จักรวาลที่ 452 ประเทศไทย
เมื่อ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ คุยกับหลวงพ่อเสร็จแล้ว ก็ขอนั่งสมาธิบนเขา
ระหว่างนั่ง เหมือนเขารับรู้เรื่องราวต่าง ๆ อีกหลายเรื่อง
เรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งก็คือชื่อตัวละครในนิยายเรื่องวิมานมายา
ที่ศักดา พ่อของเขากำลังเขียนอยู่ในเว็บไซต์พันทิปนั้น
เป็นชื่อที่ถูกปรับหรือดัดแปลงอย่างลงตัว
สาเหตุที่ศักดาต้องทำอย่างนั้นเพราะชื่อในภาษาโสฬสเรียกยากมาก
โครงสร้างของภาษาก็เข้าใจยาก ถ้าเขียนตามความจริงทั้งหมด
คนอ่านคงงง
ชื่อของเจ้าชายจักรภพและสมเด็จพระราชินีศรีจิตราก็เช่นเดียวกัน
ในแต่ละจักรวาลชาติภพ ก็ใช่ว่าจะชื่อเดียวกันซะทีเดียว
ศักดาคงเห็นถึงความยากลำบากของผู้อ่านในการทำความเข้าใจ
จึงได้ปรับให้เหมาะสมและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่งก็คือศักดารู้ทุกอย่างได้อย่างไร
ศักดาไม่ได้มีอภิญญาและไม่ใช่คนที่มี sense พิเศษเหมือนกับเขา
เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่
พอ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ลงจากเขา เขาก็พบกับ ดร.สาลินีที่กำลังรออยู่ด้วยความกระวนกระวาย
ดร.สาลินีบอกเขาเรื่องของสุนิสา
เขานิ่งไปสักพัก ก็หันไปบอกกับ ดร.สาลินีว่าสุนิสาปลอดภัยแล้ว
ดร.สาลินีลองโทรเช็คดู มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
"คุณรู้ได้ยังไงคะ" นั่นเป็นคำถามที่เขาก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน
.............................................................................................
จักรวาลที่ 972 ประเทศโสฬส
ศรีจิตรา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กำลังนั่งคุยกับแฟน ซึ่งก็คือจักรภพ
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 อย่างออกรสออกชาติ
"สงครามเหรอคะ"
"ใช่ เจ้าชายจักรภพบอกมาว่าในหลายจักรวาลชาติภพในตอนนี้
หลายที่กำลังเกิดสงคราม แต่ก็เป็นสงครามที่เล็กใหญ่ต่างกันไป"
"ดีจังนะคะที่จักรวาลของเรายังไม่เกิด แต่ก็เห็นใจคนที่ประสบชะตากรรมเหล่านั้นนะคะ"
"เจ้าชายจักรภพ 971 นี่เดาไม่ผิดเลย"
"เดาไม่ผิดเรื่องอะไรคะ"
"ก็เจ้าชายบอกว่าถ้าศรีจิตราทราบเรื่อง ต้องเห็นอกเห็นใจผู้ที่ประสบชะตากรรมแน่ ๆ เลย
ท่านบอกว่าศรีจิตรามี empathy สูงมาก"
"empathy ในที่นี้หมายถึงอะไรคะ"
"แปลว่าความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นครับ
ถ้ามีมาก ก็จะรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถึงจะมีเรื่องขัดแย้ง แต่สงครามไม่น่าเกิดขึ้น"
"ถ้ามนุษย์ไม่มี empathy มนุษย์ก็แทบไม่เหลือความเป็นมนุษย์นะคะ
แล้วหลังจากนั้นจะอยู่กันยังไงในแต่ละวัน คงมีแต่ความหัวร้อนรุนแรง
เมื่อเราไม่เห็นใจเขา เขาก็ไม่เห็นใจเรา เมื่อเรารุนแรงกับเขา เขาก็รุนแรงกับเรา
แบบนี้ความสงบสันติคงไม่มีหรอกค่ะ แล้วพอเป็นแบบนี้ จะอยู่กันยังไงคะ"
"บางคนก็อยู่แบบใช้อำนาจบารมี กดหัวคนอื่น บางคนก็อยู่ได้แบบนั้นอ่ะครับ"
