นี่คือสถิติฟีฟ่าเดย์นัดนี้



จากสถิติจะเห็นได้ว่า ระดับจีน ยังสู้อุซเบไม่ได้เลยสักนิด  แต่...สิ่งที่เป็นข้อแตกต่างจากที่ชมการถ่ายทอดสด คือ

1. จีน จบสกอร์คมกว่าไทย ทั้งเกมยิงแค่4 ครั้ง แต่เป็น 1ประตู

2. แผงหลังจีน แน่นกว่าไทย โดยเฉพาะลูกกลางอากาศ  อุซเบเล่นลูกบอมบ์  กองหลังจีนเก็บเรียบ  กลับกันถ้าเป็นกองหลังไทย อาจจะเสียเพิ่มอีก 1-2 ประตู

3. แบ็คซ้าย-ขวา ของจีน มีจุดอ่อนเยอะมาก โดนแทงทะลุตัดหลังแบ็คหลายสิบครั้ง และแทบทุกครั้ง อุซเบจะได้เข้ากรอบเขตโทษตลอด

4. กลางรับจีนเล่นได้ดี ลงมาช่วยเกมรับเยอะมาก  แต่กลางรุก เชื่อมเกมกับกองหน้าไม่ได้  เจออุซเบเพรส ตัดบอลได้แทบจะตลอด จึงได้แต่ตั้งรับ กับถ่ายบอลในแดนตัวเอง

นัดนี้ จึงเห็นชัดว่า จุดเด่นของจีนก็มี  แต่จุดอ่อนก็มีเช่นกัน 

ดังนั้นนัดที่ไทยเจอจีน จะต้องเล่นประมาณนี้

- เน้นเกมบุกทางริมเส้นทั้ง 2 ฝั่ง  คีย์แมนสำคัญของไทย คือ สุภโชค มิเคลสัน ธีราธร  ศุภณัฐ เอกนิษฐ์ หรือ บดินทร์ (แล้วแต่ใครจะได้ลง) คนจ่าย กับคนวิ่งไลน์  ต้องพยายามโจมตีพื้นที่หลังแบ็คของจีน  นั่นคือจุดที่ไทยจะได้เปรียบ

- ถ้าจะครองบอล ห้ามเสียบอลแดนกลาง เพราะ จีนตัดบอลแล้วฉวยโอกาสโจมตีได้เก่งมาก

- อย่าเล่นลูกโด่งกับจีน (ยกเว้นลูกเตะมุม ที่มีกองหลังมาเติมช่วย) เพราะโดนจีนเก็บเรียบแน่

** นั่นคือ วิธีการเฉยๆ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการจบสกอร์  ต่อให้เล่นดีแทบตาย  ยิงไม่ได้  ยังไงก็ไม่ชนะ  นี่แหละคือฟุตบอล **

ป.ล. นัดแรก ที่เล่นที่บ้านเรา ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ไทยต้องชนะเท่านั้น  ถ้าได้แค่เสมอหรือแพ้  ก็เตรียมตัวไปคัดบอลโลกปี 2030 ได้เลย

คาดเดาสกอร์    ไทย เสมอ จีน  1 - 1    นำก่อน แต่หลังเล่นพลาดโดนตีเสมอ