เช้าวันที่ 8 ตค 66 ผมกับพ่อนั่งดูข่าวทีวีด้วยกัน
ผมตกใจมากกับสงครามครั้งใหม่ของอิสราเอลและปาเลสไตน์
แต่ดูพ่อนิ่งมาก ดูแกไม่ตกใจเลย เหมือนแกจะรู้อะไรล่วงหน้า
ผมเองไม่นิ่งเหมือนพ่อเพราะน้องชายของผม ศักดิ์สยาม
เดินทางไปเรียนปริญญาโทที่นั่น ผมเคยถามว่าทำไมต้องเป็นที่นั่น
ศักดิ์สยามตอบว่าตอนเขาเรียนปริญญาตรีที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนเก่งมาก อาจารย์ท่านนั้นจบจากอิสราเอล
นั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ศักดิ์สยามไปเรียนต่อปริญญาโทที่อิสราเอล
ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมยังติดต่อเขาไม่ได้เลยจนถึงตอนนี้
ผมสงสัยว่าทำไมพ่อถึงนิ่งมาก จึงถามท่าน ท่านตอบว่า
"มันไม่ได้เกิดขึ้นที่เดียว มันเกิดสงครามขึ้นในหลายจักรวาล
และก็เป็นคนละรูปแบบกับสงครามที่เสสิขะ ที่จักรวาล 971"
"พ่อแบ่งสงครามออกเป็นสองรูปแบบเหรอครับ"
"ใช่ อิสราเอลที่ 452 กับเสสิขะที่ 971"
"แล้วมันยังเกิดขึ้นที่ไหนอีกบ้างครับ" ผมถามเพราะอยากรู้
"เช้าวันที่ 7 ตค 66 สงครามรูปแบบเดียวกับอิสราเอล 452 เกิดที่
11 27 117 334 556 678 981 1049 1147 และ 1472
ส่วนรูปแบบเดียวกับเสสิขะ 971 จะเกิดที่ 8 32 47 57 67 111
128 134 229 238 339 478 589 799 1008 1199 1498 และ 1705"
ผมถามด้วยความสงสัย
"พิกัดของพ่อมันคืออะไรครับ มันเริ่มตั้งแต่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่"
"ชาติภพของเจ้าชายจักรภพ 971 เริ่มที่ 1 สิ้นสุดที่ 1942
ถ้าอยากรู้รายละเอียด ลองไปอ่านนิยายของพ่อที่เขียนไว้ในพันทิป
วิมานมายาตอนที่ 1-185"
ก่อนจะไปอ่านนิยายที่พ่อเขียนไว้ในพันทิป ผมฝากให้พี่สุดาไปซื้อพวงมาลัย
ให้ 50 พวง ผมเป็นคนอ่านหนังสือเร็วมาตั้งแต่เด็ก ผมอ่านจบในเวลาไม่นาน
ก็พอทราบว่าทำไมถึงต้องใช้พิกัดภพชาติของเจ้าชายจักรภพแห่งโสฬส 971
เพราะเจ้าชายเองเกิดมาครบทุกชาติภพ แต่ในนิยายมีการแตกแกนไว้แค่สามแกนคือ xyz
เวลาเจออะไรแบบนี้ ผมมักจะเพิ่มเป็น 6 แกน เมื่อเพิ่มเป็น 6 แกน เราจะเห็นว่าเหมือนมีลูกศรพุ่ง
ตรงจาก 452 ไป 971 แต่มันจะมีการเลี้ยวเบนแบบแปลก ๆ ผมเลยเพิ่มเป็น 12 แกน
พอเพิ่มเป็น 12 แกน มันจะเห็นชัดขึ้นว่ามันคือแผนที่การเดินทางจาก 452 ไปถึง 971
เมื่อผมตระหนักดังนั้น ผมจึงโทรไปหาเลขาภาคฯของผมที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯทันที
"พี่ครับ พี่ทำเรื่องลาเพื่อทำวิจัยฉุกเฉินให้ผมหน่อย"
หลังจากนั้นผมโทรไปแจ้งมหาวิทยาลัยอีก 5 แห่งคือมหิดล มศว ศิลปากร บูรพาและสงขลาฯ
ว่าปีการศึกษา 66 และ 67 นี้ ผมคงไม่สามารถไปเป็นอาจารย์พิเศษให้ได้
