อิสราเอล โหมถล่มเป้าหมายฮามาส กว่า 500 จุด ยอดดับ 2 ฝั่ง พุ่งกว่า 1,100 ราย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4222810
 
 
อิสราเอล โหมถล่มเป้าหมายฮามาส กว่า 500 จุด ยอดดับ 2 ฝั่ง พุ่งกว่า 1,100 ราย
 
กองทัพอิสราเอลแถลงเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมว่า อิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ถล่มใส่เป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอิสลามิกญิฮาด รวมกันมากกว่า 500 จุดในฉนวนกาซาตั้งแต่ค่ำคืนที่ผ่านมา โดยการโจมตีของอิสราเอลได้ถล่มโดนอาคารสูงหลายชั้นหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบ้านพักของนายรอวี มุชตาฮา สมาชิกฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสด้วย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มควันดำทมึนได้ลอยตัวขึ้นปกคลุมท้องฟ้ามาจากดินแดนปาเลสไตน์ขณะที่มีการถล่มโจมตีกันในช่วงเช้ามืด

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงครั้งนี้ทั้งในอิสราเอลและในฉนวนกาซารวมกันพุ่งขึ้นเป็นมากกว่า 1,100 รายแล้ว ที่เชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน และยังมีผู้คนที่ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจับไปเป็นตัวประกันอย่างน้อยกว่า 100 คน
 
จากการเปิดเผยของไอดีเอฟระบุว่า มีชาวอิสราเอลมากกว่า 700 คนแล้วที่เสียชีวิตนับจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเลตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความสูญเสียครั้งเลวร้ายที่สุดของอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 2516
 
ด้านเจ้าหน้าที่กาซารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 413 รายในฉนวนกาซาที่ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมาย 800 จุด

---

‘สมัชชาคนจน’ ปักหลักรอรัฐบาล ตั้ง คกก.ร่วม แก้ปัญหาชาวบ้าน ‘ที่ดิน แรงงาน การเกษตร’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4222738

สมัชชาคนจน’ ปักหลักข้าง ศธ. พร้อมรอรัฐบาล ตั้ง คกก.ร่วม แก้ปัญหาชาวบ้าน ‘ที่ดิน แรงงาน การเกษตร’
 
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ กรณี สมัชชาคนจน จัดการชุมนุมสาธารณะ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน โดยนัดหมายชุมนุมตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมเป็นต้นไป บริเวณพื้นที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทำเนียบรัฐบาลและบริเวณโดยรอบ ซึ่งมีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะตามกฎหมาย ได้เดินทางไปยังเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องถึงปัญหาแรงงาน ที่ดิน พืชผลทางการเกษตรกับรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
 
บรรยากาศเวลา 10.00 น. สมัชชาคนจน ได้เคลื่อนขบวนไปยังบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับเครื่องขยายเสียง โดยผู้ชุมนุมส่วนมากแต่งกายด้วยเสื้อผ้าพร้อมผูกผ้าพันคอสีเขียว บางส่วนถือธงสีเขียว ไปจนถึงป้ายข้อความเรียกร้อง อาทิ หยุดทำลายกฎหมายแรงงาน เพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาลนายเศรษฐา ให้ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดิน แรงงาน ภาคการเกษตร ปัญหาน้ำ ไปจนถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดพื้นที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล
 
ต่อมา เวลา 10.58 น. ผู้แทนคณะรัฐมนตรี ได้แก่ นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือของผู้ชุมนุม โดย นายมงคลชัยกล่าวยืนยันว่า จะหาวิธีและแนวทางในการเจราจาระหว่างรัฐบาลกับสมัชชาคนจน โดยหลังจากเวลา 17.00 น. วันนี้ จะมีตัวแทนรัฐบาลและสมัชชาคนจน หารือแนวทางเบื้องต้นร่วมกัน บรรยากาศการยื่นหนังสือของ สมัชชาคนจน ต่อผู้แทนจากรัฐบาล ซึ่งเป็นการเจราจาระหว่าง 2 ฝ่ายนั้น เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
 
