สายลมในเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็นพัดผ่านคล้ายเต้นระบำ ณ คฤหาสน์หลังหนึ่งมีอายุหลายร้อยปี ที่ห้องโถงใหญ่มีเจ้าของที่อยู่อาศัยซึ่งเธอเป็นแม่มดแก่ชราแล้วไม่สวย ไม่น่ารักเหมือนตอนวัยรุ่น ใช้วงแหวนรูปดาวห้าแฉกครอบด้วยวงแหวน ในคำศัพท์ของวงการนี้เรียกว่า เพนตาเคิล ตรงนี้แม่มดชราใช้เป็นที่ๆทำพิธีกรรมเรียกวิญญาณของมนุษย์ที่ตายห่าไปแล้ว
" จุ้มน้ำจิ้ม จิ้มจ้ำจุ้ม จุ้มน้ำจิ้ม จิ้มน้ำจุ้ม เรามาจุ้มน้ำจิ้ม " คนแก่คนนี้ท่องมนต์ในพิธีกรรม แขนสองข้างขยับขึ้นลงและกางแขนกว้างพอที่จะโอบเสาหินของสิ่งก่อสร้างยุคกรีกโบราณ (ที่สร้างมาน่ะมันมีขนาดพอจะโอบได้เรอะ!? เจ้าคนแต่งเรื่อง )
เฟี้ยว ~
ที่พื้นรูปดาวห้าแฉกที่เป็นเส้นสีดำเกิดเปลี่ยนสีเป็นเรืองแสงออกมาสีเหลืองสลับกับสีน้ำเงิน แสงสีทองจากเส้นรูปดาวพุ่งตั้งขึ้นสู่เพดาน
หญิงชรายิ้มกริ่ม " อาฮ่า ฉันทำพิธีได้ผลแล้ว จงตื่นขึ้นมาซะเจ้าวิญญาณซามูไรโบราณ "
ที่ภายในแสงสีทอง เงาสีดำร่างหนึ่งปรากฏให้เห็น มันค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพสาวนางหนึ่งจากยุคเก่าเต็มตัว แต่เพราะนี่คือวิญญาณ จึงไม่มีร่างส่วนเท้าให้แม่มดชรามองเห็น
ปรากฏร่างสาวซามูไรแล้ว แสงสีได้หยุดการเปร่งปรั่ง
สาวสวยได้สติ เธอเหลือบนัยน์ตาไปซ้ายและขวา " ......... ที่นี่คือที่ไหน? ...... และดิฉันเป็นใคร? "
" เจ้าคือซามูไรยุคญี่ปุ่นโบราณ เป็นซามูไรนักฆ่า มีนามว่า อาสึซะ " แม่มดชราอธิบายเรื่องข้อมูลของสาวสวยคนนี้สักเล็กน้อย
" .......ดิฉัน.....ข้านึกออกแล้ว ในเวลานั้นข้าเป็นซามูไรรับจ้างฆ่า บอกไว้เลยข้าเลือดเย็น แต่ทำไปก็เพราะได้ค่าจ้างด้วย ผู้หญิง เด็ก คนแก่ ข้าก็ไม่เว้น ได้ฟันมาหมดแล้ว "
" หึหึ...." แม่มดชราแอบหัวเราะในลำคอ
" ขนาดผู้ชายเองข้าก็ฟันมาเยอะ เล่นสนุกสนานไปวันๆ " ซามูไรสาวเหล่สองนัยน์ตาเฉียงขึ้นไปทางขวาคิด เพื่อจะพูดเรื่องตัวเองแบบว่า เอิ่ม........
" .........เจ้า เป็นผู้หญิงที่ช่างน่ากลัวว่ะ " แม่มดแก่ชราเกือบจะพูดไม่ออกแล้ว
" แก แม่มดชราหลายร้อยปี ตอนแกสมัยสาว แกคือศัตรูในแผ่นดินญี่ปุ่นของข้า สร้างเวทย์มนต์คาถาในหมู่บ้าน เกิดควันพิษที่ทำให้ชาวบ้านนอนล้มมตายแล้วแก.....ก็ได้ขโมยสมบัติประจำหมู่บ้านไป ข้าว่าข้าตายไปแล้ว .... ไหนๆก็โผล่มาตอนนี้ข้าจะใช้กระบี่หยกของข้าเสียบเข้าที่คอหอยของแก ! "
" ท้าทายกันขนาดนี้ มาประลองสักตั้งเลยเป็นไง "
และผู้หญิงสองคนก็ประทะกัน ดาบหยกเสียบคอแม่มด พลังเวทย์ควันพิษทำให้สาวซามูไรขาดอากาศหายใจ
ตายทั้งคู่
ที่ห้องนี้กลายเป็นห้องปิดตาย ทิ้งดาบหยกกับคฑาไม้สนซีดาร์เอาไว้ ถ้านำไปขายจะได้เงินระดับพันล้าน แต่....นี่.คือห้องปิดตาย มันจึงยังไม่มีผู้ใดสามารถก้าวเข้ามาเหยียบย่ำ
...............