"ถึงอยู่ได้ ก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ ฟันธงได้เลย"
"เสียดายมากเลยนะครับ หนานหล้าป่านูเปียทั้ง 4 ประเทศ
กำลังเปลี่ยนแปลงการปกครองกันอยู่
แต่สงครามดันมาเกิดขึ้นเสียก่อน แล้วก็ดันมีทั้งคนในและคนนอกร่วมก่อการ
แบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป เจ้าน้องชายพี่ จอมมารจักรา
แจ้งมาว่าเขาคงอยู่ที่นั่นต่อ พี่ก็เลยต้องไปดรอปเรียนให้เขาด้วย"
"แล้วบอกเหตุผลว่าอย่างไรคะ"
"บอกว่าป่วยครับ ถ้าบอกว่าน้องผมต้องไปช่วยรบในอีกจักรวาลนึง
ครูคงเหวอน่าดู"
"คงไม่ใช่แค่เหวอหรอกค่ะ อาจส่งทั้งจักราและคุณเข้าโรงพยาบาลบ้าทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะคะ"
"นั่นแหละ กลัวอย่างนั้นแหละ ถึงต้องหาข้ออ้างต่าง ๆ นานามาแจ้งไงครับ"
.........................................................................................................
จักรวาลที่ 971 ประเทศโสฬส นครใต้ดิน
โจโวพาเด็กหนุ่มทั้ง 6 ไปหาวิคตอเรียในปราสาทหินที่โดมธารา
ถึงแม้ภายนอกจะเป็นปราสาทหินที่ดูโบราณมาก
แต่ภายในคือห้องรับรองที่เรียบง่ายและดูหรู
โจโวเดินมานั่งที่หัวโต๊ะด้านหนึ่ง ฝั่งซ้ายมือของเขา
แอนโทนี่ มาคิวลัส เชนและเอวานเดินเข้าไปนั่ง
ส่วนอามินและดีแลนมานั่งทางขวามือของเขา
ไม่นานนัก วิคตอเรียพาเทพีไอซิส ออกัสกับแซมเข้ามาในห้อง
ทุกคนลุกยืนต้อนรับ
เทพีไอซิสนั่งที่หัวโต๊ะด้านหนึ่ง ออกัสกับแซมนั่งอีกสองที่ ๆ เหลือ
หลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลง
โจโวกล่าวก่อนว่า "เทพีไอซิสเป็นคนแจ้งพวกเราทางจิตว่า
ทุกคนไม่ปลอดภัย ให้พวกเราหาทางช่วยด่วน
ตอนนี้พวกนายอยู่ที่นี่ 8 คน อีกสองคนป่วยคือ
คอนโต้กับมาริโอ อาเบลกับโครอนเลยอยู่ช่วยดูแลอีกที่นึง
พวกนายจึงมาเจอกันแค่ 8 คนก่อน"
แอนโทนี่เป็นตัวแทนในการกล่าวขอบคุณ
"ต้องขอบคุณเทพีไอซิสมาก ๆ เลยครับ รวมทั้งโจโวและ
ชาวโคเร็นโดด้วยที่ได้ช่วยพวกเราไว้ให้ปลอดภัยจากขีปนาวุธ"
เทพีไอซิสจึงกล่าวว่า "เมื่อช่วยได้ก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว
ชีวิตมนุษย์หนึ่งคนมีค่ามากเลยนะคะ เราไม่สามารถทอดทิ้งใครได้เลย"
โจโวกล่าวต่อว่า "ตอนนี้เราไม่แน่ใจว่ารถไฟจะวิ่งต่อจนไปถึงป่านูเปียได้หรือไม่
ช่วงที่พวกเกรย์บุก ราชาป่านูเปียทรงแนะว่าให้
พวกเราหยุดวิ่งรถไฟในนครใต้ดิน และขอให้พักระหว่างทางไปก่อน
เราอาจจะต้องพักอยู่ที่โดมธาราอีกสักพักนึงตอนที่พวกเกรย์บุกโลก"
แอนโทนี่ถามขึ้น "พวกสิริคิมาจาโรไม่รู้หรือว่าการทำลายยานพวกเขา
จะทำให้พวกเขาโกรธ"
โจโวให้คำตอบ "ทางโคเร็นโดคิดว่า พวกเขาน่าจะต้องการผลลัพธ์บางอย่าง
แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร"
โจโวยังกล่าวต่ออีกว่า "พวกเราอยู่ใต้ดิน เหตุบนดินไม่ค่อยน่าห่วง
ที่น่าห่วงคือพวก hollow earth"
"ทำไมเหรอครับ" มาคิวลัสถามด้วยความสงสัย
"เราไม่แน่ใจว่าพวกเขาเป็นยังไง จะรู้สึกอย่างไร ทางโคเร็นโด
ยังไม่เคยติดต่อกับพวกเขาเลย ต่างคนต่างอยู่อ่ะครับ"
............................................................................
