มันไม่ใช่ทุกคนที่จะเจอแบบนี้ บางทีสไตล์เดียวกันเลยมองว่าปกติ แต่สำหรับเราคือ อยากถามสักประโยค "เป็นอะไร!!!!"
1.อย่าให้ใจเพื่อนมหาลัยเกินไป นิทรากันฉ่ำ หักหลังกันฉ่ำ แฟนเพื่อน=แฟนเรา นินทรากันเองเป็นเรื่องปกติ บอกความลับเพื่อนคือเรื่องปกติ เอาเพื่อนที่มีแฟนอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ห้ะ!!! นี่เราหลงมาหรอหรือไง
2.ไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดูดพอต = แปลก และเราจะถูกมองว่าเรียบร้อยแบบงงๆ พูดเพราะใส่งงๆ เรียนเก่งแบบงงๆ ห้ะ ได้ออ บางทีมันก็แค่รสนิยมคนปะ มันไม่ได้หมายว่าเรียบร้อย ขอร้อง และเลิกยัดเยียดตัวตนความเรียบร้อยให้เถอะ พอเจอเราพฤติกรรมนึงกับเพื่อนสนิท บอกแรดเงียบ เราแค่อยากให้แกเห็นเราแค่นั้น เราไม่สนิทกันไง พอบอกอยากแต่งตัวsexsyนางบอกไม่ดี เอ้า ความชอบคน แต่ตัวเองแต่งบ้างคือ ยังไง งง
3.เพื่อนกันต้องบอกงานกันไม่ใช่ให้มาถามคนอื่นอย่างเรา มันไม่ได้ถามไม่ได้ แต่เพื่อนตัวเองรู้ทำไมไม่บอก มันความสัมพันธ์แบบไหน โปรเจคจบเทอมตั้ง40คะแนน มารู้ไม่กี่วันก่อนส่งมีกันเป็น7-8คน
4.อย่าทำงานกับคนกลุ่มใหญ่ เหมือนระบบเผด็จการ เราพูดไม่ถูกหูก็โดนแบน ต่อต้าน เด่นหน่อยก็ไม่ได้ แต่ตัวเองอยากเด่นก็ไม่เสนออะ พอบอกให้เสนอความเห็นก็เอาความเห็นตัวเอง พอไม่เสนอบอกไม่ช่วยออกความเห็น ก็ในเมื่อเอาความเห็นตัวเองอยู่ดีจะถามเพื่อ แบ่งงานได้ฮ่วย แบกเองคนเดียว งานจม หรือไม่ก็พลักภาระคนอาศัยแบบเรา และเป็นอะไรเอ่ยให้งานไม่บอกรายละเอียดและาให้แก้ก่อนส่ง ก่อนหน้านี้ทำอะไรไม่ตรวจ ไม่บอกรายละเอียดด้วย สุดท้ายเอาไปทำเองเพราะการสื่อสารและวางแผนฮ่วยแตก
5.เพื่อนมากขึ้นมารยาททางสังคมน้อยลง มีคนเสียงดังในห้องสมุดเราไปขอให้เขาเงียบมองตาขวางใส่ ได้หรอ คนที่ต้องขวางใส่คือเรานี่ เดินขวางทางอีกเรื่องบางทีอาจจะไม่รู้ว่าคนเดินตามหลัง เราเข้าใจ พอบอกหลยหน่อยไม่ใช่แกล้งหูหนวกและขวางอยู่อย่างนั้น บางทีลิฟท์หนีบไวเธอเข้าไปก่อนก็กดให้หน่อย มันหนีบไว ไม่ใช่พูดเชิ่ดๆอย่างภาคภูมิใจว่าไม่กด
6.ที่สาธารณะกลายเป็นที่ส่วนตัว หรือ ไร้มารยาทมากขึ้น มีการดูด
พอตจากการปิดประตูห้องน้ำไม่ให้เข้า สูบในห้องแอร์ ห้องสมุด โรงอาหาร ห้องเรียน ส้วมในอาคาร ไหนจะปิดประตูส้วมถ่ายคอนเทน ถ่ายอะไรต่างๆขวางทางเดิน และบางทีหงุดหงิดใส่ด้วยนะ เธอมันทางผ่านไหม ให้เรารอเธอถ่ายเสร็จหรอหรือไง
7.ไม่ทำพาร์ทไทม์=รวย ฉันก็แค่ขี้เกลียดจ้าเลิกแซะ
8.แต่งตัวไม่ดีมองแต่หัวจรดเท้า เอาความมั่นใจจากไหนว่าตัวเองเริ่ดถึงได้มองเหยียดคนอื่นแบบนั้น
9.อย่าทำตัวอ่อนแอ และ มีน้ำใจมากไป จะมีพวกนึงที่ไม่เข้าเรียน ไม่อะไรเลย ทำตัวเป็นภาระคนอื่นมาขอความช่วยเหลือ อ้างทุกสารพัด เพื่อนเอือมกันเป็นแถวๆ แนะนำบล็อก
