อย่างในปี 2565 กทม. ปริมณฑล ฝนตก แทบตลอดเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม หลังจากนั้นอากาศเย็น และฝนก็หายไปยาวๆ จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ (ที่จริงมีหลงมาหน่อยๆ ช่วง กลางเดือนมกราคม)

แต่ถ้าย้อนไป ปี 2558-2559 กทม. มีฝนฟ้าคะนองค่อนข้างจะตลอดฤดูหนาว ต้นเดือนธันวาคมมีพายุฝนฟ้าคะนอง เล่นงาน พอข้ามไปต้นเดือนมกราคม ก็มีฝนฟ้าคะนองจากลมใต้ เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั้งมี surprise ลมหนาวแบบผิดปกติ ที่ส่งผลให้ กทม.หนาวมากๆ ช่วงปลายเดือนแต่สำหรับ คน กทม. ก็ถือว่าน่าจะชดเชยปีนั้นได้

ปี 2557-2558 ไม่แน่ใจว่าเอลณีโญ่ หรือ เป็นกลาง แต่จำได้ว่า กทม.ธันวาคมปีนั้น อากาศหนาวเย็นจริง แต่ก็มีร้อนและฝนฟ้าคะนอง อยู่ช่วงต้นเดือน กับ ปลายเดือน

การจะมีฝนฟ้าคะนองในเดือนธันวาคม-มกราคม จะมาจากมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปะทะอากาศร้อนชื้น (ลมตะวันออกเฉียงใต้) แต่ปกติในเดือนธันวาคมส่วนใหญ่แม้ กทม.อากาศจะไม่หนาวเย็นมากนัก แต่มักมีอากาศที่แห้งพอที่เมื่อมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาจะไม่เกิดฝนฟ้าคะนอง เว้นแต่บางปีมันร้อนชื้นจริงๆ อย่างเช่น ธันวาคม ปี 2561 หรือง่ายๆ เลย คือ มวลอากาศเย็นจากจีนไม่สามารถนำพาอากาศแห้ง มาไล่ความชื้นใน กทม. ได้มากพอ

ปี 2566 เราอยู่ในช่วงเอลณีโญ่ ฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ย และ หนาวน้อยกว่าปีที่แล้ว แม้ว่าเอลณีโญ่จะหมายถึงปริมาณฝนที่ลดลงด้วย แต่สำหรับกทม. แล้ว การมีภูมิศาสตร์อยู่ใกล้อ่าวไทย ส่งผลให้ปีที่ไม่ค่อยหนาว มีฝนฟ้าคะนองมากขึ้นในเดือนธันวาคม-มกราคมไปโดยปริยาย