ทาง hollow earth เอง ก็กำลังสงสัยว่าข้างบน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เลยกำลังวางแผนที่จะส่งเจ้าชายดิน เจ้าชายน้ำ เจ้าชายลมและเจ้าชายไฟ
ขึ้นมาสังเกตการณ์
ส่วนทางการญี่ปุ่นเอง เมื่อพวกเขาติดต่อมาโคโตะไม่ได้
จึงส่งคู่หูขวางนรกอีกคู่มาที่โสฬส คู่นี้สามารถมาได้
โดยไม่กลัวสงคราม และการแต่งกายของเขาก็คือผ้าเตี่ยวผืนเดียว
หลายคนจึงเรียกเขาว่าคู่หูผ้าเตี่ยว คู่นี้ลุยได้หมด แม้กระทั่งนรก
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 191 empathy (ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น)
เมื่อ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ คุยกับหลวงพ่อเสร็จแล้ว ก็ขอนั่งสมาธิบนเขา
ระหว่างนั่ง เหมือนเขารับรู้เรื่องราวต่าง ๆ อีกหลายเรื่อง
เรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งก็คือชื่อตัวละครในนิยายเรื่องวิมานมายา
ที่ศักดา พ่อของเขากำลังเขียนอยู่ในเว็บไซต์พันทิปนั้น
เป็นชื่อที่ถูกปรับหรือดัดแปลงอย่างลงตัว
สาเหตุที่ศักดาต้องทำอย่างนั้นเพราะชื่อในภาษาโสฬสเรียกยากมาก
โครงสร้างของภาษาก็เข้าใจยาก ถ้าเขียนตามความจริงทั้งหมด
คนอ่านคงงง
ชื่อของเจ้าชายจักรภพและสมเด็จพระราชินีศรีจิตราก็เช่นเดียวกัน
ในแต่ละจักรวาลชาติภพ ก็ใช่ว่าจะชื่อเดียวกันซะทีเดียว
ศักดาคงเห็นถึงความยากลำบากของผู้อ่านในการทำความเข้าใจ
จึงได้ปรับให้เหมาะสมและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ปัญหาที่สำคัญประการหนึ่งก็คือศักดารู้ทุกอย่างได้อย่างไร
ศักดาไม่ได้มีอภิญญาและไม่ใช่คนที่มี sense พิเศษเหมือนกับเขา
เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่
พอ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ลงจากเขา เขาก็พบกับ ดร.สาลินีที่กำลังรออยู่ด้วยความกระวนกระวาย
ดร.สาลินีบอกเขาเรื่องของสุนิสา
เขานิ่งไปสักพัก ก็หันไปบอกกับ ดร.สาลินีว่าสุนิสาปลอดภัยแล้ว
ดร.สาลินีลองโทรเช็คดู มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
"คุณรู้ได้ยังไงคะ" นั่นเป็นคำถามที่เขาก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน
.............................................................................................