พี่สุดากลับมาพอดีกับพวงมาลัย 50 พวง ผมนำพวงมาลัยทั้งหมดไปถวายพระและเทพทั้งหมดที่อยู่ในบ้าน
ผมอธิษฐานขอให้ทุกท่านคุ้มครองศักดิ์สยามที่อิสราเอลด้วย
ผมหันกลับมาดูนิยายที่พ่อเขียนในพันทิปอีกครั้ง วิมานมายา
พ่อเริ่มเขียนตอนแรก เช้าวันที่ 13 พค 66 หลังจากนั้นก็ลุยเขียนมาตลอด
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีคนอ่าน ผมคาดว่าที่พ่อเร่งเขียนเพราะอยากให้ตอนที่ 185 ได้ลงทันใน
วันที่ 7 ตค 66 พ่อน่าจะรู้ว่าผมจะมาหาพ่อในวันนี้ด้วย วันนี้ก็เป็นวันเกิดของพันทิป
พ่อน่าจะรู้ด้วยว่าจะเกิดสงครามในหลายที่ในวันนี้
พ่อมักจะทำเรื่องแปลก ๆ เสมอ คนส่วนใหญ่มักจะไม่เข้าใจท่าน
แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจท่านนะ เข้าใจดีทีเดียว
การทีพ่อเริ่มวันที่ 13 พค 66 น่าจะมีเหตุผลอีกอย่างนึง
เพราะพอครบวันที่ 13 ตค 66 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่ 9
ก็จะครบ 5 เดือนพอดี เป็นกิจกรรมที่มีเลข 5 และ 9 อยู่ในนี้
เพราะพ่อเคารพและจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 มาก
พี่สุดามาบอกผมว่ามีคนมาพบ เป็นคุณสรรเสริญนั่นเอง
"ด็อกเตอร์จะตอบรับคำเชิญเป็นผู้เข้าร่วมสอบสวนเด็กอายุ 14 ไหมครับ"
"ไม่ดีกว่าครับ"
"งั้นเรื่องที่ปรึกษาท่านรัฐมนตรีกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตล่ะครับ"
"ก็ไม่ครับ"
ผมคุยกับคุณสรรเสริญไม่นานนัก แกก็ลากลับ พี่สุดาก็เดินเข้ามาพอดี
"เป็นห่วงพ่อเหรอคะ ช่วงนี้เลยไม่ตอบรับอะไรเลย ขอโทษด้วยนะคะ พี่ได้ยินพอดี
คุณสรรเสริญพูดเสียงดังมาก"
"ครับ ช่วงนี้อยากจะให้เวลากับพ่อมากหน่อย"
"เสียดายนะคะ ด็อกเตอร์จบปริญญาโทตั้ง 3 ใบ คุณสรรเสริญคงเสียดายแย่
ด็อกเตอร์จบทางไหนบ้างนะคะ"
"สัตววิทยา ปรัชญาและรัฐศาสตร์ครับ"
"ทั้งหมดนี่ เรียนที่จุฬาฯที่เดียวเลยเหรอคะ"
"ครับ"
"แล้วปริญญาเอกที่ไปเรียนที่อังกฤษล่ะคะ ตกลงจบกี่ใบคะ"
"สองใบครับ ทางสรีรวิทยาระบบประสาทและชีวจริยศาสตร์"
"เก่งมากเลยนะคะ"
"ขอบคุณครับ"
"สมเป็นอภิชาตบุตรนะคะเพราะคุณศักดาจบปริญญาตรี 1 ใบ ปริญญาโท 2 ใบ
และปริญญาเอก 1 ใบ ส่วนด็อกเตอร์จบปริญญาตรี 2 ใบ ปริญญาโท 3 ใบ
ปริญญาเอก 2 ใบ มากกว่าคุณพ่อทุกปริญญาเลย"
"ขอบคุณครับ"
แต่สิ่งที่ผมเชี่ยวชาญมากที่สุดกลับไม่ใช่ปริญญาเหล่านั้น
ยังมีความรู้อีกมากที่ไม่ได้สอนในมหาวิทยาลัย
อย่างที่ผมเชี่ยวชาญก็ยังมีอีก 4 หมวดคือ world religions,
secular worldviews, occult religions and practices และ cults
world religions จริง ๆ มันมีมากกว่าที่ตำราต่าง ๆ เขียน มันมีมากถึง 20 กว่าอย่าง
เช่น christianity buddhism islam romani taoism hinduism vedanta zoroastrianism