.....
ตำรวจกับนักสืบชื่อดังและเจ้าหน้าที่ที่จะช่วยพังประตูได้รับแจ้งจากเด็กสาวเมดรับใช้ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และเมดสาวได้บอกเรื่องที่ขอร้อง " ดิฉันไม่สามารถติดต่อคุณนายหญิงชราของคฤหาสน์ได้ ขอรบกวนพวกคุณมาพบหน่อยนะคะ "
ก่อนอื่น เจ้าหน้าที่ทำประตูปิดตายให้พังทลาย
ทั้งหมดได้เข้าไป เมดสาวตกใจกับหญิงชราที่นอนเสียชีวิต " ขะ คุณนาย คุณนายมิเกล นี่มันเกิดอะไรขึ้น !?"
นักสืบพบศพผู้หญิงสองศพ " คดีนี้เป็นเรื่องต่อสู้กันสินะ คุณตำรวจ ผมเห็นว่าศพคนหนึ่งเป็นพวกแม่มด อีกศพเป็น เสือผ้ากระโปรงที่ใส่อยู่ในชุดคนยุคโบราณ .....คฑา ดาบหยก.... " และนักสืบก็หันไปทางพื้นรูปดาวห้าแฉก " เรื่องมันเกิดจากสิ่งนี้น่ะเอง "
นายตำรวจเห็น และหันไปถามสาวเมด" รูปดาวห้าแฉกที่ล้อมด้วยวงกลมนี้.... คุณเมดคิดว่ามันมีอะไร พอจะทราบมั้ยครับ "
" .......... อาจจะ....เป็นพิธีกรรม?...." เมดสาวพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา
เมดสาว ตำรวจ นักสืบ เจ้าหน้าที่ เข้าไปใกล้พื้นตรงนั้น
พื้นส่องแสงจ้าแสบตา
" อะ อะไรเนี่ย !? "
คฤหาสน์หลังนี้ ตูมมมมมมมมมม !!!!! เพราะพื้นดาวห้าแฉกเกิดระเบิด
=========
" เจมส์เอ้ย เช้าแล้วนะ !" หญิงชราส่งเสียงเรียกบุตรชายจากหน้าห้องของเขา เนื่องจากที่ห้องของบุตรชายไม่มีนาฬิกาปลุก เธอจึงมีหน้าที่เป็นดั่งนาฬิกาช่วยทำให้เขาไม่ตื่นสาย
" งืมมมมม " ภายในห้อง เจมส์ที่นอนบนเตียง ที่นอนสุดนุ่ม งัวเงียจากการตื่น " ครับแม่ " และห้าวินาทีผ่าน.... " ....ครอก ฟี้ "
หญิงชราผู้เป็นแม่แม้จะชราผอมแห้งติดกระดูกก็ไม่ใช่อ่อนแอ เมื่อบุตรชายเผลอนอนหลับต่อ เธอกระโดดถีบใส่บานประตู มันจึงเปิดออก แล้วเธอก็กระโจนตัวไปบนเตียง ใช้ท่าล็อคลูกชายเป็นท่าหนึ่งจากวงการมวยปล้ำ เธอพูดเร็วๆ " ตื่นหรือไม่ตื่น 1...2....3 โอเค แม่ชนะมวยปล้ำ เจมส์แพ้แล้วนะลูก "
" โอ้ย!~ โอ้ย! .... โธ่แม่ ปวดระบมไปทั้งกายเลย "
" ก็ดันเผลอส่งเสียงกรนเพราะนอนหลับต่อน่ะสิ " หญิงชราเท้าสะเอว " ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันซะ จะได้หายงัวเงีย "
เจมส์ที่กำลังแปรงฟันที่ห้องน้ำจนเสร็จ บ้วนปาก อาบน้ำอาบท่า เข้าไปแต่งตัวหน้ากระจกเงาที่ห้องตัวเอง
ฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมบ้านเมือง ตอนนี้ไม่มีลมหรือการตกของหิมะ
เจมส์เป็นนักเขียนนิยาย เขาพกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คออกจากบ้านเพื่อเดินทางนำมันไปใช้เขียนแต่งนิยาย
