัปดาห์ก่อน
แล้วตอนโทรมาบอกเลิกคือผมงงมากๆ
เขาบอกว่ามันเป็นเพราะที่ทะเลาะกันเมื่อ2สัปดาห์ก่อน
ซึ่งผมเข้าใจว่า เขาไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว
เพราะในวันนั้นทะเลาะกันเสร็จ
เขาบอกกับผมว่าอย่าคิดมาก
สุดท้ายโทรมาบอกเลิกผม เขาบอกเขาไม่มีความสุขเลย
ซึ่งผมก็ยื้อเขาไว้นะครับ ก็ยื้อมาเรื่อยๆ
ซึ่งระหว่างที่ยื้อเขาไว้ เรื่องราวเหมือนจะดีขึ้น
ก็ดันมาแย่ลงไปอีก ผมก็ต้องฝืนทำงานไปด้วย
มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆจริงๆ ทรมาณมากครับ😭
ผมก็ได้แต่ขอโทษกับเขา ให้คำมั่นสัญญา
ว่าจะปรับปรุงตัว ผมแก้ไขอดีตที่ทำไว้ไม่ได้
มีแต่ต้องทำปัจจุบันให้ดี ขอโอกาส
ผมก็บอกเขาไปประมาณนี้
เขาว่าไม่รักผมแล้ว ไม่ผูกพันธ์แล้ว เหลือแต่ความสงสาร
ผมคบกันมาเกือบ5ปีนะครับ มันหมดได้ขนาดนั้นเลยหรอ😭
ปัจจุบันผมก็ยังทำงานอยู่ แล้วก็ยังติดต่อกับเขาอยู่
ซึ่งคุยกันน้อยลงมากๆ คุยไปผมก็โดนด่าไปด้วยคำหยาบ
เหมือนเขามาทำใส่ผมคืน ผมก็ยอมครับ ไม่สวนเลย
เพราะผมบอกเขาแล้วว่าจะเปลี่ยนตัวเอง
ผมก็ให้เขาด่า เสียๆหายๆ แล้วเขาก็จะขุดเรื่องเก่า
ที่ผมเคยทำไม่ดีกับเขา มาพูดให้ผมฟัง ทุกครั้งที่คุยกัน
พักหลังเขาบอกรู้สึกแย่ รู้สึกกดดัน เพราะผมตื้อเขา
เขาก็เลยบอกกับผมว่าจะบล็อกผมแล้ว
แต่ดูเหมือนเขาเองก็ไม่ได้บล็อกอะไรผม
ทั้งที่เขาจะทำแบบนั้นก็ได้ ทำไมเขาถึงไม่ทำครับ?
เขามาบอกว่าสงสาร แต่ดูเหมือนว่า
คอยเช็คผมอยู่ตลอดเลย
ตัดมาปัจจุบัน ผมเลยไม่ได้พิมพ์อะไรไป2วันแล้วครับ
เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกกดดัน ไม่อยากให้รำคาน
ก่อนจะเลิกติดต่อไป ผมก็ได้พิมพ์สิ่งที่ผมตั้งใจ
สิ่งที่ผมอยากทำให้เขารับรู้ไปหมดแล้ว
แล้วผมก็ใช้วิธีการลงสตอรี่ อัพเดทชีวิตประจำวัน
กับอัพสตอรี่ถึงเขาแบบอ้อมๆทุกวันแทนครับ
และเขาก็มาเช็คผมอยู่ตลอด2วันมานี้เลย
อยากถามว่า
เขากำลังให้โอกาสผมอยู่รึป่าวครับ?
เพียงแต่เขาไม่ได้บอกกับผมตรงๆ
เขากำลังคอยดูอยู่รึเปล่า ว่าผมจะทำได้จริงมั๊ย?
เพราะตอนนี้ผมก็เรียกได้ว่า มีงานที่มั่นคงแล้ว
มันก็เป็นดั่งที่เขาต้องการให้ผมเป็นก่อนหน้านี้แล้ว
อันที่จริงเขายังมีความรักอยู่ลึกๆรึเปล่าครับ?
ผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ ช่วยแนะนำแนวทางหน่อย
เพราะผมรู้สึกผิดจากใจจริงๆ อยากเปลี่ยนตัวเอง
ผมกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนตัวเอง
มีวิธีไหนอีกบ้างครับ ที่จะทำให้เขากลับมารักผมได้อีก
แล้วผมจะไม่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดอีกต่อไปเลย
ผมเสียใจจริงๆครับ 😭😭😭
ขอปรึกษาเรื่องความรักพังๆของผมหน่อยครับ 😢
ก่อนจะเข้าเรื่องผมจะสารภาพก่อนนะครับว่า
ผมเป็นคนมีอีโก้ครับ และที่แย่กว่าคือผมเป็นคนToxic
พูดจาหยาบคาย ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง
พื้นฐานผมโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยอบอุ่น
และแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ค่อยได้รับความอบอุ่น
ผมจะเห็นพ่อด่าแม่ ตีแม่ให้เห็นอยู่บ่อยๆ และแกขี้เมา
ตั้งแต่เด็กจนผมโต พ่อก็เป็นแบบนี้มาตลอด
แต่ตีแม่ ไม่ค่อยมีแล้ว เหลือแต่ขี้เหล้า และด่ากราด
ทำให้ผมตั้งมั่นเลยว่า ผมจะโตมาไม่เป็นแบบแก
ซึ่งก็ทำได้จริง แต่ดูเหมือนจะไม่ทั้งหมด
ผมไม่กินเหล้าเมายาก็จริง แต่ผมซึมซับเรื่องแย่ๆ
เช่นคำหยาบคาย คำพูดแย่ๆ จากพ่อมา
ตรงนี้ผมกล่าวถึง ไม่ได้อยากจะโทษพ่อนะครับ😢
เพราะในที่สุดแล้ว คนที่กระทำสิ่งที่ไม่ดีก็คือตัวผมเอง
ผมผิดเองครับ ผมยอมรับผิดทุกอย่างเลย
เข้าเรื่องนะครับ คืออย่างที่ผมสารภาพก่อนหน้านี้
กับสิ่งที่ผมเป็น ตอนแรกมันยังไม่รุนแรงครับ
จนกระทั้งเรียนจบ ป.ตรี แล้วเข้าสู่วัยทำงาน
ซึ่งช่วงที่ผมเรียนจบ ก็เป็นช่วงเดียวกับที่มีโรคระบาด
มันทำให้หางานยากมาก ผมก็เลยเลือกมาทำพวก
โซเชียลออนไลน์ อย่างการเป็น คอนเทนต์ครีเอเตอร์
หรือว่าสตรีมเมอร์ โดยมีคอนเทนต์หลักเกี่ยวกับวิดีโอเกม
ช่วงแรกทำมาก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ก็มีความสุขกับการทำงานตรงนี้
แล้วก็จะมีแฟนคอยซัพพอร์ตในเรื่องนี้เสมอ
แล้ววันนึงก็มีเกมนึงเปิดมาให้เข้าไปเล่นได้ฟรีๆ
ผมเลยหยิบมาทำเป็นคอนเทนต์หลัก
ผมทำการเล่นและไลฟ์สตรีมเกมนี้ เอาเป็นเอาตาย
เป็นระยะเวลากว่า2ปีครับ
และตรงนี้ผมว่ามันคือจุดเปลี่ยน จุดแรกเลยนะครับ
เพราะว่าผมเอาเป็นเอาตายกับมันจริงๆ
หามรุ่งหามค่ำ โฟกัสแต่ความสำเร็จ
จะได้มีคนรู้จักเยอะๆ พอมีคนรู้จัก มียอดวิว
มีคนโดเนทให้ ผมจะได้มีตังค์เยอะๆ
ถ้าเรามีตังค์หละก็ เราก็จะมีเวลาเอง
มายเซ็ตผมช่วงนั้นจะเป็นประมาณนี้ครับ
ทำให้ผมแทบจะไม่มีเวลาให้แฟนเลย
จะเป็นเขาส่วนใหญ่ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตผม
แล้วช่วงเวลาที่ผมทำงานเป็นสตรีมเมอร์
ผมก็Toxicขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากในเกมที่เล่น
มันมีการสื่อสารครับ ทุกคนสามารถพูดคุย
หรือสนทนากันในเกมได้
มันก็ควรจะเป็นเรื่องดีใช่มั๊ยครับ?