confucianism hare krishna rastafarianism ฯลฯ
secular worldviews เช่น modernism post-modernism agnosticism atheism
existentialism naturalism secular humanism marxism ฯลฯ
occult religions and practices เช่น wicca necromancy dowsing shamanism
parapsychology rosicrucianism astrology hypnotism ฯลฯ
cults เช่น new age scientology unity movement theosophy the way international ฯลฯ
ผมแค่รู้สึกว่าวิชาความรู้ในมหาวิทยาลัยปัจจุบัน มักสอนไปในทำนองที่ว่า "อยากให้เขาเป็นอะไร"
แต่ 4 หมวดที่ผมเชี่ยวชาญมันเป็นการที่เข้าไปรู้ว่า "เขาเป็นอะไรมาก่อน"
ผมชื่นชอบข้อความของท่านสุนทรภู่ที่บอกว่า "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน"
ผมค้นพบว่าทรัพย์นั้นมันคือปัญญาทรัพย์ มันมีค่าเกินกว่าที่เราเข้าใจ
และมันยังเป็นทรัพย์ที่เราเอาติดตัวไปได้หลังจากที่ตายแล้ว
อีกอย่างที่เห็นด้วยคือ "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"
แต่ถ้าจะให้รอดได้จริง ๆ ก็ต้องอย่างที่บุษบาบัณ จิตวิญญาณของจักรวาล 971 บอกไว้
ถ้าจะยึดกฏใดได้เพียงกฏเดียว ให้ยึดกฏศีลธรรม เพราะกฏศีลธรรมจะช่วยให้รอด
และช่วยให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมจึงมักจะเอาเงินไปลงทุนกับการแสวงหาความรู้
มากกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะมันคุ้มในทุกจักรวาล ไม่ใช่เฉพาะจักรวาลนี้
ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ พี่สุดาก็เข้ามาบอกผม
"ดร.สาลินีมาหาค่ะ"
ผมเดินไปพบสาลินี
"ฉันรู้หมดแล้วนะคะ ทำไมคุณถึงบอกปัดทุกเรื่อง ไม่ยอมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี
ไม่ยอมเป็นอาจารย์พิเศษ แล้วยังไม่ยอมทำอะไรอีกหลายอย่าง
อีกไม่นานคุณจะได้เป็น รศ.ดร. แล้วนะคะ คุณอาจได้เป็นศาสตราจารย์ที่อายุน้อย
ที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกแค่เอื้อมเองนะคะที่รัก"
"เออ ผมมีเรื่องที่จะต้องทำอ่ะครับ"
สาลินีเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปขึ้นรถ แล้วก็ขับรถออกไป"
ผมเดินกลับมานั่งฟังเพลง ผมเปิดเพลง "จากดาวคนละดวง" ฟัง
ฟังเพลงนี้แล้ว ทำให้ผมนึกถึงคุณย่า คุณย่าเคยบอกคล้าย ๆ ท่านสุนทรภู่
ท่านบอกให้แสวงหาความรู้เยอะ ๆ เพื่อที่จะได้เอาความรู้มาช่วยเหลือผู้คน
ช่วยเหลือสังคมในทางที่เราช่วยได้ คุณย่าบอกเสมอว่าให้ช่วยเหลือทุกคน
ไม่ว่าเขาจะต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ต่างชนชั้น ต่างสีผิว
ต่างฐานะ และก็ต่างดาว ผมได้แผนที่มาแล้ว ผมมีภารกิจที่ต้องทำ
