"ในทุกๆความสัมพันธ์นั้น เรามักเคยทำเรื่องแย่ๆ ไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว..."
เบน ชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียผู้จัดการโรงหนัง มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักกับมิโกะ แฟนสาวของเขา
อันเนื่องมาจากนิสัยขวางโลก มองอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งนั้นทำให้เขาคุยกับมิโกะทีไร มักจบท้ายด้วยการทะเลาะกันทุกที
และแน่นอนว่ามีเรื่องแต่ละครั้ง ชายหนุ่มก็ไม่เคยเข้าใจเลยสักครั้งว่ามันมีสาเหตุมาจากตัวเขาเอง
วันนึง มิโกะได้รับโอกาสให้ไปฝึกงานเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เธอให้ความสนใจที่นิวยอร์คเป็นเวลา 3 เดือน
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มของความห่างเหินของคนทั้งคู่ เบนมีชีวิตที่อิสระและเริ่มค้นหาชีวิตที่ตนเองใฝ่ฝันกับใครสักคนที่เข้าใจในตัวเขา
Shortcomings เป็นผลงาน comedy-drama กับการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ Randall Park
ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตามาจากบทของจิมมี่ วู เจ้าหน้าที่ FBI จากจักรวาลมาร์เวลล์ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวขนดาราเชื้อสายเอเชียมาร่วมงานมากมาย
นำโดย Justin H. Min (After Yang) .. Sherry Cola (Joy Ride).. Sonoya Mizuno (Crazy Rich Asians)..
Jacob Batalon (Spider-Man) เรียกได้ว่ามีผลงานน่าสนใจกันทั้งนั้น
สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเบน (Justin H. Min) ชายหนุ่มนิสัย (สันดาน) เสียอย่างมาก แบบไม่รู้ตัวเองอีกตะหาก
ทำให้เขากับแฟนต้องเว้นระยะห่างจากกัน ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้เจ้าตัวสำนึกอะไร แถมยังไปหาสาวๆคนอื่นอีก
และแต่ละคนก็น่ารักทั้งนั้นทั้ง Tavi Gevinson (Person to Person) และ Debby Ryan (Life of the Party)
โดยหวังว่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มกับความรู้สึกที่ขาดหายไปของเขาได้
จริงๆชีวิตของเบนน่าจะเละตุ้มเป๊ะไปแล้ว ถ้าตัวเขาไม่มีเพื่อนที่แสนดีอย่างอลิซ (Sherry Cola) สาวเกาหลีที่คอยช่วยให้คำแนะนำ
เป็นที่ปรึกษาในทุกเรื่องให้กับชายหนุ่ม แม้ว่าจะออกลูกกวนประสาทกันบ่อยครั้ง
แต่ก็ด้วยความหวังดีที่อยากจะเห็นเพื่อนของตัวเองมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ในชีวิตของเรา ต้องการเพื่อนแบบนี้ล่ะ
คนที่กล้าพูดอะไรกับเราแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม คนที่คอยดึงสติเราได้ คนที่พร้อมจะดึงเราขึ้นจากพื้นเวลาเราหกล้ม
ถ้าคุณมีเพื่อนแบบนี้รักษาเขาไว้ดีดีนะครับ (ซึ่งเจ้าเบนตัวเอกของเรื่อง ก็เกือบจะเสียเพื่อนดีๆแบบนี้ เพราะปากของตัวเองไปแล้วเหมือนกัน)
ตัวบทหนังของ Shortcomings มีการแฝงประเด็นของการเหยียดเชื้อชาติสีผิวแฝงไว้ ผ่านทางความคิดของตัวเบน
ที่มักจะมองตัวเองในฐานะเอเชียอพยพตั้งแต่สมัยสงคราม (ของรุ่นปู่) มาตั้งถิ่นฐานในดินแดนอเมริกาว่าต่ำต้อยกว่าคนผิวขาว
มองชาติตะวันตกว่าสูงส่ง มองตัวเองในแง่ลบ.. ซึ่งนั่นทำให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของตัวเอกกับแฟนสาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ก็สมควรอยู่)
ยิ่งดูก็ยิ่งอยากหยุมหัวเจ้าเบนนี่มาก ไม่คิดเลยว่าจะแสดงในบทนำเรื่อง After Yang สงสัยเรื่องนั้นนิ่งจัด เลยมาปลดปล่อยในเรื่องนี้ 55
อย่างที่ผมเกริ่นไว้บนหัวกระทู้ว่าในทุกๆความสัมพันธ์นั้น เรามักเคยทำเรื่องแย่ๆ ไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว...
เบน คือตัวอย่างที่ดีมากครับ กับความที่เป็นคนมั่นใจในความคิดของตัวเอง
มักคิดเสมอว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก คอยแต่หาข้อเสียของคนอื่น ใครจะยังไงข้าไม่สน..
คิดซะแบบนี้แล้วใครจะไปทนไหวล่ะครับ จริงมั้ย...
การที่เราจะคบใครสักคน มันต้องให้ใจซึ่งกันและกัน ลดทิฐิของตัวเองลง และก็อย่าไปมัวแต่จับผิดหาข้อเสียของอีกฝ่ายมันตลอดเวลา
เพราะเราทุกคนล้วนมีข้อเสียทั้งนั้นล่ะ มันอยู่แค่ว่าคุณจะยอมรับในความเป็นตัวตนของอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน
เพราะถ้ารับไม่ได้... คุณก็เหมาะที่สุดที่จะอยู่ตัวคนเดียว...บนโลกอันเส็งเคร็งแบบที่เจ้าเบนพร่ำบ่นเสมอ...อยู่ทุกวัน...