' ปาปิยอง คาเฟ่ ' ร้านกาแฟที่เจมส์เป็นขาประจำ ปาปิยองเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าผีเสื้อ
พอเจมส์ผลักบานประตูของร้านเข้ามา ก็พบเจอผู้ชายคนชงกาแฟที่เคาท์เตอร์" สวัสดี สวีดัส คุณสวีเดน เศษสวะดีๆ .... "
" แหม เป็นคำทักทายที่ไม่ระรื่นหูฉันเลย......สวะ..?" คนชงกาแฟเห็นเจมส์มมานั่งแล้ว..." มาใช้บรรยากาศที่นี่แต่งนิยายอีกแล้วสินะ
" อือ " เจมส์ตอบ เปิดหน้าพับเครื่องโน้ตบุ๊ค " ธีระ ฉันเอาเอสเพรสโซ่ร้อนเหมือนเดิม "
" ได้ๆ " ธีระที่ได้ฟังคำขอก็เคลื่อนร่างกายไปยังเครื่องชงกาแฟราคาแพงทันที
" ธีระ บ้านเมืองประเทศของเราขณะนี้มันหนาวจังนะ กาแฟร้อนๆนี่เหมาะเหม็งเลย " เจมส์คุยไปพร้อมกับรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์
" เขียนต่อจากเรื่องเก่าหรือเขียนเรื่องใหม่แล้วล่ะ? " กาแฟที่ธีระชงใกล้จะเสร็จแล้ว
" ก็มีทั้งสองอย่างเลยวันเนียะ " เจมส์อ่านทวนงานเขียนของตัวเอง " ....อืม ฉันมันเขียนออกมาแล้ว.....ตะหงิดๆ งานน่าจะยังไม่ดี แต่ฉันคิดไม่ออกว่าควรปรับแก้ตรงไหน "
" เอสเพรสโซ่มาแล้วเพื่อนยาก " ธีระนำกาแฟร้อนมาเสิร์ฟ
เจมส์เพียงจิบกาแฟ สมองของเขาได้พลัง " โอ เห็นแล้ว ต้องแก้เนื้อหาตรงนั้นตรงนี้ "
" เจมส์ เติมครีม นมจืด น้ำตาลทรายแดงได้ที่โต๊ะเลยนะ "
" พูดถึงกาแฟแล้ว การดื่มกาแฟให้สุขภาพได้ดี ไม่แย่ ต้องดื่มพอประมาณ ฉันดื่มเพียงแก้วเดียวและขนาดเล็ก ไม่ดื่มตอนท้องว่าง ฉันจึงรองท้องด้วยของกินมาจากบ้าน ดื่มร้อนๆดีกว่าดื่มเย็น อันนี้คนที่ดื่มกาแฟเย็นไม่ได้เพราะแพ้มีอาการปวดหัวจี๊ด และเมืองหิมะของประเทศเราก็เหมาะกับกาแฟร้อน "
" เอสเพรสโซ่ที่นายสั่งนี่ เกือบดีทั้งหมดแล้ว แต่นายยังได้รับ น้ำตาล นม ครีม มันก็สะสมในร่างกาย จะยังไงก็แล้วแต่ ดื่มกาแฟดำไม่หวานก็น่าจะดีมากๆนะ "
" อืมมม ช่างหอมกรุ่น สิ่งนี้ได้จากกาแฟแบบร้อนๆ " เจมส์ดมกลิ่น และจิบอีกสองจิบ " สดชื่น ถ้าใครเป็นโรคความดัน โรคหัวใจ ก็ไม่ควรเยอะ "
" นายเขียนนิยายเรื่องอะไร "
เจมส์ตอบอย่างกระฉับกระเฉง "เรื่อง กาแฟร้อนหอมกรุ่นยามเช้า "
" โอ้ส ! ฉันชงดื่มบ้างดีกว่า " จากนั้นธีระก็ชงกาแฟอีกแก้ว
เมื่อได้แล้ว คนชงก็ไปนั่งอยู่กับเจมส์ และอ่านนิยายของเขา " เออ สนุกดีหนิ เคล็ดลับงานเขียนของนายนี่คืออะไร "
" เคล็ดลับของฉันก็คือ กินช็อกโกแล็ต "
" ......เหอ ? ไม่ใช่กาแฟร้านฉันเรอะ !?"