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 186 อิสราเอล (452) และ เสสิขะ (971)
ผมตกใจมากกับสงครามครั้งใหม่ของอิสราเอลและปาเลสไตน์
แต่ดูพ่อนิ่งมาก ดูแกไม่ตกใจเลย เหมือนแกจะรู้อะไรล่วงหน้า
ผมเองไม่นิ่งเหมือนพ่อเพราะน้องชายของผม ศักดิ์สยาม
เดินทางไปเรียนปริญญาโทที่นั่น ผมเคยถามว่าทำไมต้องเป็นที่นั่น
ศักดิ์สยามตอบว่าตอนเขาเรียนปริญญาตรีที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนเก่งมาก อาจารย์ท่านนั้นจบจากอิสราเอล
นั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ศักดิ์สยามไปเรียนต่อปริญญาโทที่อิสราเอล
ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมยังติดต่อเขาไม่ได้เลยจนถึงตอนนี้
ผมสงสัยว่าทำไมพ่อถึงนิ่งมาก จึงถามท่าน ท่านตอบว่า
"มันไม่ได้เกิดขึ้นที่เดียว มันเกิดสงครามขึ้นในหลายจักรวาล
และก็เป็นคนละรูปแบบกับสงครามที่เสสิขะ ที่จักรวาล 971"
"พ่อแบ่งสงครามออกเป็นสองรูปแบบเหรอครับ"
"ใช่ อิสราเอลที่ 452 กับเสสิขะที่ 971"
"แล้วมันยังเกิดขึ้นที่ไหนอีกบ้างครับ" ผมถามเพราะอยากรู้
"เช้าวันที่ 7 ตค 66 สงครามรูปแบบเดียวกับอิสราเอล 452 เกิดที่
11 27 117 334 556 678 981 1049 1147 และ 1472
ส่วนรูปแบบเดียวกับเสสิขะ 971 จะเกิดที่ 8 32 47 57 67 111
128 134 229 238 339 478 589 799 1008 1199 1498 และ 1705"
ผมถามด้วยความสงสัย
"พิกัดของพ่อมันคืออะไรครับ มันเริ่มตั้งแต่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่"
"ชาติภพของเจ้าชายจักรภพ 971 เริ่มที่ 1 สิ้นสุดที่ 1942
ถ้าอยากรู้รายละเอียด ลองไปอ่านนิยายของพ่อที่เขียนไว้ในพันทิป
วิมานมายาตอนที่ 1-185"
ก่อนจะไปอ่านนิยายที่พ่อเขียนไว้ในพันทิป ผมฝากให้พี่สุดาไปซื้อพวงมาลัย
ให้ 50 พวง ผมเป็นคนอ่านหนังสือเร็วมาตั้งแต่เด็ก ผมอ่านจบในเวลาไม่นาน
ก็พอทราบว่าทำไมถึงต้องใช้พิกัดภพชาติของเจ้าชายจักรภพแห่งโสฬส 971
เพราะเจ้าชายเองเกิดมาครบทุกชาติภพ แต่ในนิยายมีการแตกแกนไว้แค่สามแกนคือ xyz
เวลาเจออะไรแบบนี้ ผมมักจะเพิ่มเป็น 6 แกน เมื่อเพิ่มเป็น 6 แกน เราจะเห็นว่าเหมือนมีลูกศรพุ่ง
ตรงจาก 452 ไป 971 แต่มันจะมีการเลี้ยวเบนแบบแปลก ๆ ผมเลยเพิ่มเป็น 12 แกน
พอเพิ่มเป็น 12 แกน มันจะเห็นชัดขึ้นว่ามันคือแผนที่การเดินทางจาก 452 ไปถึง 971
เมื่อผมตระหนักดังนั้น ผมจึงโทรไปหาเลขาภาคฯของผมที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯทันที
"พี่ครับ พี่ทำเรื่องลาเพื่อทำวิจัยฉุกเฉินให้ผมหน่อย"
หลังจากนั้นผมโทรไปแจ้งมหาวิทยาลัยอีก 5 แห่งคือมหิดล มศว ศิลปากร บูรพาและสงขลาฯ
ว่าปีการศึกษา 66 และ 67 นี้ ผมคงไม่สามารถไปเป็นอาจารย์พิเศษให้ได้