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Shortcomings (2023) รักที่สับสน.. ของคนนิสัยเสีย... ==
"ในทุกๆความสัมพันธ์นั้น เรามักเคยทำเรื่องแย่ๆ ไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว..."
เบน ชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียผู้จัดการโรงหนัง มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักกับมิโกะ แฟนสาวของเขา
อันเนื่องมาจากนิสัยขวางโลก มองอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน ซึ่งนั้นทำให้เขาคุยกับมิโกะทีไร มักจบท้ายด้วยการทะเลาะกันทุกที
และแน่นอนว่ามีเรื่องแต่ละครั้ง ชายหนุ่มก็ไม่เคยเข้าใจเลยสักครั้งว่ามันมีสาเหตุมาจากตัวเขาเอง
วันนึง มิโกะได้รับโอกาสให้ไปฝึกงานเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่เธอให้ความสนใจที่นิวยอร์คเป็นเวลา 3 เดือน
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มของความห่างเหินของคนทั้งคู่ เบนมีชีวิตที่อิสระและเริ่มค้นหาชีวิตที่ตนเองใฝ่ฝันกับใครสักคนที่เข้าใจในตัวเขา
Shortcomings เป็นผลงาน comedy-drama กับการกำกับเต็มตัวเรื่องแรกของ Randall Park
ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตามาจากบทของจิมมี่ วู เจ้าหน้าที่ FBI จากจักรวาลมาร์เวลล์ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวขนดาราเชื้อสายเอเชียมาร่วมงานมากมาย
นำโดย Justin H. Min (After Yang) .. Sherry Cola (Joy Ride).. Sonoya Mizuno (Crazy Rich Asians)..
Jacob Batalon (Spider-Man) เรียกได้ว่ามีผลงานน่าสนใจกันทั้งนั้น
สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเบน (Justin H. Min) ชายหนุ่มนิสัย (สันดาน) เสียอย่างมาก แบบไม่รู้ตัวเองอีกตะหาก
ทำให้เขากับแฟนต้องเว้นระยะห่างจากกัน ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้เจ้าตัวสำนึกอะไร แถมยังไปหาสาวๆคนอื่นอีก
และแต่ละคนก็น่ารักทั้งนั้นทั้ง Tavi Gevinson (Person to Person) และ Debby Ryan (Life of the Party)
โดยหวังว่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มกับความรู้สึกที่ขาดหายไปของเขาได้
จริงๆชีวิตของเบนน่าจะเละตุ้มเป๊ะไปแล้ว ถ้าตัวเขาไม่มีเพื่อนที่แสนดีอย่างอลิซ (Sherry Cola) สาวเกาหลีที่คอยช่วยให้คำแนะนำ
เป็นที่ปรึกษาในทุกเรื่องให้กับชายหนุ่ม แม้ว่าจะออกลูกกวนประสาทกันบ่อยครั้ง
แต่ก็ด้วยความหวังดีที่อยากจะเห็นเพื่อนของตัวเองมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ในชีวิตของเรา ต้องการเพื่อนแบบนี้ล่ะ
คนที่กล้าพูดอะไรกับเราแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม คนที่คอยดึงสติเราได้ คนที่พร้อมจะดึงเราขึ้นจากพื้นเวลาเราหกล้ม
ถ้าคุณมีเพื่อนแบบนี้รักษาเขาไว้ดีดีนะครับ (ซึ่งเจ้าเบนตัวเอกของเรื่อง ก็เกือบจะเสียเพื่อนดีๆแบบนี้ เพราะปากของตัวเองไปแล้วเหมือนกัน)
ตัวบทหนังของ Shortcomings มีการแฝงประเด็นของการเหยียดเชื้อชาติสีผิวแฝงไว้ ผ่านทางความคิดของตัวเบน
ที่มักจะมองตัวเองในฐานะเอเชียอพยพตั้งแต่สมัยสงคราม (ของรุ่นปู่) มาตั้งถิ่นฐานในดินแดนอเมริกาว่าต่ำต้อยกว่าคนผิวขาว
มองชาติตะวันตกว่าสูงส่ง มองตัวเองในแง่ลบ.. ซึ่งนั่นทำให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของตัวเอกกับแฟนสาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ก็สมควรอยู่)
ยิ่งดูก็ยิ่งอยากหยุมหัวเจ้าเบนนี่มาก ไม่คิดเลยว่าจะแสดงในบทนำเรื่อง After Yang สงสัยเรื่องนั้นนิ่งจัด เลยมาปลดปล่อยในเรื่องนี้ 55
อย่างที่ผมเกริ่นไว้บนหัวกระทู้ว่าในทุกๆความสัมพันธ์นั้น เรามักเคยทำเรื่องแย่ๆ ไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว...
เบน คือตัวอย่างที่ดีมากครับ กับความที่เป็นคนมั่นใจในความคิดของตัวเอง
มักคิดเสมอว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก คอยแต่หาข้อเสียของคนอื่น ใครจะยังไงข้าไม่สน..
คิดซะแบบนี้แล้วใครจะไปทนไหวล่ะครับ จริงมั้ย...
การที่เราจะคบใครสักคน มันต้องให้ใจซึ่งกันและกัน ลดทิฐิของตัวเองลง และก็อย่าไปมัวแต่จับผิดหาข้อเสียของอีกฝ่ายมันตลอดเวลา
เพราะเราทุกคนล้วนมีข้อเสียทั้งนั้นล่ะ มันอยู่แค่ว่าคุณจะยอมรับในความเป็นตัวตนของอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน
เพราะถ้ารับไม่ได้... คุณก็เหมาะที่สุดที่จะอยู่ตัวคนเดียว...บนโลกอันเส็งเคร็งแบบที่เจ้าเบนพร่ำบ่นเสมอ...อยู่ทุกวัน...
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===