===========
อีกเรื่องหนึ่งอ่านต่อที่ comment
เรื่องสั้นตามรูปภาพ ( เพนตาเคิล + กาแฟร้อนหอมกรุ่น + กองหินนิกายเซน )
" จุ้มน้ำจิ้ม จิ้มจ้ำจุ้ม จุ้มน้ำจิ้ม จิ้มน้ำจุ้ม เรามาจุ้มน้ำจิ้ม " คนแก่คนนี้ท่องมนต์ในพิธีกรรม แขนสองข้างขยับขึ้นลงและกางแขนกว้างพอที่จะโอบเสาหินของสิ่งก่อสร้างยุคกรีกโบราณ (ที่สร้างมาน่ะมันมีขนาดพอจะโอบได้เรอะ!? เจ้าคนแต่งเรื่อง )
เฟี้ยว ~
ที่พื้นรูปดาวห้าแฉกที่เป็นเส้นสีดำเกิดเปลี่ยนสีเป็นเรืองแสงออกมาสีเหลืองสลับกับสีน้ำเงิน แสงสีทองจากเส้นรูปดาวพุ่งตั้งขึ้นสู่เพดาน
หญิงชรายิ้มกริ่ม " อาฮ่า ฉันทำพิธีได้ผลแล้ว จงตื่นขึ้นมาซะเจ้าวิญญาณซามูไรโบราณ "
ที่ภายในแสงสีทอง เงาสีดำร่างหนึ่งปรากฏให้เห็น มันค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพสาวนางหนึ่งจากยุคเก่าเต็มตัว แต่เพราะนี่คือวิญญาณ จึงไม่มีร่างส่วนเท้าให้แม่มดชรามองเห็น
ปรากฏร่างสาวซามูไรแล้ว แสงสีได้หยุดการเปร่งปรั่ง
สาวสวยได้สติ เธอเหลือบนัยน์ตาไปซ้ายและขวา " ......... ที่นี่คือที่ไหน? ...... และดิฉันเป็นใคร? "
" เจ้าคือซามูไรยุคญี่ปุ่นโบราณ เป็นซามูไรนักฆ่า มีนามว่า อาสึซะ " แม่มดชราอธิบายเรื่องข้อมูลของสาวสวยคนนี้สักเล็กน้อย
" .......ดิฉัน.....ข้านึกออกแล้ว ในเวลานั้นข้าเป็นซามูไรรับจ้างฆ่า บอกไว้เลยข้าเลือดเย็น แต่ทำไปก็เพราะได้ค่าจ้างด้วย ผู้หญิง เด็ก คนแก่ ข้าก็ไม่เว้น ได้ฟันมาหมดแล้ว "
" หึหึ...." แม่มดชราแอบหัวเราะในลำคอ
" ขนาดผู้ชายเองข้าก็ฟันมาเยอะ เล่นสนุกสนานไปวันๆ " ซามูไรสาวเหล่สองนัยน์ตาเฉียงขึ้นไปทางขวาคิด เพื่อจะพูดเรื่องตัวเองแบบว่า เอิ่ม........
" .........เจ้า เป็นผู้หญิงที่ช่างน่ากลัวว่ะ " แม่มดแก่ชราเกือบจะพูดไม่ออกแล้ว
" แก แม่มดชราหลายร้อยปี ตอนแกสมัยสาว แกคือศัตรูในแผ่นดินญี่ปุ่นของข้า สร้างเวทย์มนต์คาถาในหมู่บ้าน เกิดควันพิษที่ทำให้ชาวบ้านนอนล้มมตายแล้วแก.....ก็ได้ขโมยสมบัติประจำหมู่บ้านไป ข้าว่าข้าตายไปแล้ว .... ไหนๆก็โผล่มาตอนนี้ข้าจะใช้กระบี่หยกของข้าเสียบเข้าที่คอหอยของแก ! "
" ท้าทายกันขนาดนี้ มาประลองสักตั้งเลยเป็นไง "
และผู้หญิงสองคนก็ประทะกัน ดาบหยกเสียบคอแม่มด พลังเวทย์ควันพิษทำให้สาวซามูไรขาดอากาศหายใจ
ตายทั้งคู่
ที่ห้องนี้กลายเป็นห้องปิดตาย ทิ้งดาบหยกกับคฑาไม้สนซีดาร์เอาไว้ ถ้านำไปขายจะได้เงินระดับพันล้าน แต่....นี่.คือห้องปิดตาย มันจึงยังไม่มีผู้ใดสามารถก้าวเข้ามาเหยียบย่ำ
...............