พี่สุดากลับมาพอดีกับพวงมาลัย 50 พวง ผมนำพวงมาลัยทั้งหมดไปถวายพระและเทพทั้งหมดที่อยู่ในบ้าน
ผมอธิษฐานขอให้ทุกท่านคุ้มครองศักดิ์สยามที่อิสราเอลด้วย
ผมหันกลับมาดูนิยายที่พ่อเขียนในพันทิปอีกครั้ง วิมานมายา
พ่อเริ่มเขียนตอนแรก เช้าวันที่ 13 พค 66 หลังจากนั้นก็ลุยเขียนมาตลอด
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีคนอ่าน ผมคาดว่าที่พ่อเร่งเขียนเพราะอยากให้ตอนที่ 185 ได้ลงทันใน
วันที่ 7 ตค 66 พ่อน่าจะรู้ว่าผมจะมาหาพ่อในวันนี้ด้วย วันนี้ก็เป็นวันเกิดของพันทิป
พ่อน่าจะรู้ด้วยว่าจะเกิดสงครามในหลายที่ในวันนี้
พ่อมักจะทำเรื่องแปลก ๆ เสมอ คนส่วนใหญ่มักจะไม่เข้าใจท่าน
แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจท่านนะ เข้าใจดีทีเดียว
การทีพ่อเริ่มวันที่ 13 พค 66 น่าจะมีเหตุผลอีกอย่างนึง
เพราะพอครบวันที่ 13 ตค 66 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่ 9
ก็จะครบ 5 เดือนพอดี เป็นกิจกรรมที่มีเลข 5 และ 9 อยู่ในนี้
เพราะพ่อเคารพและจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 มาก
พี่สุดามาบอกผมว่ามีคนมาพบ เป็นคุณสรรเสริญนั่นเอง
"ด็อกเตอร์จะตอบรับคำเชิญเป็นผู้เข้าร่วมสอบสวนเด็กอายุ 14 ไหมครับ"
"ไม่ดีกว่าครับ"
"งั้นเรื่องที่ปรึกษาท่านรัฐมนตรีกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตล่ะครับ"
"ก็ไม่ครับ"
ผมคุยกับคุณสรรเสริญไม่นานนัก แกก็ลากลับ พี่สุดาก็เดินเข้ามาพอดี
"เป็นห่วงพ่อเหรอคะ ช่วงนี้เลยไม่ตอบรับอะไรเลย ขอโทษด้วยนะคะ พี่ได้ยินพอดี
คุณสรรเสริญพูดเสียงดังมาก"
"ครับ ช่วงนี้อยากจะให้เวลากับพ่อมากหน่อย"
"เสียดายนะคะ ด็อกเตอร์จบปริญญาโทตั้ง 3 ใบ คุณสรรเสริญคงเสียดายแย่
ด็อกเตอร์จบทางไหนบ้างนะคะ"
"สัตววิทยา ปรัชญาและรัฐศาสตร์ครับ"
"ทั้งหมดนี่ เรียนที่จุฬาฯที่เดียวเลยเหรอคะ"
"ครับ"
"แล้วปริญญาเอกที่ไปเรียนที่อังกฤษล่ะคะ ตกลงจบกี่ใบคะ"
"สองใบครับ ทางสรีรวิทยาระบบประสาทและชีวจริยศาสตร์"
"เก่งมากเลยนะคะ"
"ขอบคุณครับ"
"สมเป็นอภิชาตบุตรนะคะเพราะคุณศักดาจบปริญญาตรี 1 ใบ ปริญญาโท 2 ใบ
และปริญญาเอก 1 ใบ ส่วนด็อกเตอร์จบปริญญาตรี 2 ใบ ปริญญาโท 3 ใบ
ปริญญาเอก 2 ใบ มากกว่าคุณพ่อทุกปริญญาเลย"
"ขอบคุณครับ"
แต่สิ่งที่ผมเชี่ยวชาญมากที่สุดกลับไม่ใช่ปริญญาเหล่านั้น
ยังมีความรู้อีกมากที่ไม่ได้สอนในมหาวิทยาลัย
อย่างที่ผมเชี่ยวชาญก็ยังมีอีก 4 หมวดคือ world religions,
secular worldviews, occult religions and practices และ cults
world religions จริง ๆ มันมีมากกว่าที่ตำราต่าง ๆ เขียน มันมีมากถึง 20 กว่าอย่าง