ต่อมา เวลา 11.00 น. ตัวแทนสมัชชาคนจน พูดคุยกับนายมงคลชัย ก่อนกล่าวกับผู้ร่วมขบวนว่า เบื้องต้นคาดว่าภายในเวลา 17.00 น. จะมีความชัดเจนเรื่องแนวทางการประสานงาน โดย นายมงคลชัย สมอุดร และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล จะเป็นตัวแทนประสานงานฝั่งรัฐบาล พร้อมกับนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โดยหลังจาก 17.00 น. ตัวแทนรัฐบาลและสมัชชาคนจน จะร่วมหารือแนวทางเบื้องต้น
 
ตัวแทนสมัชชาคนจนกล่าวอีกว่า เมื่อได้คำตอบเช่นนี้ ทางเครือข่ายพร้อมที่จะรอ และจะเดินขบวนกลับไปยังพื้นที่การชุมนุมจุดเดิม คือข้างกระทรวงศึกษาธิการ เขตดุสิต
 
สำหรับข้องเรียกร้องของ สมัชชาคนจน คือการแก้ไขปัญหาคนจน ปัญหาที่ดิน ปัญหาแรงงาน เกษตรกรรม ร่วมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเรียกร้องให้ทางรัฐบาลตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ระหว่างรัฐบาลกับตัวแทนสมัชชาคนจน เพื่อแก้ไขปัญหาแก่พี่น้องประชาชน ทั้งภาคการเกษตร ปัญหาแรงงาน อย่างเป็นธรรม
 
จากนั้น เวลา 11.15 น. สมัชชาคนจน ตั้งขบวนอีกครั้ง เตรียมความพร้อมที่จะได้เดินทางกลับไปยังพื้นที่ชุมชนุมเดิม คือข้างกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากได้รับคำยืนยันว่าจะมีการพูดคุยและหาแนวทางการแก้ไขความเดือดร้อนให้กับผู้ชุมนุม โดยการเดินขบวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการถือป้ายพร้อมโบกสะบัดธง ตลอดทาง
 
ทั้งนี้ ช่วงเวลา 14.00 น. เครือข่ายสมัชชาคนจน จะแถลงข่าวความถือหน้าการพูดคุยเจรจาต่อคณะรัฐบาล โดยปักหลักข้างกระทรวงศึกษาธิการ ติดตามความคืบหน้าข้อเรียกร้อง

---

ชัยภูมิน้ำยังท่วมหนัก ด.ช. 10 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตเป็นรายที่ 3 แล้ว
https://www.matichon.co.th/region/news_4222863

ชัยภูมิ-เพียงช่วงน้ำท่วมในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จมน้ำเสียชีวิตแล้ว 3 ราย สถานการณ์น้ำชียังหลากท่วมขยายวงกว้างต่อเนื่องอีก

กว่า 6 อำเภอ เดือดร้อนหนักสุดกว่า 1,000 หลังคาเรือน สลด ด.ช.10 ขวบ บอกย่าจะไปเล่นลูกแก้วเพื่อน แต่แอบไปเล่นน้ำจมหายต่อหน้ายายและเพื่อน จนท.ระดมช่วยงมหาร่างนานข้ามวัน
 
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และกรณี ด.ช.นพรัตน์ หรือ น้องเบนเทน วัย 10 ขวบ จมน้ำหายไปตั้งแต่บ่ายวานนี้ (9 ต.ค.) ที่บริเวณลำห้วยหมาตาย ในหมู่บ้านข่า ต.บ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ญาติและครอบครัว พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมค้นหา ล่าสุดพบร่างไร้วิญญาณแล้ว
 
จากการสอบถาม นางประเทือง อายุ 64 ปี ย่าของ ด.ช.นพรัตน์ หรือน้องเบนเทน กล่าวว่า เช้าวานนี้ (9 ต.ค.) หลานมาบอกว่าจะขอไปเล่นลูกแก้วกับเพื่อน ตนจึงไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดว่าจะมาแอบเล่นน้ำ ก่อนจะให้ไปเพราะไปกับเพื่อนหลายคน กระทั่งมีชาวบ้านมาบอกว่ามีเด็กจมน้ำในฝาย ตนยังไม่คิดว่าเป็นหลานของตัวเอง จนกระทั่งรีบวิ่งออกมาดูพบว่าเป็นหลานของตนจริงๆ
 