.....
ตำรวจกับนักสืบชื่อดังและเจ้าหน้าที่ที่จะช่วยพังประตูได้รับแจ้งจากเด็กสาวเมดรับใช้ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และเมดสาวได้บอกเรื่องที่ขอร้อง " ดิฉันไม่สามารถติดต่อคุณนายหญิงชราของคฤหาสน์ได้ ขอรบกวนพวกคุณมาพบหน่อยนะคะ "
ก่อนอื่น เจ้าหน้าที่ทำประตูปิดตายให้พังทลาย
ทั้งหมดได้เข้าไป เมดสาวตกใจกับหญิงชราที่นอนเสียชีวิต " ขะ คุณนาย คุณนายมิเกล นี่มันเกิดอะไรขึ้น !?"
นักสืบพบศพผู้หญิงสองศพ " คดีนี้เป็นเรื่องต่อสู้กันสินะ คุณตำรวจ ผมเห็นว่าศพคนหนึ่งเป็นพวกแม่มด อีกศพเป็น เสือผ้ากระโปรงที่ใส่อยู่ในชุดคนยุคโบราณ .....คฑา ดาบหยก.... " และนักสืบก็หันไปทางพื้นรูปดาวห้าแฉก " เรื่องมันเกิดจากสิ่งนี้น่ะเอง "
นายตำรวจเห็น และหันไปถามสาวเมด" รูปดาวห้าแฉกที่ล้อมด้วยวงกลมนี้.... คุณเมดคิดว่ามันมีอะไร พอจะทราบมั้ยครับ "
" .......... อาจจะ....เป็นพิธีกรรม?...." เมดสาวพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา
เมดสาว ตำรวจ นักสืบ เจ้าหน้าที่ เข้าไปใกล้พื้นตรงนั้น
พื้นส่องแสงจ้าแสบตา
" อะ อะไรเนี่ย !? "
คฤหาสน์หลังนี้ ตูมมมมมมมมมม !!!!! เพราะพื้นดาวห้าแฉกเกิดระเบิด
=========
" เจมส์เอ้ย เช้าแล้วนะ !" หญิงชราส่งเสียงเรียกบุตรชายจากหน้าห้องของเขา เนื่องจากที่ห้องของบุตรชายไม่มีนาฬิกาปลุก เธอจึงมีหน้าที่เป็นดั่งนาฬิกาช่วยทำให้เขาไม่ตื่นสาย
" งืมมมมม " ภายในห้อง เจมส์ที่นอนบนเตียง ที่นอนสุดนุ่ม งัวเงียจากการตื่น " ครับแม่ " และห้าวินาทีผ่าน.... " ....ครอก ฟี้ "
หญิงชราผู้เป็นแม่แม้จะชราผอมแห้งติดกระดูกก็ไม่ใช่อ่อนแอ เมื่อบุตรชายเผลอนอนหลับต่อ เธอกระโดดถีบใส่บานประตู มันจึงเปิดออก แล้วเธอก็กระโจนตัวไปบนเตียง ใช้ท่าล็อคลูกชายเป็นท่าหนึ่งจากวงการมวยปล้ำ เธอพูดเร็วๆ " ตื่นหรือไม่ตื่น 1...2....3 โอเค แม่ชนะมวยปล้ำ เจมส์แพ้แล้วนะลูก "
" โอ้ย!~ โอ้ย! .... โธ่แม่ ปวดระบมไปทั้งกายเลย "
" ก็ดันเผลอส่งเสียงกรนเพราะนอนหลับต่อน่ะสิ " หญิงชราเท้าสะเอว " ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันซะ จะได้หายงัวเงีย "
เจมส์ที่กำลังแปรงฟันที่ห้องน้ำจนเสร็จ บ้วนปาก อาบน้ำอาบท่า เข้าไปแต่งตัวหน้ากระจกเงาที่ห้องตัวเอง
ฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมบ้านเมือง ตอนนี้ไม่มีลมหรือการตกของหิมะ
เจมส์เป็นนักเขียนนิยาย เขาพกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คออกจากบ้านเพื่อเดินทางนำมันไปใช้เขียนแต่งนิยาย