จักรวาลที่ 972 ประเทศโสฬส
ศรีจิตรา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กำลังนั่งคุยกับแฟน ซึ่งก็คือจักรภพ
นักศึกษาชั้นปีที่ 3 อย่างออกรสออกชาติ
"สงครามเหรอคะ"
"ใช่ เจ้าชายจักรภพบอกมาว่าในหลายจักรวาลชาติภพในตอนนี้
หลายที่กำลังเกิดสงคราม แต่ก็เป็นสงครามที่เล็กใหญ่ต่างกันไป"
"ดีจังนะคะที่จักรวาลของเรายังไม่เกิด แต่ก็เห็นใจคนที่ประสบชะตากรรมเหล่านั้นนะคะ"
"เจ้าชายจักรภพ 971 นี่เดาไม่ผิดเลย"
"เดาไม่ผิดเรื่องอะไรคะ"
"ก็เจ้าชายบอกว่าถ้าศรีจิตราทราบเรื่อง ต้องเห็นอกเห็นใจผู้ที่ประสบชะตากรรมแน่ ๆ เลย
ท่านบอกว่าศรีจิตรามี empathy สูงมาก"
"empathy ในที่นี้หมายถึงอะไรคะ"
"แปลว่าความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นครับ
ถ้ามีมาก ก็จะรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถึงจะมีเรื่องขัดแย้ง แต่สงครามไม่น่าเกิดขึ้น"
"ถ้ามนุษย์ไม่มี empathy มนุษย์ก็แทบไม่เหลือความเป็นมนุษย์นะคะ
แล้วหลังจากนั้นจะอยู่กันยังไงในแต่ละวัน คงมีแต่ความหัวร้อนรุนแรง
เมื่อเราไม่เห็นใจเขา เขาก็ไม่เห็นใจเรา เมื่อเรารุนแรงกับเขา เขาก็รุนแรงกับเรา
แบบนี้ความสงบสันติคงไม่มีหรอกค่ะ แล้วพอเป็นแบบนี้ จะอยู่กันยังไงคะ"
"บางคนก็อยู่แบบใช้อำนาจบารมี กดหัวคนอื่น บางคนก็อยู่ได้แบบนั้นอ่ะครับ"
"ถึงอยู่ได้ ก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ ฟันธงได้เลย"
"เสียดายมากเลยนะครับ หนานหล้าป่านูเปียทั้ง 4 ประเทศ
กำลังเปลี่ยนแปลงการปกครองกันอยู่
แต่สงครามดันมาเกิดขึ้นเสียก่อน แล้วก็ดันมีทั้งคนในและคนนอกร่วมก่อการ
แบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป เจ้าน้องชายพี่ จอมมารจักรา
แจ้งมาว่าเขาคงอยู่ที่นั่นต่อ พี่ก็เลยต้องไปดรอปเรียนให้เขาด้วย"
"แล้วบอกเหตุผลว่าอย่างไรคะ"
"บอกว่าป่วยครับ ถ้าบอกว่าน้องผมต้องไปช่วยรบในอีกจักรวาลนึง
ครูคงเหวอน่าดู"
"คงไม่ใช่แค่เหวอหรอกค่ะ อาจส่งทั้งจักราและคุณเข้าโรงพยาบาลบ้าทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะคะ"
"นั่นแหละ กลัวอย่างนั้นแหละ ถึงต้องหาข้ออ้างต่าง ๆ นานามาแจ้งไงครับ"
.........................................................................................................