แต่มันToxicมากเลย สังคมในเกมมันแย่มาก
แล้วเดิมทีผมก็Toxicอยู่แล้วด้วย
พอมาเจอสังคมในเกมนี้ มันยิ่งซึมซับมากขึ้น
พัฒนาการไปในเชิงลบ มันมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ได้จะโทษเกมนะครับ ผมก็โทษตัวเองเหมือนเดิม
เพราะสุดท้ายคนที่ทำเรื่องแย่ๆ มันก็เป็นผมเอง
หลังจากที่ผมToxicขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนครับว่า
แฟนผมคือคนที่รับเคราะห์ เขาคือคนที่
ถูกผมToxicใส่เยอะที่สุดแล้วหละครับ
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ว่าผมเดิมทีก็Toxicอยู่แล้ว
อาจจะไม่ได้รุนแรงมากเท่าช่วงหลัง แต่ก็Toxic
คบกับแฟนช่วงแรกๆ ก็จะมีToxicบ้าง ซึ่งก็ทำมาเรื่อยๆ
ถามว่าเรื่องดีๆได้ทำมั๊ย? แน่นอนว่าต้องทำอยู่แล้ว
แต่ผมจะให้โฟกัสไปที่เรื่องแย่ๆนี่แหละครับ
กลับมาช่วงที่ผมเป็นสตรีมเมอร์
ซึ่งดูท่าแล้วมันจะไปไม่รอด ทุนที่มีตอนแรกเริ่มหมด
เพราะรายได้ที่ได้จากการทำงานตรงนี้มันน้อยมาก
แฟนเลยแนะนำให้ไปทำอย่างอื่นครับ
แต่ผมไม่ได้ไปครับ แล้วก็ทะเลาะกัน
เพราะเขาอยากให้ผมไปทำอย่างอื่น
แต่ตอนนั้นผมมีอีโก้ แทบจะไม่ฟังแฟนเลย
มันก็เลยกลายเป็นว่าทะเลาะกันทุกครั้ง
ที่เขาบอกให้ผมไปหางานอย่างอื่นทำ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ฟังเลยส้ะทีเดียว
ผมก็รับฟังอยู่แหละ เพราะผมก็ไปสมัครงาน
ไปสัมพาษณ์งานหลายที่ ระหว่างรอติดต่อกลับ
ผมก็ยังคงทำงานเดิมไปเรื่อยๆ
ซึ่งผมก็ให้ความสำคัญกับการหางานน้อยไปจริงๆ
เพราะว่าผมรอเป็นเดือนๆ ว่าเขาจะติดต่อมามั๊ย?
แล้วถ้าเป็นเดือนๆแล้ว เขายังไม่ติดต่อมา
ผมก็จะทำงานเดิมๆไปเรื่อยๆ และมันไม่มีรายได้
ผมว่าผมสรุปให้ดีกว่าครับ มันเยอะเกินไป ไม่น่าพิมพ์หมด
สรุปก็คือ ผมทำไม่ดีกับแฟนในหลายๆเรื่อง
ส่วนมากแฟนผมจะเป็นฝ่ายที่ยอมให้ผม
ผมจะพ้นคำแย่ๆ คำหยาบคายใส่เขา
โฟกัสแต่ผลลัพธ์ของงาน ว่าจะตัองออกมาดี
จนผมไปละเลยเขา เพราะคิดแค่ว่า
รีบทำให้สำเร็จจะได้มีตังค์ มีตังค์ก็จะได้มีเวลา
แล้วเอาเวลาและเงินทองไปใช้กับแฟนดีกว่า
แล้วมันก็มาถึงจุดที่เขารู้สึกว่ารับไม่ไหว
เขามาบอกเลิกผม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่
ผมเลิกเป็นสตรีมเมอร์ แล้วได้งานใหม่พอดี
ไปทำงานวันแรกผมต้องฝืนทน อดกลั้นมากๆ
มันสูญเสียความมั่นใจ มือไม้สั่น ขาสั่นไปหมด
ผมไม่อยากจะเสียเขาไป ผมถึงได้หางานทำ
จนได้งานมันก็เป็นเพราะเขา ผมคิดได้ก่อนที่
เขาจะบอกเลิกผมนะครับ ก่อนเลิกคือไม่ได้ทะเลาะกัน
แต่ที่ทะเลาะกันมันคือเรื่องเก่าเมื่อ2สัปดาห์ก่อน