อย่าทำตัวอ่อนแอเพราะจะมีอินางประเภทหนึ่งชอบกดคนอื่น ไม่รู้เป็นอะไรเขาสนุกมั้ง ไม่รู้จักด้วยนะ ขอให้ได้แซะหน่อยเถอะ
10.คนเงียบเท่ากับเรียบร้อย อีกแล้วไม่คิดว่าเราไม่อยากเสวนากับเธอบ้างหรอ ? และจะมีผู้คนมาเอาเปรียบทุกรูปแบบเลย ช็อกสุดชวนมาขายตัว ชั้นก็อยู่ของชั้นดีๆ เปิดโลกกับสิ่งมัวเมา และsex อยากจะบอกว่าเรื่องของกูไม่ต้องยุ่ง!!! บางทีมาขวางคนกำลังเล่นเกมหงุดหงิด
11.อาการทางจิตเวช คือข้ออ้างของการเป็นเพื่อนที่ดี ยอมรับเลยว่ามหาลัยคนเป็นจิตเวชเยอะขึ้น แต่ขอร้องเถอะ ไปเล่าให้คนที่พร้อมจะฟังดีกว่าอย่ามาเล่าให้เราฟังเลย เราไม่พร้อมฟัง ถามเขาหน่อยก็ดีนะอย่าเห็นแก่ตัวมากไป ฟีดแบ็กมันไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกไปเล่าให้คนไม่อยากฟังอะ คนบางคนเป็นเพื่อนแค่ในนาม เรื่องดีๆไปหาคนอื่นพอทุกข์ใจมาหาเรา ถ้าเมื่อก่อนคงคิดว่าเขารักเรา แต่เปล่าเลย มันมองว่าเห็นแก่ตัวสะมากกว่า
อันนี้คือสังคมที่เราเจอ มีอีกเพียบแต่ใช่ว่าทุกคนจะเจอแบบนี้นะ และบางคนก็ไม่ใช่แบบนี้เหมือนกัน ดังนั้นอย่าเหมารวม ลองดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ดีแนะนำให้ออกมา toxic เกินเหตุ
ใครคิดเห็นแบบไหนเล่าสู่กันฟังได้นะ แลกเปลี่ยนกัน อย่าดราม่าเพราะเราเจอแต่ไรไม่รู้
รีวิวสังคมในมหาลัยที่เจอแต่คนแปลกๆ
1.อย่าให้ใจเพื่อนมหาลัยเกินไป นิทรากันฉ่ำ หักหลังกันฉ่ำ แฟนเพื่อน=แฟนเรา นินทรากันเองเป็นเรื่องปกติ บอกความลับเพื่อนคือเรื่องปกติ เอาเพื่อนที่มีแฟนอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ห้ะ!!! นี่เราหลงมาหรอหรือไง
2.ไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดูดพอต = แปลก และเราจะถูกมองว่าเรียบร้อยแบบงงๆ พูดเพราะใส่งงๆ เรียนเก่งแบบงงๆ ห้ะ ได้ออ บางทีมันก็แค่รสนิยมคนปะ มันไม่ได้หมายว่าเรียบร้อย ขอร้อง และเลิกยัดเยียดตัวตนความเรียบร้อยให้เถอะ พอเจอเราพฤติกรรมนึงกับเพื่อนสนิท บอกแรดเงียบ เราแค่อยากให้แกเห็นเราแค่นั้น เราไม่สนิทกันไง พอบอกอยากแต่งตัวsexsyนางบอกไม่ดี เอ้า ความชอบคน แต่ตัวเองแต่งบ้างคือ ยังไง งง
3.เพื่อนกันต้องบอกงานกันไม่ใช่ให้มาถามคนอื่นอย่างเรา มันไม่ได้ถามไม่ได้ แต่เพื่อนตัวเองรู้ทำไมไม่บอก มันความสัมพันธ์แบบไหน โปรเจคจบเทอมตั้ง40คะแนน มารู้ไม่กี่วันก่อนส่งมีกันเป็น7-8คน
