ชาวออสเตรเลีย ชาวอังกฤษ และชาวเกาหลีใต้เดินเข้ามาในห้อง....ไม่ นี่ไม่ใช่การทำเรื่องตลก แต่เป็นการประกาศซิงเกิลใหม่จากสามศิลปินชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกลุ่มดาวรุ่งแห่งยุค 2020 The Kid LAROI , Central Cee และ Jung Kook BTS เตรียมเปิดตัวซิงเกิลใหม่ของพวกเขา “Too Much” ในวันที่ 20 ตุลาคม
ในการแถลงข่าวสั้น ๆ ที่ประกาศเพลงนี้ The Kid LAROI ได้เขียนว่า “Too Much w/ Jung Kook และ Central Cee วันที่ 20 ตุลาคม อัลบั้มในเดือนพฤศจิกายน — ในที่สุดก็ถึงเวลา…” ซิงเกิลใหม่นี้จะทำหน้าที่เป็นรสชาติล่าสุดของ LAROI จากสตูดิโออัลบั้มเปิดตัวที่กำลังจะมาถึง "The First Time" สองวันก่อน LAROI ได้โพสต์ภาพของตัวเองและจองกุกลงในอินสตาแกรมของเขา โดยเขียนว่า “me & JK ✌️🖤🔜 #toomuch” ในคำบรรยายภาพ
เมื่อวันอังคาร (10 ต.ค.) LAROI ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึง 2 ครั้งได้โพสต์ทีเซอร์ของสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นมิวสิกวิดีโอสำหรับเพลงใหม่ คลิปสั้น ๆ พบว่าศิลปินแต่ละคนต่างพากันโยกไปตามเสียงดนตรีฟังค์กี้ โดยเฟรมสุดท้ายแสดงรายการเวลาปล่อยซิงเกิลใน New York City, Seoul, London และ Sydney. ในคำบรรยายของเขา LAROI ให้ข้อสังเกตว่าอัลบั้มที่กำลังจะมาถึงของเขาพร้อมสำหรับ pre-oder แล้ว
การประกาศเพลง “Too Much” ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบปีเต็มสำหรับทั้งสามศิลปิน จุดสูงสุดของชาร์ตในปีนี้ The Kid LAROI ขึ้นสู่อันดับ 40 ของเพลงฮิตบน Billboard Hot 100 ด้วย เพลง "Love Again" (อันดับ 40) ซึ่งทำหน้าที่เป็นซิงเกิลนำของอัลบั้ม "The First Time" แทร็กนี้ยังทำให้ LAROI ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเพลงแห่งปีในงาน ARIA Music Awards ประจำปี 2023
“Too Much” มีแนวโน้มจะเป็นผลงานที่ติดอันดับชาร์ตเพลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ของจองกุกในปีนี้ สมาชิกวง BTS ครองตำแหน่งครึ่งหลังของฤดูร้อนด้วยเพลงที่ร่วมงานกับ Latto ที่ติดอันดับท็อป 1 Hot 100 ในเพลง "Seven" และเขากลับมาติด Top 5 ของชาร์ตในสัปดาห์นี้ด้วยการเปิดตัวเพลง "3D" ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Jack Harlow สำหรับ Central Cee เพลง “Too Much” จะเป็นเพลงต่อจากเพลงฮิตติดชาร์ตในสหราชอาณาจักรอย่าง “Sprinter” (ร่วมกับ Dave) และ “On the Radar Freestyle” (ร่วมกับ Drake) ซึ่งกลายเป็นเพลงแรกที่ติดอันดับ Hot 100 ของแร็ปเปอร์ชาวอังกฤษ (อันดับที่ 80) .
'Too Much' ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่คนดังระดับโลกทั้งสามคนได้ผนึกกำลังกันในบทเพลง — โดย Billboard