' ปาปิยอง คาเฟ่ ' ร้านกาแฟที่เจมส์เป็นขาประจำ ปาปิยองเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าผีเสื้อ
พอเจมส์ผลักบานประตูของร้านเข้ามา ก็พบเจอผู้ชายคนชงกาแฟที่เคาท์เตอร์" สวัสดี สวีดัส คุณสวีเดน เศษสวะดีๆ .... "
" แหม เป็นคำทักทายที่ไม่ระรื่นหูฉันเลย......สวะ..?" คนชงกาแฟเห็นเจมส์มมานั่งแล้ว..." มาใช้บรรยากาศที่นี่แต่งนิยายอีกแล้วสินะ
" อือ " เจมส์ตอบ เปิดหน้าพับเครื่องโน้ตบุ๊ค " ธีระ ฉันเอาเอสเพรสโซ่ร้อนเหมือนเดิม "
" ได้ๆ " ธีระที่ได้ฟังคำขอก็เคลื่อนร่างกายไปยังเครื่องชงกาแฟราคาแพงทันที
" ธีระ บ้านเมืองประเทศของเราขณะนี้มันหนาวจังนะ กาแฟร้อนๆนี่เหมาะเหม็งเลย " เจมส์คุยไปพร้อมกับรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์
" เขียนต่อจากเรื่องเก่าหรือเขียนเรื่องใหม่แล้วล่ะ? " กาแฟที่ธีระชงใกล้จะเสร็จแล้ว
" ก็มีทั้งสองอย่างเลยวันเนียะ " เจมส์อ่านทวนงานเขียนของตัวเอง " ....อืม ฉันมันเขียนออกมาแล้ว.....ตะหงิดๆ งานน่าจะยังไม่ดี แต่ฉันคิดไม่ออกว่าควรปรับแก้ตรงไหน "
" เอสเพรสโซ่มาแล้วเพื่อนยาก " ธีระนำกาแฟร้อนมาเสิร์ฟ
เจมส์เพียงจิบกาแฟ สมองของเขาได้พลัง " โอ เห็นแล้ว ต้องแก้เนื้อหาตรงนั้นตรงนี้ "
" เจมส์ เติมครีม นมจืด น้ำตาลทรายแดงได้ที่โต๊ะเลยนะ "
" พูดถึงกาแฟแล้ว การดื่มกาแฟให้สุขภาพได้ดี ไม่แย่ ต้องดื่มพอประมาณ ฉันดื่มเพียงแก้วเดียวและขนาดเล็ก ไม่ดื่มตอนท้องว่าง ฉันจึงรองท้องด้วยของกินมาจากบ้าน ดื่มร้อนๆดีกว่าดื่มเย็น อันนี้คนที่ดื่มกาแฟเย็นไม่ได้เพราะแพ้มีอาการปวดหัวจี๊ด และเมืองหิมะของประเทศเราก็เหมาะกับกาแฟร้อน "
" เอสเพรสโซ่ที่นายสั่งนี่ เกือบดีทั้งหมดแล้ว แต่นายยังได้รับ น้ำตาล นม ครีม มันก็สะสมในร่างกาย จะยังไงก็แล้วแต่ ดื่มกาแฟดำไม่หวานก็น่าจะดีมากๆนะ "
" อืมมม ช่างหอมกรุ่น สิ่งนี้ได้จากกาแฟแบบร้อนๆ " เจมส์ดมกลิ่น และจิบอีกสองจิบ " สดชื่น ถ้าใครเป็นโรคความดัน โรคหัวใจ ก็ไม่ควรเยอะ "
" นายเขียนนิยายเรื่องอะไร "
เจมส์ตอบอย่างกระฉับกระเฉง "เรื่อง กาแฟร้อนหอมกรุ่นยามเช้า "
" โอ้ส ! ฉันชงดื่มบ้างดีกว่า " จากนั้นธีระก็ชงกาแฟอีกแก้ว
เมื่อได้แล้ว คนชงก็ไปนั่งอยู่กับเจมส์ และอ่านนิยายของเขา " เออ สนุกดีหนิ เคล็ดลับงานเขียนของนายนี่คืออะไร "
" เคล็ดลับของฉันก็คือ กินช็อกโกแล็ต "
" ......เหอ ? ไม่ใช่กาแฟร้านฉันเรอะ !?"
===========
อีกเรื่องหนึ่งอ่านต่อที่ comment