4.อย่าทำงานกับคนกลุ่มใหญ่ เหมือนระบบเผด็จการ เราพูดไม่ถูกหูก็โดนแบน ต่อต้าน เด่นหน่อยก็ไม่ได้ แต่ตัวเองอยากเด่นก็ไม่เสนออะ พอบอกให้เสนอความเห็นก็เอาความเห็นตัวเอง พอไม่เสนอบอกไม่ช่วยออกความเห็น ก็ในเมื่อเอาความเห็นตัวเองอยู่ดีจะถามเพื่อ แบ่งงานได้ฮ่วย แบกเองคนเดียว งานจม หรือไม่ก็พลักภาระคนอาศัยแบบเรา และเป็นอะไรเอ่ยให้งานไม่บอกรายละเอียดและาให้แก้ก่อนส่ง ก่อนหน้านี้ทำอะไรไม่ตรวจ ไม่บอกรายละเอียดด้วย สุดท้ายเอาไปทำเองเพราะการสื่อสารและวางแผนฮ่วยแตก
5.เพื่อนมากขึ้นมารยาททางสังคมน้อยลง มีคนเสียงดังในห้องสมุดเราไปขอให้เขาเงียบมองตาขวางใส่ ได้หรอ คนที่ต้องขวางใส่คือเรานี่ เดินขวางทางอีกเรื่องบางทีอาจจะไม่รู้ว่าคนเดินตามหลัง เราเข้าใจ พอบอกหลยหน่อยไม่ใช่แกล้งหูหนวกและขวางอยู่อย่างนั้น บางทีลิฟท์หนีบไวเธอเข้าไปก่อนก็กดให้หน่อย มันหนีบไว ไม่ใช่พูดเชิ่ดๆอย่างภาคภูมิใจว่าไม่กด
6.ที่สาธารณะกลายเป็นที่ส่วนตัว หรือ ไร้มารยาทมากขึ้น มีการดูด
พอตจากการปิดประตูห้องน้ำไม่ให้เข้า สูบในห้องแอร์ ห้องสมุด โรงอาหาร ห้องเรียน ส้วมในอาคาร ไหนจะปิดประตูส้วมถ่ายคอนเทน ถ่ายอะไรต่างๆขวางทางเดิน และบางทีหงุดหงิดใส่ด้วยนะ เธอมันทางผ่านไหม ให้เรารอเธอถ่ายเสร็จหรอหรือไง
7.ไม่ทำพาร์ทไทม์=รวย ฉันก็แค่ขี้เกลียดจ้าเลิกแซะ
8.แต่งตัวไม่ดีมองแต่หัวจรดเท้า เอาความมั่นใจจากไหนว่าตัวเองเริ่ดถึงได้มองเหยียดคนอื่นแบบนั้น
9.อย่าทำตัวอ่อนแอ และ มีน้ำใจมากไป จะมีพวกนึงที่ไม่เข้าเรียน ไม่อะไรเลย ทำตัวเป็นภาระคนอื่นมาขอความช่วยเหลือ อ้างทุกสารพัด เพื่อนเอือมกันเป็นแถวๆ แนะนำบล็อก
อย่าทำตัวอ่อนแอเพราะจะมีอินางประเภทหนึ่งชอบกดคนอื่น ไม่รู้เป็นอะไรเขาสนุกมั้ง ไม่รู้จักด้วยนะ ขอให้ได้แซะหน่อยเถอะ
10.คนเงียบเท่ากับเรียบร้อย อีกแล้วไม่คิดว่าเราไม่อยากเสวนากับเธอบ้างหรอ ? และจะมีผู้คนมาเอาเปรียบทุกรูปแบบเลย ช็อกสุดชวนมาขายตัว ชั้นก็อยู่ของชั้นดีๆ เปิดโลกกับสิ่งมัวเมา และsex อยากจะบอกว่าเรื่องของกูไม่ต้องยุ่ง!!! บางทีมาขวางคนกำลังเล่นเกมหงุดหงิด
11.อาการทางจิตเวช คือข้ออ้างของการเป็นเพื่อนที่ดี ยอมรับเลยว่ามหาลัยคนเป็นจิตเวชเยอะขึ้น แต่ขอร้องเถอะ ไปเล่าให้คนที่พร้อมจะฟังดีกว่าอย่ามาเล่าให้เราฟังเลย เราไม่พร้อมฟัง ถามเขาหน่อยก็ดีนะอย่าเห็นแก่ตัวมากไป ฟีดแบ็กมันไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกไปเล่าให้คนไม่อยากฟังอะ คนบางคนเป็นเพื่อนแค่ในนาม เรื่องดีๆไปหาคนอื่นพอทุกข์ใจมาหาเรา ถ้าเมื่อก่อนคงคิดว่าเขารักเรา แต่เปล่าเลย มันมองว่าเห็นแก่ตัวสะมากกว่า
อันนี้คือสังคมที่เราเจอ มีอีกเพียบแต่ใช่ว่าทุกคนจะเจอแบบนี้นะ และบางคนก็ไม่ใช่แบบนี้เหมือนกัน ดังนั้นอย่าเหมารวม ลองดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ดีแนะนำให้ออกมา toxic เกินเหตุ
ใครคิดเห็นแบบไหนเล่าสู่กันฟังได้นะ แลกเปลี่ยนกัน อย่าดราม่าเพราะเราเจอแต่ไรไม่รู้