นางประเทืองเล่าว่า มีคนมาบอกว่าเห็นเด็กทั้งหมดมาเล่นน้ำบริเวณดังกล่าวมากกว่า 7 คน ซึ่งบริเวณตรงนั้นน้ำค่อนข้างไหลแรง หลังจากเล่นไปไม่นานน้องเบนเทนได้พลัดตกลงไปบริเวณน้ำไหลเชี่ยวและเกาะไม่อยู่ ทำให้กระแสน้ำพัดไหลจมหายไปต่อหน้า ตนพยายามช่วยแต่เนื่องด้วยกระแสน้ำค่อนข้างแรงจึงได้แค่วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้เคียงและแจ้งหน่วยงานมาช่วย
 
ด้าน น้องข้าวปั้น อายุ 12 ปี กลุ่มเพื่อนๆ ที่มาเล่นน้ำกับน้องเบนเทน ระบุว่า ก่อนเบนเทนจะจมน้ำหายไป ตนและเพื่อนๆ มาเล่นน้ำกันบริเวณที่น้ำไม่ไหลเชี่ยว กระทั่งเปลี่ยนสถานที่ อยากมาเล่นน้ำบริเวณที่ไหลบ้าง ก่อนจะพากันกระโดดเล่นน้ำ แต่ทุกคนว่ายน้ำไม่เป็น เบนเทนกระโดดไปอีกฝั่ง ทำให้น้ำพัดพาร่างไปติดที่เกาะ แต่ด้วยกระแสน้ำแรง แล้วเบนเทนก็จมหายไป จึงรีบวิ่งไปแจ้งผู้ใหญ่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาช่วยค้นหา
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดประดาน้ำและหน่วยกู้ภัยระดมค้นหา ด.ช.นพรัตน์กว่า 10 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง รวมทั้งมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำที่ผ่านมา ก่อนจะยกเลิกการค้นหา หลังจากนั้นช่วงเช้าวันนี้ชาวบ้านได้ระดมกำลังเข้าค้นหาอีกครั้ง กระทั่งพบร่าง ด.ช.นพรัตน์ติดอยู่บริเวณกอไผ่ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ก่อนจะนำร่างขึ้นจากน้ำในสภาพสวมเสื้อสีแดง กางเกงขาสั้น
 
พ.ต.ท.หญิง วิญญู พื้นหินลาด สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแท่น เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุและทำการชันสูตรร่วมกับโรงพยาบาลอำเภอบ้านแท่น จากการสอบถามเบื้องต้นญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต ก่อนมอบร่างเด็กให้ญาติไปบำเพ็ญกุศล
 
ล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ล่าสุดยังมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักขยายวงยังต่อเนื่อง ในพื้นที่ในรอยต่อกว่า 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านเขว้า, อ.เนินสง่า, อ.จัตุรัส, อ.เมือง, อ.คอนสวรรค์ และ อ.บ้านแท่น มากว่า 10 ตำบล 150 หมู่บ้าน
 
บ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนหนักกว่า 1,000 ครอบครัว/หลังคาเรือน มีพื้นที่การเกษตร ไร่อ้อย มันสำปะหลัง นาข้าว ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นกว่า 6 หมื่นไร่
 
ขณะที่ปริมาณน้ำชีหลากยังขยายวงกว้างเข้าท่วมในรอยต่ออีกหลายอำเภออย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม จะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์จึงกลับสู่ภาวะปกติ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วม จ.ชัยภูมิ รวมแล้ว 3 ราย ประกอบด้วย รายแรก เป็นเด็กชาย วัย 4 ขวบ 11 เดือน ชาว อ.จัตุรัส รายที่สอง เป็นชายวัย 60 ปี ออกหาปลาจมน้ำเสียชีวิต ชาว อ.จัตุรัส และ รายที่สาม เป็นเด็กชาย วัย 10 ขวบ ชาว อ.บ้านแท่น