แล้วตอนโทรมาบอกเลิกคือผมงงมากๆ
เขาบอกว่ามันเป็นเพราะที่ทะเลาะกันเมื่อ2สัปดาห์ก่อน
ซึ่งผมเข้าใจว่า เขาไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว
เพราะในวันนั้นทะเลาะกันเสร็จ
เขาบอกกับผมว่าอย่าคิดมาก
สุดท้ายโทรมาบอกเลิกผม เขาบอกเขาไม่มีความสุขเลย
ซึ่งผมก็ยื้อเขาไว้นะครับ ก็ยื้อมาเรื่อยๆ
ซึ่งระหว่างที่ยื้อเขาไว้ เรื่องราวเหมือนจะดีขึ้น
ก็ดันมาแย่ลงไปอีก ผมก็ต้องฝืนทำงานไปด้วย
มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากๆจริงๆ ทรมาณมากครับ😭
ผมก็ได้แต่ขอโทษกับเขา ให้คำมั่นสัญญา
ว่าจะปรับปรุงตัว ผมแก้ไขอดีตที่ทำไว้ไม่ได้
มีแต่ต้องทำปัจจุบันให้ดี ขอโอกาส
ผมก็บอกเขาไปประมาณนี้
เขาว่าไม่รักผมแล้ว ไม่ผูกพันธ์แล้ว เหลือแต่ความสงสาร
ผมคบกันมาเกือบ5ปีนะครับ มันหมดได้ขนาดนั้นเลยหรอ😭
ปัจจุบันผมก็ยังทำงานอยู่ แล้วก็ยังติดต่อกับเขาอยู่
ซึ่งคุยกันน้อยลงมากๆ คุยไปผมก็โดนด่าไปด้วยคำหยาบ
เหมือนเขามาทำใส่ผมคืน ผมก็ยอมครับ ไม่สวนเลย
เพราะผมบอกเขาแล้วว่าจะเปลี่ยนตัวเอง
ผมก็ให้เขาด่า เสียๆหายๆ แล้วเขาก็จะขุดเรื่องเก่า
ที่ผมเคยทำไม่ดีกับเขา มาพูดให้ผมฟัง ทุกครั้งที่คุยกัน
พักหลังเขาบอกรู้สึกแย่ รู้สึกกดดัน เพราะผมตื้อเขา
เขาก็เลยบอกกับผมว่าจะบล็อกผมแล้ว
แต่ดูเหมือนเขาเองก็ไม่ได้บล็อกอะไรผม
ทั้งที่เขาจะทำแบบนั้นก็ได้ ทำไมเขาถึงไม่ทำครับ?
เขามาบอกว่าสงสาร แต่ดูเหมือนว่า
คอยเช็คผมอยู่ตลอดเลย
ตัดมาปัจจุบัน ผมเลยไม่ได้พิมพ์อะไรไป2วันแล้วครับ
เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกกดดัน ไม่อยากให้รำคาน
ก่อนจะเลิกติดต่อไป ผมก็ได้พิมพ์สิ่งที่ผมตั้งใจ
สิ่งที่ผมอยากทำให้เขารับรู้ไปหมดแล้ว
แล้วผมก็ใช้วิธีการลงสตอรี่ อัพเดทชีวิตประจำวัน
กับอัพสตอรี่ถึงเขาแบบอ้อมๆทุกวันแทนครับ
และเขาก็มาเช็คผมอยู่ตลอด2วันมานี้เลย
อยากถามว่า
เขากำลังให้โอกาสผมอยู่รึป่าวครับ?
เพียงแต่เขาไม่ได้บอกกับผมตรงๆ
เขากำลังคอยดูอยู่รึเปล่า ว่าผมจะทำได้จริงมั๊ย?
เพราะตอนนี้ผมก็เรียกได้ว่า มีงานที่มั่นคงแล้ว
มันก็เป็นดั่งที่เขาต้องการให้ผมเป็นก่อนหน้านี้แล้ว
อันที่จริงเขายังมีความรักอยู่ลึกๆรึเปล่าครับ?
ผมควรทำอย่างไรต่อไปครับ ช่วยแนะนำแนวทางหน่อย
เพราะผมรู้สึกผิดจากใจจริงๆ อยากเปลี่ยนตัวเอง
ผมกำลังอยู่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนตัวเอง
มีวิธีไหนอีกบ้างครับ ที่จะทำให้เขากลับมารักผมได้อีก
แล้วผมจะไม่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดอีกต่อไปเลย
ผมเสียใจจริงๆครับ 😭😭😭