เช่น christianity buddhism islam romani taoism hinduism vedanta zoroastrianism
confucianism hare krishna rastafarianism ฯลฯ
secular worldviews เช่น modernism post-modernism agnosticism atheism
existentialism naturalism secular humanism marxism ฯลฯ
occult religions and practices เช่น wicca necromancy dowsing shamanism
parapsychology rosicrucianism astrology hypnotism ฯลฯ
cults เช่น new age scientology unity movement theosophy the way international ฯลฯ
ผมแค่รู้สึกว่าวิชาความรู้ในมหาวิทยาลัยปัจจุบัน มักสอนไปในทำนองที่ว่า "อยากให้เขาเป็นอะไร"
แต่ 4 หมวดที่ผมเชี่ยวชาญมันเป็นการที่เข้าไปรู้ว่า "เขาเป็นอะไรมาก่อน"
ผมชื่นชอบข้อความของท่านสุนทรภู่ที่บอกว่า "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน"
ผมค้นพบว่าทรัพย์นั้นมันคือปัญญาทรัพย์ มันมีค่าเกินกว่าที่เราเข้าใจ
และมันยังเป็นทรัพย์ที่เราเอาติดตัวไปได้หลังจากที่ตายแล้ว
อีกอย่างที่เห็นด้วยคือ "รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"
แต่ถ้าจะให้รอดได้จริง ๆ ก็ต้องอย่างที่บุษบาบัณ จิตวิญญาณของจักรวาล 971 บอกไว้
ถ้าจะยึดกฏใดได้เพียงกฏเดียว ให้ยึดกฏศีลธรรม เพราะกฏศีลธรรมจะช่วยให้รอด
และช่วยให้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ผมจึงมักจะเอาเงินไปลงทุนกับการแสวงหาความรู้
มากกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะมันคุ้มในทุกจักรวาล ไม่ใช่เฉพาะจักรวาลนี้
ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ พี่สุดาก็เข้ามาบอกผม
"ดร.สาลินีมาหาค่ะ"
ผมเดินไปพบสาลินี
"ฉันรู้หมดแล้วนะคะ ทำไมคุณถึงบอกปัดทุกเรื่อง ไม่ยอมเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี
ไม่ยอมเป็นอาจารย์พิเศษ แล้วยังไม่ยอมทำอะไรอีกหลายอย่าง
อีกไม่นานคุณจะได้เป็น รศ.ดร. แล้วนะคะ คุณอาจได้เป็นศาสตราจารย์ที่อายุน้อย
ที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกแค่เอื้อมเองนะคะที่รัก"
"เออ ผมมีเรื่องที่จะต้องทำอ่ะครับ"
สาลินีเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปขึ้นรถ แล้วก็ขับรถออกไป"
ผมเดินกลับมานั่งฟังเพลง ผมเปิดเพลง "จากดาวคนละดวง" ฟัง
ฟังเพลงนี้แล้ว ทำให้ผมนึกถึงคุณย่า คุณย่าเคยบอกคล้าย ๆ ท่านสุนทรภู่
ท่านบอกให้แสวงหาความรู้เยอะ ๆ เพื่อที่จะได้เอาความรู้มาช่วยเหลือผู้คน
ช่วยเหลือสังคมในทางที่เราช่วยได้ คุณย่าบอกเสมอว่าให้ช่วยเหลือทุกคน
ไม่ว่าเขาจะต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ต่างชนชั้น ต่างสีผิว
ต่างฐานะ และก็ต่างดาว ผมได้แผนที่มาแล้ว ผมมีภารกิจที่ต้องทำ