จักรวาลที่ 971 ประเทศโสฬส นครใต้ดิน
โจโวพาเด็กหนุ่มทั้ง 6 ไปหาวิคตอเรียในปราสาทหินที่โดมธารา
ถึงแม้ภายนอกจะเป็นปราสาทหินที่ดูโบราณมาก
แต่ภายในคือห้องรับรองที่เรียบง่ายและดูหรู
โจโวเดินมานั่งที่หัวโต๊ะด้านหนึ่ง ฝั่งซ้ายมือของเขา
แอนโทนี่ มาคิวลัส เชนและเอวานเดินเข้าไปนั่ง
ส่วนอามินและดีแลนมานั่งทางขวามือของเขา
ไม่นานนัก วิคตอเรียพาเทพีไอซิส ออกัสกับแซมเข้ามาในห้อง
ทุกคนลุกยืนต้อนรับ
เทพีไอซิสนั่งที่หัวโต๊ะด้านหนึ่ง ออกัสกับแซมนั่งอีกสองที่ ๆ เหลือ
หลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลง
โจโวกล่าวก่อนว่า "เทพีไอซิสเป็นคนแจ้งพวกเราทางจิตว่า
ทุกคนไม่ปลอดภัย ให้พวกเราหาทางช่วยด่วน
ตอนนี้พวกนายอยู่ที่นี่ 8 คน อีกสองคนป่วยคือ
คอนโต้กับมาริโอ อาเบลกับโครอนเลยอยู่ช่วยดูแลอีกที่นึง
พวกนายจึงมาเจอกันแค่ 8 คนก่อน"
แอนโทนี่เป็นตัวแทนในการกล่าวขอบคุณ
"ต้องขอบคุณเทพีไอซิสมาก ๆ เลยครับ รวมทั้งโจโวและ
ชาวโคเร็นโดด้วยที่ได้ช่วยพวกเราไว้ให้ปลอดภัยจากขีปนาวุธ"
เทพีไอซิสจึงกล่าวว่า "เมื่อช่วยได้ก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว
ชีวิตมนุษย์หนึ่งคนมีค่ามากเลยนะคะ เราไม่สามารถทอดทิ้งใครได้เลย"
โจโวกล่าวต่อว่า "ตอนนี้เราไม่แน่ใจว่ารถไฟจะวิ่งต่อจนไปถึงป่านูเปียได้หรือไม่
ช่วงที่พวกเกรย์บุก ราชาป่านูเปียทรงแนะว่าให้
พวกเราหยุดวิ่งรถไฟในนครใต้ดิน และขอให้พักระหว่างทางไปก่อน
เราอาจจะต้องพักอยู่ที่โดมธาราอีกสักพักนึงตอนที่พวกเกรย์บุกโลก"
แอนโทนี่ถามขึ้น "พวกสิริคิมาจาโรไม่รู้หรือว่าการทำลายยานพวกเขา
จะทำให้พวกเขาโกรธ"
โจโวให้คำตอบ "ทางโคเร็นโดคิดว่า พวกเขาน่าจะต้องการผลลัพธ์บางอย่าง
แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร"
โจโวยังกล่าวต่ออีกว่า "พวกเราอยู่ใต้ดิน เหตุบนดินไม่ค่อยน่าห่วง
ที่น่าห่วงคือพวก hollow earth"
"ทำไมเหรอครับ" มาคิวลัสถามด้วยความสงสัย
"เราไม่แน่ใจว่าพวกเขาเป็นยังไง จะรู้สึกอย่างไร ทางโคเร็นโด
ยังไม่เคยติดต่อกับพวกเขาเลย ต่างคนต่างอยู่อ่ะครับ"
............................................................................
ทาง hollow earth เอง ก็กำลังสงสัยว่าข้างบน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เลยกำลังวางแผนที่จะส่งเจ้าชายดิน เจ้าชายน้ำ เจ้าชายลมและเจ้าชายไฟ
ขึ้นมาสังเกตการณ์
ส่วนทางการญี่ปุ่นเอง เมื่อพวกเขาติดต่อมาโคโตะไม่ได้
จึงส่งคู่หูขวางนรกอีกคู่มาที่โสฬส คู่นี้สามารถมาได้
โดยไม่กลัวสงคราม และการแต่งกายของเขาก็คือผ้าเตี่ยวผืนเดียว
หลายคนจึงเรียกเขาว่าคู่หูผ้าเตี่ยว คู่นี้ลุยได้หมด แม้กระทั่งนรก